ปกติผมเป็นคนที่ทำประกันชีวิต ประกันเงินออม มาตอนนี้ก็ครบ 20 ปีแล้วไม่มีปัญหาอะไร พี่ที่ทำงานประกัน ที่เราเจอกันตัวเป็นๆๆ นิสัยดีและน่ารัก
แต่เมื่อ 3 ปีก่อน เดือนสิงหาคม 2563 ได้มีตัวแทนประกันท่านหนึ่ง โทรมาขายประกัน ซึ่งแต่เดิมผมก็มีกรมธรรม์เล็กๆ ส่งทางโตเกียวมารีน ผมก็รู้สึกเรามีแล้ว ตอนแรกก็ไม่สนใจ แต่น้องผู้ขายพูดจาดี ผมกับแฟน เลยรู้สึกว่า ให้โอกาสเชื่อที่จะเปิดกับเขา กับทางบริษัท ประกันชีวิต A โดยน้องให้คำแนะนำว่า จะเปิดเป็นเวลา4-5 ปี แล้ว ถอนออกมาคุ้มกำไร มีรายได้รายปี โดยแนะนำให้เราปิดประกันตัวเดิมกับทางโตเกียวมารีน เราก็สงสัยว่า แล้วเวลาที่เสียไปหละ น้องบอกว่า มาต่ออายุที่ใหม่ (เราเข้าใจว่า คงเหมือนหุ้นที่โอนย้ายโบรคได้ ซึ่งเราโง่เองจริงๆๆตรงนี้) ซึ่งเราก็มองกันว่า เราทำประกันกับ ประกันชีวิตA ไม่ได้ทำแบบให้เงินตัวแทนขาย ผมเชื่อว่า บริษัทประกัน A โอเคไม่น่ามีปัญหาอะไร....เรื่องน่าจะจบเท่านี้... แต่เมื่อ กุมภาพันธ์ 2564 ตัวแทนคนนี้มาดึงให้เราย้ายมาบริษัทประกัน T โดยให้เหตุผลว่า บริษัทประกันเก่ามีปัญหาภายในไม่น่าเชื่อถือ จะล้มละลาย(ทำนองนี้) ทำให้ประกันที่ส่งไปอาจมีปัญหาในอนาคต ตัวเขายังออกมาเลย โน้มน้าวเต็มที่ ผมก็เสียดายประกันกับ บริษัทประกัน A ตัวแทนก็บอกเหมือนกับว่า ผลตอบแทนตรงนี้ดีกว่า มี วอยเชอร์ รายปีด้วย มีอย่างนั้นอย่างนี้ จนผมกับแฟนเปิดกรมธรรม์ฉบับที่ 2 กับทางประกันชีวิต T โดยตัวแทนขายยังพูดเสมอว่าเขายังเป็นตัวแทนประกันเราอยู่ไม่ได้หนีไปไหนมีอะไรบอกได้สบายใจได้ โดยที่เขาก็ยังบอกว่า พี่ 4-5 ปี คุ้มทุนแล้วค่อยถอน เขาก็ทำไว้เหมือนกัน เรื่องน่าจะจบเท่านี้....
แต่ เดือนสิงหาก็มาถึงอีกรอบ เดือนสิงหาคม 2564 มีการตัดเงินทางบัตรเครดิต เรามีการแจ้งไปทางตัวแทนประกันที่ขายให้เราบอกว่า ทำไหมยังมาตัดได้อีก ตัวแทนประกัน บอกว่าน่าจะเป็นความผิดพลาดของระบบ เพราะบริษัทประกัน A มีปัญหาภายใน ตัวแทนประกันก็บอกว่า เดียวจะเข้าไปจัดการทำเรื่องขอเงินคืนจาก ประกันชีวิต A เมื่อเราทำการทวงถาม เขาก็จะบอกว่า พี่ยังไม่ได้อีกหรอ เขาทำเรื่องไปแล้วให้รอรับเงิน เราก็รอ จนกระทั้ง เดือน พฤศจิกายน 2564 ตัวแทนประกันคนนี้ติดต่อมาว่า พี่ปกติ พี่จ่ายเบี้ยประกัน เกือบ 50000 ต่อปี เนี้ยตอนนี้บริษัทประกัน มีโปรโมชั่นช่วงโควิท ประมาณว่า อยากรับเงินล่วงน่า ให้ส่วนลด แต่การทำการโทรเข้ามาเพื่อยืนยัน โดยผมเข้าใจว่า จากเดิมเกือบ 50000 แล้วมาจ่าย 40600 มันก็ลดลงมาเยอะ และตัวแทนยังบอกว่า พี่จัดการตรงนี้ ปีหน้าก็ไม่ต้องจ่าย เพราะมันเป็นการจ่ายปีที่ 2 มันต่อเนื่องกัน เรื่องน่าจะจบเท่านี้...
แต่แล้ว เดือนกุมภาพันธ์ 2565 มาถึงมีการตัดยอดเงินในบัตรไปอีก คราวนี้ ผมจึงติดต่อตัวแทนประกันไปอีกรอบ ว่า มีการตัดเงินมา ตัวแทนประกันก็ทำงง แล้วบอกว่า พี่ช่วยส่งเอกสารยืนยันการตัดให้หน่อย เดียวจะไปทำเรื่องให้คืนเงิน ระบบน่าจะรวน ช่วงเวลาที่ผ่าน มาผมก็พยายามตาม และสอบถาม
เรื่องเงินที่ต้องตาม ทุกครั้งจะมีการบ่ายเบียง ว่า อยู่งานศพญาติเสีย หรือ ทำงานที่บ้านไม่ได้เข้าออฟฟิศ หรือ อยุ่ต่างจังหวั
จนผมลืม สาบานได้เลยว่า ลืม ยอดของบริษัท A ไป ...อนิจจาสุดท้ายผมก็ได้ทราบความจริง เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 เนื่องจากมียอดตัดบันชี มาจากที่ผมไม่คุ้นเคย ผมเลยตกใจไม่รู้เราโดนอะไร ใครแฮคหรือปล่าว ตอนนั้นเราติดต่อธนาคาร ให้เขาทำการระงับและสืบค้น กลายเป็นว่า มาจากบริษัทประกันชีวิต R ซึ่งผมก็ ถามว่า ตัวแทนประกนของผมว่า ใช่บริษัทที่ตัวแทนทำงานหรือปล่าว ตอนนั้นวุ่นๆๆในหัว นึกถึงบริษัท A และยังนึกว่า น้องคนนี้ยังทำงานอยู่ ลืมไปเลยว่า ย้าย มาบริษัท T เพื่อความชัดผมเลยทำการโทรไปบริษัทประกัน R และทำการสอบถามว่า ผมไม่เคยทำประกันกับทางบริษัท ทำไหมมาตัดเงินผม ซึ่งตอนนั้น ผมรู้สึกว่า เป็นตายยังไงต้องรู้ให้ได้ ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตอบคำถามของบริษัทR นะครับ เพราะว่า เจ้าหน้าที่ตอบคำถามได้ชัดเจน และ ทำการตรวจเช็ค ว่า มันเป็นกรมธรรม์ของบริษัทประกัน A เดิม ผมก็บอกว่า ตัวแทนประกันผมปิดไปตั้งแต่2 ปีที่แล้วนิครับ ผมเลยแจ้งให้ช่วงค้นดูรายละเอียดให้ แล้วผมก็ทำการติต่อกลับไปทางผู้ชายประกัน เขายังยืนยันกับผมว่า เขาเป็นคนไปยืนเอกสารเองที่เค้าเตอร์ ผมเลยติดต่อกับไปทางบริษัท R แจ้งให้เขารับทราบว่า ตัวแทนประกันบอกแบบนี้ ทางบริษัทขอเวลา 2 วันทำการตรวจเช็คเอกสารและรายการต่างๆๆ
ผมเกิดความไม่สบาย ผมทำการตรวจ การใช้จ่ายผ่านบัตร ของตัวเองย้อนหลัง และ จากคนในครอบครัวว่า สิงหาคม 2564 มีการตัดเครดิตของประกันบริษัท A ไป แล้วเราทำการให้ ตัวแทนคนนี้ไปทวง แล้วเรื่องก็เงียบ จนผมลืม ตอนนี้ผมบอกตรงๆๆ เครียดมากไม่นึกว่าจะโดนหลอก แต่เรื่องมันยังไม่จบเท่านี้นะสิ
หากทนผมเล่ามาได้ขนาดนี้แล้ว คงนึกถึงประกันของ บริษัทT ผมโทรเข้าไปสอบถามที่บริษัท และสอบถามว่า "ขอโทษนะครับ ผมอยากทราบว่าผม มีประกันกี่กรมธรรม์" เนื่องจากที่ถามเพราะผมสงสัย ในยอดการจ่ายเงินของตัวเอง ทางบริษัทประกัน บอกผม มี 2 มีอะไรบ้าง ผมเลยแย้งว่า เออขอโทษนะครับ ตัวแทนแจ้งให้ผมว่า มันเป็นโปรโมชั่นในช่วงโควิท ทำให้ได้ส่วนลดลงมาเหลือ 40600 มันเป็นฉบับเดียวกันไม่ใช่หรอ ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่ใช่ฉบับเดียวกัน มันเป็นคนละกรมธรรม์กัน เอาแล้วสิแล้วผมจะทำไงดี แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรเพราะเขามองว่าปิดไม่คุ้ม แต่เขาไม่ได้มองนิครับ ว่า คนส่งจะตายหรือไม่ตาย แต่เดิมการทำประกันนี้ ผมเตรียมเงินไว้สำหรับประกันไว้ จาย 4-5 ปี ไม่ได้เตรียมไว้จ่ายระยะ 20ปี
ผมเลยมา ค้นดูและสอบถามว่า ประกันที่เขาทำให้ผมเป็นประกันอะไร ผมต้องการออมเงินระยะสั้น แต่หลอกให้ผมประกันชีวิต มันไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ ตั้งแต่แรกแล้ว ....... ผมนะพูดได้เลยว่า ชีวิตนี้ไม่เคยโกงใคร ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนฉลาด ไม่ว่าใครจะมองว่าผมโง่ ผมก็ยอมรับ
ผม เลยทำการไปแจ้ง คปภ. หลังจากแจ้ง คปภ. ไปประมาณ อาทิตย์กว่า ทาง บริษัทT โทรเข้ามาสอบถามเรื่องราว เช้าอีกวัน ตัวแทนประกันโทรมาตำหนิ
ว่าผมไปแจ้งคปภ ทำไหม จะทำให้เขาหมดอนาคตหรอ เขาต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ (ผมไม่มีพ่อแม่มั้ง) ผมก็พูดไปว่า เขาทำให้ผมเสียหาย แต่เขาก็ยังบอกว่ามีอะไรทำไหมไม่บอกเขาไม่ใช่ไปแจ้ง เขาลืมไปแล้วหรอครับ ว่า เขาหลอกผม ลืมไปแล้วหรอครับ ผมเป็นผู้เสียหาย ลืมไปแล้วหรอครับว่าเคยสอบถามให้ตามเงินไป แล้วผลที่ได้รับหละครับ ผมยังเชื่อนะครับ ว่า กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา และผลของกรรมเกิดจากการกระทำของคน ระยะ 1 ปี 6 เดือน ผมโดนเปิดกรมธรรม์ทั้งหมด 3 ฉบับ โดยตัวแทนประกันคนเดียว แถมช่วงที่ก่อนตัวแทนจะรู้ ผมยังถามไปว่า ตกลงพี่เริมสงสัยพี่มีกี่กรมธรรม์ ตัวแทนที่แสนดีบอกว่า พี่มี 1 กรมธรรม์ (แล้วอีกสองมันมาจากไหนหว่า แล้วเงินที่คุณได้ไปในแต่ละกรมธรรม์หละ หรือคุณได้แค่ฉบับเดียว) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวแทนประกันพยายาม จะติดต่อมา แต่ผมไม่รับสาย ไม่เข้าใจว่าจะรับทำไหม แล้วก็ส่งข้อความมาทางไลน์ ผมเห็นข้อความที่เด้งแต่ผมไม่ได้เปิดอ่าน พอตอนบ่ายๆๆ ทางตัวแทนบริษัทT ติดต่อมา ตอนนี้เจ้าหน้าที่บอกว่า เป็น หัวหน้า ของตัวแทนขาย พูดจาดีมากครับ และรับฟังเหตุผล และพยายามหาทางออกให้ บอกว่าจะเอาเรื่องไปที่ประชุม จะแจ้งผลให้ผมทราบในวันอังคาร
1.ผมควรทำไงต่อไป หากต้องการเรียกร้องค่าเสียหายคืน และผมจะเจ็บตัวน้อยที่สุด
2.ผมควรแจ้งความดำเนินคดี กับ ตัวแทนประกันรายนี้ไหม หากแจ้งผมควรแจ้งในข้อหาอะไร
เจ็บปวด จากประกันชีวิตออนไลน์
แต่เมื่อ 3 ปีก่อน เดือนสิงหาคม 2563 ได้มีตัวแทนประกันท่านหนึ่ง โทรมาขายประกัน ซึ่งแต่เดิมผมก็มีกรมธรรม์เล็กๆ ส่งทางโตเกียวมารีน ผมก็รู้สึกเรามีแล้ว ตอนแรกก็ไม่สนใจ แต่น้องผู้ขายพูดจาดี ผมกับแฟน เลยรู้สึกว่า ให้โอกาสเชื่อที่จะเปิดกับเขา กับทางบริษัท ประกันชีวิต A โดยน้องให้คำแนะนำว่า จะเปิดเป็นเวลา4-5 ปี แล้ว ถอนออกมาคุ้มกำไร มีรายได้รายปี โดยแนะนำให้เราปิดประกันตัวเดิมกับทางโตเกียวมารีน เราก็สงสัยว่า แล้วเวลาที่เสียไปหละ น้องบอกว่า มาต่ออายุที่ใหม่ (เราเข้าใจว่า คงเหมือนหุ้นที่โอนย้ายโบรคได้ ซึ่งเราโง่เองจริงๆๆตรงนี้) ซึ่งเราก็มองกันว่า เราทำประกันกับ ประกันชีวิตA ไม่ได้ทำแบบให้เงินตัวแทนขาย ผมเชื่อว่า บริษัทประกัน A โอเคไม่น่ามีปัญหาอะไร....เรื่องน่าจะจบเท่านี้... แต่เมื่อ กุมภาพันธ์ 2564 ตัวแทนคนนี้มาดึงให้เราย้ายมาบริษัทประกัน T โดยให้เหตุผลว่า บริษัทประกันเก่ามีปัญหาภายในไม่น่าเชื่อถือ จะล้มละลาย(ทำนองนี้) ทำให้ประกันที่ส่งไปอาจมีปัญหาในอนาคต ตัวเขายังออกมาเลย โน้มน้าวเต็มที่ ผมก็เสียดายประกันกับ บริษัทประกัน A ตัวแทนก็บอกเหมือนกับว่า ผลตอบแทนตรงนี้ดีกว่า มี วอยเชอร์ รายปีด้วย มีอย่างนั้นอย่างนี้ จนผมกับแฟนเปิดกรมธรรม์ฉบับที่ 2 กับทางประกันชีวิต T โดยตัวแทนขายยังพูดเสมอว่าเขายังเป็นตัวแทนประกันเราอยู่ไม่ได้หนีไปไหนมีอะไรบอกได้สบายใจได้ โดยที่เขาก็ยังบอกว่า พี่ 4-5 ปี คุ้มทุนแล้วค่อยถอน เขาก็ทำไว้เหมือนกัน เรื่องน่าจะจบเท่านี้....
แต่ เดือนสิงหาก็มาถึงอีกรอบ เดือนสิงหาคม 2564 มีการตัดเงินทางบัตรเครดิต เรามีการแจ้งไปทางตัวแทนประกันที่ขายให้เราบอกว่า ทำไหมยังมาตัดได้อีก ตัวแทนประกัน บอกว่าน่าจะเป็นความผิดพลาดของระบบ เพราะบริษัทประกัน A มีปัญหาภายใน ตัวแทนประกันก็บอกว่า เดียวจะเข้าไปจัดการทำเรื่องขอเงินคืนจาก ประกันชีวิต A เมื่อเราทำการทวงถาม เขาก็จะบอกว่า พี่ยังไม่ได้อีกหรอ เขาทำเรื่องไปแล้วให้รอรับเงิน เราก็รอ จนกระทั้ง เดือน พฤศจิกายน 2564 ตัวแทนประกันคนนี้ติดต่อมาว่า พี่ปกติ พี่จ่ายเบี้ยประกัน เกือบ 50000 ต่อปี เนี้ยตอนนี้บริษัทประกัน มีโปรโมชั่นช่วงโควิท ประมาณว่า อยากรับเงินล่วงน่า ให้ส่วนลด แต่การทำการโทรเข้ามาเพื่อยืนยัน โดยผมเข้าใจว่า จากเดิมเกือบ 50000 แล้วมาจ่าย 40600 มันก็ลดลงมาเยอะ และตัวแทนยังบอกว่า พี่จัดการตรงนี้ ปีหน้าก็ไม่ต้องจ่าย เพราะมันเป็นการจ่ายปีที่ 2 มันต่อเนื่องกัน เรื่องน่าจะจบเท่านี้...
แต่แล้ว เดือนกุมภาพันธ์ 2565 มาถึงมีการตัดยอดเงินในบัตรไปอีก คราวนี้ ผมจึงติดต่อตัวแทนประกันไปอีกรอบ ว่า มีการตัดเงินมา ตัวแทนประกันก็ทำงง แล้วบอกว่า พี่ช่วยส่งเอกสารยืนยันการตัดให้หน่อย เดียวจะไปทำเรื่องให้คืนเงิน ระบบน่าจะรวน ช่วงเวลาที่ผ่าน มาผมก็พยายามตาม และสอบถาม
เรื่องเงินที่ต้องตาม ทุกครั้งจะมีการบ่ายเบียง ว่า อยู่งานศพญาติเสีย หรือ ทำงานที่บ้านไม่ได้เข้าออฟฟิศ หรือ อยุ่ต่างจังหวั
จนผมลืม สาบานได้เลยว่า ลืม ยอดของบริษัท A ไป ...อนิจจาสุดท้ายผมก็ได้ทราบความจริง เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 เนื่องจากมียอดตัดบันชี มาจากที่ผมไม่คุ้นเคย ผมเลยตกใจไม่รู้เราโดนอะไร ใครแฮคหรือปล่าว ตอนนั้นเราติดต่อธนาคาร ให้เขาทำการระงับและสืบค้น กลายเป็นว่า มาจากบริษัทประกันชีวิต R ซึ่งผมก็ ถามว่า ตัวแทนประกนของผมว่า ใช่บริษัทที่ตัวแทนทำงานหรือปล่าว ตอนนั้นวุ่นๆๆในหัว นึกถึงบริษัท A และยังนึกว่า น้องคนนี้ยังทำงานอยู่ ลืมไปเลยว่า ย้าย มาบริษัท T เพื่อความชัดผมเลยทำการโทรไปบริษัทประกัน R และทำการสอบถามว่า ผมไม่เคยทำประกันกับทางบริษัท ทำไหมมาตัดเงินผม ซึ่งตอนนั้น ผมรู้สึกว่า เป็นตายยังไงต้องรู้ให้ได้ ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตอบคำถามของบริษัทR นะครับ เพราะว่า เจ้าหน้าที่ตอบคำถามได้ชัดเจน และ ทำการตรวจเช็ค ว่า มันเป็นกรมธรรม์ของบริษัทประกัน A เดิม ผมก็บอกว่า ตัวแทนประกันผมปิดไปตั้งแต่2 ปีที่แล้วนิครับ ผมเลยแจ้งให้ช่วงค้นดูรายละเอียดให้ แล้วผมก็ทำการติต่อกลับไปทางผู้ชายประกัน เขายังยืนยันกับผมว่า เขาเป็นคนไปยืนเอกสารเองที่เค้าเตอร์ ผมเลยติดต่อกับไปทางบริษัท R แจ้งให้เขารับทราบว่า ตัวแทนประกันบอกแบบนี้ ทางบริษัทขอเวลา 2 วันทำการตรวจเช็คเอกสารและรายการต่างๆๆ
ผมเกิดความไม่สบาย ผมทำการตรวจ การใช้จ่ายผ่านบัตร ของตัวเองย้อนหลัง และ จากคนในครอบครัวว่า สิงหาคม 2564 มีการตัดเครดิตของประกันบริษัท A ไป แล้วเราทำการให้ ตัวแทนคนนี้ไปทวง แล้วเรื่องก็เงียบ จนผมลืม ตอนนี้ผมบอกตรงๆๆ เครียดมากไม่นึกว่าจะโดนหลอก แต่เรื่องมันยังไม่จบเท่านี้นะสิ
หากทนผมเล่ามาได้ขนาดนี้แล้ว คงนึกถึงประกันของ บริษัทT ผมโทรเข้าไปสอบถามที่บริษัท และสอบถามว่า "ขอโทษนะครับ ผมอยากทราบว่าผม มีประกันกี่กรมธรรม์" เนื่องจากที่ถามเพราะผมสงสัย ในยอดการจ่ายเงินของตัวเอง ทางบริษัทประกัน บอกผม มี 2 มีอะไรบ้าง ผมเลยแย้งว่า เออขอโทษนะครับ ตัวแทนแจ้งให้ผมว่า มันเป็นโปรโมชั่นในช่วงโควิท ทำให้ได้ส่วนลดลงมาเหลือ 40600 มันเป็นฉบับเดียวกันไม่ใช่หรอ ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่ใช่ฉบับเดียวกัน มันเป็นคนละกรมธรรม์กัน เอาแล้วสิแล้วผมจะทำไงดี แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรเพราะเขามองว่าปิดไม่คุ้ม แต่เขาไม่ได้มองนิครับ ว่า คนส่งจะตายหรือไม่ตาย แต่เดิมการทำประกันนี้ ผมเตรียมเงินไว้สำหรับประกันไว้ จาย 4-5 ปี ไม่ได้เตรียมไว้จ่ายระยะ 20ปี
ผมเลยมา ค้นดูและสอบถามว่า ประกันที่เขาทำให้ผมเป็นประกันอะไร ผมต้องการออมเงินระยะสั้น แต่หลอกให้ผมประกันชีวิต มันไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ ตั้งแต่แรกแล้ว ....... ผมนะพูดได้เลยว่า ชีวิตนี้ไม่เคยโกงใคร ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนฉลาด ไม่ว่าใครจะมองว่าผมโง่ ผมก็ยอมรับ
ผม เลยทำการไปแจ้ง คปภ. หลังจากแจ้ง คปภ. ไปประมาณ อาทิตย์กว่า ทาง บริษัทT โทรเข้ามาสอบถามเรื่องราว เช้าอีกวัน ตัวแทนประกันโทรมาตำหนิ
ว่าผมไปแจ้งคปภ ทำไหม จะทำให้เขาหมดอนาคตหรอ เขาต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ (ผมไม่มีพ่อแม่มั้ง) ผมก็พูดไปว่า เขาทำให้ผมเสียหาย แต่เขาก็ยังบอกว่ามีอะไรทำไหมไม่บอกเขาไม่ใช่ไปแจ้ง เขาลืมไปแล้วหรอครับ ว่า เขาหลอกผม ลืมไปแล้วหรอครับ ผมเป็นผู้เสียหาย ลืมไปแล้วหรอครับว่าเคยสอบถามให้ตามเงินไป แล้วผลที่ได้รับหละครับ ผมยังเชื่อนะครับ ว่า กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา และผลของกรรมเกิดจากการกระทำของคน ระยะ 1 ปี 6 เดือน ผมโดนเปิดกรมธรรม์ทั้งหมด 3 ฉบับ โดยตัวแทนประกันคนเดียว แถมช่วงที่ก่อนตัวแทนจะรู้ ผมยังถามไปว่า ตกลงพี่เริมสงสัยพี่มีกี่กรมธรรม์ ตัวแทนที่แสนดีบอกว่า พี่มี 1 กรมธรรม์ (แล้วอีกสองมันมาจากไหนหว่า แล้วเงินที่คุณได้ไปในแต่ละกรมธรรม์หละ หรือคุณได้แค่ฉบับเดียว) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวแทนประกันพยายาม จะติดต่อมา แต่ผมไม่รับสาย ไม่เข้าใจว่าจะรับทำไหม แล้วก็ส่งข้อความมาทางไลน์ ผมเห็นข้อความที่เด้งแต่ผมไม่ได้เปิดอ่าน พอตอนบ่ายๆๆ ทางตัวแทนบริษัทT ติดต่อมา ตอนนี้เจ้าหน้าที่บอกว่า เป็น หัวหน้า ของตัวแทนขาย พูดจาดีมากครับ และรับฟังเหตุผล และพยายามหาทางออกให้ บอกว่าจะเอาเรื่องไปที่ประชุม จะแจ้งผลให้ผมทราบในวันอังคาร
1.ผมควรทำไงต่อไป หากต้องการเรียกร้องค่าเสียหายคืน และผมจะเจ็บตัวน้อยที่สุด
2.ผมควรแจ้งความดำเนินคดี กับ ตัวแทนประกันรายนี้ไหม หากแจ้งผมควรแจ้งในข้อหาอะไร