การเดินทางท่องเที่ยวโดยใช้รถสาธารณะแม้ไม่ได้รับความสะดวกสบายเหมือนการเดินทางด้วยรถส่วนตัว ไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนได้ แต่ก็ใช่ว่าจะแย่เสมอไป หากมองอีกในมุมนึงการเดินทางแบบฉบับไม่มีรถส่วนตัวคือความตื่นเต้น คุณจะได้รู้จักการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าถ้าหากรถที่ใช้เดินทางออกไม่ตรงเวลากับที่คุณคิด มันคือความสนุกและตื่นเต้นสำหรับเรา... 

 
เช้าวันที่ 16 พ.ย. 65
       เราเดินทางไปที่ขนส่งหมอชิต ซื้อตั๋วรถทัวร์เพื่อเดินทางไปทองผาภูมิ ราคา 263 บาท/คน เหตุผลที่เราเลือกนั่งรถทัวร์เพราะเราขี้เกียจนั่งรถหลายต่อ 
รถทัวร์ออกจากหมอชิตเวลา 7.00 น. การเดินทางด้วยรถทัวร์ค่อนข้างสะดวกสำหรับเรา มีน้ำมีขนมให้กิน รวมถึงมีข้าวบริการด้วย เราสามารถเลือกได้ว่าจะกินข้าวผัดหรือข้าวผัดกะเพรา โดยรถทัวร์จะแวะจอดให้เราทานข้าวที่ร้านอาหารข้างทาง

          รถทัวร์มาถึงทองผาภูมิประมาณเที่ยงครึ่ง แต่โชคไม่ดีรถสองแถวที่จะเดินทางไปอีต่องหมด ปกติรถสองแถวจากทางผาภูมิไปอีต่องจะมี 3 เที่ยว เที่ยวสุดท้ายที่ออกจากทองผาภูมิจะมีรอบบ่ายโมง แต่..วันนี้นักท่องเที่ยวเยอะ รถสองแถวเลยออกก่อนเวลา (เต็มออกๆ) ฉะนั้นใครจะไปเที่ยวอีต่องวางแผนให้ดีๆ นะคะ แม้รถสองแถวจะหมดแล้ว แต่ก็อย่าเพิ่งสิ้นหวังไป เพราะก่อนหน้า เจ้าหน้าที่รถทัวร์ได้ประสานหารถสองแถวที่จะไปอีต่องให้ จึงได้รอบพิเศษ คิดราคา 150 บาท/คน จากปกติ 100 บาท/คน เรานั่งรอรถสองแถวที่ร้านอาหารครัวป่า (ถ้าจำชื่อไม่ผิดนะคะ) … 

รถสองแถวมาถึงประมาณบ่ายสอง เย้!! ในที่สุดก็ถึงเวลาออกเดินทางแล้ว…รถสองแถววิ่งเร็วมาก กับทางที่คดเคี้ยว แต่ละคนที่นั่งมาท้ายรถหัวกระเซิงกันทีเดียว ระหว่างทางคนขับรถสองแถวได้แวะให้ที่จุดชมวิว ถ่ายรูปเป็นน้ำจิ้มก่อนขึ้นไปอีต่อง ซึ่งดีทีเดียวสำหรับคนที่เมารถ จะได้พักก่อน

    รู้สึกดีมากทุกคน^^

ใช้เวลาที่จุดชมวิวไม่นานก็เดินทางต่อ รถสองแถวไปสิ้นสุดที่บ้านอีต่อง แต่เราเลือกที่จะลง อช.ทองผาภูมิ ซึ่งถึงก่อนบ้านอีต่อง ระยะทางระหว่าง อช.ทองผาภูมิ-บ้านอีต่องประมาณ 8 กม. 

อช.ทองผาภูมิ มีจุดบริการนักท่องเที่ยวอยู่บริเวณโซนหน้าของอุทยาน สามารถเช่าเบาะรองนอน ผ้าห่ม เต็นท์ ได้ที่นี่สำหรับคนที่ไม่ได้นำมา จากจุดบริการนักท่องเที่ยวไปยังจุดกางเต็นท์ทางค่อนข้างเป็นเนินขึ้นลงซึ่งไกลกันพอสมควร ค่อนข้างเหนื่อยสำหรับคนที่ไม่มีรถที่ต้องแบกสัมภาระเอง บอกเลยว่าเดินหอบกันทีเดียว ระหว่างทางก่อนถึงจุดกางเต็นท์จะมีร้านสวัสดิการของอุทยาน แนะนำให้แวะซื้อของ ซื้ออาหาร สำหรับคนที่ขี้เกียจเดิน เพราะจุดกางเต็นท์และร้านสวัสดิการห่างกันพอสมควร ต้องเดินลงเขาจากจุดกางเต็นท์มา 

อากาศที่จุดกางเต็นท์เย็นสบาย ได้ยินเสียงลมพัดนึกว่าฝนตก 5555 ต้นไม้เยอะดี ลานกางเต็นท์กว้างมาก ตอนเช้าเราตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็อย่างที่เห็นตามภาพ ดวงอาทิตย์ถูกบดบังด้วยหมู่เมฆ 5555 ถ้าใครอยากดูทะเลหมอกก็ตื่นเช้าๆ หน่อยนะคะ ถ้าโชคดีก็จะเจอ เพราะประมาณ 6 โมงเช้า หมอกก็เริ่มฟุ้งหมดแล้ว


17 พ.ย. 65
             เราออกจากอุทยานประมาณ 9.30 น. หอบหิ้วสัมภาระไปหน้าอุทยาน โชคดีที่มีนักท่องเที่ยวใจดีให้ติดรถไปลงหน้าอุทยาน ที่หน้าอุทยานเราสามารถต่อรถไปอีต่องได้ด้วยรถสองแถวที่วิ่งมาจากทองผาภูมิ หรือโบกรถนักท่องเที่ยว หรือโบกรถนำเที่ยวของหมู่บ้านอีต่องที่พานักท่องเที่ยวมาชมวิวที่จุดชมวิวของอุทยาน เรานั่งรอรถหน้าอุทยานประมาณเวลา 11 โมง เราก็ได้รถนำเที่ยวของหมู่บ้านอีต่องในการเดินทางซึ่งเจ้าหน้าที่ของอุทยานติดต่อให้

   นั่งรอรถหน้าอุทยาน เพื่อเดินทางไปหมู้บ้านอีต่อง

 รถนำเที่ยวใจดีพามาส่งที่หมู่บ้านอีต่อง ฟรี !!ไม่มีค่าใช้จ่าย เราจัดการแบกสำภาระไปเก็บที่พัก แล้วเดินตัวเปล่า ไปหาข้าวกิน ถ่ายรูปเล่น ประมาณห้าโมงเย็นไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่เนินช้างศึก โดยสามารถไปรอรถที่จุดรอรถ ค่าเดินทาง ไป-กลับ คนละ 50 บาท 


บรรยากาศบนเนินช้างศึก…สามารถจับจองที่ถ่ายรูป ดูพระอาทิตย์ได้ตามใจ 


นี่คือรูปพระอาทิตย์ตกที่ถูกบดบังไปด้วยก้อนเมฆอีกแล้ว 5555 มีอุปสรรคตลอด 


ขากลับจากดูพระอาทิตย์ตกแวะถ่ายรูปที่สะพานป้ายไม้


หมูกระทะกับอากาศเย็นๆ ในช่วงค่ำคืนเป็นอะไรที่เข้ากันมาก (นั่งกินหน้าห้องพัก)


ระหว่างกินหมูกระทะมีเจ้าจักจั่นมาทักทายด้วยค่ะ 

18 พ.ย. 65 
           เราเดินทางขึ้นจุดชมวิวเนินช้างศึกอีกครั้งเพื่อแก้ตัว เผื่อจะได้เจอดวงอาทิตย์ขึ้นสวยๆ หมอกหนาๆ ตีห้าครึ่งเป็นเวลารถเริ่มขึ้นเขา เราตื่นมารอ    รถด้วยความหวังที่จะได้เจอดวงอาทิตย์สวยๆ สักครั้ง ตอนเช้าอากาศค่อนข้างเย็น เมื่อรถมาถึงเนินช้างศึก เรารู้สึกใจฟู เห็นแสงสีทองลิบๆ ใจก็คิดว่าเราได้เห็นดวงอาทิตย์สวยๆ เป็นแน่ จนกระทั่ง…ฟืบบบบ.... เพียงชั่วพริบตาลมได้พัดพาหมอกลอยฟุ้งไปในอากาศ บดบังแสงอาทิตย์ 5555 อดอีกแล้วสินะ เราก็รอว่าเมื่อไหร่หมอกพวกนี้จะหายไป แต่…เวลาก็ล่วงเลยจนหมดเวลาที่จะเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว เพราะดวงอาทิตย์ได้ขึ้นนานแล้วแต่ถูกหมอกบดบัง


ดูวิวตอนเช้าแทนนะทุกคน ตอนทะเลหมอกหนาๆ ไม่ถ่าย มาถ่ายตอนสาย ซึ่งทะเลหมอกได้ฟุ้งหายไปเกือบหมดแล้ว 5555

ระหว่างทางขากลับจากเนินช้างศึก ลุงคนขับรถได้พาแวะอุโมงค์ขุดแร่เก่า ขอบอกว่าบรรยากาศรอบๆ ตรงนั้นสวยมาก แต่เราไม่ได้ถ่ายรูป ส่วนใหญ่บันทึกเป็นวีดีโอ ตรงนั้นรายล้อมไปด้วยภูเขาหิน ตรงกลางเป็นลานโล่งๆ บรรยากาศเหมือนหนังบู้อะไรซักเรื่อง เราได้มีโอกาสเข้าไปในอุโมงค์ขุดแร่ บรรยากาศก็เป็นแบบที่เห็น ได้รูปสวยๆ เยอะเลย


วันนี้เป็นวันที่เราต้องเดินทางกลับกรุงเทพ ปกติรถสองแถวรอบสุดท้ายมี 8.30 น. แต่วันนี้รถคันสุดท้ายโดนเหมาไปตั้งแต่ 8 โมง เราตกรถอีกแล้ววว เพราะเรากลับมาถึงบ้านอีต่องก็แปดโมงกว่าแล้ว แต่โชคดีที่พี่ที่จุดขึ้นรถหารถให้  (มีคนตกรถเหมือนเรารวมทั้งสิ้น 4 คน) เราออกจากบ้านอีต่องประมาณ 9.15 น. ในใจคิดไม่ทันรถทัวร์แน่ๆ (ปกติรถทัวร์ออก 10.30 น.) แต่… ทุกคนโชคดีมากพี่คนขับเจ้าถิ่นพามาส่งได้ทัน 10.30 พอดี ต้องขอบคุณมากๆ ถ้าไม่ได้พี่ช่วยขับมาส่งคงตกรถเป็นแน่ ค่าบริการคนละ 100 แล้วเราก็เดินทางกลับอย่างสบายใจ 

สรุปค่าเดินทาง 
รถทัวร์ หมอชิต-ทองผาภูมิ ไป-กลับ 526 บาท/คน
รถสองแถว ทองผาภูมิ-อช.ทองผาภูมิ ขาไป 150 บาท/คน
ค่ารถขึ้นเนินช้างศึก ไป-กลับ 50 บาท/คน (ขึ้นเช้า-เย็น 100 บาท) 
ค่ารถ อีต่อง-ทองผาภูมิ 100 บาท/คน
รวม 926 บาท