ขอบอกก่อนว่า เราเขียนข้อมูลเที่ยวอเมริกาเสร็จตั้งแต่ 3 ปีก่อนแล้วค่ะ เราเดินทางกลับไทยก่อนช่วง Pandemic แค่ 1 เดือนเอง ดูเหมือนเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ แต่คิดว่าบางข้อมูลยังใช้ได้อยู่นะคะ เอาเป็นว่าข้อมูลตรงไหนเปลี่ยน จะอัพเดทให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ
รอบนี้เราเดินทางทั้งหมด 4 เมือง ได้แก่ Los Angeles , San Diego , San Francisco และ Las Vegas ค่ะ
[ข้อมูลสำหรับการเดินทาง]
วีซ่า (Visa) : เราทำ Check list 5 Steps ให้ดูกันง่ายๆ สำคัญที่สุดคือข้อมูลที่กรอกใน Visa Application DS-160 รายละเอียดสามารถหาอ่านได้ในหลายเวป ซึ่งแต่ละเวปอธิบายไว้อย่างละเอียดยิบ
Time Zone : รัฐ California และรัฐ Nevada เวลาช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง
Bangkok to Los Angeles
เราเดินทางกับสายการบิน Xiamen airlines จากไทยไปลงสนามบิน LAX เมือง Los Angeles โดยต้องต่อเครื่องที่เมืองเซียะเหมินและเมืองชิงเต่า ประเทศจีน (อ่านข้อมูลต่อเครื่อง ที่นี่
https://ppantip.com/topic/39559841)
ก่อนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน LAX ต้องลงทะเบียนกับเครื่อง Kiosk ก่อนทุกครั้ง เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ขั้นตอนไม่ยากค่ะ ให้ Scan Passport หน้า Visa USA ลงในช่อง >> กดเลือกประเภทวีซ่า (B2 ท่องเที่ยว) >> เลือกตอบคำถามเกี่ยวกับ Customs Declaration Yes or No >> ระบบจะขึ้นข้อมูลเดินทางของเราบนหน้าจอ >> Scan นิ้วมือและถ่ายรูป >> กดเลือก Confirm ข้อมูลที่กรอกไปทั้งหมด >> เครื่องจะปรินท์กระดาษออกมา เรียกว่าใบ U.S. Customs and Border Protection
ถึงขั้นตอนนี้ เราจะถือใบ U.S. Customs and Border Protection ทั้งสองใบคือ ใบแรกที่กรอกตั้งแต่บนเครื่อง และใบที่ปรินท์ออกจากตู้ Kiosk จากนั้นเข้าแถวสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ แล้วค่อยเดินออกไปรับกระเป๋าเดินทาง ทั้งกระบวนการไม่ได้ใช้เวลามากนัก ถ้าเทียบกับผู้เดินทางที่มีปริมาณมาก
รถบัสสนามบิน LAX เข้าเมือง
จากแผนที่ คือบริเวณลานหน้า Arrival Hall
สีชมพู : Airline Connections City bus , Metro green line
สีม่วง : Rental cars
สีเขียว : LAX-it (Taxi,Lyft,Opoli,Uber)
**สีฟ้า : LAX Flyaway มี 4 จุดปลายทาง คือ Hollywood , Long beach , Union station และ Van nuys
รถวิ่งรับผู้โดยสารตั้งแต่ Terminal 1-7 ให้ยืนรอตรงเสาที่มีป้ายสีฟ้าแผ่นใหญ่เขียนว่า ‘LAX FlyAway’ สำคัญคือดูจุดที่จะลงปลายทางให้ดีๆก่อนขึ้นนะคะ มี Free Wifi บนรถ ขึ้นรถถึงปลายทางแล้วค่อยลงมาต่อแถวชำระเงินช่อง LAX FlyAway Ticketing ค่ะ ไม่รับเงินสดทุกกรณี รับบัตรเครดิต มาสเตอร์การ์ด และบัตรเดบิตเท่านั้น
อย่างของเราขึ้นรถมาลงที่ Union station (Downtown LA) ใช้เวลา 45 นาที ราคาตั๋ว 9.75 USD (ตั๋วใช้ได้ถึง 11.59 PM ของวัดถัดไป)
(Update ตารางรถและราคา ที่นี่ www.flylax.com/flyaway)
วิธีซื้อตั๋ว Metro ใน Los Angeles
จาก Union station (Downtown LA) เราต้องนั่ง Metro ต่อไปที่พักแถว Hollywood ก่อนอื่นต้องซื้อตั๋วกับตู้ขายตั๋ว ตามขั้นตอน ดังนี้นะคะ
1.กดเลือกภาษา มี English กับ Español (สเปน)
2.ถ้ายังไม่มี TAP Card เลือกช่อง A (Buy a TAP Card) ราคาใบละ 2 USD
แต่ถ้ามี TAP Card แล้ว ให้เลือกช่อง F (Reload your TAP Card) เพื่อเติมเงิน หรือเลือกช่อง H (TAP Card Balance) เพื่อตรวจสอบประเภทตั๋วที่ซื้อไป
3.กดเลือกประเภทตั๋ว Metro pass ที่จะซื้อ
Metro 1-way Trip 1.75 USD
Metro 1-day 7 USD
Metro 7-day 25 USD
Metro 30-day 100 USD
4.ชำระเงินสด หรือบัตรเครดิตก็ได้
5.Reload โดยทาบ TAP Card บนเครื่อง ‘TAP HERE’ อีกครั้ง
6.นำ TAP Card ไปใช้ได้เลย 1 ใบ มีอายุบัตร 10 ปี
Santa Monica Beach
การเดินทาง : จากที่พักย่าน Hollywood ไปได้ 2 วิธี วิธีแรก นั่ง Metro Red line จากป้าย Hollywood/Highland ไปลงป้าย 7th St/Metro Ctr ต่อด้วยนั่ง Metro E line (expo) มาลงป้าย Downtown Santa Monica วิธีนี้สะดวกที่สุด
หรือนั่ง Metro Red line ไปลงป้าย Union station แล้วเดินขึ้นมาต่อ Bus Metro Rapid สาย 704 ใช้เวลา 2 ชม. ลงป้ายริมหาด Santa monica เส้นทางนี้ผ่านถนน Sunset ได้ชมวิวย่าน Beverly Hills และ Canon ด้วย
โดยทั้งสองเส้นทางนี้สามารถใช้ TAP card บัตรเดียวได้เลยค่ะ
ลงจาก Metro ให้เดินตาม Colorado ave. ซึ่งสามารถแวะที่ Tongva Park ก่อน แล้วค่อยข้ามถนนไป Santa monica pier ค่ะ ย่านนี้เรียก Downtown เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม และตลาด
ถ้าใครต้องการไป Malibu ให้นั่ง Bus ต่อไปอีก 8.5 km ค่ะ
End of Trail sign ริมหาด Santa Monica
Pacific Park
ผู้คนนิยมมาพักผ่อนที่นี่ ยิ่งเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ยิ่งคึกคักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะบริเวณท่าเรือเก่าอายุ 100 ปี ชายหาดที่ยาวออกไปสุดลูกหูลูกตา ฤดูหนาวแต่แดดแรง คลื่นลมวันนี้ที่พัดไม่แรงมาก การเดินทางสะดวก
ฝั่งด้านหลัง Harbor office มีเก้าอี้ยาวและอัฒจรรย์ไว้ให้นั่งชมพระอาทิตย์ตกด้วย
จากข้อมูล www.santamonica.com/things-to-do/ ที่นี่มีหลายกิจกรรม จะเดินเล่นริมชายหาด เช่าจักรยานปั่น โรลเลอร์เบลด สเกตบอร์ด หรือขับจักรยานไฟฟ้าไปรอบๆ ก็มีให้เช่าตามจุดต่างๆ
Angels Flight Railway
รถรางคันเล็กมินิมอลนี้ เป็นเส้นทางสายสั้นๆ แต่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 100 ปีเลยทีเดียว
เรารู้จักสถานที่นี้จากหนังรักเรื่อง La La Land ในฉากสถานีหลังเล็กสีส้มดูมีเสน่ห์มาก ในสถานที่จริงก็สวยมากเหมือนกันนะคะ
ปกติแล้วค่าเข้าจะอยู่ที่ 1 USD ต่อเที่ยว ถ้ามี TAP card ลดเหลือ 0.5 USD เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.45 น. จนถึง 22.00 น.
ถ้าใครไม่ต้องการขึ้นรถราง แต่อยากชมบรรยากาศด้านบนสถานีฟรี ให้ขึ้นบันไดด้านข้างรถราง เดินข้ามถนนอ้อมไปขึ้นลิฟท์บริเวณตึกด้านหลังได้นะ
เดินทางมาที่นี่โดย Metro Red line หรือ Purple line ลงป้าย Civic Center ทางออกจากสถานีจะเจอสวน Grand Park ที่เป็นจุดชมพลุสุดอลังการในวัน New Year’s Eve
เดินตรงมาที่ Califonia Plaza บริเวณตรงข้ามกับ Grand Central Market
(Grand Park)
Grand Central Market ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Angels Flight Railway แลนด์มาร์คแหล่งของกินที่ใหญ่ของเมือง จุดเด่นคือเป็นแหล่งรวมอาหาร ขนม ของหวาน จากหลากหลายเชื้อชาติ
ชั้นใต้ดินไว้จัดงาน Event ต่างๆ ซึ่งจะขายของ Hand made เป็นส่วนใหญ่
ย่าน The Santee Alley โซน Fashion district ตลาดขายสินค้าแบบ Outdoor ใจกลางเมือง บรรยากาศเหมือนจตุจักรบ้านเราเลย เปิดขายตั้งแต่ 9.30 ถึง 18.00
ชาวเม็กซิโกจะเปิดขาย Food truck เป็นแนวยาวตลอดริมถนนในย่านนี้ รายการอาหารจะเหมือนกัน คือ เมนูขนมปังฮอทดอก มีเครื่องเคียงเป็นผักหลายๆอย่างผัดปนกัน ราดมัสตาร์ด ซอสพริก มักขายเป็นเซตรวมกับขนมอบกรอบอย่าง เลย์ และน้ำอัดลม ราคาถูก โดยส่วนตัวเราว่ารสชาติฮอทดอกมันเค็มเกินไปหน่อย
Holiday Ice Rink ใกล้ช่วงเทศกาลคริสต์มาส ที่ LA แห่งนี้มีการจัดลาน Ice Skate ติดกับทางออกป้าย Pershing Square (Metro Red line)
Wake of the fame
ชื่อของผู้มีชื่อเสียงถูกบันทึกกับแผ่นหินรูปดาวบนพื้นถนนตลอดสองข้างถนน ส่วนตัวเรามีหนังเรื่องนึงที่ชอบมาก เรื่อง Wild ที่แสดงโดย Reese Witherspoon ที่แบกเป้เดินป่า ทั้งเศร้าและเท่ห์มากๆเลย
เดินทางด้วย Metro Red line ขึ้นสถานี Hollywood/Highland หรือสถานี Hollywood/Vine
ตลอดแนวละแวกนี้เป็นที่ตั้งของ Madame Tussauds , TCL Chinese Theatre , Hard Rock Cafe , El Capitan Theatre ยาวไปจนถึง Dolby Theatre
ก่อนกลับที่พักแวะเดิน Hollywood&Highland ห้างใหญ่ติดถนน Walk of Fame จากจุดนี้ยังมองเห็น Hollywood Sign อีกด้วย
ย่าน Thai Town ชุมชนคนไทยใน LA มีร้านนวด ร้านค้า ร้านอาหารไทยหลายร้านตั้งอยู่ที่นี่
เดินทางด้วย Metro Red Line ลงสถานี Hollywood/western
น่าเสียดายที่ครั้งนี้แพลนจะ Hiking ใกล้กับที่พักย่าน Hollywood และแพลนไปดูพลุฉลองปีใหม่ล่มไป เพราะดันมาป่วยซะก่อน ต้องนอนพักอยู่เฉยๆในโฮสเทล เลยขอแชร์ข้อมูลตามเส้น Metro Red line ที่หาได้ให้เพื่อนๆที่สนใจนะคะ
Hiking : Runyon Canyon ออกสถานี Hollywood/Highland จะเดินไป หรือนั่ง Bus 217 ลงป้าย Hollywood/Fuller ก็ได้
Griffith Park หอดูดาวบนเนินเขา จุดชมวิว Downtown LA และ Hollywood sign โดยเดินทางออกสถานี Vermont/Sunset แล้วนั่งรถ LADOT Observatory Shutter หรือนั่ง DASH ไปลง Los Feliz
สนใจซื้อทัวร์เฉพาะย่าน Hollywood ราคา 39 USD (2 ชั่วโมง) แต่ถ้าแบบ City tour ราคา 76-85 USD (7 ชั่วโมง) ซึ่งในย่านท่องเที่ยวบริษัททัวร์มีหลายโปรแกรมให้เลือกเยอะมากค่ะ
Los Angeles USA West Coast On the Budget เที่ยวลอสแอนเจลิส แบบไม่เช่ารถขับ
ขอบอกก่อนว่า เราเขียนข้อมูลเที่ยวอเมริกาเสร็จตั้งแต่ 3 ปีก่อนแล้วค่ะ เราเดินทางกลับไทยก่อนช่วง Pandemic แค่ 1 เดือนเอง ดูเหมือนเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ แต่คิดว่าบางข้อมูลยังใช้ได้อยู่นะคะ เอาเป็นว่าข้อมูลตรงไหนเปลี่ยน จะอัพเดทให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ
รอบนี้เราเดินทางทั้งหมด 4 เมือง ได้แก่ Los Angeles , San Diego , San Francisco และ Las Vegas ค่ะ
[ข้อมูลสำหรับการเดินทาง]
วีซ่า (Visa) : เราทำ Check list 5 Steps ให้ดูกันง่ายๆ สำคัญที่สุดคือข้อมูลที่กรอกใน Visa Application DS-160 รายละเอียดสามารถหาอ่านได้ในหลายเวป ซึ่งแต่ละเวปอธิบายไว้อย่างละเอียดยิบ
Time Zone : รัฐ California และรัฐ Nevada เวลาช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง
Bangkok to Los Angeles
เราเดินทางกับสายการบิน Xiamen airlines จากไทยไปลงสนามบิน LAX เมือง Los Angeles โดยต้องต่อเครื่องที่เมืองเซียะเหมินและเมืองชิงเต่า ประเทศจีน (อ่านข้อมูลต่อเครื่อง ที่นี่ https://ppantip.com/topic/39559841)
ก่อนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน LAX ต้องลงทะเบียนกับเครื่อง Kiosk ก่อนทุกครั้ง เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ขั้นตอนไม่ยากค่ะ ให้ Scan Passport หน้า Visa USA ลงในช่อง >> กดเลือกประเภทวีซ่า (B2 ท่องเที่ยว) >> เลือกตอบคำถามเกี่ยวกับ Customs Declaration Yes or No >> ระบบจะขึ้นข้อมูลเดินทางของเราบนหน้าจอ >> Scan นิ้วมือและถ่ายรูป >> กดเลือก Confirm ข้อมูลที่กรอกไปทั้งหมด >> เครื่องจะปรินท์กระดาษออกมา เรียกว่าใบ U.S. Customs and Border Protection
ถึงขั้นตอนนี้ เราจะถือใบ U.S. Customs and Border Protection ทั้งสองใบคือ ใบแรกที่กรอกตั้งแต่บนเครื่อง และใบที่ปรินท์ออกจากตู้ Kiosk จากนั้นเข้าแถวสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ แล้วค่อยเดินออกไปรับกระเป๋าเดินทาง ทั้งกระบวนการไม่ได้ใช้เวลามากนัก ถ้าเทียบกับผู้เดินทางที่มีปริมาณมาก
รถบัสสนามบิน LAX เข้าเมือง
จากแผนที่ คือบริเวณลานหน้า Arrival Hall
สีชมพู : Airline Connections City bus , Metro green line
สีม่วง : Rental cars
สีเขียว : LAX-it (Taxi,Lyft,Opoli,Uber)
**สีฟ้า : LAX Flyaway มี 4 จุดปลายทาง คือ Hollywood , Long beach , Union station และ Van nuys
รถวิ่งรับผู้โดยสารตั้งแต่ Terminal 1-7 ให้ยืนรอตรงเสาที่มีป้ายสีฟ้าแผ่นใหญ่เขียนว่า ‘LAX FlyAway’ สำคัญคือดูจุดที่จะลงปลายทางให้ดีๆก่อนขึ้นนะคะ มี Free Wifi บนรถ ขึ้นรถถึงปลายทางแล้วค่อยลงมาต่อแถวชำระเงินช่อง LAX FlyAway Ticketing ค่ะ ไม่รับเงินสดทุกกรณี รับบัตรเครดิต มาสเตอร์การ์ด และบัตรเดบิตเท่านั้น
อย่างของเราขึ้นรถมาลงที่ Union station (Downtown LA) ใช้เวลา 45 นาที ราคาตั๋ว 9.75 USD (ตั๋วใช้ได้ถึง 11.59 PM ของวัดถัดไป)
(Update ตารางรถและราคา ที่นี่ www.flylax.com/flyaway)
วิธีซื้อตั๋ว Metro ใน Los Angeles
จาก Union station (Downtown LA) เราต้องนั่ง Metro ต่อไปที่พักแถว Hollywood ก่อนอื่นต้องซื้อตั๋วกับตู้ขายตั๋ว ตามขั้นตอน ดังนี้นะคะ
1.กดเลือกภาษา มี English กับ Español (สเปน)
2.ถ้ายังไม่มี TAP Card เลือกช่อง A (Buy a TAP Card) ราคาใบละ 2 USD
แต่ถ้ามี TAP Card แล้ว ให้เลือกช่อง F (Reload your TAP Card) เพื่อเติมเงิน หรือเลือกช่อง H (TAP Card Balance) เพื่อตรวจสอบประเภทตั๋วที่ซื้อไป
3.กดเลือกประเภทตั๋ว Metro pass ที่จะซื้อ
Metro 1-way Trip 1.75 USD
Metro 1-day 7 USD
Metro 7-day 25 USD
Metro 30-day 100 USD
4.ชำระเงินสด หรือบัตรเครดิตก็ได้
5.Reload โดยทาบ TAP Card บนเครื่อง ‘TAP HERE’ อีกครั้ง
6.นำ TAP Card ไปใช้ได้เลย 1 ใบ มีอายุบัตร 10 ปี
Santa Monica Beach
การเดินทาง : จากที่พักย่าน Hollywood ไปได้ 2 วิธี วิธีแรก นั่ง Metro Red line จากป้าย Hollywood/Highland ไปลงป้าย 7th St/Metro Ctr ต่อด้วยนั่ง Metro E line (expo) มาลงป้าย Downtown Santa Monica วิธีนี้สะดวกที่สุด
หรือนั่ง Metro Red line ไปลงป้าย Union station แล้วเดินขึ้นมาต่อ Bus Metro Rapid สาย 704 ใช้เวลา 2 ชม. ลงป้ายริมหาด Santa monica เส้นทางนี้ผ่านถนน Sunset ได้ชมวิวย่าน Beverly Hills และ Canon ด้วย
โดยทั้งสองเส้นทางนี้สามารถใช้ TAP card บัตรเดียวได้เลยค่ะ
ลงจาก Metro ให้เดินตาม Colorado ave. ซึ่งสามารถแวะที่ Tongva Park ก่อน แล้วค่อยข้ามถนนไป Santa monica pier ค่ะ ย่านนี้เรียก Downtown เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม และตลาด
ถ้าใครต้องการไป Malibu ให้นั่ง Bus ต่อไปอีก 8.5 km ค่ะ
End of Trail sign ริมหาด Santa Monica
Pacific Park
ผู้คนนิยมมาพักผ่อนที่นี่ ยิ่งเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ยิ่งคึกคักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะบริเวณท่าเรือเก่าอายุ 100 ปี ชายหาดที่ยาวออกไปสุดลูกหูลูกตา ฤดูหนาวแต่แดดแรง คลื่นลมวันนี้ที่พัดไม่แรงมาก การเดินทางสะดวก
ฝั่งด้านหลัง Harbor office มีเก้าอี้ยาวและอัฒจรรย์ไว้ให้นั่งชมพระอาทิตย์ตกด้วย
จากข้อมูล www.santamonica.com/things-to-do/ ที่นี่มีหลายกิจกรรม จะเดินเล่นริมชายหาด เช่าจักรยานปั่น โรลเลอร์เบลด สเกตบอร์ด หรือขับจักรยานไฟฟ้าไปรอบๆ ก็มีให้เช่าตามจุดต่างๆ
Angels Flight Railway
รถรางคันเล็กมินิมอลนี้ เป็นเส้นทางสายสั้นๆ แต่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 100 ปีเลยทีเดียว
เรารู้จักสถานที่นี้จากหนังรักเรื่อง La La Land ในฉากสถานีหลังเล็กสีส้มดูมีเสน่ห์มาก ในสถานที่จริงก็สวยมากเหมือนกันนะคะ
ปกติแล้วค่าเข้าจะอยู่ที่ 1 USD ต่อเที่ยว ถ้ามี TAP card ลดเหลือ 0.5 USD เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.45 น. จนถึง 22.00 น.
ถ้าใครไม่ต้องการขึ้นรถราง แต่อยากชมบรรยากาศด้านบนสถานีฟรี ให้ขึ้นบันไดด้านข้างรถราง เดินข้ามถนนอ้อมไปขึ้นลิฟท์บริเวณตึกด้านหลังได้นะ
เดินทางมาที่นี่โดย Metro Red line หรือ Purple line ลงป้าย Civic Center ทางออกจากสถานีจะเจอสวน Grand Park ที่เป็นจุดชมพลุสุดอลังการในวัน New Year’s Eve
เดินตรงมาที่ Califonia Plaza บริเวณตรงข้ามกับ Grand Central Market
(Grand Park)
Grand Central Market ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Angels Flight Railway แลนด์มาร์คแหล่งของกินที่ใหญ่ของเมือง จุดเด่นคือเป็นแหล่งรวมอาหาร ขนม ของหวาน จากหลากหลายเชื้อชาติ
ชั้นใต้ดินไว้จัดงาน Event ต่างๆ ซึ่งจะขายของ Hand made เป็นส่วนใหญ่
ย่าน The Santee Alley โซน Fashion district ตลาดขายสินค้าแบบ Outdoor ใจกลางเมือง บรรยากาศเหมือนจตุจักรบ้านเราเลย เปิดขายตั้งแต่ 9.30 ถึง 18.00
ชาวเม็กซิโกจะเปิดขาย Food truck เป็นแนวยาวตลอดริมถนนในย่านนี้ รายการอาหารจะเหมือนกัน คือ เมนูขนมปังฮอทดอก มีเครื่องเคียงเป็นผักหลายๆอย่างผัดปนกัน ราดมัสตาร์ด ซอสพริก มักขายเป็นเซตรวมกับขนมอบกรอบอย่าง เลย์ และน้ำอัดลม ราคาถูก โดยส่วนตัวเราว่ารสชาติฮอทดอกมันเค็มเกินไปหน่อย
Holiday Ice Rink ใกล้ช่วงเทศกาลคริสต์มาส ที่ LA แห่งนี้มีการจัดลาน Ice Skate ติดกับทางออกป้าย Pershing Square (Metro Red line)
Wake of the fame
ชื่อของผู้มีชื่อเสียงถูกบันทึกกับแผ่นหินรูปดาวบนพื้นถนนตลอดสองข้างถนน ส่วนตัวเรามีหนังเรื่องนึงที่ชอบมาก เรื่อง Wild ที่แสดงโดย Reese Witherspoon ที่แบกเป้เดินป่า ทั้งเศร้าและเท่ห์มากๆเลย
เดินทางด้วย Metro Red line ขึ้นสถานี Hollywood/Highland หรือสถานี Hollywood/Vine
ตลอดแนวละแวกนี้เป็นที่ตั้งของ Madame Tussauds , TCL Chinese Theatre , Hard Rock Cafe , El Capitan Theatre ยาวไปจนถึง Dolby Theatre
ก่อนกลับที่พักแวะเดิน Hollywood&Highland ห้างใหญ่ติดถนน Walk of Fame จากจุดนี้ยังมองเห็น Hollywood Sign อีกด้วย
ย่าน Thai Town ชุมชนคนไทยใน LA มีร้านนวด ร้านค้า ร้านอาหารไทยหลายร้านตั้งอยู่ที่นี่
เดินทางด้วย Metro Red Line ลงสถานี Hollywood/western
น่าเสียดายที่ครั้งนี้แพลนจะ Hiking ใกล้กับที่พักย่าน Hollywood และแพลนไปดูพลุฉลองปีใหม่ล่มไป เพราะดันมาป่วยซะก่อน ต้องนอนพักอยู่เฉยๆในโฮสเทล เลยขอแชร์ข้อมูลตามเส้น Metro Red line ที่หาได้ให้เพื่อนๆที่สนใจนะคะ
Hiking : Runyon Canyon ออกสถานี Hollywood/Highland จะเดินไป หรือนั่ง Bus 217 ลงป้าย Hollywood/Fuller ก็ได้
Griffith Park หอดูดาวบนเนินเขา จุดชมวิว Downtown LA และ Hollywood sign โดยเดินทางออกสถานี Vermont/Sunset แล้วนั่งรถ LADOT Observatory Shutter หรือนั่ง DASH ไปลง Los Feliz
สนใจซื้อทัวร์เฉพาะย่าน Hollywood ราคา 39 USD (2 ชั่วโมง) แต่ถ้าแบบ City tour ราคา 76-85 USD (7 ชั่วโมง) ซึ่งในย่านท่องเที่ยวบริษัททัวร์มีหลายโปรแกรมให้เลือกเยอะมากค่ะ