สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 39
ถ้าพ่อแม่เราไม่โอเค เราก็ไม่โอเคค่ะ
ใครจะอ้างอะไรก็แล้วแต่ อย่ามาข้ามหัวพ่อหัวแม่เรา ถ้าไม่คิดจะรักษาหน้าพ่อแม่เรา ก็ไปหาผู้หญิงที่เหมาะสม เพราะเราก็มีปัญญาหาผู้ชายที่เหมาะสมเช่นกัน เราไม่ได้มาจากกระบอกไม้ไผ่ เรามีพ่อมีแม่ แต่งกะเราก็คือการยอมรับพ่อแม่เราด้วย และถ้าจะมาอ้างว่าพ่อแม่ผมก็มีแต่เขาไม่เห็นแคร์ ก็เรื่องของคุณดิ คุณมองแต่พ่อแม่คุณ ฉันก็เลือกพ่อแม่ฉัน จบ
เรื่องอย่างนี้อย่าเอามาเป็นประเด็น ก็แค่หาคู่ที่คิดแนวเดียวกัน ไม่ใช่หาคนละขั้วแล้วมาชี้หน้าว่าคนนั้นคนนี้บ้าเงินบ้าหน้าตา คือคนเรามีความจำเป็นในชีวิตไม่เหมือนกัน อย่าเอามาตรฐานคนอื่นมาตั้ง
ถ้าถึงกับต้องเป็นหนี้เป็นสินมาจัดงาน ก็คือเกินตัว ประมาท แต่ถ้ามีพอจัดแต่ไม่อยากจัดก็ต้องหาคนแบบเดียวกัน ถึงจะโอเคค่ะ
*****อันนี้ไม่เกี่ยวกับกระทู้ แต่ขอพูดหน่อย เพลียกับเรื่องแบบนี้มาก เห็นกระทู้แบบนี้ถี่เหลือเกิน เหมือนมีบางส่วนจะเอาชนะคะคานกันให้ได้ว่าใครจัดงานแต่งน่ะโง่ เปลือง ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ต้องเป็นหนี้ เดี๋ยวก็เลิกกัน คือแบบมาเป็นแพทเทิร์น มันใช่เหรอ ช่วยมองโลกให้กว้างหน่อยเหอะ ความจำเป็นคนเราต่างกัน บางคนจัดงานเป็นล้าน ไม่มีหนี้ ไม่มีภาระ เพราะเขามีพร้อมหรือเตรียมมาพร้อม อยู่กันมีความสุขก็เยอะ คือบางคนหลักแสนว่าแพง บางคนหลักล้านก็เป็นเรื่องธรรมดา จะเอามาตรฐานใครตัดสินล่ะ
และที่ว่าแต่งงานใหญ่โตเดี๋ยวก็เลิก ช่วยลองหากระทู้อ่านหน่อยไหม เอาแค่ในนี้ล่ะ เกือบทุกวันต้องมีปัญหาอยู่ลำบากสร้างตัวด้วยกันมาจนมีลูก สุดท้ายสามีไปมีเมียน้อย
คือแยกแยะหน่อย งานแต่งกับการใช้ชีวิตคู่มันคนละเรื่อง ไม่รู้ทำไมชอบพูดจังว่าจัดงานใหญ่เดี๋ยวก็เลิก ทีจัดงานเล็กๆเลิกกันมีเยอะกว่า ไม่เห็นเอามาพูด ก็มันไม่เกี่ยวเลย
สรุปใครจะจัดใหญ่เล็กก็เอาตามเหมาะสม พอดีกับความจำเป็น อย่าให้ถึงกับกู้หนี้ยืมสิน แต่ก็อย่าตระหนี่จนน่าเกลียด ที่สำคัญ หาคู่ที่แนวคิดตรงกันด้วย ไม่ใช่ไปหาแฟนคุณหนูไม่เคยลำบากมา แล้วอยู่ๆจะมาหักหาญน้ำใจเขาว่าไม่จัดงานอยู่กันเฉยๆนี่ล่ะ ช่วยกันทำมาหากิน มันไม่ใช่น่ะ
ใครสะดวกยังไงก็ทำไปเถอะ สังคมเราวุ่นวายมากพอแล้ว ยังจะอะไรกันนักหนากะเรื่องจัดงานไม่จัดงาน ใครไม่ลำบากก็จัด ลำบากก็ไม่ต้อง แค่นี้เอง ต่างคนต่างอยู่ ไป มีความสึขในแบบตัวเองไม่ต้องไปยุ่งว่าคนอื่นเขาจะเทเงินสิบล้านเล่นก็เงินเขา ยอมรับความต่างบ้าง จะมาหวังพลิกสังคมให้เป็นตามค่ามาตรฐานใครสักคนไม่ได้หรอก****
ใครจะอ้างอะไรก็แล้วแต่ อย่ามาข้ามหัวพ่อหัวแม่เรา ถ้าไม่คิดจะรักษาหน้าพ่อแม่เรา ก็ไปหาผู้หญิงที่เหมาะสม เพราะเราก็มีปัญญาหาผู้ชายที่เหมาะสมเช่นกัน เราไม่ได้มาจากกระบอกไม้ไผ่ เรามีพ่อมีแม่ แต่งกะเราก็คือการยอมรับพ่อแม่เราด้วย และถ้าจะมาอ้างว่าพ่อแม่ผมก็มีแต่เขาไม่เห็นแคร์ ก็เรื่องของคุณดิ คุณมองแต่พ่อแม่คุณ ฉันก็เลือกพ่อแม่ฉัน จบ
เรื่องอย่างนี้อย่าเอามาเป็นประเด็น ก็แค่หาคู่ที่คิดแนวเดียวกัน ไม่ใช่หาคนละขั้วแล้วมาชี้หน้าว่าคนนั้นคนนี้บ้าเงินบ้าหน้าตา คือคนเรามีความจำเป็นในชีวิตไม่เหมือนกัน อย่าเอามาตรฐานคนอื่นมาตั้ง
ถ้าถึงกับต้องเป็นหนี้เป็นสินมาจัดงาน ก็คือเกินตัว ประมาท แต่ถ้ามีพอจัดแต่ไม่อยากจัดก็ต้องหาคนแบบเดียวกัน ถึงจะโอเคค่ะ
*****อันนี้ไม่เกี่ยวกับกระทู้ แต่ขอพูดหน่อย เพลียกับเรื่องแบบนี้มาก เห็นกระทู้แบบนี้ถี่เหลือเกิน เหมือนมีบางส่วนจะเอาชนะคะคานกันให้ได้ว่าใครจัดงานแต่งน่ะโง่ เปลือง ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ต้องเป็นหนี้ เดี๋ยวก็เลิกกัน คือแบบมาเป็นแพทเทิร์น มันใช่เหรอ ช่วยมองโลกให้กว้างหน่อยเหอะ ความจำเป็นคนเราต่างกัน บางคนจัดงานเป็นล้าน ไม่มีหนี้ ไม่มีภาระ เพราะเขามีพร้อมหรือเตรียมมาพร้อม อยู่กันมีความสุขก็เยอะ คือบางคนหลักแสนว่าแพง บางคนหลักล้านก็เป็นเรื่องธรรมดา จะเอามาตรฐานใครตัดสินล่ะ
และที่ว่าแต่งงานใหญ่โตเดี๋ยวก็เลิก ช่วยลองหากระทู้อ่านหน่อยไหม เอาแค่ในนี้ล่ะ เกือบทุกวันต้องมีปัญหาอยู่ลำบากสร้างตัวด้วยกันมาจนมีลูก สุดท้ายสามีไปมีเมียน้อย
คือแยกแยะหน่อย งานแต่งกับการใช้ชีวิตคู่มันคนละเรื่อง ไม่รู้ทำไมชอบพูดจังว่าจัดงานใหญ่เดี๋ยวก็เลิก ทีจัดงานเล็กๆเลิกกันมีเยอะกว่า ไม่เห็นเอามาพูด ก็มันไม่เกี่ยวเลย
สรุปใครจะจัดใหญ่เล็กก็เอาตามเหมาะสม พอดีกับความจำเป็น อย่าให้ถึงกับกู้หนี้ยืมสิน แต่ก็อย่าตระหนี่จนน่าเกลียด ที่สำคัญ หาคู่ที่แนวคิดตรงกันด้วย ไม่ใช่ไปหาแฟนคุณหนูไม่เคยลำบากมา แล้วอยู่ๆจะมาหักหาญน้ำใจเขาว่าไม่จัดงานอยู่กันเฉยๆนี่ล่ะ ช่วยกันทำมาหากิน มันไม่ใช่น่ะ
ใครสะดวกยังไงก็ทำไปเถอะ สังคมเราวุ่นวายมากพอแล้ว ยังจะอะไรกันนักหนากะเรื่องจัดงานไม่จัดงาน ใครไม่ลำบากก็จัด ลำบากก็ไม่ต้อง แค่นี้เอง ต่างคนต่างอยู่ ไป มีความสึขในแบบตัวเองไม่ต้องไปยุ่งว่าคนอื่นเขาจะเทเงินสิบล้านเล่นก็เงินเขา ยอมรับความต่างบ้าง จะมาหวังพลิกสังคมให้เป็นตามค่ามาตรฐานใครสักคนไม่ได้หรอก****
แสดงความคิดเห็น
ผู้หญิงคิดยังไงถ้าผู้ชายจะขออยู่กินกันแบบไม่ต้องมีพิธีรีตอง ไม่แต่งงาน แค่จดทะเบียนสมรสเท่านั้น
คือจากประสบการณ์ของผมตอนไปงานแต่งญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ที่มีฐานะดี ก็จะมีพิธีการเพียบ อย่างล่าสุดลูกพี่ลูกน้องแต่งงานก็มีจัดงานในโรงแรมหรูกลางกรุง โต๊ะนึงหลายหมื่น เบ็ดเสร็จค่าใช้จ่ายแค่งานแต่งก็น่าจะเกินครึ่งล้านแล้ว
ส่วนเพื่อนบางคนก็เห็นอยู่กับแฟนมานานแต่ไม่ได้แต่งงาน แต่ก็คือแนวอยู่กินกันแบบสามีภรรยาเลย เพราะเห็นมีพูดถึงเรื่องภาระค่าใช้งานรายวันอยู่บ่อยๆ ซึ่งทางฝ่ายหญิงก็ดูจะรักเพื่อนผมคนนี้มากๆและพร้อมจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
ก็เลยอยากจะถามความเห็นของคุณผู้หญิงทั้งหลายว่าคุณมีความเห็นอย่างไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ