เรื่องมีอยู่ว่าเรามีแฟนที่คบกันมานาน(อยู่ก่อนแต่ง)จนพ่อเห็นควรให้แต่งงาน(เราไม่ได้อยากแต่งเพราะไม่ชอบพิธีการ) พ่อเป็นคนค่อนข้างมีหน้ามีตาอันนี้เราเข้าใจ ส่วนสินสอดพ่อเราไม่ได้เรียกร้องอะไรเลยแล้วแต่ฝ่ายชายจะเห็นควร ส่วนแม่นั้นแอบงอนพ่อเรื่องนี้อย่างเงียบๆฝ่ายชายก็ฐานะปานกลาง ให้มาแค่พอจัดงานเล็กๆสรุปงานก็ไม่ขาดทุนซองที่ได้มาพ่อยกให้เราหมด ส่วนทองนั้นเรายกให้แม่ เรากับแฟนทำงานบริษัทด้วยกันทั้งคู่ หลังจากแต่งงาน2-3ปี สามีเริ่มงอแงไม่อยากทำงานแล้วอยากออกไปใช้ชีวิตทำไร่ทำสวนของฝ่ายเค้า (ที่ดินของสามี)ซึ่งพ่อเราก็เห็นดีเห็นงามไปด้วยและก็อีกแหละแม่เราผู้ซึ่งไม่ชอบความเสี่ยงก็เริ่มไม่พอใจแต่ได้แต่เก็บความรู้สึกมาบ่นกับเรา ที่ตลกคือน้ำท่วมปากทั้งเราและแม่พูดอะไรไม่ได้เลย เพราะพ่อเราและสามีวาดฝันไว้ซะสวยหรู เราก็ยังคงทำงานที่บริษัทแต่สามีก็พยายามพูดว่าถ้าทุกอย่างไปได้สวยจะให้ออกไปช่วยงาน ซึ่งเราบอกตรงๆว่าไม่คิดจะไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัดเรากับสามีเกิดและโตในกรุงเทพ เราก็ไม่รู้ว่าทำไมเค้าถึงมีความคิดอยากทำไร่ทำสวนซึ่งมันไม่ได้จะโชคดีเหมือนกับคนอื่น สุดท้ายเงินที่ลงทุนของพ่อเราและสามีเริ่มหมดไปกับกิจกรรมเพาะปลูกเริ่มเป็นหนี้บัตรเครดิต (ยังไม่ใช่ยอดที่น่าตกใจ)เราสามารถช่วยได้ บ้างบางที ทุกครั้งที่เราเจอเพื่อนฝูงทุกคนจะคอยถามเราเสมอว่าโอเคไหม เราก็ได้แค่ยิ้มอ่อนมันจะไปโอเคได้ไงแต่ก็พูดอะไรไม่ได้เพราะเรารักพ่อเรามาก เราต้องอดทนเพื่อความสุขของพ่อเพราะเราก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอะไร ที่ผ่านมาพ่อเราเค้าให้เราทุกอย่างบ้านรถ เราแค่ใช้ชีวิตแบบพอเพียงมันก็อยู่ได้ตอนนี้พ่อเราก็คงจะเครียดพอตัวเพราะเอาเงินมาลงทุนจากคนที่เคยกินเที่ยวไม่เคยคิดอะไรคราวนี้ก็คิดเยอะละ ปัญหานี้เราพูดได้แค่กับแม่กับเพื่อนสนิท เพื่อนพูดออกมาว่าแกควรเปลี่ยนสามี (หาใหม่) เพราะพ่อแม่ไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดไม่ได้จะให้ไปหาคนที่รวยแต่ให้หาคนที่ไม่มาเป็นภาระ เราก็เลยบอกกับเพื่อนไปว่าสามีเราเคยพูดเรื่องนี้เมื่อก่อนจะลาออกจากงานเหมือนกันว่าถ้าทนเค้าไม่ไหวให้ไปหาคนใหม่(แต่คือหลังแต่งงานนะ) ทุกวันนี้ที่ไม่คิดอะไรมากคงเพราะแยกกันอยู่และยังมีงานทำ มีเวลาทำโน่นนี่นั่น สรุปหน้าที่เราทุกวันนี้คือพาแม่ไปเที่ยวเพื่อลบความทุกข์ หาเรื่องตลกมาคุยให้มีเสียงหัวเราะ สุดท้ายขอบคุณพื้นที่ ที่ได้ระบายความในใจ
ปล่อยวางแล้วคงไม่ทุกข์