กว่า 36 ปี กับการเสียชีวิตของ “เชอร์รี่ แอน ดันแคน” เด็กสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกันผู้อาภัพ

Cr. เปิดแฟ้มคดีดัง ช่องไทยรัฐ

หลายๆคนคงเคยติดตามคดี เชอร์รี่ แอน ดันแคน ที่ช็อกหัวใจคนไทยในสมัยนั้น และเป็นคดีที่สะเทือนวงการยุติธรรมอีกคดีหนึ่ง รวมถึงคนที่เกิดไม่ทันก็อาจจะทราบเกี่ยวกับคดีนี้จากหลายแหล่งข้อมูลที่ได้เล่าถึงคดีและสาเหตุของคดีแล้ว แต่หารู้ไม่ว่า ยังมีความจริงบางอย่างที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ ด้วยความที่อาจจะฟังจากแค่เรื่องเล่า หรือคำให้สัมภาษณ์ของบางคน โดยไม่ได้สืบหาความจริงโดยละเอียด เช่นการไล่อ่านคอมเมนต์ อย่างนี้เป็นต้น เลยอาจจะมีบางอย่างที่หลายคนเข้าใจผิดไป ดังนั้นวันนี้จะมาเล่าความจริงบางอย่างไปพร้อมๆกับคดีเลยนะคะ (ซึ่งมันจะยาวหน่อยน้าาาาาาาา)

คำเตือน!!! ถ้าไม่ชอบเรื่องผีหรืออะไรที่เป็นแนวสะเทือนขวัญก็ห้ามอ่านกระทู้นี้

และก่อนที่จะเล่าต่อไปนี้ ถ้าหากผิดพลาดประการใดก็...รบกวนช่วยแก้ไขหรือว่าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกันได้นะคะ

มาเข้าเรื่องกันโลดดดดด!!!
เชอร์รี่ แอน ดันแคน (Cr. ข่าวดังข้ามเวลา)
เชอร์รี่ แอน ดันแคน เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2513 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นลูกสาวของมิสเตอร์โจกับนางกลอยใจอย่างที่ทราบกัน ว่ากันว่าเป็นเด็กที่แก่แดด (ซึ่ง จขกท เองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าแก่แดดแบบไหน) เธอสามารถพูดได้ 3 ภาษา คือภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีนกลาง เมื่อเธอไปต่างประเทศกับพ่อของเธอ ในช่วงที่พ่อของเธอไปทำงานที่นั่นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ในฐานะวิศวกร และกลับมาในปี 2521 เชอร์รี่ แอน จะอาศัยอยู่กับคุณยายของเธอที่ฝั่งธนบุรีเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากใกล้โรงเรียนของเธอ (ซึ่งก็น่าจะเป็นโรงเรียนซางตาครู้สศึกษา และถ้าเรียนตามเกณฑ์ ในปี 2521 เชอร์รี่ แอน ก็น่าจะขึ้น ป.2) ในช่วงเวลานั้น เชอร์รี่ แอน จะไปเยี่ยมพ่อและแม่ของเธอในวันหยุดสุดสัปดาห์ ... ในปี 2528 ชีวิตของเธอต้องพลิกผัน เมื่อเธอ ได้รู้จักกับคุณวินัย ชัยพานิช หรือเสี่ยแจ๊ค และในปีเดียวกันนั้น คุณยายของเธอก็ได้จากเธอไป (ข้อมูลจาก http://thailawforum.com/the-murder-of-thai.html ในหัวข้อ The Precocious Child)

เชอร์รี่ แอน ยังมีพี่สาวต่างบิดาอีก 1 คน เนื่องจากรายการ ข่าวดังข้ามเวลา ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2558 ได้บอกท้ายคลิปว่า ปัจจุบันคุณย่ากลอยใจใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบในจังหวัดสมุทรสาคร กับลูกสาวคนโต และในสำนวนคดีก็ยังบ่งบอกด้วยว่า คุณย่ากลอยใจเคยแต่งงานและมีบุตรกับสามีคนก่อนแล้ว ก่อนที่จะแต่งงานกับมิสเตอร์โจ

ข้อมูลเพิ่มเติม จากที่ได้เล่าเรื่องนี้ในกลุ่ม เรื่องเล่า ภาพเก่าในอดีต https://m.facebook.com/groups/259276574570765/permalink/1408352089663202/ มีคอมเมนต์หนึ่งเล่าว่า “ผมเคยเจอเธอครั้งนึงประมาณ2อาทิตย์ ก่อนเธอหายไป เพราะพี่ชายต่างบิดามาทำงานที่ร้านอาหารของพ่อผม จำได้ว่าสวยมากครับ อุ้มหมาพุดเดิ้ลมาด้วย ตอนรู้ข่าวแล้วตกใจมาก” นั่นหมายความว่า นอกจากพี่สาวต่างบิดาแล้ว เธอก็ยังมีพี่ชายต่างบิดาด้วย
ภาพถ่ายคู่ในฐานะคู่รัก ระหว่างเสี่ยแจ๊คกับเจ๊กุ้ง (Cr. ความจริงไม่ตาย ช่อง Thai PBS)

อย่างที่หลายคนทราบกันแล้วว่า คุณวินัย ชัยพานิช หรือเสี่ยแจ๊ค เกิดในครอบครัวที่จัดได้ว่าเป็นผู้มีอันจะกิน บิดาและมารดานับได้ว่าเป็นผู้มีฐานะทางการเงินที่ดีครอบครัวหนึ่งเลยทีเดียว หลังจากจบการศึกษาด้านสถาปัตยกรรมจากสหรัฐอเมริกา เสี่ยแจ๊คได้กลับมาทำงานในประเทศไทย ในปี 2519 โดยประกอบอาชีพเกี่ยวกับการก่อสร้าง และได้มาพักอาศัยอยู่กับมารดาที่บ้านพักเยื้องตรงข้าม สน.ทุ่งมหาเมฆ ซอยสวนพลู เขตยานนาวา ต่อมาประมาณปี 2523 ได้เปิดภัตตาคาร ชื่อ 'สามก๊ก' ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักใน ซอยสวนพลู และได้รู้จักกับ “เจ๊กุ้ง” สุวิบูลย์ พัฒน์พงศ์พานิช หญิงสาวตระกูลใหญ่ระดับมหาเศรษฐีย่านพัฒน์พงศ์ โดยการแนะของน้องสาวตนเอง หลังจากรู้จักกันได้เพียง 2 เดือน ก็ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยากับเจ๊กุ้ง แต่ไม่ได้แต่งงานกัน เพราะแม่ของฝ่ายหญิงไม่ปลื้มเสี่ยวินัย ด้วยสัมพันธ์ที่มีต่อกันอย่างแน่นแฟ้นของทั้ง 2 จึงได้ร่วมทุนกันสร้างคอนโดมิเนียม ชื่อ “ริเวอร์วิว คอนโดมิเนียม” เป็นอาคารให้เช่าพักจำนวน 8 ชั้น อยู่แถวตลาดน้อย สัมพันธวงศ์ ในปี 2524

ข้อมูลเพิ่มเติมจากคอมเมนต์หนึ่งในยูทูบ รายการ ความจริงไม่ตาย เล่าว่า “พ่อเรา เคยเป็นลูกจ้าง(รับเหมาก่อสร้าง)ของตระกูลนี้ (ตระกูลของเสี่ยแจ๊ค) ตระกูลนี้รวยมากๆ แม่ของเสี่ย(คุณนายเพ็ญศรี)มาจากจีนแผ่นดินใหญ่มาตำพริกแกงขายที่ตลาดสวนพลู จนร่ำรวยมีที่ดินให้คนเช่าและมีธุรกิจอีกมากมายเมื่อลูกๆของท่านโตขึ้นมา ตอนเราเป็นเด็กพ่อแม่เคยพาไปอาศัยอยู่แฟตของแม่เสี่ยวินัยที่ตลาดสวนพลู เสี่ยวินัยเป็นพี่ชายคนโตของตระกูล..เสี่ยมีพี่น้องทั้งหมดรวม4รึ5คนนี่แหละ(เรารู้จักทุกคน แต่ในฐานะลูกของลูกจ้างนะ) และน้องบุญธรรมอีกคนเป็นผู้ชาย(เป็นใบ้) พ่อเล่าว่า เสี่ยวินัย รูปหล่อและเจ้าชู้มากในสมัยนั้น..(เราเคยเจอเสี่ยวินัยแค่ครั้งเดียวก่อนที่เสี่ยจะเจอคดีเชอรี่) เจ๊กุ้ง คือเจ้าแม่ลูกสาวเจ้าของพัฒพงศ์(มีอิทธิพลมาก)สุดท้ายความจริงก็เป็นสิ่งไม่ตาย...(แต่พ่อพี่ตายแล้ว)คดีนี้ซ่อนเงื่อนมาก แต่คนใกล้ชิดจะรู้จริงมากที่สุด...#สาเหตุ มันก็เกิดจากความเจ้าชู้ของเสี่ยนี่แหละเป็นต้นเหตุ ญาติพี่น้องของเสี่ยทุกคนก็มีความสุขกันดีหมด”
วินัย ชัยพานิช (เสี่ยแจ๊ค) และ เชอร์รี่ แอน ดันแคน
Cr. ช่องไทยรัฐ

ด้วยความที่พ่อของ เชอร์รี่ แอน เปิดร้านอาหารฝรั่งที่ซอยสุขุมวิท 19 ชื่อว่าร้าน พี.เจ. และวันหนึ่งในปี 2528 เสี่ยแจ๊คนึกอยากทานอาหารฝรั่งขึ้นมา จึงแวะไปทานที่ร้านแห่งนี้ และได้รู้จักกับครอบครัวของคุณเชอร์รี่แอน โดยคุยภาษาอังกฤษกับฝ่ายพ่อและภาษาไทยกับฝ่ายแม่ เลยเป็นที่ถูกอกถูกใจของคนบ้านนั้น ซึ่งในเวลานั้นคุณเชอร์รี่แอนอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น และกำลังมีปัญหาภายในครอบครัว เธอถูกพ่อแท้ๆของเธอล่วงละเมิดหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะเวลาที่พ่อของเธอเมา เสี่ยแจ๊คจึงยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ โดยการขออุปการะเธอจากครอบครัว ซึ่งแม่ของเธอก็ยินยอมให้อุปการะลูกสาว แต่หารู้ไม่ว่า สำหรับคุณเชอร์รี่แอนแล้ว เรียกได้ว่าเป็นการหนีเสือปะจระเข้ เพราะจริงๆแล้ว เสี่ยแจ๊ค เอ็นดูเธอในทางชู้สาว อย่างที่หลายคนทราบกันแล้วว่า เชอร์รี่ แอน รับทราบมาตั้งแต่ต้นว่า เสี่ยแจ๊คมีเจ๊กุ้งอยู่แล้ว แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ นั่นก็คือ คุณเชอร์รี่แอนไม่ได้คิดอะไรกับเสี่ยแจ๊คในทางชู้สาว แต่ด้วยความที่เธออยากเรียนสูงๆ เธอจึงยอมเป็นเสมือนลูกบุญธรรมของเสี่ย (ข้อมูลนี้ได้มาจากการไล่อ่านคอมเมนต์ในยูทูบ รายการความจริงไม่ตาย) ในเวลานั้นเจ๊กุ้งเกิดความแคลงใจ จนจับได้ว่า เสี่ยแจ๊คแอบคบหากับคุณเชอร์รี่แอน แถมส่งเสียเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ใช้คอนโดมิเนียมที่ร่วมกันสร้างเป็นรังรัก จึงบุกไปอาละวาดตามประสาความหึงหวง เสี่ยแจ๊คต้องพาคุณเชอร์รี่แอนย้ายไปพักแถวทองหล่อ แต่เจ๊กุ้งก็สืบจนรู้อีก เจ๊กุ้ง ได้จ้างวานลูกน้องให้ไปรื้อห้องของคุณเชอร์รี่แอนหลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งยื่นคำขาดให้เสี่ยแจ๊คเลิกกับคุณเชอร์รี่แอนหลายครั้งเช่นกัน โดยครั้งสุดท้ายถึงขนาดจะให้เงิน 100,000 บาท (สมัยนั้นถือว่าโคตรเยอะ) ให้คุณเชอร์รี่แอนเลิกกับเสี่ยแจ๊คให้ได้ แต่เสี่ยแจ๊คก็ไม่ยอม
เชอร์รี่ แอน ดันแคน (Cr. ข่าวดังข้ามเวลา)

ในปี 2529 ที่มีคดีนี้เกิดขึ้น ในปีนั้นคุณเชอร์รี่แอนเพิ่งจะเรียนจบ ม.3 และได้ไปเรียนต่อสายอาชีวะที่โรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยา (โฮลี่) ซอยสุขุมวิท 101 นอกจากเรียนหนังสือ เธอยังเป็นนางแบบวัยรุ่นให้นิตยสารบางเล่มในเวลานั้น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2529 ทุกคนเห็นคุณเชอร์รี่แอนเดินขึ้นรถแท็กซี่ที่เธอโดยสารเป็นประจำ แต่...ไม่มีใครจำทะเบียนรถและรูปพรรณสันฐานของคนขับแท็กซี่ได้เลย และเธอก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย 3 วันต่อมา 2 สามีภรรยาที่อาศัยอยู่แถวนั้น ได้ตื่นเช้ามาเพื่อจับปูในป่าแสมเพื่อเป็นรายได้เลี้ยงชีพอย่างเช่นทุกวันที่ผ่านมา ต้องผงะเมื่อเจอศพหญิงสาวในร่องน้ำป่าชายเลน ที่สุดด้วยมีคนพบเจอกระเป๋านักเรียนลอยตามน้ำมา ก็สืบจนพบว่า ศพนั้นคือ เชอร์รี่ แอน ดันแคน ที่ถูกฆาตกรรมอย่างเลือดเย็นในชุดนักเรียน แพทย์ชันสูตรพบว่า มีรอยถูกทุบตีที่ท้ายทอย ทำให้กระโหลกศีรษะร้าว และมีรอยช้ำที่หน้าแข้ง เธอเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ เนื่องจากถูกบีบรัดที่คอ ก่อนที่คนร้ายจะนำศพไปทิ้งในน้ำ เชอร์รี่ แอน เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 16 ปี
เชอร์รี่ แอน ดันแคน (Cr. ล่าข้อกังขา)

ในเวลานั้น สื่อประโคมข่าวนี้อย่างหนัก เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนในสมัยนั้น ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เป็นการกดดันให้ ตร. ปิดคดีนี้ให้เร็วที่สุด .. 1 เดือนหลังการตายของ เชอร์รี่ แอน ตร. จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด ประกอบไปด้วยเสี่ยแจ๊ค และลูกน้องอีก 4 คน ทั้ง 5 คน 5 ชีวิต ถูกตราหน้าจากสังคมว่าเป็นฆาตกรที่เลือดเย็น สื่อมวลชน และ ประชาชน ตราหน้า รุมสาปแช่งพวกเขา พร้อมลงทัณฑ์ว่า พวกเขาสมควรที่จะถูกประหารชีวิต โดยเบื้องหลังการจับกุมแพะกลุ่มนี้ เกิดขึ้นหลังการตายของเชอรี่ แอน ประมาณ 2 สัปดาห์ นายประเมิน โภชพลัด อาชีพขับสามล้อรับจ้าง เดินเข้ามาหานางกลอยใจ ดันแคน หลังจากที่เห็นรูป และเรื่องราวข่าวสะเทือนขวัญบนหน้าหนังสือพิมพ์ เขาให้การกับตำรวจในเวลาต่อมาว่า ในวันที่เกิดเหตุ เขากำลังขับรถตระเวนหาผู้โดยสารอยู่ในซอยสวนพลู เขตยานนาวา ณ จุดหนึ่งริมถนน เขาเหลือบไปเห็น จำเลยที่ 2 นายรุ่งเฉลิม กนกชวาลชัย และ จำเลยที่ 3 นายพิทักษ์ ค้าขาย กำลังประคองเชอรี่ แอน ออกมาจากซอยแห่งหนึ่ง เธออยู่ในสภาพสลบไสล ไม่รู้สึกตัว โดยมี จำเลยที่ 1 เสี่ยวินัย ชัยพานิช จำเลยที่ 4 นายกระแสร์ พลอยกลุ่มและ จำเลยที่ 5 นายธวัช กิจประยูร เดินตามมาข้างหลัง นายประเมินจอดรถ แล้วถามคนกลุ่มนั้นว่า ต้องการให้พาไปส่งโรงพยาบาลหรือไม่?? แต่ก็ได้รับการปฏิเสธกลับมา นายประเมินได้ให้การกับผู้พิพากษาในเวลาต่อมาอีกว่า จำหน้าเด็กผู้หญิงคนนั้นได้ดี และแม่นยำ เพราะเธอเป็นสาวลูกครึ่ง หน้าตาสวยมาก เขาทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่าเธอถูกฆ่าตาย จึงเดินทางมาเพื่อเป็นพยานให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2529 และนายประเมิน ก็คือพยานปากเอกเพียงคนเดียวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีในตอนนั้น จึงเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ทั้ง 5 คนนั้นถูกจับกุมและดำเนินคดีในที่สุด แต่หารู้ไม่ว่า นั่นคือพยานเท็จที่ถูกจ้างโดย ตร. ในพื้นที่ โดยได้รับค่าจ้างเป็นสังกะสีไม่กี่แผ่นเพื่อซ่อมหลังคาบ้าน และเงินอีก 20,000 บาท แลกกับชีวิตของผู้บริสุทธิ์ และความยุติธรรมที่คุณเชอร์รี่แอนควรจะได้รับ
บรรดาแพะในคดีเชอร์รี่ แอน ดันแคน (Cr. ความจริงไม่ตาย ช่อง Thai PBS)

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

เดี๋ยวมาเล่าต่อในคอมเมนต์น้าาาาาาา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่