สวัสดีชาวพันทิปทุกคนค่ะ อายุของเรากำลังจะย่าง 32 ปี เเล้ว เเต่ยังไม่รู้เลยค่ะว่าชีวิตเราควรจะวางเเผนด้านการเงินอย่างไร ตั้งเเต่ทำงานได้ไม่เคยเหลือเก็บเลย ใช้ชีวิตผ่านเดือนต่อเดือน พูดเเล้วเศร้าใจจังเลย ไม่ใช่เสียดายเวลาที่ไม่เก็บเงินนะคะ เศร้าที่เราไม่หาความรู้เกี่ยวกับการเงิน ไม่สนใจ ใช้จ่ายเต็มที่ ทั้งๆที่ภาระทางครอบครัวก็ไม่มี ไม่มีลุกเต้า พ่อเเม่ก็ไม่ต้องส่งเงินให้ เขาเเค่ให้เราอย่าเป็นภาระของเขาก็พอ
เท้าความไปสมัยที่เรียนจบนะคะก็ได้งานเลยมั่นคงพอสมควร เงินเดือนบวกกับค่าอื่นๆก็ประมาน 18000-21000 บาท ช่วงนั้นคือเครดิตดีมาก บัตรเครดิตได้ทุกธนาคาร รออะไรละคะ รูดเต็มที่ไปเลยค่ะ เงินเดือนออกก็จ่ายขั้นต่ำ กินวันละไม่ต่ำกว่า 500 ชีวิตขาขึ้นสุดๆ ที่บ้านให้รถมาใช้จ้า ก็ใช้ชีวิตไม่คิดอะไร กินเที่ยว รูดบัตร อยากได้อะไรก็ซื้อสิจ้ะ ใช้ชีวิตเเบบนี้มาประมาน 5 ปี เราก็เเต่งงานกับเเฟนก เเฟนทำงานได้เงินเดือนเท่าไหร่ก็โอนให้เราหมดเหลือไว้ใช้จ่ายของเขานิดๆหน่อยๆ หวานหมูจ้ะ ฉันใช้เงินเเบบเต็มที่มาก การเงินเริ่มขาดสภาพคล่อง ชักหน้าไม่ถึงหลัง ปรึกษาเเฟนเอารถเข้ารีไฟเเนนซ์ได้เงินมา1ก้อน กะว่าจะปิดทุกบัตรที่มีอยู่ ก็ปิดไปตามที่ตกลงกับเเฟน ก็กลายเป็นผ่อนจ่ายไฟเเนนซ์เดือนละประมาน 7 พันกว่าบาทก็โอเค ยังคุมค่าใช้จ่ายได้ เเต่ๆๆๆ ด้วยเป็นคนหน้าใหญ่ ใจหนา ปิดหมดก็เปิดใหม่ไปเลยสิคะ ไม่คิดมากเพราะถ้าคิดมากคงไม่ถึงจุดนี้ เปิดทุกบัตรจ้ะ ก็วนลูปกลับมาเเบบเดิม จนใช้เวลาไป 2 ปี กลับมาเป็นหนี้บัตรเเบบเดิม จ่ายขั้นต่ำตลอด เราก็มานั่งนึกว่าเราใช้จ่ายอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน ซื้ออะไรที่เป็นทรัพย์สินบ้างคือไม่มีเลย ใช้จ่ายกินเที่ยวทั้งนั้น จนเริ่มไม่ไหว เราก็คิดว่าจะเอาเงินตรงไหนมาปิด ก็คิดได้เออเราผ่อนไฟเเนนซ์อยู้ก็เอาเพิ่มจ้า เปลี่ยนสัญญาเอาเพิ่มมาเสนกว่าๆ จากปติ7พันกว่าบาทก็กลายเป็นเดือนละ 12000 บาท/ 7ปีไปเลยจ้า เหมือนฉันซื้อรถใหม่ไปอีก1คัน
จนช่วงประมาน 2 ปีที่เเล้วก่อนโควิดจะมา ฉันตัดสินใจลาออกกลับมาทำงานที่บ้านเพราะงานเดิมกดดันหนักมากเเล้วเผอิญมาสมัครงานเเถวบ้านได้ก็ลาออกมา ประจวบเหมาะกับเเฟนถูกออกจากงานเก่าที่เงินเดือนดีมากเพราะทะเลาะกับลูกค้าทำให้โดนร้องเรียนจึงต้องลาออกมา เเต่เรากับกับเเฟนก็ยังอยู่กันคนละจังหวัดเพราะเพื่อนเขายังชวนให้ทำงานเเถวนั้น จังหวะนี้เเหละค่ะ จากที่เคยได้18000+ ก้ลงมาที่ 9900 -12000 เพราะบ้านเราก็อยู่นอกเมืองมีงานทำก็ถือว่าบุญมากค่ะ เเต่ไกล้บ้านค่าใช้จ่ายน้อยมาก ทั้งอำเภอมีเเค่ 7-11 ที่เยียวยาจิตใจได้ เงินเดือนลดลง เเต่หนี้ที่สะสมมาก่อนหน้าไม่ลดตามจ้า การเงินเริ่มขาดสภาพคล่อง ชักหน้าไม่ถึงหลัง เเต่ก็ยังประคองไปได้ จนบอกเเฟนให้กลับมาทำงานเเถวบ้านก้ได้งานพอดี เราก้อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองอายุจะ 30 31 กันเเล้ว มันก็เริ่มจากจุดนี้เเหละจ้ะ เพราะมาดูเราไม่มีเงินเก็บสักบาท หมุนเงินเเต่ละเดือนคือยังไม่พอใช้ เรากับเเฟนทะเลาะกันเเบบหนักมากเพราะเราไม่รู้จักเก็บ โชคดีบ้านเเฟนให้เงินมาปลูกบ้าน ก็บ้านสร้างเสร็จด้วยเงินที่เเม่เขาให้ก็ถือว่ามีบ้านอยุ่ละ เเต่ๆ หนี้สินที่ฉันสร้างไว้มันพันเกี่ยวกันเเบบไม่ไหว ฉันเเก้ไม่ได้เลยคือชีวิตครอบครัวเกือบพัง ทะเลาะกันเเบบไม่ไหว เเฟนบอกเขาไม่ไหวเเล้วที่เราสร้างหนี้จนครอบครัวพัง จนพ่อเเม่ต้องมาช่วย จนตอนนี้คือดีขึ้นมานิดนึง บัตรต่างๆเราก็ปล่อยให้ฟ้อง หนี้รถที่เข้าไฟเเนนซ์ก็กัดฟันกัน เหลืออีก 3 ปี ค่าใช้จ่ายปัจจุบันคือยังพอใช้ชีวิตได้ เราหางานพิเศษได้สอนพิเศษเเถวบ้านก็คือได้รายได้เพิ่มมาอีกทาง ทุกวันนี้คือต้องให้กำลังใจตัวเองว่าอดทนอีกนิดนะ ยังมีคนที่หนักกว่าเราเเต่เขาผ่านไปไม่ได้ ชีวิตครบอครัวเเตกเเยก เเต่เราคือเเฟนยังให้อภัย ครอบครัวให้อภัย เราอายุเท่านี้เราต้องสู้ยังมีงานทำ ฝากให้คนที่แบบยังไม่ถึงจุดนี้เราบอกเลยว่าครอบครัว เเฟนเราต้องรักษาไว้ให้ดีที่สุดเพราะเขาเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เราก้าวผ่านไปได้ สู้ๆนะคะ
ชีวิตล้มเหลวทางด้านการเงินเพราะไม่มีความรู้ด้านการเงิน ทุกคนคิดว่าไงบ้างคะ
เท้าความไปสมัยที่เรียนจบนะคะก็ได้งานเลยมั่นคงพอสมควร เงินเดือนบวกกับค่าอื่นๆก็ประมาน 18000-21000 บาท ช่วงนั้นคือเครดิตดีมาก บัตรเครดิตได้ทุกธนาคาร รออะไรละคะ รูดเต็มที่ไปเลยค่ะ เงินเดือนออกก็จ่ายขั้นต่ำ กินวันละไม่ต่ำกว่า 500 ชีวิตขาขึ้นสุดๆ ที่บ้านให้รถมาใช้จ้า ก็ใช้ชีวิตไม่คิดอะไร กินเที่ยว รูดบัตร อยากได้อะไรก็ซื้อสิจ้ะ ใช้ชีวิตเเบบนี้มาประมาน 5 ปี เราก็เเต่งงานกับเเฟนก เเฟนทำงานได้เงินเดือนเท่าไหร่ก็โอนให้เราหมดเหลือไว้ใช้จ่ายของเขานิดๆหน่อยๆ หวานหมูจ้ะ ฉันใช้เงินเเบบเต็มที่มาก การเงินเริ่มขาดสภาพคล่อง ชักหน้าไม่ถึงหลัง ปรึกษาเเฟนเอารถเข้ารีไฟเเนนซ์ได้เงินมา1ก้อน กะว่าจะปิดทุกบัตรที่มีอยู่ ก็ปิดไปตามที่ตกลงกับเเฟน ก็กลายเป็นผ่อนจ่ายไฟเเนนซ์เดือนละประมาน 7 พันกว่าบาทก็โอเค ยังคุมค่าใช้จ่ายได้ เเต่ๆๆๆ ด้วยเป็นคนหน้าใหญ่ ใจหนา ปิดหมดก็เปิดใหม่ไปเลยสิคะ ไม่คิดมากเพราะถ้าคิดมากคงไม่ถึงจุดนี้ เปิดทุกบัตรจ้ะ ก็วนลูปกลับมาเเบบเดิม จนใช้เวลาไป 2 ปี กลับมาเป็นหนี้บัตรเเบบเดิม จ่ายขั้นต่ำตลอด เราก็มานั่งนึกว่าเราใช้จ่ายอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน ซื้ออะไรที่เป็นทรัพย์สินบ้างคือไม่มีเลย ใช้จ่ายกินเที่ยวทั้งนั้น จนเริ่มไม่ไหว เราก็คิดว่าจะเอาเงินตรงไหนมาปิด ก็คิดได้เออเราผ่อนไฟเเนนซ์อยู้ก็เอาเพิ่มจ้า เปลี่ยนสัญญาเอาเพิ่มมาเสนกว่าๆ จากปติ7พันกว่าบาทก็กลายเป็นเดือนละ 12000 บาท/ 7ปีไปเลยจ้า เหมือนฉันซื้อรถใหม่ไปอีก1คัน
จนช่วงประมาน 2 ปีที่เเล้วก่อนโควิดจะมา ฉันตัดสินใจลาออกกลับมาทำงานที่บ้านเพราะงานเดิมกดดันหนักมากเเล้วเผอิญมาสมัครงานเเถวบ้านได้ก็ลาออกมา ประจวบเหมาะกับเเฟนถูกออกจากงานเก่าที่เงินเดือนดีมากเพราะทะเลาะกับลูกค้าทำให้โดนร้องเรียนจึงต้องลาออกมา เเต่เรากับกับเเฟนก็ยังอยู่กันคนละจังหวัดเพราะเพื่อนเขายังชวนให้ทำงานเเถวนั้น จังหวะนี้เเหละค่ะ จากที่เคยได้18000+ ก้ลงมาที่ 9900 -12000 เพราะบ้านเราก็อยู่นอกเมืองมีงานทำก็ถือว่าบุญมากค่ะ เเต่ไกล้บ้านค่าใช้จ่ายน้อยมาก ทั้งอำเภอมีเเค่ 7-11 ที่เยียวยาจิตใจได้ เงินเดือนลดลง เเต่หนี้ที่สะสมมาก่อนหน้าไม่ลดตามจ้า การเงินเริ่มขาดสภาพคล่อง ชักหน้าไม่ถึงหลัง เเต่ก็ยังประคองไปได้ จนบอกเเฟนให้กลับมาทำงานเเถวบ้านก้ได้งานพอดี เราก้อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองอายุจะ 30 31 กันเเล้ว มันก็เริ่มจากจุดนี้เเหละจ้ะ เพราะมาดูเราไม่มีเงินเก็บสักบาท หมุนเงินเเต่ละเดือนคือยังไม่พอใช้ เรากับเเฟนทะเลาะกันเเบบหนักมากเพราะเราไม่รู้จักเก็บ โชคดีบ้านเเฟนให้เงินมาปลูกบ้าน ก็บ้านสร้างเสร็จด้วยเงินที่เเม่เขาให้ก็ถือว่ามีบ้านอยุ่ละ เเต่ๆ หนี้สินที่ฉันสร้างไว้มันพันเกี่ยวกันเเบบไม่ไหว ฉันเเก้ไม่ได้เลยคือชีวิตครอบครัวเกือบพัง ทะเลาะกันเเบบไม่ไหว เเฟนบอกเขาไม่ไหวเเล้วที่เราสร้างหนี้จนครอบครัวพัง จนพ่อเเม่ต้องมาช่วย จนตอนนี้คือดีขึ้นมานิดนึง บัตรต่างๆเราก็ปล่อยให้ฟ้อง หนี้รถที่เข้าไฟเเนนซ์ก็กัดฟันกัน เหลืออีก 3 ปี ค่าใช้จ่ายปัจจุบันคือยังพอใช้ชีวิตได้ เราหางานพิเศษได้สอนพิเศษเเถวบ้านก็คือได้รายได้เพิ่มมาอีกทาง ทุกวันนี้คือต้องให้กำลังใจตัวเองว่าอดทนอีกนิดนะ ยังมีคนที่หนักกว่าเราเเต่เขาผ่านไปไม่ได้ ชีวิตครบอครัวเเตกเเยก เเต่เราคือเเฟนยังให้อภัย ครอบครัวให้อภัย เราอายุเท่านี้เราต้องสู้ยังมีงานทำ ฝากให้คนที่แบบยังไม่ถึงจุดนี้เราบอกเลยว่าครอบครัว เเฟนเราต้องรักษาไว้ให้ดีที่สุดเพราะเขาเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เราก้าวผ่านไปได้ สู้ๆนะคะ