ถูกกล่าวหาว่า ร่วมมือกับเพื่อนยักยอกทรัพย์
คือเพื่อนของเราทำงานรับซื้อผลิตผลทางการเกษตร
เราเรียนจบคอมพิวเตอร์ แต่เราว่างงาน ด้วยบุคลิกภาพของเรา ทำให้ไปสมัครงานที่ไหน ก็ยากที่จะรับ
เรามีความรู้ในการแก้ไขปัญหาในการใช้โทรศัพท์เบื้องต้น จะมีคนเอาโทรศัพท์มาให้เราทำให้ในหลายๆ อย่าง เช่น เปลั่ยนโทรศัพท์เครื่องใหม่ อยากใช้ LINE FACEBOOK เดิม เราก็ทำให้ บางคนก็จ่ายค่าตอบแทนที่เราทำให้ทำ บางคนก็ไม่ได้อะไรเลย
เวลาเพื่อนมีปัญหาอะไร ก็จะโทรคุยกัน บางครั้งก็ถามวิธีตั้งค่าโทรศัพท์ แต่ในใจเขาจะทำอะไร เราก็ไม่รู้ ทำไม่ได้จริงๆ ก็จะมารับไปทำที่ทำงานของเขา หัวหน้าเขาก็เห็น ก็ถามผมว่า ได้เรียนมาเหรอ ผมก็ตอบว่า ชอบศึกษาในด้นนี้อยู่แล้ว
และแล้ว ก็เกิดเรื่องจนได้ หัวหน้าจับได้ว่าเพื่อนของเรายักยอกทรัพย์ น่าจะสืบมานานแล้วด้วย เขาตรวจสอบบิลย้อนหลัง และดูกล้องวงจรปิด + ฟังเสียงจากการคุยโทรศัพท์กับเราในกล้องวงจรปิด
เพื่อนเราก็มาบอกเราว่า เราจะได้ไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ฯ อะไรประมาณนี้ วันที่เพื่อนมาบอก คืนนั้นผมนอนไม่หลับเลยครับ
เขามาซื้อกาแฟ ก็ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เพื่อนเราเอาเงินไปใช้ ซึ่งเขาไม่กล้ทำคนเดียว มีคนร่วมด้วย คือ คนที่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ รู้จักวิธีเปล่ยนการตั้งเวลา อันนี้เขาได้ยินเสัยงจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้
ซึ่งเราก็ไม่รู้เรื่องว่าเพื่อนเราเขาโกงเงิน แต่ เราต้องให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
เข้ากับคำที่ว่า
เนื้อไมได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ยังเอากระดูกมาแขวนคอ
ผมควรจะทำยังงัยครับ
ถูกกล่าวหาว่า ร่วมกับเพื่อนยักยอกทรัพท์ ทั้งที่ไม่ได้ทำ และไม่รู้เรื่องอะไรเลย
คือเพื่อนของเราทำงานรับซื้อผลิตผลทางการเกษตร
เราเรียนจบคอมพิวเตอร์ แต่เราว่างงาน ด้วยบุคลิกภาพของเรา ทำให้ไปสมัครงานที่ไหน ก็ยากที่จะรับ
เรามีความรู้ในการแก้ไขปัญหาในการใช้โทรศัพท์เบื้องต้น จะมีคนเอาโทรศัพท์มาให้เราทำให้ในหลายๆ อย่าง เช่น เปลั่ยนโทรศัพท์เครื่องใหม่ อยากใช้ LINE FACEBOOK เดิม เราก็ทำให้ บางคนก็จ่ายค่าตอบแทนที่เราทำให้ทำ บางคนก็ไม่ได้อะไรเลย
เวลาเพื่อนมีปัญหาอะไร ก็จะโทรคุยกัน บางครั้งก็ถามวิธีตั้งค่าโทรศัพท์ แต่ในใจเขาจะทำอะไร เราก็ไม่รู้ ทำไม่ได้จริงๆ ก็จะมารับไปทำที่ทำงานของเขา หัวหน้าเขาก็เห็น ก็ถามผมว่า ได้เรียนมาเหรอ ผมก็ตอบว่า ชอบศึกษาในด้นนี้อยู่แล้ว
และแล้ว ก็เกิดเรื่องจนได้ หัวหน้าจับได้ว่าเพื่อนของเรายักยอกทรัพย์ น่าจะสืบมานานแล้วด้วย เขาตรวจสอบบิลย้อนหลัง และดูกล้องวงจรปิด + ฟังเสียงจากการคุยโทรศัพท์กับเราในกล้องวงจรปิด
เพื่อนเราก็มาบอกเราว่า เราจะได้ไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ฯ อะไรประมาณนี้ วันที่เพื่อนมาบอก คืนนั้นผมนอนไม่หลับเลยครับ
เขามาซื้อกาแฟ ก็ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เพื่อนเราเอาเงินไปใช้ ซึ่งเขาไม่กล้ทำคนเดียว มีคนร่วมด้วย คือ คนที่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ รู้จักวิธีเปล่ยนการตั้งเวลา อันนี้เขาได้ยินเสัยงจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้
ซึ่งเราก็ไม่รู้เรื่องว่าเพื่อนเราเขาโกงเงิน แต่ เราต้องให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
เข้ากับคำที่ว่า
เนื้อไมได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ยังเอากระดูกมาแขวนคอ
ผมควรจะทำยังงัยครับ