Ep.3 รีวิวการตั้งท้องเดือนที่ 8-9

ไตรมาสที่3 ตื่นเต้นสุดๆ พร้อมกับอารมณ์ที่ว่า การตั้งท้อง 9 เดือนมันแปปเดียวมากๆ ฟังคำแนะนำต่างๆว่าต้องบำรุงโน้นนี่นั้นในแต่ละช่วงอายุครรภ์ แต่เป็นไงค่ะ เอาเข้าจริงหาบำรุงแถบไม่ทันเดือนๆผ่านไปไวมาก ยังอยากทำโน้นนี่นั้นอีกเยอะเลย สุดท้ายโยคะคนท้องก็ไม่ได้เล่น จากที่ตั้งใจไว้ว่าอยากให้ลูกฝึกสมาธิตั้งแต่อยู่ในท้อง 555 เอาเป็นว่ามาเริ่มกันที่เรื่อง
- การหาหมอ สำหรับเดือน8-9 นี้หมอจะไม่ได้อุลตาแมน เอ้ย! อัลตาซาวด์ท้องแล้ว แต่จะเป็นลักษณะใส่เข็มขัดรัดท้อง เพื่อเช็คการบีบตัวของมดลูก และจะมีเครื่องให้เรากดถ้าเจ้าตัวน้อยดิ้นปุ๊บ ก็กดปั๊บ ตามจำนวนที่ดิ้นเลย สำหรับเราก็ผ่านฉลุย แต่มีครั้งนึงเครื่องจับได้ว่ามดลูกมีการเกร็งท้องขึ้นมา 2-3ครั้งได้มั้ง ทำให้พยาบาลตกใจกันเลยทีเดียวว่าต้องถามหมอว่าจะให้คลอดเลยป่าว ไอ้เราก็ตกใจเลยค่าาาาาา แต่เราก็ไม่ได้ปวดอะไรนะ หมอก็บอกว่าให้เดินน้อยลงเพราะถ้าออกก่อนกำหนดมากจะไม่ดี พยายามให้ออกพอๆกับกำหนดจะดีกว่างี้ เพราะเจ้าตัวน้อยของเรานี้ก็กลับหัวไวมาก ตั้งแต่ 5-6เดือนได้มั้ง 
- กินวิตามินตามหมอสั่งอย่างเคร่งครัดแหละ
- แน่นอนการปัสสาวะในช่วงนี้บ่อยมาก ถึงมากที่สุด ตอนกลางคืนก็ตื่นบ่อยหน่อย
- การนอนก็หลับๆตื่นๆหน่อย ทั้งต้องลุกฉี่ ทั้งหน่วงท้องต้องนอนตะแคง ถึงบอกว่าหมอนรองท้องมีก็จะดีมากๆเลย มันจะช่วยเรื่องหน่วงท้องและอึดอัดเวลานอนได้เยอะเลย
- การลุกนั่งก็ต้องระวัง และลำบากขึ้นหน่อยเนอะ แต่พอรู้สึกว่ามีอะไรดิ้นๆในท้องก็ดีใจอะ
- เดือนนี้ก็เริ่มซื้อของละ มีงานเบบี้ช่วงนั้นพอดีเราก็ลิสรายการที่จำเป็นแล้วก็ไปเลือกซื้อเลย ก็จะมีที่นอนเด็ก ชุดเด็ก(อันนี้จะซื้อไม่มาก เพราะลูกจะโตไวมาก เราเลยกะว่าเดี๋ยวคลอดก่อนแล้วขาดเหลือยังไงค่อยซื้อเพิ่มดีกว่า ถ้าซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้เสียดาย) ที่ปั๊มนม นี่ก็สำคัญนะคะ สำหรับแม่ๆที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แล้วก็ทำงานประจำด้วย เอาเป็นว่าช็อปของลูกนี่มหากาพย์ ไว้สาธยายอีก ep. ดีกว่า^^
- การกินนี่ก็กินได้เกือบทุกอย่างแล้ว คือเลือกกินได้แล้ว ดังนั้นในช่วงเดือนนี้จะกินที่เน้นเพิ่มน้ำหนักลูกอย่างเดียวเลย ลืมเล่าว่าซาวด์ครั้งล่าสุดน่าจะเดือน 6มั้งน้ำหนักน้องในท้องอยู่ประมาณ 2400 กรัม เดือนหลังๆเลยถามหมอว่าคลอดมาน้ำหนักจะเกิน 3000 กรัมไหมคะ คืออยากให้ 3000 ขึ้นงี้ หมอถึงขั้นชะโงกมามองท้องและตัวเรา พร้อมกับบอกว่า.... ไม่ถึงงงงงง แม่ตัวเล็กท้องก็ไม่ใหญ่มากงี้ (เรานี่ แงงงงงงงงงงงงงงง หัวใจแตกสลาย) แต่หมอบอกว่าจะลองซาววด์ดูน้ำหนักลูกได้ แต่เราเลยบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ ขอลุ้นวันคลอดเลยว่าจะน้ำหนักเท่าไหร่ตื่นเต้นดี หลังจากนั้นการกินทุกวันก็จะคิดถึงแต่อาหารที่เพิ่มน้ำหนักเจ้าตัวเล็กเลย ทั้งไข่ นี่ต้องกินทุกว่า วันไหนหยุดคือสุกี้ บุพเฟ่ 55555 เป็นมื้อที่รู้สึกว่ากินแล้วอิมและมีความสุขสุด แล้วเหมือนว่ามื้อไหนที่กินได้เยอะและมีความสุขจะรู้สึกว่าลูกน้ำหนักขึ้น 5555คิดไปเองป่าวไม่รู้
- เริ่มเตรียมของไปคลอด คือในช่วงนี้ถ้าคิดอะไรได้ต้องรีบเตรียมไว้เลย เพราะแต่ละอาทิตย์ผ่านไปเร็วมากกกกกกกกก ไวจริงๆ การเตรียมของไปคลอดก็มีหลายอย่าง ทั้งของแม่ของลูก แล้วก็ของพ่อด้วย เพราะเราต้องอยู่รพ.อย่างน้อย 3 วัน เอาเป็นว่ารายละเอียดเยอะเดี๋ยวแยกเป็น EP.^^ แต่ก่อนที่จะเตรียมของก็แนะนำให้ลองถามรพ.ก่อนว่ามีอะไรให้เราบ้าง เราจะได้ไม่ต้องซื้อซ้ำกับทางรพ.เตรียมไว้ให้ด็วย ซึ่งบ้างรพ.ก็จะแจ้งเราล่วงหน้าอยู่แล้ว และบ้างรพ.ก็มีคอสเรียนสำหรับพ่อแม่มือใหม่ด้วย 
- เตรียมตัวเตรียมใจ 55555 เพราะหมอจะถามเราว่าจะคลอดเองธรรมชาติ หรือจะผ่าคลอด ซึ่งเราต้องตัดสินใจและบอกหมอแล้ว และถ้าผ่าคลอดเราจะผ่าวันไหน เพราะก็ต้องจองห้องคลอดด้วย ดังนั้นสรุป การคลอดธรรมชาติค่าใช้จ่ายถูกกว่าแต่จะคลอดวันไหนเวลาไหนต้องลุ้นเอา ไม่ต้องเจ็บแผลผ่าคลอด แต่การผ่าคลอด ค่าใช้จ่ายแพงกว่า ต้องกำหนดวันจองห้อง แต่ได้เวลาที่แน่นอน ไม่ต้องลุ้นยามค่ำคืน5555 อาจจะเจ็บแผลผ่าหน่อย แต่หมอก็จะขูดมดลูกทำความสะอาดให้เลย เห็นว่าถ้าผ่าคลอดไม่ต้องอยู่ไฟก็ได้เพราะหมอขูดเยื่ออะไรออกหมดแล้ว อันนี้ก็แล้วแต่แต่ละคน แต่ใครจะอยู่ไฟก็ได้ก็จะช่วยผ่อนคลายระบบต่างๆในร่างกายรวมถึงคลายความปวดเมื่อยต่างๆได้ด้วยว่างั้น ไอ้เรานี่เลือกผ่าคลอด เพราะเห็นในละครเค้าเบ่งกันก็แอบกลัวเลยเลือกผ่า แรกๆก็ชิลๆไม่อะไร พอถึงวันเท่านั้นแหละ อยู่ดีๆตัวสั่นแบบคุมไม่อยู่ทั้งๆที่ไม่หนาว555555 แถบก่อนมาคลอดยังมีเสียงนกเสียงกาบอกขึ้นเขียงๆ เอ้า!ตูคิดขึ้นมาเลยจากตอนแรกไม่คิดอะไร55555 เรื่องวันคลอดนี่เยอะมากไว้มาเม้าท์อีก EP.ละกันนะคะ^^
- ผ่อนคลายนั่งรถเที่ยวโน้นนี่นั้นบ้าง อ่านหนังสือ ดูทีวี ส่วนใหญ่ก่อนอนนี่จะดูยูทูปเกี่ยวกับการดูแลทารกในครรภ์อะไรประมาณนี้ เป็นไงค่ะลืมนึกว่าสเต็ปต่อไปคือหลังคลอดไม่ได้ดูเลยจ้า หลังคลอดเท่านั้นต้องทำยังไงอะ ทั้งอาบน้ำลูก อุ้มลูก การให้นม การอุ้มเลอไม่รู้เลยจ้า ดังนั้นแนะนำให้ดูเกี่ยวการเลี้ยงลูกหลังคลอดด้วย ซึ่งรายละเอียดเยอะมากหลังจากที่เคยคิดว่าคลอดเสร็จก็น่าจะโอเคแล้ว แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ การคลอดคือการเริ่มต้นจ้าาาาาาาาาา น้ำตาจิไหลมีหลายอย่างที่ไม่รู้ และเป็นอีกหนึ่งชีวิตที่เรียกว่าลูกและเราต้องเลี้ยงให้รอดด้วย เพราะเด็กแรกเกิดคือคอก็ยังไม่แข็งจับอุ้มอะไรก้กลัวจะหักไปหมด หือออออออ ดังนั้นแนะนำให้ลองดูเรื่องการเลี้ยงลูกตั้งแต่แรกเกิดอะไรแบบนี้ด้วยค่ะว่าจะต้องเจอปัญหาอะไร และเตรียมรับมือกับอาการต่างๆของลูกเรายังไงงี้อะคะ ถือว่าเราเตือนแล้วนะ 55555 จบการรีวิวไว้มาเม้าท์ใหม่ค่าาาาาา^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่