กรณีนี้เจ้าของกระทู้เองถูกสุนัขของบ้านพี่ชายกัด (น้องแฮปปี้ สุนัขพันธุ์ไทยหางดาบ ขนกำมะหยี่) เหตุเกิดราวสองทุ่มครึ่งของคืนวันที่ 25 มิถุนายน 2565 ปัจจุบัน (12 กันยายน 2565) ครบคอร์สการได้รับวัคซีนไปหลายเดือนแล้ว มาเล่าให้อ่านกันทั้งในแง่กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และการรับวัคซีนอย่างต่อเนื่องครับ (ในกรณีนี้เราใช้บริการรวม 3 โรงพยาบาล)
เราซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลกรมธรรม์นี้ของบริษัทกรุงเทพประกันภัยมาต่อเนื่องประมาณ 5 ปี โดยซื้อผ่านนายหน้าประกันที่หน้าเว็บ (ประกันรถดอทคอม) ไม่ค่อยได้เครมนะ เพราะส่วนใหญ่อุบัติเหตุเล็กน้อยก็ปฐมพยาบาลเองเอา กรมธรรม์ปีล่าสุดเบี้ย 1,860 บาท ครอบคลุมตามนี้ (ตอนจ่ายเบี้ยจ่ายแบบตัดบัตรเครดิตไป 1,800 บาท นายหน้าประกันมีโปรโมชั่นลดให้ 60 บาท)
กรมธรรม์จะมาทางไปรษณีย์ไทย EMS และมีบัตรมาด้วยซึ่งเวลาใช้งานก็ยื่นบัตรนี้คู่กับบัตรประชาชนที่สถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษา
25 มิถุนายน 2565 ราว 2 ทุ่มครึ่ง
แฮปปี้กัดผมจากทางด้านหลังแบบจมเขี้ยวที่ข้อเท้าขาขวา เกิดแผลฉกรรจ์ 2 แผลข้างตาตุ่มด้านนอก 1 แผล และด้านในเหนือส้นเท้าอีก 1 แผล (ตรงกันข้ามกับแผลแรก) เราปฐมพยาบาลด้วยการล้างด้วยน้ำเกลือเพื่อทำความสะอาดน้ำลายของสัตว์ ประคบด้วยน้ำแข็งเพื่อให้เลือดหยุดและหวังผลไม่ให้อักเสบบวมแดงในวันรุ่งขึ้น บ้านพี่ชายอยู่ย่านตลิ่งชันแถวจรัลฯ 13 ตัดราชพฤกษ์ เรานึกถึงโรงพยาบาลธนบุรี 2 เป็นอันดับแรก เลยมุ่งหน้าไปที่นั่นโดยเปิด GPS นำทาง แต่ไม่รู้ด้วยความตระหนกตกใจของคนขับประกอบกับถนนเส้นที่ตัดจากแยกไฟฉายมุ่งหน้าพุทธมณฑลสาย 4 ยังสร้างไม่สมบูรณ์ สุดท้ายเราพลาดเป้าหมาย อุบัติเหตุคราวนี้เลยไปจบที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค
ที่เกษมราษฎร์ บางแค
ห้องฉุกเฉินมีเคสเกือบเต็มทุกเตียง มีแพทย์ 1 ท่านตรวจรักษาแบบแทบไม่มีเวลาวางมือ คุณหมออายุราว 20 เศษ มาให้การรักษาเราในขณะที่เรานอนคว่ำหน้าอยู่ที่เตียงหมายเลข 5 โดยที่เตียงหมายเลข 4 มีเลือดเลอะที่ใบหน้า ถัดไปที่เตียงหมายเลข 3 ก็นอนรอผล CT มีเสียงสนทนาระหว่างหมอกับพยาบาล หมอกับคนไข้ พยาบาลกับคนไข้ตลอดเวลา
หมอ "ขอ HRIG รอบแผล"
พยาบาล "ต้อง skin test ก่อนนะคะ ERIG ก็ได้ เคสนี้ cover 3 หมื่นค่ะ" เสียงพยาบาลตอบมาจากอีกมุมหนึ่งของห้องฉุกเฉิน ส่วนเราก็นอนคว่ำน้ำตาตกด้วยความเจ็บปวดอยู่บนเตียงหมายเลข 5 นั่นแหล่ะ และสรุปคือเราได้ ERIG ขนาด 300 IU รอบแผลแบบไม่ได้ทำ skin test
*RIG ย่อมาจาก Rabies immunoglobulin คือภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปที่จะฉีดให้คนไข้เพื่อทำลายเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าแบบทันที ปกติจะฉีดรอบแผลในขนาดยาคำนวณตามน้ำหนักตัวคนไข้ แบ่งเป็น 2 ตัวคือ ERIG E มาจากคำว่า Equine อ่านว่าอีควีนแปลว่าม้า คือยาตัวนี้ทำมาจากเลือดม้านั่นแหล่ะ ส่วนอีกตัวคือ HRIG H = Human = มนุษย์ ก็คือ immunoglobulin ที่ได้จากคน และตามแนวทางรักษาสัตว์กัดในกรณีรุนแรงแบบเรา ต้องได้รับ immunoglobulin ถือเป็นภาคบังคับ*
บทสรุปที่ห้องฉุกเฉิน
1. ได้ HRIG 300 IU รอบแผล
2. แพทย์ฉีดยาชาให้ 2 เข็ม (แผลละ 1 เข็ม) หลังจากนั้นเย็บแผลให้แผลละ 2 เข็ม เหตุผลคือแผลค่อนข้างใหญ่ แต่แพทย์แจ้งว่าเย็บให้แค่หลวมๆ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากแผลมีความลึก
3. รับวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเข็มที่ 1 (วันที่ 0) แบบเข้ากล้ามเนื้อ พร้อมใบนัดเพื่อฉีดต่อเนื่องอีก 4 เข็ม
*ปัจจุบันการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแบบหลังสัมผัสโรคประเภทฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ครบคอร์สจะฉีดทั้งหมด 5 เข็ม คือวันที่ 0 (คือวันเริ่มต้น) วันที่ 3,7,14 และวันที่ 28 และสมัยนี้เขาไม่ฉีดรอบสะดือกันแล้ว*
4. ทำแผล ปิดผ้าก๊อสกันติด ทับด้วยก๊อสปราศจากเชื้อ แล้วพันด้วยก๊อสม้วนแบบติดตัวเองมาแบบแน่นหนาพร้อมแจ้งให้มาทำแผลที่โรงพยาบาลทุกวัน "ซี้ซั้วทำเองไม่ได้นะครับ" (อันนี้คำพูดของคุณหมอท่านหนึ่งที่เข้ามาดูแผลให้ในวันรุ่งขึ้น)
5. ยา 3 รายการ คือ
5.1 AugmentinR 1g 1x2 pc 10 เม็ด (ยาฆ่าเชื้อ เป็นตัวยาแนะนำกรณีสัตว์กัด)
5.2 CelebrexR 200mg 1x2 pc 10 เม็ด (ยาลดการอักเสบ - ปวด บวม แดง ร้อน)
5.3 UltracetR 325/37.5 mg 1x3 pc 20 เม็ด (เป็นยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมระหว่างทรามาดอลกับพาราเซตามอล ใช้กรณีปวดปานกลางถึงรุนแรง)
ขั้นตอนการใช้สิทธิ์ประกันอุบัติเหตุคือเพียงแค่ยื่นบัตรประกันอุบัติเหตุคู่กับบัตรประชาชนเท่านั้น มีเซ็นรับรองเอกสารนิดหน่อย รับยา รับใบนัด และคำอธิบายทั้งเรื่องยาที่ได้ รวมถึงการรับวัคซีนให้ครบคอร์ส
*ปกติกรณีสัตว์กัดจะต้องรับวัคซีนบาดทะยักแบบครบคอร์สด้วย แต่ของเราได้รับมาแล้วก่อนหน้านั้นโดยเข็มสุดท้ายของวัคซีนบาดทะยักผ่านไปเมื่อราวต้นเดือนสิงหาคม 2564 แพทย์ที่ห้องฉุกเฉินเลยไม่ได้ให้ฉีดวัคซีนบาดทะยักอีก*
ค่าใช้จ่ายวันนี้ 21,481 บาท โดยจะถูกตั้งเบิกไปที่บริษัทกรุงเทพประกันภัย (เราไม่ต้องสำรองจ่าย) ซึ่งถูกหักไปจากวงเงิน 30,000 บาท ตามกรมธรรม์ วงเงินเหลือ 8,519 บาท
26 มิถุนายน 2565 โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ห้องทำแผล 9 โมงเช้า
วันนี้ยังมีรถนั่งมารับพาไปรอรับบริการตามจุดต่างๆ เราแค่ยื่นบัตรประกันอุบัติเหตุ คู่กับบัตรประจำตัวประชาชน วันนี้มีคุณหมอมาดูแผลให้ ไม่ได้ขอใบรับรองแพทย์ (จริงๆ ตั้งแต่เมื่อวานก็ไม่ได้ขอ เพราะไม่ได้ใช้ครับ) พยาบาลเปิดผ้าพันแผล ทำแผล แล้วเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ใหม่นัดวันรุ่งขึ้นเพื่อทำแผลอีกครั้ง ค่าใช้จ่ายวันนี้ 1,445 บาท วงเงินคงเหลือ 7,074 บาท
27 มิถุนายน 2565 โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ห้องทำแผล 9 โมงเช้า
วันนี้ปฏิเสธรถเข็นเพราะพอเดินเองได้แล้ว เป็นวันจันทร์ มองไปที่โถงให้บริการคนไข้ สปสช. คนแน่นมาก แต่เราแยกมาอีกส่วนคือส่วนของห้องฉุกเฉินและแผนกศัลกรรม ห้องทำแผล ฯลฯ วันนี้คุณพยาบาลดูแผลให้ครับ ค่าใช้จ่าย 882 บาท วงเงินคงเหลือ 6,192 บาท ไม่รับใบรับรองแพทย์เหมือนเดิม ไม่มียาเพิ่มเติม แผลยังปวดอยู่นิดหน่อย แต่ชามากซึ่งอาการชาเป็นตั้งแต่วันแรกแล้ว ชาบริเวณตั้งแต่แผลที่ตาตุ่มด้านนอกแผ่ไปถึงนิ้วเท้า กลาง นาง ก้อย แต่หมอบอกว่าเดี๋ยวจะค่อยๆ ดีขึ้น มันเกิดจากการบาดเจ็บของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเส้นประสาทบริเวณที่ถูกสุนัขกัด
28 มิถุนายน 2565 โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ห้องทำแผล 9 โมงเช้า
วันนี้นัดรับวัคซีนพิษสุนัขบ้าเข็มที่ 2 (วันที่ 3) และทำแผล ไม่พบแพทย์ ไม่มียาเพิ่มเติม ไม่รับใบรับรองแพทย์ ค่าใช้จ่าย 1,594 บาท วงเงินคงเหลือ 4,598 บาท
2 กรกฏาคม 2565 โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ห้องทำแผล 10 โมงเช้า
เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ ใบนัดระบุเวลาคือ 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น เลยมาสายกว่าปกติหน่อย รับวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเข็มที่ 3 (วันที่ 7) พร้อมทำแผล มีแพทย์มาดูแผลให้และตัดไหม (29,30 มิถุนายน, 1 กรกฎาคม ไม่ได้ไปทำแผลที่โรงพยาบาล) ค่าใช้จ่ายวันนี้ 3,115 บาท วงเงินคงเหลือ 1,483 บาท
9 กรกฏาคม 2565 โรงพยาบาลเกาะช้างอินเตอร์เนชั่นแนล อ.เกาะช้าง จ.ตราด (เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ) 9 โมงเช้า
หลังจากวันที่ 2 กรกฎาคม 2565 เราก็ต้องลงมาอยู่เกาะช้าง จ.ตราด ทำให้วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเข็มที่ 4 (วันที่ 14) ต้องมาฉีดที่โรงพยาบาลใกล้บ้านแทน ... ฉีดต่างโรงพยาบาลกันได้นะครับ เพียงถือใบนัดรับวัคซีนมา ทางคุณหมอเขาจะทราบและสามารถให้วัคซีนต่อได้เลย รวมทั้งประกันอุบัติเหตุก็สามารถครอบคลุมต่อเนื่องอีกด้วย ในวงเงินเดิม เลยทำให้วงเงินคงเหลือของวันนี้หลังหักค่าใช้จ่ายไป 1,380 บาท คือ 103 บาท
พูดง่ายๆ คือวงเงินไม่พอสำหรับรับวัคซีนเข็มสุดท้าย ถ้าจะรับต่อที่โรงพยาบาลเอกชนก็ต้องชำระเงินเอง หรือกรณีที่ถ้าเรามีประกันอุบัติเหตุกรมธรรม์อื่น จะสามารถไปเบิกจากกรมธรรม์อื่นได้ด้วยเหตุเดิม (อันนี้คุณพยาบาลที่โรงพยาบาลทั้งเกษมราษฎร์ บางแค และโรงพยาบาลกรุงเทพตราดแนะนำมา) แต่ด้วยเราไม่มีกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุอื่น แต่มีสิทธิ์บัตรทอง (ประกันสุขภาพถ้วนหน้า) ที่โรงพยาบาลเกาะช้าง จึงเลือกที่จะไปรับวัคซีนเข็มสุดท้ายที่นั่น
23 กรกฎาคม 2565 โรงพยาบาลเกาะช้าง โถงให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉิน 9 โมงเช้า
จริงๆก็โทรไปถามก่อนนะเพราะวันที่ 23 กรกฎาคม 2565 ซึ่งเป็นวันนัดรับวัคซีนเข็มสุดท้าย (วันที่ 28) ทำไมต้องโทรถามก่อน? ก็เพราะด้วยความที่เป็นโรงพยาบาลของรัฐ ด้วยเพราะวันที่ 23 เป็นวันเสาร์ และด้วยเป็นเข็มที่ 5 (มันขยับวันได้นิดๆหน่อยๆ ไม่เหมือน 3 เข็มแรกที่ต้องตรงวันเป๊ะๆ) โทรไปถามให้มั่นใจว่าถ้าเข้าไปรับวัคซีนในวันเสาร์ เราจะไม่โดนคุณพยาบาลดุเอา ซึ่งทางโรงพยาบาลให้คำตอบที่น่าประทับใจพร้อมแจ้งว่าสามารถเข้าไปรับวัคซีนได้ตามใบนัดที่มีอยู่ โดยให้เข้าไปให้ตรงวัน วันเสาร์ก็ยินดีให้บริการ วันนี้เสียสตางค์ 30 บาท กับระยะเวลาที่ใช้ประมาณ 20 นาที แถมพยาบาลก็มือเบ๊า ... เบา
สรุป
1. ค่าใช้จ่ายที่ตั้งเบิกตรงกับบริษัทประกันภัย
2. การเข้ารับการรักษาด้วยเหตุสุนัขกัดครอบคลุมอยุ่ในกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ ในกรณีนี้คือกรมธรรม์ของกรุงเทพประกันภัยแบบไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน
3. กรณีสุนัขกัดซึ่งต้องได้รับวัคซีนต่อเนื่อง
3.1 สามารถรับวัคซีนได้ในสถานพยาบาลที่ไม่ใช่แห่งเดียวกัน เนื่องจากถือว่าเป็นวัคซีนเดียวกัน มีประสิทธิภาพเหมือนกัน ไม่ต้องนับเริ่มต้นใหม่
3.2 ในส่วนของค่าใช้จ่ายต่อบริษัทประกันฯ วงเงินจะใช้วงเงินเดิม
3.3 โรงพยาบาลรัฐบาล หรือโรงพยาบาลเอกชน วัคซีนเหมือนกันครับ
4. ไม่มีโรงพยาบาลไหนให้การรักษาแล้วทำให้เราตะขิดตะขวงใจแม้แต่น้อย ทุกอย่างไม่มีข้อโต้แย้งอันใด
5. เจ็บป่วยคราวนี้เสียค่าหมอ 30 บาท !!
.
สุดท้ายก็ต้องพึ่งโรงพยาบาลหลวงนะเรา ... แฮร่
-------------------------
คุณหมูยอ
เหตุเกิด 25 มิถุนายน 2565 - 23 กรกฎาคม 2565
บันทึกไว้เมื่อ 12 กันยายน 2565
-------------------------
[CR] รีวิวประกันอุบัติเหตุ (PA-กรุงเทพประกันภัย) กรณีสุนัขกัด (รับวัคซีนครบคอร์ส)
เราซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลกรมธรรม์นี้ของบริษัทกรุงเทพประกันภัยมาต่อเนื่องประมาณ 5 ปี โดยซื้อผ่านนายหน้าประกันที่หน้าเว็บ (ประกันรถดอทคอม) ไม่ค่อยได้เครมนะ เพราะส่วนใหญ่อุบัติเหตุเล็กน้อยก็ปฐมพยาบาลเองเอา กรมธรรม์ปีล่าสุดเบี้ย 1,860 บาท ครอบคลุมตามนี้ (ตอนจ่ายเบี้ยจ่ายแบบตัดบัตรเครดิตไป 1,800 บาท นายหน้าประกันมีโปรโมชั่นลดให้ 60 บาท)
กรมธรรม์จะมาทางไปรษณีย์ไทย EMS และมีบัตรมาด้วยซึ่งเวลาใช้งานก็ยื่นบัตรนี้คู่กับบัตรประชาชนที่สถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษา
25 มิถุนายน 2565 ราว 2 ทุ่มครึ่ง
แฮปปี้กัดผมจากทางด้านหลังแบบจมเขี้ยวที่ข้อเท้าขาขวา เกิดแผลฉกรรจ์ 2 แผลข้างตาตุ่มด้านนอก 1 แผล และด้านในเหนือส้นเท้าอีก 1 แผล (ตรงกันข้ามกับแผลแรก) เราปฐมพยาบาลด้วยการล้างด้วยน้ำเกลือเพื่อทำความสะอาดน้ำลายของสัตว์ ประคบด้วยน้ำแข็งเพื่อให้เลือดหยุดและหวังผลไม่ให้อักเสบบวมแดงในวันรุ่งขึ้น บ้านพี่ชายอยู่ย่านตลิ่งชันแถวจรัลฯ 13 ตัดราชพฤกษ์ เรานึกถึงโรงพยาบาลธนบุรี 2 เป็นอันดับแรก เลยมุ่งหน้าไปที่นั่นโดยเปิด GPS นำทาง แต่ไม่รู้ด้วยความตระหนกตกใจของคนขับประกอบกับถนนเส้นที่ตัดจากแยกไฟฉายมุ่งหน้าพุทธมณฑลสาย 4 ยังสร้างไม่สมบูรณ์ สุดท้ายเราพลาดเป้าหมาย อุบัติเหตุคราวนี้เลยไปจบที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค
ที่เกษมราษฎร์ บางแค
ห้องฉุกเฉินมีเคสเกือบเต็มทุกเตียง มีแพทย์ 1 ท่านตรวจรักษาแบบแทบไม่มีเวลาวางมือ คุณหมออายุราว 20 เศษ มาให้การรักษาเราในขณะที่เรานอนคว่ำหน้าอยู่ที่เตียงหมายเลข 5 โดยที่เตียงหมายเลข 4 มีเลือดเลอะที่ใบหน้า ถัดไปที่เตียงหมายเลข 3 ก็นอนรอผล CT มีเสียงสนทนาระหว่างหมอกับพยาบาล หมอกับคนไข้ พยาบาลกับคนไข้ตลอดเวลา
หมอ "ขอ HRIG รอบแผล"
พยาบาล "ต้อง skin test ก่อนนะคะ ERIG ก็ได้ เคสนี้ cover 3 หมื่นค่ะ" เสียงพยาบาลตอบมาจากอีกมุมหนึ่งของห้องฉุกเฉิน ส่วนเราก็นอนคว่ำน้ำตาตกด้วยความเจ็บปวดอยู่บนเตียงหมายเลข 5 นั่นแหล่ะ และสรุปคือเราได้ ERIG ขนาด 300 IU รอบแผลแบบไม่ได้ทำ skin test
*RIG ย่อมาจาก Rabies immunoglobulin คือภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปที่จะฉีดให้คนไข้เพื่อทำลายเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าแบบทันที ปกติจะฉีดรอบแผลในขนาดยาคำนวณตามน้ำหนักตัวคนไข้ แบ่งเป็น 2 ตัวคือ ERIG E มาจากคำว่า Equine อ่านว่าอีควีนแปลว่าม้า คือยาตัวนี้ทำมาจากเลือดม้านั่นแหล่ะ ส่วนอีกตัวคือ HRIG H = Human = มนุษย์ ก็คือ immunoglobulin ที่ได้จากคน และตามแนวทางรักษาสัตว์กัดในกรณีรุนแรงแบบเรา ต้องได้รับ immunoglobulin ถือเป็นภาคบังคับ*
บทสรุปที่ห้องฉุกเฉิน
1. ได้ HRIG 300 IU รอบแผล
2. แพทย์ฉีดยาชาให้ 2 เข็ม (แผลละ 1 เข็ม) หลังจากนั้นเย็บแผลให้แผลละ 2 เข็ม เหตุผลคือแผลค่อนข้างใหญ่ แต่แพทย์แจ้งว่าเย็บให้แค่หลวมๆ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากแผลมีความลึก
3. รับวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเข็มที่ 1 (วันที่ 0) แบบเข้ากล้ามเนื้อ พร้อมใบนัดเพื่อฉีดต่อเนื่องอีก 4 เข็ม
*ปัจจุบันการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแบบหลังสัมผัสโรคประเภทฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ครบคอร์สจะฉีดทั้งหมด 5 เข็ม คือวันที่ 0 (คือวันเริ่มต้น) วันที่ 3,7,14 และวันที่ 28 และสมัยนี้เขาไม่ฉีดรอบสะดือกันแล้ว*
4. ทำแผล ปิดผ้าก๊อสกันติด ทับด้วยก๊อสปราศจากเชื้อ แล้วพันด้วยก๊อสม้วนแบบติดตัวเองมาแบบแน่นหนาพร้อมแจ้งให้มาทำแผลที่โรงพยาบาลทุกวัน "ซี้ซั้วทำเองไม่ได้นะครับ" (อันนี้คำพูดของคุณหมอท่านหนึ่งที่เข้ามาดูแผลให้ในวันรุ่งขึ้น)
5. ยา 3 รายการ คือ
5.1 AugmentinR 1g 1x2 pc 10 เม็ด (ยาฆ่าเชื้อ เป็นตัวยาแนะนำกรณีสัตว์กัด)
5.2 CelebrexR 200mg 1x2 pc 10 เม็ด (ยาลดการอักเสบ - ปวด บวม แดง ร้อน)
5.3 UltracetR 325/37.5 mg 1x3 pc 20 เม็ด (เป็นยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมระหว่างทรามาดอลกับพาราเซตามอล ใช้กรณีปวดปานกลางถึงรุนแรง)
ขั้นตอนการใช้สิทธิ์ประกันอุบัติเหตุคือเพียงแค่ยื่นบัตรประกันอุบัติเหตุคู่กับบัตรประชาชนเท่านั้น มีเซ็นรับรองเอกสารนิดหน่อย รับยา รับใบนัด และคำอธิบายทั้งเรื่องยาที่ได้ รวมถึงการรับวัคซีนให้ครบคอร์ส
*ปกติกรณีสัตว์กัดจะต้องรับวัคซีนบาดทะยักแบบครบคอร์สด้วย แต่ของเราได้รับมาแล้วก่อนหน้านั้นโดยเข็มสุดท้ายของวัคซีนบาดทะยักผ่านไปเมื่อราวต้นเดือนสิงหาคม 2564 แพทย์ที่ห้องฉุกเฉินเลยไม่ได้ให้ฉีดวัคซีนบาดทะยักอีก*
ค่าใช้จ่ายวันนี้ 21,481 บาท โดยจะถูกตั้งเบิกไปที่บริษัทกรุงเทพประกันภัย (เราไม่ต้องสำรองจ่าย) ซึ่งถูกหักไปจากวงเงิน 30,000 บาท ตามกรมธรรม์ วงเงินเหลือ 8,519 บาท
26 มิถุนายน 2565 โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ห้องทำแผล 9 โมงเช้า
วันนี้ยังมีรถนั่งมารับพาไปรอรับบริการตามจุดต่างๆ เราแค่ยื่นบัตรประกันอุบัติเหตุ คู่กับบัตรประจำตัวประชาชน วันนี้มีคุณหมอมาดูแผลให้ ไม่ได้ขอใบรับรองแพทย์ (จริงๆ ตั้งแต่เมื่อวานก็ไม่ได้ขอ เพราะไม่ได้ใช้ครับ) พยาบาลเปิดผ้าพันแผล ทำแผล แล้วเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ใหม่นัดวันรุ่งขึ้นเพื่อทำแผลอีกครั้ง ค่าใช้จ่ายวันนี้ 1,445 บาท วงเงินคงเหลือ 7,074 บาท
27 มิถุนายน 2565 โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ห้องทำแผล 9 โมงเช้า
วันนี้ปฏิเสธรถเข็นเพราะพอเดินเองได้แล้ว เป็นวันจันทร์ มองไปที่โถงให้บริการคนไข้ สปสช. คนแน่นมาก แต่เราแยกมาอีกส่วนคือส่วนของห้องฉุกเฉินและแผนกศัลกรรม ห้องทำแผล ฯลฯ วันนี้คุณพยาบาลดูแผลให้ครับ ค่าใช้จ่าย 882 บาท วงเงินคงเหลือ 6,192 บาท ไม่รับใบรับรองแพทย์เหมือนเดิม ไม่มียาเพิ่มเติม แผลยังปวดอยู่นิดหน่อย แต่ชามากซึ่งอาการชาเป็นตั้งแต่วันแรกแล้ว ชาบริเวณตั้งแต่แผลที่ตาตุ่มด้านนอกแผ่ไปถึงนิ้วเท้า กลาง นาง ก้อย แต่หมอบอกว่าเดี๋ยวจะค่อยๆ ดีขึ้น มันเกิดจากการบาดเจ็บของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเส้นประสาทบริเวณที่ถูกสุนัขกัด
28 มิถุนายน 2565 โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ห้องทำแผล 9 โมงเช้า
วันนี้นัดรับวัคซีนพิษสุนัขบ้าเข็มที่ 2 (วันที่ 3) และทำแผล ไม่พบแพทย์ ไม่มียาเพิ่มเติม ไม่รับใบรับรองแพทย์ ค่าใช้จ่าย 1,594 บาท วงเงินคงเหลือ 4,598 บาท
2 กรกฏาคม 2565 โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ห้องทำแผล 10 โมงเช้า
เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ ใบนัดระบุเวลาคือ 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น เลยมาสายกว่าปกติหน่อย รับวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเข็มที่ 3 (วันที่ 7) พร้อมทำแผล มีแพทย์มาดูแผลให้และตัดไหม (29,30 มิถุนายน, 1 กรกฎาคม ไม่ได้ไปทำแผลที่โรงพยาบาล) ค่าใช้จ่ายวันนี้ 3,115 บาท วงเงินคงเหลือ 1,483 บาท
9 กรกฏาคม 2565 โรงพยาบาลเกาะช้างอินเตอร์เนชั่นแนล อ.เกาะช้าง จ.ตราด (เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ) 9 โมงเช้า
หลังจากวันที่ 2 กรกฎาคม 2565 เราก็ต้องลงมาอยู่เกาะช้าง จ.ตราด ทำให้วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเข็มที่ 4 (วันที่ 14) ต้องมาฉีดที่โรงพยาบาลใกล้บ้านแทน ... ฉีดต่างโรงพยาบาลกันได้นะครับ เพียงถือใบนัดรับวัคซีนมา ทางคุณหมอเขาจะทราบและสามารถให้วัคซีนต่อได้เลย รวมทั้งประกันอุบัติเหตุก็สามารถครอบคลุมต่อเนื่องอีกด้วย ในวงเงินเดิม เลยทำให้วงเงินคงเหลือของวันนี้หลังหักค่าใช้จ่ายไป 1,380 บาท คือ 103 บาท
พูดง่ายๆ คือวงเงินไม่พอสำหรับรับวัคซีนเข็มสุดท้าย ถ้าจะรับต่อที่โรงพยาบาลเอกชนก็ต้องชำระเงินเอง หรือกรณีที่ถ้าเรามีประกันอุบัติเหตุกรมธรรม์อื่น จะสามารถไปเบิกจากกรมธรรม์อื่นได้ด้วยเหตุเดิม (อันนี้คุณพยาบาลที่โรงพยาบาลทั้งเกษมราษฎร์ บางแค และโรงพยาบาลกรุงเทพตราดแนะนำมา) แต่ด้วยเราไม่มีกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุอื่น แต่มีสิทธิ์บัตรทอง (ประกันสุขภาพถ้วนหน้า) ที่โรงพยาบาลเกาะช้าง จึงเลือกที่จะไปรับวัคซีนเข็มสุดท้ายที่นั่น
23 กรกฎาคม 2565 โรงพยาบาลเกาะช้าง โถงให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉิน 9 โมงเช้า
จริงๆก็โทรไปถามก่อนนะเพราะวันที่ 23 กรกฎาคม 2565 ซึ่งเป็นวันนัดรับวัคซีนเข็มสุดท้าย (วันที่ 28) ทำไมต้องโทรถามก่อน? ก็เพราะด้วยความที่เป็นโรงพยาบาลของรัฐ ด้วยเพราะวันที่ 23 เป็นวันเสาร์ และด้วยเป็นเข็มที่ 5 (มันขยับวันได้นิดๆหน่อยๆ ไม่เหมือน 3 เข็มแรกที่ต้องตรงวันเป๊ะๆ) โทรไปถามให้มั่นใจว่าถ้าเข้าไปรับวัคซีนในวันเสาร์ เราจะไม่โดนคุณพยาบาลดุเอา ซึ่งทางโรงพยาบาลให้คำตอบที่น่าประทับใจพร้อมแจ้งว่าสามารถเข้าไปรับวัคซีนได้ตามใบนัดที่มีอยู่ โดยให้เข้าไปให้ตรงวัน วันเสาร์ก็ยินดีให้บริการ วันนี้เสียสตางค์ 30 บาท กับระยะเวลาที่ใช้ประมาณ 20 นาที แถมพยาบาลก็มือเบ๊า ... เบา
สรุป
1. ค่าใช้จ่ายที่ตั้งเบิกตรงกับบริษัทประกันภัย
2. การเข้ารับการรักษาด้วยเหตุสุนัขกัดครอบคลุมอยุ่ในกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ ในกรณีนี้คือกรมธรรม์ของกรุงเทพประกันภัยแบบไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน
3. กรณีสุนัขกัดซึ่งต้องได้รับวัคซีนต่อเนื่อง
3.1 สามารถรับวัคซีนได้ในสถานพยาบาลที่ไม่ใช่แห่งเดียวกัน เนื่องจากถือว่าเป็นวัคซีนเดียวกัน มีประสิทธิภาพเหมือนกัน ไม่ต้องนับเริ่มต้นใหม่
3.2 ในส่วนของค่าใช้จ่ายต่อบริษัทประกันฯ วงเงินจะใช้วงเงินเดิม
3.3 โรงพยาบาลรัฐบาล หรือโรงพยาบาลเอกชน วัคซีนเหมือนกันครับ
4. ไม่มีโรงพยาบาลไหนให้การรักษาแล้วทำให้เราตะขิดตะขวงใจแม้แต่น้อย ทุกอย่างไม่มีข้อโต้แย้งอันใด
5. เจ็บป่วยคราวนี้เสียค่าหมอ 30 บาท !!
.
สุดท้ายก็ต้องพึ่งโรงพยาบาลหลวงนะเรา ... แฮร่
-------------------------
คุณหมูยอ
เหตุเกิด 25 มิถุนายน 2565 - 23 กรกฎาคม 2565
บันทึกไว้เมื่อ 12 กันยายน 2565
-------------------------
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้