ในเดือนที่ผ่านมามีการพูดถึง “ค่าการตลาด” กันเยอะมากก จนต้องไปหาข้อมูลเพื่อศึกษาและทำความเข้าใจด้วยตัวเอง
ก่อนอื่นมาเริ่มที่ตัว “โครงสร้างราคาน้ำมัน”
โครงสร้างราคาน้ำมันเนี่ย อย่างที่ทราบกัน คือ มีอยู่ด้วยกัน 8 อย่าง
1. ราคาน้ำมัน ณ โรงกลั่น
2. ภาษีสรรพสามิต
3. ภาษีเทศบาล (ภาษีแต่ละท้องถิ่น)
4. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
5. กองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
6. ภาษีมูลค่าเพิ่มของราคาขายส่ง
7. ค่าการตลาด
8. ภาษีมูลค่าเพิ่มค่าการตลาด
>> และเมื่อผ่านในทุกตัวโครงสร้างของราคาแล้ว เราก็จะได้ราคาหน้าปั๊มในแต่ท้องที่ <<
จากที่เห็น คือ กว่าจะมาถึงค่าการตลาด เราก็เจอบวก++ มาหลายอย่าง
มาดูกันต่อว่า แล้วค่าการตลาดเนี่ยมันดูยังไง
Ø ค่าการตลาดไม่ควรดูเฉพาะวันใดวันหนึ่งเพื่อนำมาเปรียบเทียบ เพราะในทุกๆ วัน ค่าการตลาดมีขึ้นลง
Ø ค่าการตลาดควรดูเฉลี่ยในภาพรวมของทั้งเดือน
Ø ค่าการตลาดต้องดูเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์
Ø ค่าการตลาดไม่ใช่กำไรสุทธิ เพราะ ต้องมีการหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก่อน
สรุปได้ว่า
ค่าการตลาด คือ !!?!! รายได้ขั้นต้นของผู้ค้า ซึ่งยังไม่หักค่าใช้จ่าย และถ้าจะดูค่าเฉลี่ยของค่าการตลาดในราคาน้ำมันควรเอามาเฉลี่ยดูทั้งเดือน และรายได้นั้นๆ (หรือที่อาจเป็นความเข้าใจว่าคือกำไรที่เค้าว่ากัน) มันยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเช่าที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบำรุงฃรักษา (ซ่อมอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกในปั๊มหรือแม้กระทั่งห้องน้ำ) ค่าจ้างพนักงาน ค่าขนส่ง ค่าสำรองน้ำมันตามกฎหมาย ฯลฯ อีกสารพัดค่าที่เป็นรายจ่ายของผู้ประกอบการ นั่นเอง
ค่าการตลาดในโครงสร้างราคาน้ำมัน คือ อะไร!!?!!