เรื่ิองจริงของชีวิตคู่ ต้องมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง

เราเงินเดือน 30K+ อยู่ไทย+รายได้อื่นๆ

แฟนเงินเดือน 200K อยู่ต่างประเทศ
ค่าห้องเช่า 65K / เดือน 
ค่าครองชีพอื่นๆ 
เหลือเก็บ 90K+ / เดือน +รายได้อื่นๆ

เที่ยว ตปท ปีล่ะ 3-5 ครั้ง แล้วแต่ช่วง(เค้าจ่ายทั้งหมด)

ประเด็น คือ 
- แฟนอยากให้ลาออกจากงานไปอยู่ ตปท กับเขา 

- เราขอเงินเดือนทุกเดือน 25K ถ้าเราต้องออกจากงาน เพราะเราเคยมีเงินเดือนทุกเดือน หาเอง ใช้เอง แต่มาวันนึง เงินส่วนนี้จะหายไป เพราะเราไม่ชอบให้ใครควบคุมเรื่องการใช้เงิน เราบริหารเอง และหาเงินเองตั้งแต่เด็ก  แต่แฟนไม่ให้ 

เขาบอกว่า วัฒนธรรมเขาไม่แยกกระเป๋า ทั้งบ้านคือใช้ร่วมกัน เห็นมีรายรับรายจ่ายร่วมกัน โดยที่ เขาเป็นคนหา เราเป็นคนถือ และจัดการเงินทั้งหมด ทั้ง คชจ.ในบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ บริหารเรื่องภาษี และเรื่องอื่นๆ

เขาจะเก็บเงินเพื่อซื้อบ้าน แล้วปล่อยเช่าเป็นหลังที่สอง เลยไม่อยากแบ่งเงินไปไหน 

เขามองว่า เขาไม่ชอบจ่ายเงินเดือนให้เรา เพราะเราไม่ใช่พนักงาน เราเป็นภรรยา จะใช้จ่ายอะไรก็เห็นกันทั้งสองฝ่าย เราจะทำงานเป็นทีมเดียวกัน ถ้าต้องจ่ายเป็นก้อนใหญ่ เราก็ปรึกษากัน เขากลัวเราแอบส่งเงินให้พ่อกับแม่ เพราะเขาคิดว่าพ่อกับแม่อายุยังน้อย ควรทำมาหากิน ไม่ใช่รอเงินจากลูกอย่างเดียว (แต่พ่อแม่เราก็มีรายได้อยู่) เค้าไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบส่วนนี้ ยกเว้นเรื่องฉุกเฉิน  หรือ จ่ายประกันสุขภาพทุกปี หรือ ค่าเที่ยวร่วมกัน

เราได้การซื้อที่ดินให้พ่อแม่ทำเกษตร มีรายได้รายซึ่งเราได้เตรียมส่วนในไว้ให้ทำแล้ว

เรามองว่า คนเราตอนรักกันมันก็ดี แต่ธรรมชาติของคนอยู่ร่วมกัน คือ มีการทะเลาะกันบ้าง หนีหน้ากันบ้าง แต่ถ้าเราไม่มีเงินในกระเป๋า หรือไม่มีในบัญชีเลย เราจะไม่สามารถกระดิกตัวทำอะไรได้เลย แล้วพลังความภูมิใจในตนเองจะลดน้อยลง ศักดิ์ศรี ความมีตัวตนจะหายไป เกรงใจ อยากกิน อยากซื้ออะไรก็ต้องกังวล จะต้องอาศัยคนอื่น ซึ่งเค้าจะตัวใหญ่ขึ้น ในขณะที่เราเล็กลง

หรือแม้แต่การเริ่มลงทุนทำธุรกิจ เราก็ต้องมีเงินทุน และธุรกิจมีกำไร ขาดทุน ถ้าเราเอาเงินเค้าบางส่วนไปลงทุน แล้วขาดทุน การทะเลาะกันก็จะเกิดขึ้นทันที เพราะเค้าไม่ใช้เงินตัวเองสนับสนุนการลงทุนใดๆ จนกว่าจะมองเห็นว่า ได้กำไร

หรือถ้าเราอยากซื้อของแบรนด์เนม เราก็สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร  และการส่งเงินให้พ่อแม่นิดหน่อยต่อเดือน คือการแสดงออกว่า เรายังรักและดูแลเค้าอยู่ เราไม่ได้ลืมเค้า 

หรือแม้แต่ถ้าไปกันไม่รอด เราเสียหายหนักสุดคือ ไม่มีงาน ไม่มีเงินเก็บ ไม่มีที่ไป ไม่มีอะไรเหลือเลย เราเลยต้องป้องกันส่วนนี้ไว้ด้วย 

เรานั่งคุยกัน อธิบายรายละเอียดกันแล้ว  เค้าก็ยืนยันคำเดิม และเราก็ยืนยันคำเดิมเช่นกัน คุยกันทุกปี ทะเลาะกันเรื่องทุกปี
จนเรื่องราวยืดเยื้อมาเกือบ 8 ปี ก็ยังตกลงกันไม่ได้ เลยไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันสักที 

ก่อนหน้านี้บอกว่าเราขายของ หรือลงทุนอื่นๆ ได้ กำไรที่ได้มาเค้าก็จะไม่ยุ่ง เราจะมีเงินเก็บจากส่วนนี้  ซึ่งเราจะเอาไปทำอะไรก็ได้ 

แต่ช่วงหลังเห็นเราขายได้บ้าง เค้าบอกว่า คุณก็เอาเงินคุณที่หาได้มาร่วมหุ้นซื้อบ้านบ้างก็ได้ จะได้เป็นสิทธิ์ร่วมกัน แต่ยอดเงินมันไม่ได้เยอะขนาดนั้น ใช้เดือนเดียวก็หมด แถมยังได้แบบนี้ทุกเดือนซะที่ไหน

ตอนนี้ คือ ยื่นคำขาดทั้งคู่ ถ้ายังตกลงกันไม่ได้ เราก็คงต้องแยกย้ายไปหาวิถีของตัวเอง กับคนใหม่ 

**** อยากหาทางออกจากเรื่องนี้ ทุกคนมีวิธีไหน ไอเดียไหนดีๆ ที่จะทำให้เรื่องนี้จบแบบศพสีชมพูบ้างมั๊ยคะ ถ้าจะแนะนำให้เลิกเลย มันก็ง่ายไป ชีวิตจริงมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่