คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
อยู่ที่องค์ประกอบรายละเอียด เช่นตำแหน่งที่เปิดโล่ง และพื้นที่โล่งนั้นมีอะไร
อย่างรูปแรกใช้น้ำวางเพื่อสร้างลมให้พัดเข้ามาในบ้าน อันนี้ต้องเข้าใจก่อนว่าฮวงจุ้ยเป็นเรื่องของลมและน้ำ ไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์เหมือนที่พวกไม่ศึกษาฮวงจุ้ยเข้าใจกัน
ในทางฮวงจุ้ยบ้านที่ต้องเปิดช่องแสงในพื้นที่บ้าน ส่วนใหญ่เกิดจากสภาพที่อยู่อาศัยบางที่มันทึบตัน หรือถูกปิดล้อมด้วยกำแพงสูงทำให้อากาศไม่ถ่ายเทจึงมีการออกแบบให้ตรงกลางโล่ง
อันนี้จะเห็นได้ในหลายประเทศและหลายวัฒนธรรมที่เห็นกันบ่อยๆก็คือเรือน 4 ประสานของจีน เรือนญี่ปุ่นโบราณ บ้านเรือนไทยหมู่ บ้านโรมัน แปลกหน่อยก็บ้านดินมู่หลาน หรือโคลอเซียมในโรม ซึ่ง 2 อย่างหลังนี้ก็ถูกประยุคดัดแปลงมาจากเรือน 4 ประสานของจีน แล้วเอามาปรับแก้ในส่วนที่ส่งผลเสียออกเพราะผลเสียตามหลักมันค่อนข้างแย่เช่น ต้องคดี พบเจออุบัติเหตุ บางอันถึงขั้นเสียชีวิต มักเกิดกับบ้านเรือนไทยหมู่แบบเจ้าพระยา (เรื่องผลเสียขอข้ามไปเพราะมันยาวและรายละเอียดเยอะ ไม่ใช่ว่าโล่งแล้วจะเสียทุกอันและนอกประเด็น)
บ้านโรมัน และสวนโรมัน
บ้านดินมู่หลาน มีลักษณะทืบ หน้าต่างน้อย จึงทำการเปิดพื้นที่ตรงกลางเพื่อให้อากาศถ่ายเท ลักษณะแบบนี้ในทางฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะส่งผลให้คนที่อยู่อาศัยใช้ชีวิตและมีสังคมต่างจากโลกภายนอก เขาจะอยู่อาศัยกันเป็นตระกูล ลูกหลานแบ่งห้องอยู่ มีการกำหนดห้องของสมาชิกชัดเจนตามหลักวิชาฮวงจุ้ย
ต่อมาหลังจากนั้นก็มีความเชื่อว่าต้นไม้มีพลังชีวิตก็เลยเปลี่ยนจากการวางน้ำมาเป็นการปลูกต้นไม้กลางพื้นที่โล่งนั้น ซึ่งถ้าเป็นต้นไม้ใหญ่ในทางฮวงจุ้ยมองว่าส่งผลเสีย เพราะมันจะขว้างทางลมที่จะพัดเข้ามาในบริเวณบ้าน (ซึ่งส่วนต้นไม้นั้นก็เป็นฮวงจุ้ยประยุคที่เอาความเชื่อของหลัก 5 ธาตุเข้ามาเสริมไม่ใช่ของเดิม)
อย่างรูปแรกใช้น้ำวางเพื่อสร้างลมให้พัดเข้ามาในบ้าน อันนี้ต้องเข้าใจก่อนว่าฮวงจุ้ยเป็นเรื่องของลมและน้ำ ไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์เหมือนที่พวกไม่ศึกษาฮวงจุ้ยเข้าใจกัน
ในทางฮวงจุ้ยบ้านที่ต้องเปิดช่องแสงในพื้นที่บ้าน ส่วนใหญ่เกิดจากสภาพที่อยู่อาศัยบางที่มันทึบตัน หรือถูกปิดล้อมด้วยกำแพงสูงทำให้อากาศไม่ถ่ายเทจึงมีการออกแบบให้ตรงกลางโล่ง
อันนี้จะเห็นได้ในหลายประเทศและหลายวัฒนธรรมที่เห็นกันบ่อยๆก็คือเรือน 4 ประสานของจีน เรือนญี่ปุ่นโบราณ บ้านเรือนไทยหมู่ บ้านโรมัน แปลกหน่อยก็บ้านดินมู่หลาน หรือโคลอเซียมในโรม ซึ่ง 2 อย่างหลังนี้ก็ถูกประยุคดัดแปลงมาจากเรือน 4 ประสานของจีน แล้วเอามาปรับแก้ในส่วนที่ส่งผลเสียออกเพราะผลเสียตามหลักมันค่อนข้างแย่เช่น ต้องคดี พบเจออุบัติเหตุ บางอันถึงขั้นเสียชีวิต มักเกิดกับบ้านเรือนไทยหมู่แบบเจ้าพระยา (เรื่องผลเสียขอข้ามไปเพราะมันยาวและรายละเอียดเยอะ ไม่ใช่ว่าโล่งแล้วจะเสียทุกอันและนอกประเด็น)
บ้านโรมัน และสวนโรมัน
บ้านดินมู่หลาน มีลักษณะทืบ หน้าต่างน้อย จึงทำการเปิดพื้นที่ตรงกลางเพื่อให้อากาศถ่ายเท ลักษณะแบบนี้ในทางฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะส่งผลให้คนที่อยู่อาศัยใช้ชีวิตและมีสังคมต่างจากโลกภายนอก เขาจะอยู่อาศัยกันเป็นตระกูล ลูกหลานแบ่งห้องอยู่ มีการกำหนดห้องของสมาชิกชัดเจนตามหลักวิชาฮวงจุ้ย
ต่อมาหลังจากนั้นก็มีความเชื่อว่าต้นไม้มีพลังชีวิตก็เลยเปลี่ยนจากการวางน้ำมาเป็นการปลูกต้นไม้กลางพื้นที่โล่งนั้น ซึ่งถ้าเป็นต้นไม้ใหญ่ในทางฮวงจุ้ยมองว่าส่งผลเสีย เพราะมันจะขว้างทางลมที่จะพัดเข้ามาในบริเวณบ้าน (ซึ่งส่วนต้นไม้นั้นก็เป็นฮวงจุ้ยประยุคที่เอาความเชื่อของหลัก 5 ธาตุเข้ามาเสริมไม่ใช่ของเดิม)
แสดงความคิดเห็น
บ้านที่มีช่องตรงกลาง กับฮวงจุ้ย
ผมเห็นบ้านสไตล์นี้ ในวัฒนธรรมค่อนข้างหลากหลาย เช่นบ้านเปอรานากัน ตามเมืองเก่าภูเก็ต ที่จะมีบ่อน้ำเป็นช่องกลางบ้าน หรือ ฝรั่งก็ทำ courtyard ปลูกต้นไม้กลางบ้านทะลุไปถึงชั้นบนเลย หรือ ญี่ปุ่น ก็มีทำสวน zen ภายในบ้าน
คิดว่าทางประโยชน์ใช้สอย น่าจะได้ช่องลม ช่องแสง ความร่มรื่น ครับ
แต่ไม่มั่นใจว่ามีข้อเสียอะไร ที่ควรกังวลไหมครับ สำหรับการทำช่องตรงกลางบ้านลักษณะนี้
แนบรูปประกอบจากอินเตอร์เน็ต เครดิตตามในรูปครับ
ขอบคุณทุกความเห็นครับ