https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=9&item=26&items=25&preline=1
...
อปรันตกัปปิกทิฏฐิ ๔๔
[๔๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกหนึ่งกำหนดขันธ์ส่วนอนาคต
มีความเห็นตามขันธ์ส่วนอนาคต ปรารภขันธ์ส่วนอนาคต
กล่าวคำแสดงทิฏฐิหลายชนิดด้วยเหตุ ๔๔ ประการ
ก็สมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น อาศัยอะไร ปรารภอะไร จึงกำหนดขันธ์ส่วนอนาคต มีความ
เห็นตามขันธ์ส่วนอนาคต ปรารภขันธ์ส่วนอนาคต กล่าวคำแสดงทิฏฐิหลายชนิด ด้วยเหตุ ๔๔ ประการ?
สัญญีทิฏฐิ ๑๖
[๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกหนึ่งมีทิฏฐิว่า
อัตตาเหนือขึ้นไปจากการตายมีสัญญา
ย่อมบัญญัติว่า อัตตาเหนือขึ้นไปจากการตายมีสัญญา ด้วยเหตุ ๑๖ ประการ.
ก็สมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น อาศัยอะไร ปรารภอะไร จึงมีทิฏฐิว่าอัตตาเหนือขึ้นไปจากการตาย
มีสัญญา ย่อมบัญญัติว่า อัตตาเหนือขึ้นไปจากการตายมีสัญญา ด้วยเหตุ ๑๖ ประการ?
สมณพราหมณ์เหล่านั้นย่อมบัญญัติว่า เบื้องหน้าแต่ตาย.
๑๙. (๑) อัตตา.......ที่มีรูป ยั่งยืน....มีสัญญา.
๒๐. (๒) อัตตา....ที่ไม่มีรูป ยั่งยืน....มีสัญญา.
๒๑. (๓) อัตตา.......ทั้งที่มีรูป ทั้งที่ไม่มีรูป ยั่งยืน....มีสัญญา.
๒๒. (๔) อัตตา.....ทั้งที่มีรูปก็มิใช่ ทั้งที่ไม่มีรูปก็มิใช่ ยั่งยืน.....มีสัญญา.
๒๓. (๕) อัตตา......ที่มีที่สุด ยั่งยืน....มีสัญญา.
๒๔. (๖) อัตตา...ที่ไม่มีที่สุด ยั่งยืน...มีสัญญา.
๒๕. (๗) อัตตา...ทั้งที่มีที่สุด ทั้งที่ไม่มีที่สุด ยั่งยืน....มีสัญญา.
๒๖. (๘) อัตตา....ทั้งที่มีที่สุดก็มิใช่ ทั้งที่ไม่มีที่สุดก็มิใช่ ยั่งยืน...มีสัญญา.
๒๗. (๙) อัตตา....ที่มีสัญญาอย่างเดียวกัน ยั่งยืน....มีสัญญา.
๒๘. (๑๐) อัตตา...ที่มีสัญญาต่างกัน ยั่งยืน....มีสัญญา.
๒๙. (๑๑) อัตตา...ที่มีสัญญาย่อมเยา ยั่งยืน....มีสัญญา.
๓๐. (๑๒) อัตตา....ที่มีสัญญาหาประมาณมิได้ ยั่งยืน...มีสัญญา.
๓๑. (๑๓) อัตตา....ที่มีสุขอย่างเดียว ยั่งยืน....มีสัญญา.
๓๒. (๑๔) อัตตา....ที่มีทุกข์อย่างเดียว ยั่งยืน....มีสัญญา.
๓๓. (๑๕) อัตตา....ที่มีทั้งสุขทั้งทุกข์ ยั่งยืน......มีสัญญา.
๓๔. (๑๖) อัตตา.....ที่มีทุกข์ก็มิใช่ สุขก็มิใช่ ยั่งยืน.....มีสัญญา.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์เหล่านั้น มีทิฏฐิว่า อัตตาเหนือขึ้นไปจากการตาย
มีสัญญา ย่อมบัญญัติว่า อัตตาเหนือขึ้นไปจากการตายมีสัญญา ด้วยเหตุ ๑๖ ประการนี้แล.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สมณพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง มีทิฏฐิว่า อัตตาเหนือขึ้นไปจากการตายมีสัญญา
ย่อมบัญญัติว่า อัตตาเหนือขึ้นไปจากการตายมีสัญญา สมณพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด
ย่อมบัญญัติด้วยเหตุ ๑๖ ประการนี้เท่านั้น หรือแต่อย่างใดอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ไม่มี.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องนี้ตถาคตรู้ชัดว่า ฐานะที่ตั้งแห่งทิฏฐิเหล่านี้ บุคคลถืออย่างนั้น
แล้ว ยึดอย่างนั้นแล้ว ย่อมมีคติอย่างนั้น มีภพเบื้องหน้าอย่างนั้น
และตถาคตย่อมรู้ชัดยิ่งกว่านั้นทั้งไม่ยึดมั่นความรู้ชัดนั้นด้วย เมื่อไม่ยึดมั่นก็ทราบความเกิดขึ้น
ความดับไป คุณและโทษของเวทนาทั้งหลาย กับทั้งอุบายเป็นเครื่องออกไปจากเวทนาเหล่านั้น
ตามความเป็นจริง จึงทราบความดับได้เฉพาะตน เพราะไม่ยึดมั่น ตถาคตจึงหลุดพ้น.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่านี้แลลึกซึ้ง เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก สงบ ประณีต
จะคาดคะเนเอาไม่ได้ ละเอียด รู้ได้เฉพาะบัณฑิต ซึ่งตถาคตทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง
แล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้ง ที่เป็นเหตุให้กล่าวชมตถาคตตามความเป็นจริงโดยชอบ.
สรุป.. อันนี้ไม่สรุป..ครับ
" สัตว์ "ตอนที่ 57 :ทิฏฐิ62..สัญญีทิฏฐิ ๑๖...เห็นว่า..หลังจากตาย...มีอัตตาแบบมีสัญญาอย่างเที่ยงแท้..16แบบ
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=9&item=26&items=25&preline=1
...
อปรันตกัปปิกทิฏฐิ ๔๔
[๔๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกหนึ่งกำหนดขันธ์ส่วนอนาคต
มีความเห็นตามขันธ์ส่วนอนาคต ปรารภขันธ์ส่วนอนาคต
กล่าวคำแสดงทิฏฐิหลายชนิดด้วยเหตุ ๔๔ ประการ
ก็สมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น อาศัยอะไร ปรารภอะไร จึงกำหนดขันธ์ส่วนอนาคต มีความ
เห็นตามขันธ์ส่วนอนาคต ปรารภขันธ์ส่วนอนาคต กล่าวคำแสดงทิฏฐิหลายชนิด ด้วยเหตุ ๔๔ ประการ?
สัญญีทิฏฐิ ๑๖
[๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกหนึ่งมีทิฏฐิว่า
อัตตาเหนือขึ้นไปจากการตายมีสัญญา
ย่อมบัญญัติว่า อัตตาเหนือขึ้นไปจากการตายมีสัญญา ด้วยเหตุ ๑๖ ประการ.
ก็สมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น อาศัยอะไร ปรารภอะไร จึงมีทิฏฐิว่าอัตตาเหนือขึ้นไปจากการตาย
มีสัญญา ย่อมบัญญัติว่า อัตตาเหนือขึ้นไปจากการตายมีสัญญา ด้วยเหตุ ๑๖ ประการ?
สมณพราหมณ์เหล่านั้นย่อมบัญญัติว่า เบื้องหน้าแต่ตาย.
๑๙. (๑) อัตตา.......ที่มีรูป ยั่งยืน....มีสัญญา.
๒๐. (๒) อัตตา....ที่ไม่มีรูป ยั่งยืน....มีสัญญา.
๒๑. (๓) อัตตา.......ทั้งที่มีรูป ทั้งที่ไม่มีรูป ยั่งยืน....มีสัญญา.
๒๒. (๔) อัตตา.....ทั้งที่มีรูปก็มิใช่ ทั้งที่ไม่มีรูปก็มิใช่ ยั่งยืน.....มีสัญญา.
๒๓. (๕) อัตตา......ที่มีที่สุด ยั่งยืน....มีสัญญา.
๒๔. (๖) อัตตา...ที่ไม่มีที่สุด ยั่งยืน...มีสัญญา.
๒๕. (๗) อัตตา...ทั้งที่มีที่สุด ทั้งที่ไม่มีที่สุด ยั่งยืน....มีสัญญา.
๒๖. (๘) อัตตา....ทั้งที่มีที่สุดก็มิใช่ ทั้งที่ไม่มีที่สุดก็มิใช่ ยั่งยืน...มีสัญญา.
๒๗. (๙) อัตตา....ที่มีสัญญาอย่างเดียวกัน ยั่งยืน....มีสัญญา.
๒๘. (๑๐) อัตตา...ที่มีสัญญาต่างกัน ยั่งยืน....มีสัญญา.
๒๙. (๑๑) อัตตา...ที่มีสัญญาย่อมเยา ยั่งยืน....มีสัญญา.
๓๐. (๑๒) อัตตา....ที่มีสัญญาหาประมาณมิได้ ยั่งยืน...มีสัญญา.
๓๑. (๑๓) อัตตา....ที่มีสุขอย่างเดียว ยั่งยืน....มีสัญญา.
๓๒. (๑๔) อัตตา....ที่มีทุกข์อย่างเดียว ยั่งยืน....มีสัญญา.
๓๓. (๑๕) อัตตา....ที่มีทั้งสุขทั้งทุกข์ ยั่งยืน......มีสัญญา.
๓๔. (๑๖) อัตตา.....ที่มีทุกข์ก็มิใช่ สุขก็มิใช่ ยั่งยืน.....มีสัญญา.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์เหล่านั้น มีทิฏฐิว่า อัตตาเหนือขึ้นไปจากการตาย
มีสัญญา ย่อมบัญญัติว่า อัตตาเหนือขึ้นไปจากการตายมีสัญญา ด้วยเหตุ ๑๖ ประการนี้แล.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สมณพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง มีทิฏฐิว่า อัตตาเหนือขึ้นไปจากการตายมีสัญญา
ย่อมบัญญัติว่า อัตตาเหนือขึ้นไปจากการตายมีสัญญา สมณพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด
ย่อมบัญญัติด้วยเหตุ ๑๖ ประการนี้เท่านั้น หรือแต่อย่างใดอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ไม่มี.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องนี้ตถาคตรู้ชัดว่า ฐานะที่ตั้งแห่งทิฏฐิเหล่านี้ บุคคลถืออย่างนั้น
แล้ว ยึดอย่างนั้นแล้ว ย่อมมีคติอย่างนั้น มีภพเบื้องหน้าอย่างนั้น
และตถาคตย่อมรู้ชัดยิ่งกว่านั้นทั้งไม่ยึดมั่นความรู้ชัดนั้นด้วย เมื่อไม่ยึดมั่นก็ทราบความเกิดขึ้น
ความดับไป คุณและโทษของเวทนาทั้งหลาย กับทั้งอุบายเป็นเครื่องออกไปจากเวทนาเหล่านั้น
ตามความเป็นจริง จึงทราบความดับได้เฉพาะตน เพราะไม่ยึดมั่น ตถาคตจึงหลุดพ้น.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่านี้แลลึกซึ้ง เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก สงบ ประณีต
จะคาดคะเนเอาไม่ได้ ละเอียด รู้ได้เฉพาะบัณฑิต ซึ่งตถาคตทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง
แล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้ง ที่เป็นเหตุให้กล่าวชมตถาคตตามความเป็นจริงโดยชอบ.
สรุป.. อันนี้ไม่สรุป..ครับ