สวัสดีคะ แชร์ประสบการณ์การเดินทางไปเที่ยวกาญจนบุรี6วัน 5คืน
1.นอนแพ ที่บริเวณน้ำตกไทรโยคน้อย 1คืน
2.นอนในตัวเมืองกาณจนบุรี 1คืน
3.นอนหมู่บ้านอิต่อง 2คืน
4.นอนสังขละบุรี 1 คืน
(เจ้าของกระทู้เดินทางจากสตูล -หาดใหญ่ด้วยรถตู้ หาดใหญ่ - กรุงเทพ กับเครื่องบิน นอนกรุงเทพก่อน1 คืนก่อนเริ่มทริปเที่ยวกาญจนบุรี )
การเดินทางเริ่มต้น จากวันที่ 21-26/8/2022 การเดินทางครั้งนี้ มีสมาชิกเดินทางด้วยกัน 4 ท่าน
วันที่ 1 21/8/22 เดินทางจากสถานีรถไฟธนบุรี-สถานีน้ำตก รถไฟออกเวลา07.45 ถึงสถานีน้ำตก12.45น.ราคา 38หรือ39 บาท(ไม่แน่นใจลืมไปนิส1)
ทางเราถึงสถานีน้ำตกพร้อมกับสายฝน (จุดประสงค์หลักในการเดินทางกับรถไฟเพราะวิว และได้ผ่านสะพานแควใหญ่ ผ่านทางเส้นทางรถไฟสายมรณะและถ้ำกระแซด้วย)
เราจองที่พักไว้กับทาง เพจแพแหม่ทัวร์ (เราจองไปเป็นห้องพักนอนรวมกัน4ท่านพร้อมรถรับ-ส่ง สถานีรถไฟน้ำตกด้วยในราคา1,800บาท รวมอาหารเช้า อาหารเช้าของเรามีข้าวต้ม ขนมปัง ผลไม้และโอวัลติน หรือกาแฟ ) ราคาขึ้นอยู่กับช่วงที่เดินทางนะ ทางที่พักมีบริการล่องแพเปียกด้วยในราคา 150 บาท ต่อท่าน
วันที่ 2 22/8/22 เดินทางออกจากที่พัก โดยมีรถของทางแพมาส่งที่สถานีรถไฟน้ำตกไปยังสะพานแควใหญ่ เวลา12.55-14.38น.ราคาคนละ16 บาท
เมื่อถึงสะพานแควใหญ่ ทางเราได้เช่ารถมอเตอร์ไซค์เพื่อขับเที่ยวในตัวเมืองกาญจนบุรี ในราคา300บาท ต่อคัน(ราคาการเช่ารถขึ้นอยู่กับรถที่เลือกค่ะ )
สามาารถทักสอบถามเพจนี้ได้เลยนะ มีรถให้เลือกหลายรุ่นมาก(รถมีการมัดจำค่ารถ คันละ1,000 บาทด้วยนะ)
หลักจากได้รถเรียบร้อย เราเดินทางเข้ามาเช็คอินยังที่พัก ที่พักครั้งนี้เป็นห้องนอนรวมกัน4 คน (ในราคา 900 บาท เราใช้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ห้องพักไม่รวมอาหารเช้านะ ) ราคาห้องพักขึ้นอยู่กับประเภทห้องนะ
เก็บของในห้องพักเรียบร้อย ได้เวลาออกไปเที่ยว1.โชคดีมากตอนที่เราไปเที่ยวสกายวอล์คกาญจนบุรีเปิดให้นักท่องเที่ยวลองเข้าชมฟรี เราและเพื่อนได้ลงทะเบียนออนไลน์เพื่อไปเดินชม บรรยากาศด้านบนสวยมากเห็นวิวภูเขา(ต้องไปลองด้วยตัวเองสวย และก้อสูงด้วย)
หลักจากนั้นกลับมาเดินเล่นที่สะพานแควใหญ่ วันที่ไปนักท่องเที่ยวแยะมาก บรรยากาศตอนเย็นดีมาก
หลังจากเดินเที่ยวบริเวณสะพานแควใหญ่เสร็จ ออกไปหาอะไรกินแถวตลาดนัดในตัวเมือง(อาหารสำหรับอิสลามก็มีเยอะนะ)
วันที่ 3 23/8/22 ออกจากที่พักแต่เช้า เพื่อจะเดินทางไปยังหมู่บ้านอิต่อง เราเดินทางกับรถปรับอากาศของบริษัทเอเซียไทรโยคเดินรถ อยู่บริเวณบขส.กาญจนบุรี(เราเดินทางรถออกเวลา 07.30 น.ไปยังท่ารถทองผาภูมิ เพราะกลัวจะไม่ทันรถเข้าไปยังหมู่บ้านอิต่อง ราคารถคนละ 125 บาท)
เดินทางประมาณ 2-3ชม.(ระหว่างเดินทางจะมีจุดตรวจบัตรประชาชนด้วยนะ)
เรามาถึงท่ารถทองผาภูมิประมาณเวลา 09.40น. หลังจากนั้นต้องนั่งรถวินมอเตอร์ไซค์มายังตลาดทองผาภูมิ ในราคา คนละ 20 บาท (เพื่อมารอรถเข้าไปยังหมู่บ้านอิต่อง) รถที่จะเข้าไปยังหมู่บ้านอิต่อง ณ ตอนที่เราไปมีแค่รอบเดียว เวลา 12.30น ราคารถ คนละ100 บาท
เดินทางจากตลาดทองผาภูมิไปยังบ้านอิต่องใช้เวลาประมาณ 3 ชม. (ก่อนถึงหมู่บ้านรถจะเเวะให้บริเวณจุดชมวิวด้วย มีไอติมขายด้วยนะ)
ส่วนเส้นทางไปยังหมู่บ้านโค้งเยอะมาก ส่วนถนนจะแขบๆแต่มีบางจุดที่ถนนยังไม่ดี
ถึงหมู่บ้านอิต่องคืนแรกเราพักกันที่อาร์มโฮมสเตย์ (จอง1ห้องนอนรวมกัน4คน ราคา 1,400 บาท รวมอาหารเช้า ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามวันและเวลาที่เข้าพัก ห้องพักติดบริเวณริมน้ำ บรรยากาศดีมาก)
หลังจากเก็บของเรียบร้อย เราเดินออกไปเที่ยวสำรวจหมู่บ้านอิต่องกัน
จุดบริเวณสะพานป้ายไม้ บ้านอิต่อง
จุดป้ายไม้ทางเข้าหมู่บ้านอิต่อง
จุดป้ายทางเข้าเหมืองปิล็อก
จุดบ่อปลาคาร์ฟ บริเวณเหมืองปิล็อก
จุดป้ายตลาดอิต่อง
จุดป้ายหมู่บ้านอิต่อง
หลังจากเดินเที่ยวได้สักพัก ทางเราได้ไปติดต่อรถ เพื่อจะขึ้นไปดูดวงอาทิตย์ตกบริเวณเนินช้างศึก (ราคาคนละ 50 บาท) ราคา50บาทต้องมีผู้ร่วมเดินทางในรถประมาณ10 คน (หากไม่ครบสามารถเหมาได้ แต่ราคาเหมาไม่แน่นใจนะว่ากี่บาท)
จากหมู่บ้านอิต่องไปยังจุดชมวิวเนินช้างศึกใช้เวลาประมาณ 30นาที แต่ทางอาจจะมีบางจุดที่เป็นหลุม (ไม่ต้องกลัวคนขับชำนาญทาง)
บรรยากาศด้านบน ณ วันที่เราไปมีหมอกดูไม่เห็นวิวด้านล่างเลย ไม่เห็นดวงอาทิตย์ตกเลย เราใช่เวลาในการอยู่บนเนินช้างศึกเพื่อถ่ายรูปและชมบรรยากาศอยู่นานพอสมควร
หลังจากลงจากเนินช้างศึกเราเดินเที่ยวแถวตลาดบ้านอิต่อง เพื่อหาอะไรกิน (ของกินสำหรับอิสลามไม่มีเลย แนะนำให้เตรียมมาเองดีกว่า)
วันที่ 4 24/8/22 เรากับเพื่อนนัดกันเพื่อขึ้นไปดูดวงอาทิตย์ขึ้น ณ จุดชมวิวเนินช้างศึกอีกครั้ง ไปติดต่อรถขึ้นที่เดิมเลย ค่ารถขึ้นคนละ 50 บาทเหมือนเดิม เวลาในการขึ้นดูดวงอาทิตย์ขึ้น เวลา 05.30น เพื่อให้ทันไปดูดวงอาทิตย์ขึ้น วันนี้โชคดีฟ้าเปิดเราได้ดูวิว และมีหมอกจาง
วิวหมอกจาง
วิวอีกฝั่งของจุดที่ไม่มีหมอก สวยมาก ภูเขาสวย
หลักจากลงจากชุดชมวิวเนินช้างศึก เราเดินเล่นรอบๆหมู่บ้านในตอนเช้า อากาศดี คนน้อย แวะถ่ายรูป
จุดสะพานไม้บ้านอิต่อง
จุดสะพานบริเวณบึงริมน้ำ
หลังจากนั้นเข้าที่พักทานอาหารเช้าของที่พัก (อาหารเช้าของเรา มีโจ๊ก โอวัลติน ขนม ไข่ต้ม)
วิวหน้าห้องตอนทานอาหารเช้า
ส่วนคืนนี้เราจะย้ายที่พักไปยังบ้านทานตะวันโฮมสเตย์ (เราจอง 1ห้อง นอนรวมกัน 4 ท่าน ราคา 1,500 บาท รวมอาหารเช้า อยู่บริเวณริมน้ำเหมือนกัน ราคาห้องขึ้นอยู่กับประเภทห้องและวันที่เข้าพักนะ )
เรากับเพื่อนเก็บของเค้าที่พักเรียบร้อบ ได้นัดไกด์ที่จองไว้เพื่อนำเที่ยว (ราคา 900 บาท ราคา 4 ท่าน ในทริปเที่ยวจะพาเราไปยังน้ำตกจ๊อกกระดิ่ง อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ร้านเค้ก เหมืองปิล๊อก ไกด์จะบริการถ่ายรูปให้ด้วย ไกด์ถ่ายรูปสวยมาก) เพจไกด์พาเที่ยวด้านล่าง ทักสอบถามกันได้เลยนะ
รถที่ไกด์พาเราไปเที่ยวในทริปที่จอง
ไกด์จะค่อยจัดท่าให้ถ่าย
หลังจากหลบมาจากทริปเที่ยว ฟนก็ตกหนักมาก ทำให้หมู่บ้านอิต่องมีหมอกลงมาปกคลุม (ได้บรรยากาศที่แตกต่างจากวันแรกที่มา)
วันที่ 5 25/8/22 เดินทางกลับจากหมู่บ้านอิต่อง(เราได้จองรถลงจากหมู่บ้านอิต่องมายังท่ารถทองผาภูมิกับไกด์ที่พาเที่ยวเมื่อวาน ราคา คนละ 200 บาท ราคาขึ้นอยู่กับการตกลงของไกด์กับลูกค้าแต่ละเคสนะ แต่ไกด์จะพาเราแวะคาเฟ่ และพาไปเที่ยวเขื่อนวชิราลงกรณด้วย )
รถจะมาส่งที่ท่ารถทองผาภูมิ-สังขละบุรี เราเดินทางกับรถตู้ ราคา คนละ 90 บาท ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ทางไปสังขละเป็นโค้งเยอะมากและมีขึ้นเขาบ้างเป็นบางช่วง
ถึงท่ารถสังขละ ทางเราได้โทรให้ที่พักมารับ (ที่พักมีบริการมารับ-ส่ง ที่ท่ารถสังขละบุรี) เราจองที่พัก 1 คืน 2 ห้อง ในราคาห้องละ 600 บาท 1 ห้องนอน 2 ท่าน ไม่รวมอาหารเช้านะ (ราคาห้องพักขึ้นอยู่กับประเภทห้องและเวลาที่เข้าพักนะ )ที่พักห่างจากสะพานมอญประมาณ 500 เมตร
เช็คอินเข้าห้องพักเรียบร้อย ทางที่พักจะมีบริการให้เช่าชุดมอญ ในราคาชุดละ 100 บาท (แต่หากลูกค้าซื้อชุดตักบาตรทางที่พักจะแถมชุดมอญให้นะ)
ทางที่พักมีบริการพาลูกค้าไปส่งที่สะพานมอญ ไปถนนคนเดินสังขละ ในราคา คนละ 50 บาท ด้วยนะ
รถพาเที่ยวสังขละของเรา
ตอนเย็นเราไปเดินเล่นที่สะพานมอญหลังจากที่ฝนหยุดตก ช่วงเย็นคนน้อยๆนะ
เดินเล่นแถวสะพานมอญจนค่ำ โทรให้ที่พักมารับไปส่งที่ ถนนคนเดินสังขละ (ของกินสำหรับอิสลามบริเวณถนนคนเดินมีอยู่พอสมควรนะ)
วันที่ 6 26/8/22 เราตื่นกันแต่เช้าเพื่อใส่ชุดมอญ ไปเดินสะพานมอญในตอนเช้าอีกรอบ บรรยากาศตอนเช้าคนเยอะมาก (ส่วนมากคนจะมาตักบาตรกัน)
ขอถ่ายกับน้อง น้องน่ารักมาก แต่น้องเขิลเราไปนิส
เราเดินข้ามสะพานมายังฝั่งมอญเพื่อมาเดินหาของฝากและของกิน (ของกินอิสลามแถบจะไม่มีเลยนะ เรากินแค่น้ำชงอย่างเดียว)
เรากลับมายังที่พักเก็บของแล้วให้ที่พักมาส่งยังท่ารถสังขละ มายังบขส.กาญจนบุรี รถตู้ราคา คนละ 190 บาท ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.
พอมาถึงบขส.กาญจนบุรี จะมีรถเข้ากรุงเทพเยอะมากแล้วแต่เราจะเลือกกันเลยนะ แต่เรากับเพื่อนเลือกกลับกับรถมินิบัส ของ แฮปปี้ จำกัด ราคา คนละ 130 บาท เรากับเพือนมาลงสถานีหมอชิตกันนะ
ทริปนี้ใครสงสัยอะไรเม้นมาสอบถามได้นะ เรายินดีตอบกลับนะ
[SR] รีวิวการเดินทางไปเที่ยวกาญจนบุรี6วัน5คืนแบบไม่มีรถส่วนตัว
1.นอนแพ ที่บริเวณน้ำตกไทรโยคน้อย 1คืน
2.นอนในตัวเมืองกาณจนบุรี 1คืน
3.นอนหมู่บ้านอิต่อง 2คืน
4.นอนสังขละบุรี 1 คืน
(เจ้าของกระทู้เดินทางจากสตูล -หาดใหญ่ด้วยรถตู้ หาดใหญ่ - กรุงเทพ กับเครื่องบิน นอนกรุงเทพก่อน1 คืนก่อนเริ่มทริปเที่ยวกาญจนบุรี )
การเดินทางเริ่มต้น จากวันที่ 21-26/8/2022 การเดินทางครั้งนี้ มีสมาชิกเดินทางด้วยกัน 4 ท่าน
วันที่ 1 21/8/22 เดินทางจากสถานีรถไฟธนบุรี-สถานีน้ำตก รถไฟออกเวลา07.45 ถึงสถานีน้ำตก12.45น.ราคา 38หรือ39 บาท(ไม่แน่นใจลืมไปนิส1)
ทางเราถึงสถานีน้ำตกพร้อมกับสายฝน (จุดประสงค์หลักในการเดินทางกับรถไฟเพราะวิว และได้ผ่านสะพานแควใหญ่ ผ่านทางเส้นทางรถไฟสายมรณะและถ้ำกระแซด้วย)
เราจองที่พักไว้กับทาง เพจแพแหม่ทัวร์ (เราจองไปเป็นห้องพักนอนรวมกัน4ท่านพร้อมรถรับ-ส่ง สถานีรถไฟน้ำตกด้วยในราคา1,800บาท รวมอาหารเช้า อาหารเช้าของเรามีข้าวต้ม ขนมปัง ผลไม้และโอวัลติน หรือกาแฟ ) ราคาขึ้นอยู่กับช่วงที่เดินทางนะ ทางที่พักมีบริการล่องแพเปียกด้วยในราคา 150 บาท ต่อท่าน
วันที่ 2 22/8/22 เดินทางออกจากที่พัก โดยมีรถของทางแพมาส่งที่สถานีรถไฟน้ำตกไปยังสะพานแควใหญ่ เวลา12.55-14.38น.ราคาคนละ16 บาท
เมื่อถึงสะพานแควใหญ่ ทางเราได้เช่ารถมอเตอร์ไซค์เพื่อขับเที่ยวในตัวเมืองกาญจนบุรี ในราคา300บาท ต่อคัน(ราคาการเช่ารถขึ้นอยู่กับรถที่เลือกค่ะ )
สามาารถทักสอบถามเพจนี้ได้เลยนะ มีรถให้เลือกหลายรุ่นมาก(รถมีการมัดจำค่ารถ คันละ1,000 บาทด้วยนะ)
หลักจากได้รถเรียบร้อย เราเดินทางเข้ามาเช็คอินยังที่พัก ที่พักครั้งนี้เป็นห้องนอนรวมกัน4 คน (ในราคา 900 บาท เราใช้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ห้องพักไม่รวมอาหารเช้านะ ) ราคาห้องพักขึ้นอยู่กับประเภทห้องนะ
เก็บของในห้องพักเรียบร้อย ได้เวลาออกไปเที่ยว1.โชคดีมากตอนที่เราไปเที่ยวสกายวอล์คกาญจนบุรีเปิดให้นักท่องเที่ยวลองเข้าชมฟรี เราและเพื่อนได้ลงทะเบียนออนไลน์เพื่อไปเดินชม บรรยากาศด้านบนสวยมากเห็นวิวภูเขา(ต้องไปลองด้วยตัวเองสวย และก้อสูงด้วย)
หลักจากนั้นกลับมาเดินเล่นที่สะพานแควใหญ่ วันที่ไปนักท่องเที่ยวแยะมาก บรรยากาศตอนเย็นดีมาก
หลังจากเดินเที่ยวบริเวณสะพานแควใหญ่เสร็จ ออกไปหาอะไรกินแถวตลาดนัดในตัวเมือง(อาหารสำหรับอิสลามก็มีเยอะนะ)
วันที่ 3 23/8/22 ออกจากที่พักแต่เช้า เพื่อจะเดินทางไปยังหมู่บ้านอิต่อง เราเดินทางกับรถปรับอากาศของบริษัทเอเซียไทรโยคเดินรถ อยู่บริเวณบขส.กาญจนบุรี(เราเดินทางรถออกเวลา 07.30 น.ไปยังท่ารถทองผาภูมิ เพราะกลัวจะไม่ทันรถเข้าไปยังหมู่บ้านอิต่อง ราคารถคนละ 125 บาท)
เดินทางประมาณ 2-3ชม.(ระหว่างเดินทางจะมีจุดตรวจบัตรประชาชนด้วยนะ)
เรามาถึงท่ารถทองผาภูมิประมาณเวลา 09.40น. หลังจากนั้นต้องนั่งรถวินมอเตอร์ไซค์มายังตลาดทองผาภูมิ ในราคา คนละ 20 บาท (เพื่อมารอรถเข้าไปยังหมู่บ้านอิต่อง) รถที่จะเข้าไปยังหมู่บ้านอิต่อง ณ ตอนที่เราไปมีแค่รอบเดียว เวลา 12.30น ราคารถ คนละ100 บาท
เดินทางจากตลาดทองผาภูมิไปยังบ้านอิต่องใช้เวลาประมาณ 3 ชม. (ก่อนถึงหมู่บ้านรถจะเเวะให้บริเวณจุดชมวิวด้วย มีไอติมขายด้วยนะ)
ส่วนเส้นทางไปยังหมู่บ้านโค้งเยอะมาก ส่วนถนนจะแขบๆแต่มีบางจุดที่ถนนยังไม่ดี
ถึงหมู่บ้านอิต่องคืนแรกเราพักกันที่อาร์มโฮมสเตย์ (จอง1ห้องนอนรวมกัน4คน ราคา 1,400 บาท รวมอาหารเช้า ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามวันและเวลาที่เข้าพัก ห้องพักติดบริเวณริมน้ำ บรรยากาศดีมาก)
หลังจากเก็บของเรียบร้อย เราเดินออกไปเที่ยวสำรวจหมู่บ้านอิต่องกัน
จุดบริเวณสะพานป้ายไม้ บ้านอิต่อง
จุดป้ายไม้ทางเข้าหมู่บ้านอิต่อง
จุดป้ายทางเข้าเหมืองปิล็อก
จุดบ่อปลาคาร์ฟ บริเวณเหมืองปิล็อก
จุดป้ายตลาดอิต่อง
จุดป้ายหมู่บ้านอิต่อง
หลังจากเดินเที่ยวได้สักพัก ทางเราได้ไปติดต่อรถ เพื่อจะขึ้นไปดูดวงอาทิตย์ตกบริเวณเนินช้างศึก (ราคาคนละ 50 บาท) ราคา50บาทต้องมีผู้ร่วมเดินทางในรถประมาณ10 คน (หากไม่ครบสามารถเหมาได้ แต่ราคาเหมาไม่แน่นใจนะว่ากี่บาท)
จากหมู่บ้านอิต่องไปยังจุดชมวิวเนินช้างศึกใช้เวลาประมาณ 30นาที แต่ทางอาจจะมีบางจุดที่เป็นหลุม (ไม่ต้องกลัวคนขับชำนาญทาง)
บรรยากาศด้านบน ณ วันที่เราไปมีหมอกดูไม่เห็นวิวด้านล่างเลย ไม่เห็นดวงอาทิตย์ตกเลย เราใช่เวลาในการอยู่บนเนินช้างศึกเพื่อถ่ายรูปและชมบรรยากาศอยู่นานพอสมควร
หลังจากลงจากเนินช้างศึกเราเดินเที่ยวแถวตลาดบ้านอิต่อง เพื่อหาอะไรกิน (ของกินสำหรับอิสลามไม่มีเลย แนะนำให้เตรียมมาเองดีกว่า)
วันที่ 4 24/8/22 เรากับเพื่อนนัดกันเพื่อขึ้นไปดูดวงอาทิตย์ขึ้น ณ จุดชมวิวเนินช้างศึกอีกครั้ง ไปติดต่อรถขึ้นที่เดิมเลย ค่ารถขึ้นคนละ 50 บาทเหมือนเดิม เวลาในการขึ้นดูดวงอาทิตย์ขึ้น เวลา 05.30น เพื่อให้ทันไปดูดวงอาทิตย์ขึ้น วันนี้โชคดีฟ้าเปิดเราได้ดูวิว และมีหมอกจาง
วิวหมอกจาง
วิวอีกฝั่งของจุดที่ไม่มีหมอก สวยมาก ภูเขาสวย
หลักจากลงจากชุดชมวิวเนินช้างศึก เราเดินเล่นรอบๆหมู่บ้านในตอนเช้า อากาศดี คนน้อย แวะถ่ายรูป
จุดสะพานไม้บ้านอิต่อง
จุดสะพานบริเวณบึงริมน้ำ
หลังจากนั้นเข้าที่พักทานอาหารเช้าของที่พัก (อาหารเช้าของเรา มีโจ๊ก โอวัลติน ขนม ไข่ต้ม)
วิวหน้าห้องตอนทานอาหารเช้า
ส่วนคืนนี้เราจะย้ายที่พักไปยังบ้านทานตะวันโฮมสเตย์ (เราจอง 1ห้อง นอนรวมกัน 4 ท่าน ราคา 1,500 บาท รวมอาหารเช้า อยู่บริเวณริมน้ำเหมือนกัน ราคาห้องขึ้นอยู่กับประเภทห้องและวันที่เข้าพักนะ )
เรากับเพื่อนเก็บของเค้าที่พักเรียบร้อบ ได้นัดไกด์ที่จองไว้เพื่อนำเที่ยว (ราคา 900 บาท ราคา 4 ท่าน ในทริปเที่ยวจะพาเราไปยังน้ำตกจ๊อกกระดิ่ง อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ร้านเค้ก เหมืองปิล๊อก ไกด์จะบริการถ่ายรูปให้ด้วย ไกด์ถ่ายรูปสวยมาก) เพจไกด์พาเที่ยวด้านล่าง ทักสอบถามกันได้เลยนะ
รถที่ไกด์พาเราไปเที่ยวในทริปที่จอง
ไกด์จะค่อยจัดท่าให้ถ่าย
หลังจากหลบมาจากทริปเที่ยว ฟนก็ตกหนักมาก ทำให้หมู่บ้านอิต่องมีหมอกลงมาปกคลุม (ได้บรรยากาศที่แตกต่างจากวันแรกที่มา)
วันที่ 5 25/8/22 เดินทางกลับจากหมู่บ้านอิต่อง(เราได้จองรถลงจากหมู่บ้านอิต่องมายังท่ารถทองผาภูมิกับไกด์ที่พาเที่ยวเมื่อวาน ราคา คนละ 200 บาท ราคาขึ้นอยู่กับการตกลงของไกด์กับลูกค้าแต่ละเคสนะ แต่ไกด์จะพาเราแวะคาเฟ่ และพาไปเที่ยวเขื่อนวชิราลงกรณด้วย )
รถจะมาส่งที่ท่ารถทองผาภูมิ-สังขละบุรี เราเดินทางกับรถตู้ ราคา คนละ 90 บาท ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ทางไปสังขละเป็นโค้งเยอะมากและมีขึ้นเขาบ้างเป็นบางช่วง
ถึงท่ารถสังขละ ทางเราได้โทรให้ที่พักมารับ (ที่พักมีบริการมารับ-ส่ง ที่ท่ารถสังขละบุรี) เราจองที่พัก 1 คืน 2 ห้อง ในราคาห้องละ 600 บาท 1 ห้องนอน 2 ท่าน ไม่รวมอาหารเช้านะ (ราคาห้องพักขึ้นอยู่กับประเภทห้องและเวลาที่เข้าพักนะ )ที่พักห่างจากสะพานมอญประมาณ 500 เมตร
เช็คอินเข้าห้องพักเรียบร้อย ทางที่พักจะมีบริการให้เช่าชุดมอญ ในราคาชุดละ 100 บาท (แต่หากลูกค้าซื้อชุดตักบาตรทางที่พักจะแถมชุดมอญให้นะ)
ทางที่พักมีบริการพาลูกค้าไปส่งที่สะพานมอญ ไปถนนคนเดินสังขละ ในราคา คนละ 50 บาท ด้วยนะ
รถพาเที่ยวสังขละของเรา
ตอนเย็นเราไปเดินเล่นที่สะพานมอญหลังจากที่ฝนหยุดตก ช่วงเย็นคนน้อยๆนะ
เดินเล่นแถวสะพานมอญจนค่ำ โทรให้ที่พักมารับไปส่งที่ ถนนคนเดินสังขละ (ของกินสำหรับอิสลามบริเวณถนนคนเดินมีอยู่พอสมควรนะ)
วันที่ 6 26/8/22 เราตื่นกันแต่เช้าเพื่อใส่ชุดมอญ ไปเดินสะพานมอญในตอนเช้าอีกรอบ บรรยากาศตอนเช้าคนเยอะมาก (ส่วนมากคนจะมาตักบาตรกัน)
ขอถ่ายกับน้อง น้องน่ารักมาก แต่น้องเขิลเราไปนิส
เราเดินข้ามสะพานมายังฝั่งมอญเพื่อมาเดินหาของฝากและของกิน (ของกินอิสลามแถบจะไม่มีเลยนะ เรากินแค่น้ำชงอย่างเดียว)
เรากลับมายังที่พักเก็บของแล้วให้ที่พักมาส่งยังท่ารถสังขละ มายังบขส.กาญจนบุรี รถตู้ราคา คนละ 190 บาท ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.
พอมาถึงบขส.กาญจนบุรี จะมีรถเข้ากรุงเทพเยอะมากแล้วแต่เราจะเลือกกันเลยนะ แต่เรากับเพื่อนเลือกกลับกับรถมินิบัส ของ แฮปปี้ จำกัด ราคา คนละ 130 บาท เรากับเพือนมาลงสถานีหมอชิตกันนะ
ทริปนี้ใครสงสัยอะไรเม้นมาสอบถามได้นะ เรายินดีตอบกลับนะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้