นี่คือเสียงตะโกนแห่งความดีใจของบลูแพลนเที่ยวเมื่อได้ทราบข่าวนั่นเองจ้า

หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นได้มีประกาศออกมาว่าจะเปิดประเทศเต็มรูปแบบและฟรีวีซ่าแล้ว โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป บลูแพลนเที่ยวก็เหมือนได้ยินเสียงจากสวรรค์ กระโดดโลดเต้นดีใจใหญ่เลยจ้า เพราะคิดถึงทริปเที่ยวญี่ปุ่นมาก เพื่อนๆ บลูแพลนเน็ตเป็นกันไหมเอ่ย??? บลูแพลนเที่ยวรีบหาข้อมูลและเตรียมวางแพลนเลยจ้า อยากไปกระโดด ดึ๋ง ดึ๋ง เก็บเห็ดที่ Super Nintendo World ... แล้วเพื่อนๆ ล่ะจ๊ะ ถ้าได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นมีเตรียมวางแพลนจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง มาแชร์กันหน่อย เผื่อจะได้เป็นไอเดียหรือช่วยกันแพลนทริปเที่ยวกันได้จ้า \\^0^//

1. การผ่อนปรนข้อกำหนดเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าญี่ปุ่น

 - ให้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าญี่ปุ่น ไม่ต้องยื่นเอกสารใบ ERFS ที่ออกโดยบริษัททัวร์/บริษัทแลนด์โอเปเรเตอร์ในประเทศญี่ปุ่น

 - ในขณะเดียวกัน ให้ยกเลิกข้อกำหนดที่ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต้องใช้บริการแพ็คเกจทัวร์เท่านั้นจึงจะเข้าญี่ปุ่นได้

2. เริ่มใช้มาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง

 - ให้กลับมาใช้มาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง

3. การผ่อนปรนเรื่องการตรวจเชื้อโควิด

- ไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิดในขณะที่อยู่ในระหว่างกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองที่ญี่ปุ่น (ยกเว้นผู้ที่มีอาการของโรคโควิด) อย่างไรก็ตาม ผู้เดินทางจำเป็นต้องสำแดงเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง ใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด (3 เข็ม) ยี่ห้อตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเอาไว้ในรายการใช้ในกรณีฉุกเฉิน (JNTO จะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับจุดนี้ในภายหลัง) หรือไม่ก็สำแดง ใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบที่ตรวจภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางจากประเทศไทย

4. การผ่อนปรนเรื่องจำนวนคนที่อนุญาตให้เดินทางเข้าญี่ปุ่น

- ให้ยกเลิกข้อกำหนดฉบับล่าสุดที่ว่า อนุญาตให้มีผู้เดินทางเข้าญี่ปุ่นโดยรวมได้สูงสุด 50,000 คนต่อวัน

5. การให้สนามบิน ท่าเรือกลับมาเปิดรับการเดินทางจากต่างประเทศ

- ให้สนามบินรวมไปถึงท่าเรือที่ในปัจจุบันยังไม่ได้เปิดรับการเดินทางจากต่างประเทศร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นต่างๆในการดำเนินการเตรียมตัวเปิดรับเที่ยวบินและเส้นทางเดินเรือจากต่างประเทศ และเมื่อเตรียมการดังกล่าวพร้อมแล้ว ให้ดำเนินการเปิดรับการเดินทางจากต่างประเทศต่อไป