ในเบื้องต้นผมเข้าใจว่า วิกฤติพระพุทธศาสนาในกึ่งพุทธกาลนี้ พระพุทธองค์ต้องทรงทราบด้วยอนาคตังสญาณมาตั้งแต่สมัยมีพระชนม์ชีพแล้ว
ซึ่งใครก็ตามที่จะลงมาแก้วิกฤติในกึ่งพุทธกาล ยังไงๆก็ต้องมีอนาคตังสญาณเช่นกัน ต้องรู้ปัญหาก่อน ต้องมีการวางแผนงาน และสุดท้าย ยังไงก็ต้องมีการติดต่อสื่อสารกับพระพุทธองค์บ้างไม่ว่าตอนที่พระพุทธองค์ทรงมีพระชนม์ชีพอยู่หรือตอนที่ปรินิพพานไปแล้ว ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เข้าประเด็นเลยคือ ผมยังไม่ค่อยเก็ทว่าพระธรรมิกราชท่านจะฉายเดี่ยว แบบเล่นคนเดียวม้วนเดียวจบเลยน่ะครับ ยังไงก็ต้องรับพระบัญชาหรือรับคำสั่งจากใครซักคน ที่เป็นคนวงในจริงๆ ซึ่งอาจจะเป็นพระอรหันต์หรือจากพระพุทธองค์โดยตรง
สรุป ถ้างี้พระพุทธองค์และพระอรหันต์ก็ยังอยู่สิครับ
ถามเรื่องพระธรรมิกราช ในกึ่งพุทธกาลครับ
ซึ่งใครก็ตามที่จะลงมาแก้วิกฤติในกึ่งพุทธกาล ยังไงๆก็ต้องมีอนาคตังสญาณเช่นกัน ต้องรู้ปัญหาก่อน ต้องมีการวางแผนงาน และสุดท้าย ยังไงก็ต้องมีการติดต่อสื่อสารกับพระพุทธองค์บ้างไม่ว่าตอนที่พระพุทธองค์ทรงมีพระชนม์ชีพอยู่หรือตอนที่ปรินิพพานไปแล้ว ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เข้าประเด็นเลยคือ ผมยังไม่ค่อยเก็ทว่าพระธรรมิกราชท่านจะฉายเดี่ยว แบบเล่นคนเดียวม้วนเดียวจบเลยน่ะครับ ยังไงก็ต้องรับพระบัญชาหรือรับคำสั่งจากใครซักคน ที่เป็นคนวงในจริงๆ ซึ่งอาจจะเป็นพระอรหันต์หรือจากพระพุทธองค์โดยตรง
สรุป ถ้างี้พระพุทธองค์และพระอรหันต์ก็ยังอยู่สิครับ