WHA Industrial Development ในเครือดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป เซ็น MOU ซื้อขายที่ดินครั้งใหญ่กับค่ายรถอีวีชั้นนำ “BYD” จำนวน 600 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมลำดับที่ 11 ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในประเทศไทย นิคมฯ แห่งนี้ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
.
ดีลนี้ถือเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี ของ WHA และเป็นก้าวสำคัญของไทยสู่การเป็น EV Hub ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 2567 เพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในอาเซียนและยุโรป ด้วยกำลังการผลิตรถ EV จำนวน 150,000 คันต่อปี ช่วยเน้นกลยุทธ์สนับสนุนโครงการ EEC และการดึงดูดอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve Industry) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และนี่ยังนับเป็นการตั้งฐานการผลิตที่แรกนอกประเทศจีน และครั้งแรกในอาเซียนของค่ายรถ BYD อีกด้วย
.
สัญญาซื้อขายที่ดินดังกล่าวลงนามโดยคุณจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มร. เดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มร. หลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด และ มร. เค่อ หยู่ปิน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดี (ประเทศไทย) จำกัด โดยงานแถลงข่าวพิธีลงนามจัดขึ้น ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ วันที่ 8 ก.ย. 2565 ท่ามกลางผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองบริษัท
.
ทั้งนี้ประเทศไทยจัดว่าเป็นที่น่าจับตาสำหรับตลาด EV โดยปัจจุบันทาง BOI ได้อนุมัติโครงการยานยนต์ไฟฟ้าไปแล้ว 26 โครงการจาก 17 บริษัท คิดเป็นยอดกำลังการผลิตรถไฟฟ้า 830,000 คัน และคาดการณ์ว่าภายในไตรมาส 1 ปี 2566 ไทยจะบรรลุเป้าหมายการผลิตหนึ่งล้านคัน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
https://techsauce.co/news/wha-byd-deal-on-ev-asean-establishment
#WHA #BYD #EV #นิคมระยอง #EEC
@@@ BYD ปักหมุดรถ EV ใน EEC @@@
.
ดีลนี้ถือเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี ของ WHA และเป็นก้าวสำคัญของไทยสู่การเป็น EV Hub ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 2567 เพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในอาเซียนและยุโรป ด้วยกำลังการผลิตรถ EV จำนวน 150,000 คันต่อปี ช่วยเน้นกลยุทธ์สนับสนุนโครงการ EEC และการดึงดูดอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve Industry) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และนี่ยังนับเป็นการตั้งฐานการผลิตที่แรกนอกประเทศจีน และครั้งแรกในอาเซียนของค่ายรถ BYD อีกด้วย
.
สัญญาซื้อขายที่ดินดังกล่าวลงนามโดยคุณจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มร. เดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มร. หลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด และ มร. เค่อ หยู่ปิน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดี (ประเทศไทย) จำกัด โดยงานแถลงข่าวพิธีลงนามจัดขึ้น ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ วันที่ 8 ก.ย. 2565 ท่ามกลางผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองบริษัท
.
ทั้งนี้ประเทศไทยจัดว่าเป็นที่น่าจับตาสำหรับตลาด EV โดยปัจจุบันทาง BOI ได้อนุมัติโครงการยานยนต์ไฟฟ้าไปแล้ว 26 โครงการจาก 17 บริษัท คิดเป็นยอดกำลังการผลิตรถไฟฟ้า 830,000 คัน และคาดการณ์ว่าภายในไตรมาส 1 ปี 2566 ไทยจะบรรลุเป้าหมายการผลิตหนึ่งล้านคัน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://techsauce.co/news/wha-byd-deal-on-ev-asean-establishment
#WHA #BYD #EV #นิคมระยอง #EEC