จากกระทู้ที่โดนลบไป มันก็จะมีคนมาคอยทับถม และ ดูถูกเราอยู่เรื่อยๆ
ซึ่งก็เป็นท่อนแรกๆของเพลง Believers ได้บอกไว้ "คนมองว่าฉันคงทำไม่ได้ ฝันสูงเกินไป"
และนั่นทำให้ผมอยากเขียนเรื่องราวต่อไปนี้
รสนิยม คือความชอบส่วนบุคคล ที่มีต่อสิ่งต่างๆ
เพลงก็เช่นกัน แต่รสนิยมก็เปลี่ยนได้หรือเป็นไปตามกระแสต่างๆได้
ก่อนนี้อาจจะชอบเพลงแบบเฉพาะกลุ่ม วันนึงอาจจะไปขอบเพลงกระแสหรือเพลงตลาด
หรือคนคนนึงที่เคยอยู่กับกระแสเพลงตลาด แต่วันนึงกลับมาชอบเพลงอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้
อาจเพราะเมื่อ 5 ปีก่อนมีเพลงนึงที่เป็นของคนเฉพาะกลุ่ม
แต่กลับไปถูกใจคนส่วนมากเพลงนั้นจึงกลายเป็นเพลงตลาดไป
แต่เพลงเช่นนี้ก็หาไม่ได้บ่อย ผมเป็นคนที่เคยฟังเพลงตลาดเพลงตามกระแสมาก่อน
ก็ชอบไปก็สนุกไป ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่เคยรับรู้ถึงการมีอยู่ของเพลงอีกแบบ
นั่นคือเพลงในแนวทางของกลุ่ม 48 หรือ เพลงพลังบวก
จนวันที่ผมได้ฟังเพลง คุกกี้เสี่ยงทาย เพลงที่ฉุดผมขึ้นมาจากความจมดิ่งในชีวิต
และทำให้ผมได้รู้จักกับกลุ่ม 48 ได้รู้ว่าวงนี้คืออะไร ทำอะไร
และได้รู้จักกับเพลง 365 วันกับเครื่องบบินกระดาษ กับ เพลงความทรงจำและคำอำลา
เพลงเหล่านี้เปลี่ยนโลกผมไปเลย รวมถึงสิ่งที่เมมเบอร์กลุ่ม 48 ต้องทำ
มันก็เปลี่ยนความเข้าใจที่มี อคติ ต่อกลุ่มเด็กสาวเหล่านี้ไปด้วย
พวกเขาไม่ใช่แค่เด็กสาวน่ารัก แต่พวกเธอคือนักสู้ในสนามแข่งเสียมากกว่า
สิ่งที่เมมเบอร์ทำคือสิ่งที่ยากและท้าทายกว่ากลุ่มนักร้องอื่นๆที่ผมเคยรู้จัก
มันทั้งกดดันแข่งขันกันตลอดเวลา ทำให้เข้าใจได้ว่า ทำไมหลายๆเพลงของพวกเขาถึงเป็นเพลงที่ให้กำลังใจ
เพราะนั่นคือสิ่งสำคัญต่อทุกชีวิต ด้วยดนตรี ทำนอง เนื้อร้อง มันส่งเสริมกัน ความหมายลึกซึ้ง กินใจ และ งดงาม
จนมาถึง เพลงเส้นทางของผู้ใหญ่ และ บ้านแห่งหัวใจ
จากวันนั้นที่ฟังคุกกี้เสี่ยงทายครั้งแรก มาถึงวันนี้ ผมยังคงเป็นแฟนคลับ 48 ของไทย
แฟนคลับของเพลงที่คนมองว่ามันไม่แมส มันไม่ใช่เพลงตลาด แต่สำหรับผมมันมีคุณค่าทางใจกับผมมาก
ผมแค่เสียดายที่เพลงให้กำลังใจดีๆเหล่านี้ กลายเป็นเพลงเฉพาะกลุ่มไป
รวมถึงเรื่องราวและเส้นทางการต่อสู้ของเมมเบอร์ที่หากไม่มองกันแค่ภายนอก
ก็จะเข้าใจในหัวอกของเมมเบอร์ และ ก็คงอยากจะเป็นคนที่ได้ให้กำลังใจนั้นกลับคืนไป
ให้เขาได้เชื่อมั่น ในเส้นทางที่เดินอยู่นี้ต่อไป จนสุดเส้นทาง
ให้เขาได้เป็นผู้ขับร้องเพลงพลังบวก เพลงของการเยียวยาจิตใจที่แตกสลาย ให้กลับมาเต้นได้อีกครั้ง
"เพลงแห่งหัวใจ" 48TH
ซึ่งก็เป็นท่อนแรกๆของเพลง Believers ได้บอกไว้ "คนมองว่าฉันคงทำไม่ได้ ฝันสูงเกินไป"
และนั่นทำให้ผมอยากเขียนเรื่องราวต่อไปนี้
รสนิยม คือความชอบส่วนบุคคล ที่มีต่อสิ่งต่างๆ
เพลงก็เช่นกัน แต่รสนิยมก็เปลี่ยนได้หรือเป็นไปตามกระแสต่างๆได้
ก่อนนี้อาจจะชอบเพลงแบบเฉพาะกลุ่ม วันนึงอาจจะไปขอบเพลงกระแสหรือเพลงตลาด
หรือคนคนนึงที่เคยอยู่กับกระแสเพลงตลาด แต่วันนึงกลับมาชอบเพลงอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้
อาจเพราะเมื่อ 5 ปีก่อนมีเพลงนึงที่เป็นของคนเฉพาะกลุ่ม
แต่กลับไปถูกใจคนส่วนมากเพลงนั้นจึงกลายเป็นเพลงตลาดไป
แต่เพลงเช่นนี้ก็หาไม่ได้บ่อย ผมเป็นคนที่เคยฟังเพลงตลาดเพลงตามกระแสมาก่อน
ก็ชอบไปก็สนุกไป ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่เคยรับรู้ถึงการมีอยู่ของเพลงอีกแบบ
นั่นคือเพลงในแนวทางของกลุ่ม 48 หรือ เพลงพลังบวก
จนวันที่ผมได้ฟังเพลง คุกกี้เสี่ยงทาย เพลงที่ฉุดผมขึ้นมาจากความจมดิ่งในชีวิต
และทำให้ผมได้รู้จักกับกลุ่ม 48 ได้รู้ว่าวงนี้คืออะไร ทำอะไร
และได้รู้จักกับเพลง 365 วันกับเครื่องบบินกระดาษ กับ เพลงความทรงจำและคำอำลา
เพลงเหล่านี้เปลี่ยนโลกผมไปเลย รวมถึงสิ่งที่เมมเบอร์กลุ่ม 48 ต้องทำ
มันก็เปลี่ยนความเข้าใจที่มี อคติ ต่อกลุ่มเด็กสาวเหล่านี้ไปด้วย
พวกเขาไม่ใช่แค่เด็กสาวน่ารัก แต่พวกเธอคือนักสู้ในสนามแข่งเสียมากกว่า
สิ่งที่เมมเบอร์ทำคือสิ่งที่ยากและท้าทายกว่ากลุ่มนักร้องอื่นๆที่ผมเคยรู้จัก
มันทั้งกดดันแข่งขันกันตลอดเวลา ทำให้เข้าใจได้ว่า ทำไมหลายๆเพลงของพวกเขาถึงเป็นเพลงที่ให้กำลังใจ
เพราะนั่นคือสิ่งสำคัญต่อทุกชีวิต ด้วยดนตรี ทำนอง เนื้อร้อง มันส่งเสริมกัน ความหมายลึกซึ้ง กินใจ และ งดงาม
จนมาถึง เพลงเส้นทางของผู้ใหญ่ และ บ้านแห่งหัวใจ
จากวันนั้นที่ฟังคุกกี้เสี่ยงทายครั้งแรก มาถึงวันนี้ ผมยังคงเป็นแฟนคลับ 48 ของไทย
แฟนคลับของเพลงที่คนมองว่ามันไม่แมส มันไม่ใช่เพลงตลาด แต่สำหรับผมมันมีคุณค่าทางใจกับผมมาก
ผมแค่เสียดายที่เพลงให้กำลังใจดีๆเหล่านี้ กลายเป็นเพลงเฉพาะกลุ่มไป
รวมถึงเรื่องราวและเส้นทางการต่อสู้ของเมมเบอร์ที่หากไม่มองกันแค่ภายนอก
ก็จะเข้าใจในหัวอกของเมมเบอร์ และ ก็คงอยากจะเป็นคนที่ได้ให้กำลังใจนั้นกลับคืนไป
ให้เขาได้เชื่อมั่น ในเส้นทางที่เดินอยู่นี้ต่อไป จนสุดเส้นทาง
ให้เขาได้เป็นผู้ขับร้องเพลงพลังบวก เพลงของการเยียวยาจิตใจที่แตกสลาย ให้กลับมาเต้นได้อีกครั้ง