เหตุการณ์นี้ล่วงผ่านมา
นานนัก
แต่ความรัก ที่มีให้ไม่รู้หาย
เธอเติมเต็มความสุขให้ทั้ง
ใจกาย
ตั้งแต่ได้ดูแลเธอ
" เจ้าอังกอร์ "
................
ในเช้าที่ขมุกขมัววันหนึ่งของเดือนสิงหาคม
พ.ศ.2561
ฝนตกหนักตั้งแต่ยังไม่สว่าง และแม้ว่าจะหยุดตกไปแล้ว แต่เหมือนว่าฟ้าก็จะยังไม่เปิด ดูอึมครึมซึมเซา น่านอนต่อเป็นที่ยิ่ง
นี่ถ้าผมไม่ใช่คนขยัน
คงนอนต่อไปแล้ว
(พูดให้ตัวเองดูดีไปงั้นครับ
ที่จริงแม่เรียกให้ลุกมาเข้าครัวต่างหาก)
บ้านผมอยู่ชนบทครับ
อาหารหลักทุกมื้อก็คือข้าว
จะไปไหนก่อนไปก็ต้องกินข้าว(กองทัพเดินด้วยท้องจริงๆบ้านนี้)
แถมมีบางวันปวดหัวตัวร้อนแต่ด้วยความที่บ้านผมมีแต่ผู้ชายและแม่ก็อายุมากแล้ว ผมต้องมาจัดการมื้อเช้าให้ก่อน จากนั้นจึงไปกินยานอน
สักประมาณสามโมงเช้า
แม่ก็ร้องเอะอะขึ้น
ผมตกใจก็วิ่งออกไปดู
จึงพบว่า ห่างจากบ้านผมประมาณ30เมตรซึ่งเป็น
ป่าหญ้า มีคนเอากล่องพลาสติกสีดำมาทิ้งไว้
และขณะนี้ก็มีเสียงแกรกกรากพร้อมเสียงแผ่วระโหยอยู่ข้างใน
" เมี๊ยว "
เมื่อเปิดดูก็พบน้องแมว
ตัวผอม พุงป่อง นอนหายใจรวยรินอยู่ สาเหตุน่าจะมาจากอากาศในกล่องไม่พอ เพราะเค้าปิดกล่องมิดชิดมาก คงลืมคิดว่าสิ่งมีชีวิตในกล่องต้องการอากาศ
ผมอุ้มน้องกลับมาบ้าน
ท่ามกลางเสียงบ่นของแม่
เพราะอะไรก็ไม่รู้ แม่ผม
เกลียดแมวเด็กมากครับ
ไม่จับ ไม่ดู ไม่ให้อาหาร
และที่สำคัญไม่อยากให้เลี้ยง
*หมายเหตุ *
ผมจะแทนตัวว่าเราซึ่ง
หมายถึงทั้งสามพี่น้องครับ
......
เราทำหูทวนลมกับคำพูดของแม่ และเราเลี้ยงเธอไว้
เราเลี้ยงเธอตามประสาเรา
คือไม่ได้พาไปหาหมอ
แต่เรามีกะบะทรายมาฝึกให้เธอถ่ายเป็นที่เป็นทาง
เธอยังเด็กมาก เราเลย
เลี้ยงเธอด้วยข้าวคลุกปลาทู อาหารเสริมก็คือนมจืดชนิดกล่อง เราไม่ได้ใช้นมแพะหรอกครับ เราใช้นมวัวแดงนี่แหละ คือตามมีตามเกิดจริงๆ และเราตั้งชื่อให้เธอว่า " อังกอร์ "
เธอกินเก่ง เธอไม่อ้อน
ถึงเวลานอนเธอก็ลงกล่อง
ก็ไอ้กล่องที่มากับเธอนั่นแหละครับ เอาฝาทิ้งไป
ใช้ผ้าขนหนูกรุให้นุ่มอีกนิด เท่านี้สาวน้อยของเราก็นอนสบายหลับปุ๋ยทุกคืนแล้ว
พอเธอโตขึ้นมาอีกหน่อย
เราก็มีอาหารเม็ดมาเพิ่มให้เธอ ซึ่งดูเธอจะชอบมาก
ทุกเช้าเธอจะตื่นพร้อมผม
แล้วเข้าครัวไปนั่งสงบเสงี่ยมรอที่ชามข้าว
บางวันผมแกล้งไม่สนใจแต่แอบเหลือบตาดู ก็จะเห็นว่า เธอจ้องผมแบบไม่ยอมละสายตาเลย ไม่ใช่อะไร เธอรอกรุบกริบของเธออยู่ เหมือนพยายามบอกด้วยสายตาว่า
" นุด เธอเห็นเรามั้ย
อาหารน่ะ รีบเอามาให้เราเดี๋ยวนี้ "
อ่านจากสายตาได้ประมาณนี้ครับ
เธอเป็นแมวส้มที่ขนนุ่มมากๆ ไม่ค่อยซุกซน กินเก่งและที่สำคัญเธอใจดีมากกกกกก
ตั้งแต่เลี้ยงเธอมา เธอไม่เคยจับหนูหรือจิ้งจกเลยแม้แต่ตัวเดียว
แต่เธอชอบยืนขึ้นแล้วยื่นจมูกมาหอมแก้มผมเวลาผมนั่ง เหมือนจะบอกว่า
" นุด เรารักนุดนะ"
แบบนี้เลยครับ
พอเธอเริ่มโตอีกหน่อย
เธอก็ทิ้งกล่องดำของเธอ
เพราะพอถึงเวลานอน
เธอจะตามแม่เข้าไปนอนในมุ้งด้วย แม้แม่จะบ่นจะด่าอย่างไร เธอก็ไม่สน
เธอจะไปซุกตัวกอดขาแม่หลับทุกวัน
จากที่แม่เคยเกลียดแมว
ด่าแมว ตีแมว
ตอนนี้กลายเป็นพอถึงเวลานอนแม่จะ
" กอร์เอ๊ย..แม่จะนอนแล้วนะ เข้ามุ้งเลยหรือเปล่าล่ะ
ถ้าไม่เข้าดึกๆมาเรียกจะไม่เปิดมุ้งให้นะ "
แล้วเสียงเนี่ยหูย..หวาน
มากครับ พูดกะลูกยังไม่หวานเท่านี้เลยขอบอก
ทะเลที่ว่ากว้างใหญ่ ยังไง
ก็ไม่เท่าหัวใจมนุษย์หรอกครับ ขนาดว่าจะไม่รักๆ
เผลอแพลบเดียว กลายเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจไปซะแล้ว
โชคดีของแกจริงๆเลย
อังกอร์ เจ้าแมวกล่องดำ
https://photos.app.goo.gl/CkR3tJc41JpB4vya9
ทุกวันนี้ถ้าทำผิด แล้วผมทำเสียงแข็งใส่
อังกอร์จะวิ่งปรู๊ดไปนั่งไม่รู้ไม่ชี้ข้างแม่
ประมาณว่า
" ชั้นมีเบ๊ดี
ชั้นไม่กลัวแกหรอกนุด "
เห็นไหมครับว่าขนาดแมว
แท้ๆยังรู้จักเล่นพรรคเล่น
พวกเลย ผมละหน่าย
กล่องดำ
นานนัก
แต่ความรัก ที่มีให้ไม่รู้หาย
เธอเติมเต็มความสุขให้ทั้ง
ใจกาย
ตั้งแต่ได้ดูแลเธอ
" เจ้าอังกอร์ "
................
ในเช้าที่ขมุกขมัววันหนึ่งของเดือนสิงหาคม
พ.ศ.2561
ฝนตกหนักตั้งแต่ยังไม่สว่าง และแม้ว่าจะหยุดตกไปแล้ว แต่เหมือนว่าฟ้าก็จะยังไม่เปิด ดูอึมครึมซึมเซา น่านอนต่อเป็นที่ยิ่ง
นี่ถ้าผมไม่ใช่คนขยัน
คงนอนต่อไปแล้ว
(พูดให้ตัวเองดูดีไปงั้นครับ
ที่จริงแม่เรียกให้ลุกมาเข้าครัวต่างหาก)
บ้านผมอยู่ชนบทครับ
อาหารหลักทุกมื้อก็คือข้าว
จะไปไหนก่อนไปก็ต้องกินข้าว(กองทัพเดินด้วยท้องจริงๆบ้านนี้)
แถมมีบางวันปวดหัวตัวร้อนแต่ด้วยความที่บ้านผมมีแต่ผู้ชายและแม่ก็อายุมากแล้ว ผมต้องมาจัดการมื้อเช้าให้ก่อน จากนั้นจึงไปกินยานอน
สักประมาณสามโมงเช้า
แม่ก็ร้องเอะอะขึ้น
ผมตกใจก็วิ่งออกไปดู
จึงพบว่า ห่างจากบ้านผมประมาณ30เมตรซึ่งเป็น
ป่าหญ้า มีคนเอากล่องพลาสติกสีดำมาทิ้งไว้
และขณะนี้ก็มีเสียงแกรกกรากพร้อมเสียงแผ่วระโหยอยู่ข้างใน
" เมี๊ยว "
เมื่อเปิดดูก็พบน้องแมว
ตัวผอม พุงป่อง นอนหายใจรวยรินอยู่ สาเหตุน่าจะมาจากอากาศในกล่องไม่พอ เพราะเค้าปิดกล่องมิดชิดมาก คงลืมคิดว่าสิ่งมีชีวิตในกล่องต้องการอากาศ
ผมอุ้มน้องกลับมาบ้าน
ท่ามกลางเสียงบ่นของแม่
เพราะอะไรก็ไม่รู้ แม่ผม
เกลียดแมวเด็กมากครับ
ไม่จับ ไม่ดู ไม่ให้อาหาร
และที่สำคัญไม่อยากให้เลี้ยง
*หมายเหตุ *
ผมจะแทนตัวว่าเราซึ่ง
หมายถึงทั้งสามพี่น้องครับ
......
เราทำหูทวนลมกับคำพูดของแม่ และเราเลี้ยงเธอไว้
เราเลี้ยงเธอตามประสาเรา
คือไม่ได้พาไปหาหมอ
แต่เรามีกะบะทรายมาฝึกให้เธอถ่ายเป็นที่เป็นทาง
เธอยังเด็กมาก เราเลย
เลี้ยงเธอด้วยข้าวคลุกปลาทู อาหารเสริมก็คือนมจืดชนิดกล่อง เราไม่ได้ใช้นมแพะหรอกครับ เราใช้นมวัวแดงนี่แหละ คือตามมีตามเกิดจริงๆ และเราตั้งชื่อให้เธอว่า " อังกอร์ "
เธอกินเก่ง เธอไม่อ้อน
ถึงเวลานอนเธอก็ลงกล่อง
ก็ไอ้กล่องที่มากับเธอนั่นแหละครับ เอาฝาทิ้งไป
ใช้ผ้าขนหนูกรุให้นุ่มอีกนิด เท่านี้สาวน้อยของเราก็นอนสบายหลับปุ๋ยทุกคืนแล้ว
พอเธอโตขึ้นมาอีกหน่อย
เราก็มีอาหารเม็ดมาเพิ่มให้เธอ ซึ่งดูเธอจะชอบมาก
ทุกเช้าเธอจะตื่นพร้อมผม
แล้วเข้าครัวไปนั่งสงบเสงี่ยมรอที่ชามข้าว
บางวันผมแกล้งไม่สนใจแต่แอบเหลือบตาดู ก็จะเห็นว่า เธอจ้องผมแบบไม่ยอมละสายตาเลย ไม่ใช่อะไร เธอรอกรุบกริบของเธออยู่ เหมือนพยายามบอกด้วยสายตาว่า
" นุด เธอเห็นเรามั้ย
อาหารน่ะ รีบเอามาให้เราเดี๋ยวนี้ "
อ่านจากสายตาได้ประมาณนี้ครับ
เธอเป็นแมวส้มที่ขนนุ่มมากๆ ไม่ค่อยซุกซน กินเก่งและที่สำคัญเธอใจดีมากกกกกก
ตั้งแต่เลี้ยงเธอมา เธอไม่เคยจับหนูหรือจิ้งจกเลยแม้แต่ตัวเดียว
แต่เธอชอบยืนขึ้นแล้วยื่นจมูกมาหอมแก้มผมเวลาผมนั่ง เหมือนจะบอกว่า
" นุด เรารักนุดนะ"
แบบนี้เลยครับ
พอเธอเริ่มโตอีกหน่อย
เธอก็ทิ้งกล่องดำของเธอ
เพราะพอถึงเวลานอน
เธอจะตามแม่เข้าไปนอนในมุ้งด้วย แม้แม่จะบ่นจะด่าอย่างไร เธอก็ไม่สน
เธอจะไปซุกตัวกอดขาแม่หลับทุกวัน
จากที่แม่เคยเกลียดแมว
ด่าแมว ตีแมว
ตอนนี้กลายเป็นพอถึงเวลานอนแม่จะ
" กอร์เอ๊ย..แม่จะนอนแล้วนะ เข้ามุ้งเลยหรือเปล่าล่ะ
ถ้าไม่เข้าดึกๆมาเรียกจะไม่เปิดมุ้งให้นะ "
แล้วเสียงเนี่ยหูย..หวาน
มากครับ พูดกะลูกยังไม่หวานเท่านี้เลยขอบอก
ทะเลที่ว่ากว้างใหญ่ ยังไง
ก็ไม่เท่าหัวใจมนุษย์หรอกครับ ขนาดว่าจะไม่รักๆ
เผลอแพลบเดียว กลายเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจไปซะแล้ว
โชคดีของแกจริงๆเลย
อังกอร์ เจ้าแมวกล่องดำ
https://photos.app.goo.gl/CkR3tJc41JpB4vya9
ทุกวันนี้ถ้าทำผิด แล้วผมทำเสียงแข็งใส่
อังกอร์จะวิ่งปรู๊ดไปนั่งไม่รู้ไม่ชี้ข้างแม่
ประมาณว่า
" ชั้นมีเบ๊ดี
ชั้นไม่กลัวแกหรอกนุด "
เห็นไหมครับว่าขนาดแมว
แท้ๆยังรู้จักเล่นพรรคเล่น
พวกเลย ผมละหน่าย