ยอดผู้ป่วยโควิด-19 วันนี้ ติดเชื้อรายใหม่ 477 ราย เสียชีวิต 12 ราย
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3568404
ยอดผู้ป่วยโควิด-19 วันนี้ ติดเชื้อรายใหม่ 477 ราย เสียชีวิต 12 ราย
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รายงานผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2565 โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) จำนวน 477 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 477 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ – ราย และผู้ป่วยสะสม 2,449,952 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
ขณะที่หายป่วยกลับบ้าน 1,170 ราย, หายป่วยสะสม 2,463,041 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565), ผู้ป่วยกำลังรักษา 9,223 ราย, เสียชีวิต 12 ราย และเสียชีวิตสะสม 10,931 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ส่วนจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 651 ราย
ทั้งนี้ เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นมา มีการปรับระบบรายงาน โดยรายงานเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล จึงทำให้รายงานยอดผู้ป่วยสะสม มีจำนวนที่น้อยกว่ายอดผู้หายป่วยสะสม
หมอธีระ เปิดงานวิจัย ม.ปักกิ่ง 2 ปัจจัย ดัน BA.2.75.2 มีโอกาสระบาดระลอกใหม่ในอนาคต
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3568524
หมอธีระ เปิดงานวิจัย ม.ปักกิ่ง 2 ปัจจัย ดัน BA.2.75.2 มีโอกาสระบาดระลอกใหม่ในอนาคต ‘หลบหลีกภูมิคุ้มกัน-จับกับตัวรับที่ผิวเซลล์ได้มาก’
เมื่อวันที่ 18 กันยายน รศ.นพ.
ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” ระบุว่า
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 325,828 คน ตายเพิ่ม 654 คน รวมแล้วติดไป 616,841,286 คน เสียชีวิตรวม 6,529,854 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญึ่ปุ่น รัสเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และฝรั่งเศส
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 18 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 95.27 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 85.01
สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และอันดับ 6 ของเอเชีย แม้ สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค. จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม
อัพเดตเรื่อง Omicron BA.2.75.2
Cao YR และคณะ จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศจีน ได้รายงานผลการวิเคราะห์สมรรถนะของ Omicron BA.2.75.2 เปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ
พบว่า BA.2.75.2 ดื้อกว่า Omicron สายพันธุ์อื่นๆ อย่างมาก ทั้งในคนที่ฉีด Coronavac 3 เข็ม รวมถึงคนที่ฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อสายพันธุ์ต่างๆ มาก่อนก็ตาม
นอกจากนี้ เมื่อดูสมรรถนะในการจับกับตัวรับ ACE2 ของเซลล์ จะพบว่า BA.2.75.2 รวมถึงสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ ของ Omicron ที่ตรวจพบในปัจจุบันนั้นมีสมรรถนะจับกับตัวรับ ACE2 ได้มากกว่าสายพันธุ์ D614G (ที่เคยเป็นตัวทำให้เกิดระบาดระลอกสองทั่วโลกตอนปลายปี 2563 ถึงต้นปี 2564)
ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า BA.2.75.2 นั้นมีทั้งสมรรถนะการหลบหลีกภูมิคุ้มกัน และจับกับตัวรับที่ผิวเซลล์ได้มาก จึงมีโอกาสที่จะนำไปสู่การระบาดระลอกถัดไปในอนาคตได้ หากไม่ป้องกันให้ดี
Long COVID ในบราซิล
Ceron ABC และคณะจากบราซิล ทำการศึกษาเปรียบเทียบอัตราการเกิดปัญหา Long COVID โดยเก็บข้อมูลจากผู้ป่วยที่มีประวัติติดเชื้อโรคโควิด-19 ในช่วงตั้งแต่กันยายน 2563 ถึงเมษายน 2564 จำนวน 814 คน และคนที่ไม่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวน 402 คน
พบว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 มาก่อน จะมีอัตราการเกิดปัญหา Long COVID ราว 29.6%
ทั้งนี้ ในกลุ่มผู้ป่วย Long COVID พบว่ามีถึง 55.9% ที่กระทบต่อคุณภาพชีวิต
การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด
ใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอจะลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid0369VAMaDJHF5ikpfz56ozf5urs4HZhPUc5XEezJzfULtPDVLU4Ym98jJNf3TAhEZal
“ต่างด้าว” ทะลักเมืองหาดใหญ่ แย่ง “นวดไทย” กดราคากระทบทัวร์มาเลย์
https://www.prachachat.net/local-economy/news-1051109
“ต่างด้าว” หลายร้อยคนทะลักเข้าหาดใหญ่ แย่งอาชีพ “นวดไทย” ดัมพ์ราคาเดือด จากราคา 500-700 บาทต่อ 2 ชั่วโมง ลดลงมาเหลือแค่ 100 บาท กระทบชิ่ง “บริษัททัวร์” เสนอขายชาวมาเลย์ล่วงหน้า
แหล่งข่าวผู้ประกอบการสถานนวดแผนไทย เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ธุรกิจนวดแผนไทยกำลังฟื้นตัวกลับขึ้นมาอีกครั้งหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และมีการแข่งขันกันสูงมาก
โดยตัวเลขผู้ประกอบการเดิมที่เคยแจ้งไว้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา (สสจ.) มีประมาณ 120 แห่ง ตอนนี้กลับมาเปิดบริการแล้วไม่ต่ำกว่า 100 แห่ง โดยเฉพาะในย่านดาวน์ทาวน์ ระหว่างถนนประชาธิปัตย์ ถนนเสน่หานุสรณ์ ฯลฯ ผู้ประกอบการหลายรายมีการเสนอดัมพ์ราคาในการให้บริการลูกค้าหลัก คือ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย
เช่น ราคาปกติ นวดน้ำมัน 700 บาทต่อ 2 ชั่วโมง นวดแผนไทย ราคา 500 บาทต่อ 2 ชั่วโมง จะมีการดัมพ์ราคาลงมาตั้งแต่ 100 บาท และนวดฝ่าเท้า ปกติราคา 250 บาทต่อชั่วโมง มีการดัมพ์ราคาเหลือ 160-200 บาท ทำให้เกิดปัญหากระทบกับบริษัททัวร์ และธุรกิจนวดของคนไทยอย่างมาก
“ปกติบริษัททัวร์จะเสนอราคาขายนวดแผนไทยให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียไว้ล่วงหน้า แต่ตอนนี้เมื่อเดินทางมาถึง อ.หาดใหญ่พอจอดรถที่โรงแรม คนต่างด้าวเหล่านี้จะกวักมือเรียกนักท่องเที่ยวพร้อมเสนอราคาขายต่ำกว่า ส่งผลต่อการตลาดของบริษัททัวร์มาก
จนสร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลให้สถานบริการนวดแผนไทย ปิดป้ายประกาศราคาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งช่วงไฮซีซั่นตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียจะทะลักเข้ามาท่องเที่ยวกันมาก และใช้บริการนวดแผนไทยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ เงินจะหมุนเวียนสะพัดเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว”
นอกจากนี้ อยากเสนอให้ภาครัฐควบคุมเรื่องการขออนุญาตจัดตั้งสถานบริการนวดแผนไทย และการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการ จึงเป็นพนักงานนวดแผนไทยได้ เพราะขณะนี้มีชาวเมียนมา จีนฮ้อ ชาวเขา ประมาณนับหลายร้อยคน ที่ไม่ได้ผ่านการอบรมอย่างถูกต้องและไม่มีใบรับรอง เพียงแต่ฝึกอบรมมาจากรุ่นพี่ ได้เข้ามาแทรกซึมทำงานเป็นพนักงานนวดแผนไทย ซึ่งคนกลุ่มนี้มีความชำนาญการนวดแผนไทย และการใช้ภาษาต่างประเทศ ทำให้สามารถสื่อสารกับชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จึงได้รับความนิยมจากชาวต่างประเทศใช้บริการมาก และในที่สุดส่งผลกระทบต่อพนักงานนวดคนไทย
โดยปัจจุบันพนักงานนวดแผนไทยมีรายได้ดีเฉลี่ยประมาณ 25,000-30,000 บาท/คน/เดือน สามารถนวดได้ไม่เกิน 5 คน/วัน ส่วนผู้ประกอบการสถานให้บริการนวดแผนไทยมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 80,000 บาท/เดือน ยังไม่หักค่าใช้จ่าย
“ตอนนี้ชาวเมียนมา จีนฮ้อ ชาวเขาที่ประกอบอาชีพการนวดแผนไทย โดยไม่มีใบอนุญาต ทะลักเข้ามาอยู่ใน อ.หาดใหญ่ กับกรุงเทพฯจำนวนมาก เพราะว่างงานจากร้านเดิมที่รับเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ขณะที่พนักงานนวดแผนไทยบางส่วนยังไม่สามารถเดินทางไปให้บริการนวดในต่างประเทศได้
โดยเฉพาะที่ประเทศจีน และมาเลเซีย ซึ่งจะมีรายได้ประมาณ 100 ริงกิต/2 ชั่วโมง/คน ตอนนี้คนว่างงานจึงเกิดการแย่งอาชีพนวดแผนไทยในหาดใหญ่กันมาก จึงขอฝากไปยังหน่วยงานภาครัฐช่วยควบคุมตรงนี้ให้ด้วย”
ทางด้าน นายวิทยา แซ่ลิ่ม ผู้ประกอบการมัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดสงขลา อดีตผู้ก่อตั้งสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอนุรักษ์นวดแผนไทยให้อยู่ภายในประเทศ เพราะเป็นจุดขายสำคัญที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในประเทศไทย
เพื่อจะสร้างงาน สร้างรายได้กับธุรกิจอย่างครบวงจรภายในประเทศ เนื่องจากต่างประเทศตั้งแต่จีน ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี มาเลเซีย สิงคโปร์ และประเทศอินโดนีเซีย นิยมเป็นอย่างมาก
อนึ่ง การขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะยื่นขอได้ที่ กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้หากเป็นการนวดเพื่อบําบัดวินิจฉัยโรค หรือฟื้นฟูสมรรถภาพ ตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 ผู้ทําการนวดต้องขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตสาขาการแพทย์แผนไทยหรือเวชกรรมโบราณ
จากคณะกรรมการวิชาชีพก่อน และต้องดําเนินการในสถานพยาบาลที่ได้รับใบอนุญาตแล้วเท่านั้น แต่หากเป็นการนวดเพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อย ไม่ใช่เพื่อการรักษาโรค ผู้ที่ทําการนวดไม่จําเป็นต้องขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตผู้ประกอบการโรคศิลปะ ผู้ประกอบการสามารถยื่นคําขอได้ที่กองการประกอบโรคศิลปะ สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข หรือในต่างจังหวัดยื่นที่สํานักงานสาธารณสุขอําเภอ หรือสํานักงานสาธารณสุขจังหวัด
JJNY : ติดเชื้อ 477 เสียชีวิต 12│หมอธีระเปิดงานวิจัยม.ปักกิ่ง│“ต่างด้าว”ทะลักเมืองหาดใหญ่│กัญชาเสรี เปลี่ยนมิตรเป็นศัตรู
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3568404
ยอดผู้ป่วยโควิด-19 วันนี้ ติดเชื้อรายใหม่ 477 ราย เสียชีวิต 12 ราย
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รายงานผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2565 โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) จำนวน 477 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 477 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ – ราย และผู้ป่วยสะสม 2,449,952 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
ขณะที่หายป่วยกลับบ้าน 1,170 ราย, หายป่วยสะสม 2,463,041 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565), ผู้ป่วยกำลังรักษา 9,223 ราย, เสียชีวิต 12 ราย และเสียชีวิตสะสม 10,931 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ส่วนจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 651 ราย
ทั้งนี้ เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นมา มีการปรับระบบรายงาน โดยรายงานเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล จึงทำให้รายงานยอดผู้ป่วยสะสม มีจำนวนที่น้อยกว่ายอดผู้หายป่วยสะสม
หมอธีระ เปิดงานวิจัย ม.ปักกิ่ง 2 ปัจจัย ดัน BA.2.75.2 มีโอกาสระบาดระลอกใหม่ในอนาคต
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3568524
หมอธีระ เปิดงานวิจัย ม.ปักกิ่ง 2 ปัจจัย ดัน BA.2.75.2 มีโอกาสระบาดระลอกใหม่ในอนาคต ‘หลบหลีกภูมิคุ้มกัน-จับกับตัวรับที่ผิวเซลล์ได้มาก’
เมื่อวันที่ 18 กันยายน รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” ระบุว่า
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 325,828 คน ตายเพิ่ม 654 คน รวมแล้วติดไป 616,841,286 คน เสียชีวิตรวม 6,529,854 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญึ่ปุ่น รัสเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และฝรั่งเศส
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 18 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 95.27 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 85.01
สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และอันดับ 6 ของเอเชีย แม้ สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค. จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม
อัพเดตเรื่อง Omicron BA.2.75.2
Cao YR และคณะ จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศจีน ได้รายงานผลการวิเคราะห์สมรรถนะของ Omicron BA.2.75.2 เปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ
พบว่า BA.2.75.2 ดื้อกว่า Omicron สายพันธุ์อื่นๆ อย่างมาก ทั้งในคนที่ฉีด Coronavac 3 เข็ม รวมถึงคนที่ฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อสายพันธุ์ต่างๆ มาก่อนก็ตาม
นอกจากนี้ เมื่อดูสมรรถนะในการจับกับตัวรับ ACE2 ของเซลล์ จะพบว่า BA.2.75.2 รวมถึงสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ ของ Omicron ที่ตรวจพบในปัจจุบันนั้นมีสมรรถนะจับกับตัวรับ ACE2 ได้มากกว่าสายพันธุ์ D614G (ที่เคยเป็นตัวทำให้เกิดระบาดระลอกสองทั่วโลกตอนปลายปี 2563 ถึงต้นปี 2564)
ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า BA.2.75.2 นั้นมีทั้งสมรรถนะการหลบหลีกภูมิคุ้มกัน และจับกับตัวรับที่ผิวเซลล์ได้มาก จึงมีโอกาสที่จะนำไปสู่การระบาดระลอกถัดไปในอนาคตได้ หากไม่ป้องกันให้ดี
Long COVID ในบราซิล
Ceron ABC และคณะจากบราซิล ทำการศึกษาเปรียบเทียบอัตราการเกิดปัญหา Long COVID โดยเก็บข้อมูลจากผู้ป่วยที่มีประวัติติดเชื้อโรคโควิด-19 ในช่วงตั้งแต่กันยายน 2563 ถึงเมษายน 2564 จำนวน 814 คน และคนที่ไม่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวน 402 คน
พบว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 มาก่อน จะมีอัตราการเกิดปัญหา Long COVID ราว 29.6%
ทั้งนี้ ในกลุ่มผู้ป่วย Long COVID พบว่ามีถึง 55.9% ที่กระทบต่อคุณภาพชีวิต
การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด
ใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอจะลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid0369VAMaDJHF5ikpfz56ozf5urs4HZhPUc5XEezJzfULtPDVLU4Ym98jJNf3TAhEZal
“ต่างด้าว” ทะลักเมืองหาดใหญ่ แย่ง “นวดไทย” กดราคากระทบทัวร์มาเลย์
https://www.prachachat.net/local-economy/news-1051109
“ต่างด้าว” หลายร้อยคนทะลักเข้าหาดใหญ่ แย่งอาชีพ “นวดไทย” ดัมพ์ราคาเดือด จากราคา 500-700 บาทต่อ 2 ชั่วโมง ลดลงมาเหลือแค่ 100 บาท กระทบชิ่ง “บริษัททัวร์” เสนอขายชาวมาเลย์ล่วงหน้า
แหล่งข่าวผู้ประกอบการสถานนวดแผนไทย เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ธุรกิจนวดแผนไทยกำลังฟื้นตัวกลับขึ้นมาอีกครั้งหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และมีการแข่งขันกันสูงมาก
โดยตัวเลขผู้ประกอบการเดิมที่เคยแจ้งไว้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา (สสจ.) มีประมาณ 120 แห่ง ตอนนี้กลับมาเปิดบริการแล้วไม่ต่ำกว่า 100 แห่ง โดยเฉพาะในย่านดาวน์ทาวน์ ระหว่างถนนประชาธิปัตย์ ถนนเสน่หานุสรณ์ ฯลฯ ผู้ประกอบการหลายรายมีการเสนอดัมพ์ราคาในการให้บริการลูกค้าหลัก คือ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย
เช่น ราคาปกติ นวดน้ำมัน 700 บาทต่อ 2 ชั่วโมง นวดแผนไทย ราคา 500 บาทต่อ 2 ชั่วโมง จะมีการดัมพ์ราคาลงมาตั้งแต่ 100 บาท และนวดฝ่าเท้า ปกติราคา 250 บาทต่อชั่วโมง มีการดัมพ์ราคาเหลือ 160-200 บาท ทำให้เกิดปัญหากระทบกับบริษัททัวร์ และธุรกิจนวดของคนไทยอย่างมาก
“ปกติบริษัททัวร์จะเสนอราคาขายนวดแผนไทยให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียไว้ล่วงหน้า แต่ตอนนี้เมื่อเดินทางมาถึง อ.หาดใหญ่พอจอดรถที่โรงแรม คนต่างด้าวเหล่านี้จะกวักมือเรียกนักท่องเที่ยวพร้อมเสนอราคาขายต่ำกว่า ส่งผลต่อการตลาดของบริษัททัวร์มาก
จนสร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลให้สถานบริการนวดแผนไทย ปิดป้ายประกาศราคาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งช่วงไฮซีซั่นตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียจะทะลักเข้ามาท่องเที่ยวกันมาก และใช้บริการนวดแผนไทยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ เงินจะหมุนเวียนสะพัดเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว”
นอกจากนี้ อยากเสนอให้ภาครัฐควบคุมเรื่องการขออนุญาตจัดตั้งสถานบริการนวดแผนไทย และการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการ จึงเป็นพนักงานนวดแผนไทยได้ เพราะขณะนี้มีชาวเมียนมา จีนฮ้อ ชาวเขา ประมาณนับหลายร้อยคน ที่ไม่ได้ผ่านการอบรมอย่างถูกต้องและไม่มีใบรับรอง เพียงแต่ฝึกอบรมมาจากรุ่นพี่ ได้เข้ามาแทรกซึมทำงานเป็นพนักงานนวดแผนไทย ซึ่งคนกลุ่มนี้มีความชำนาญการนวดแผนไทย และการใช้ภาษาต่างประเทศ ทำให้สามารถสื่อสารกับชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จึงได้รับความนิยมจากชาวต่างประเทศใช้บริการมาก และในที่สุดส่งผลกระทบต่อพนักงานนวดคนไทย
โดยปัจจุบันพนักงานนวดแผนไทยมีรายได้ดีเฉลี่ยประมาณ 25,000-30,000 บาท/คน/เดือน สามารถนวดได้ไม่เกิน 5 คน/วัน ส่วนผู้ประกอบการสถานให้บริการนวดแผนไทยมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 80,000 บาท/เดือน ยังไม่หักค่าใช้จ่าย
“ตอนนี้ชาวเมียนมา จีนฮ้อ ชาวเขาที่ประกอบอาชีพการนวดแผนไทย โดยไม่มีใบอนุญาต ทะลักเข้ามาอยู่ใน อ.หาดใหญ่ กับกรุงเทพฯจำนวนมาก เพราะว่างงานจากร้านเดิมที่รับเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ขณะที่พนักงานนวดแผนไทยบางส่วนยังไม่สามารถเดินทางไปให้บริการนวดในต่างประเทศได้
โดยเฉพาะที่ประเทศจีน และมาเลเซีย ซึ่งจะมีรายได้ประมาณ 100 ริงกิต/2 ชั่วโมง/คน ตอนนี้คนว่างงานจึงเกิดการแย่งอาชีพนวดแผนไทยในหาดใหญ่กันมาก จึงขอฝากไปยังหน่วยงานภาครัฐช่วยควบคุมตรงนี้ให้ด้วย”
ทางด้าน นายวิทยา แซ่ลิ่ม ผู้ประกอบการมัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดสงขลา อดีตผู้ก่อตั้งสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอนุรักษ์นวดแผนไทยให้อยู่ภายในประเทศ เพราะเป็นจุดขายสำคัญที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในประเทศไทย
เพื่อจะสร้างงาน สร้างรายได้กับธุรกิจอย่างครบวงจรภายในประเทศ เนื่องจากต่างประเทศตั้งแต่จีน ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี มาเลเซีย สิงคโปร์ และประเทศอินโดนีเซีย นิยมเป็นอย่างมาก
อนึ่ง การขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะยื่นขอได้ที่ กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้หากเป็นการนวดเพื่อบําบัดวินิจฉัยโรค หรือฟื้นฟูสมรรถภาพ ตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 ผู้ทําการนวดต้องขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตสาขาการแพทย์แผนไทยหรือเวชกรรมโบราณ
จากคณะกรรมการวิชาชีพก่อน และต้องดําเนินการในสถานพยาบาลที่ได้รับใบอนุญาตแล้วเท่านั้น แต่หากเป็นการนวดเพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อย ไม่ใช่เพื่อการรักษาโรค ผู้ที่ทําการนวดไม่จําเป็นต้องขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตผู้ประกอบการโรคศิลปะ ผู้ประกอบการสามารถยื่นคําขอได้ที่กองการประกอบโรคศิลปะ สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข หรือในต่างจังหวัดยื่นที่สํานักงานสาธารณสุขอําเภอ หรือสํานักงานสาธารณสุขจังหวัด