ธนาธร พาทีมไทย พิชิตโอลิมปิกเทรล เจ้าตัวสุดภูมิใจ สร้างชื่อให้ประเทศ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7235983
ธนาธร พาทีมไทย พิชิตโอลิมปิกเทรลได้สำเร็จ เส้นทางสุดโหด เป็นทีมจากประเทศครั้งแรก เจ้าตัวสุดภูมิใจ สร้างชื่อให้ รับปีนี้ตั้งใจเต็มที่ หลังปีก่อนคว้าน้ำเหลว
วันที่ 28 ส.ค.2565 เพจเฟซบุ๊กนาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าโพสต์พาหลังพาทีมไทย เข้าเส้นชัยการแข่งขัน Ultra Trail du Mont Blanc หรือ UTMB ซึ่งถือเป็นโอลิมปิกเทรล ฝรั่งเศส โดยจบลงในเวลา 152 ชั่วโมง 30 นาที โดยภาพการเข้าเส้นชัยนั้น ถูกถ่ายโดยเพจเฟซบุ๊ก Running Insider
ทั้งนี้ทีมของนาย
ธนาธรได้ผ่านการตัดตัวสุดท้าย ในช่วงเช้าวันนี้ กับระยะทาง 33 กิโลเมตร กับความชันถึง 2,200 เมตร เหลือเวลาอีก 14 ชั่วโมง ให้ตัวธนาธรและเพื่อนร่วมทีมศึกวิ่งเทรลเข้าเส้นชัย
สำหรับการพิชิตเทรลนี้ได้ ถือเป็นทีมไทยทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถชนะการแข่งขันรายการนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในการแข่งขันวิ่งเทรลที่ยากที่สุดในโลก มีระยะทางรวม 302.9 กิโลเมตร ผ่านสามประเทศในเทือกเขาแอลป์ คือฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี มีความชันรวม 27,649 เมตร และต้องวิ่งให้จบภายใน 152 ชั่วโมง 30 นาที หรือประมาณ 6 วันครึ่ง ทำให้รายการ PTL ได้รับการขนานนามว่าเป็น “
โอลิมปิกเทรล”
นาย
ธนาธรกล่าวว่า ภูมิใจที่ได้นำทีมไทยจบรายการนี้ สร้างชื่อให้กับประเทศ และถือเป็นความตั้งใจของตนเองที่ต้องการให้มีทีมไทยจบการแข่งขันรายการนี้ให้ได้ ยอมรับว่าการแข่งขันสนามนี้ยากที่สุดเท่าที่เคยลงแข่งมาในชีวิต ได้นอนเพียงไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง ตลอด 6 วัน และเส้นทางแทบไม่สามารถวิ่งทำความเร็วได้ เพราะเป็นเขาสูงชัน
อย่างไรก็ดีครั้งนี้ ตนเตรียมตัวมาค่อนข้างพร้อม เพราะในปีที่แล้วก็ได้พาทีมมาแข่งแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่จบการแข่งขัน เนื่องจากเตรียมตัวมาไม่พอ ประมาทสนาม จึงใช้เวลาตลอดปีที่ผ่านมาฝึกซ้อมร่างกายอย่างต่อเนื่อง และวางแผนในการแข่งมาอย่างรอบคอบ ทำให้ปีนี้สามารถจบการแข่งขันได้ในที่สุด โดยเป็นทีมไทยทีมแรกที่จบรายการนี้ได้สำเร็จ
ทั้งนี้ ในปี 2022 มีนักวิ่งเข้าร่วมการแข่งขันรายการ PTL-UTMB จากทั่วโลกจำนวน 101 ทีม ไม่จบการแข่งขัน 53 ทีม และมีนักวิ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตกเขาระหว่างการแข่งขัน 1 ราย
ที่มาภาพ เพจเฟซบุ๊ก
Running Insider
เครือข่ายรามฯ รุม 3 ป. ปลุกคนรักปชต. ลุกสู้ ‘เจ๋ง ดอกจิก’ แซวบิ๊กป้อม เดี๋ยวนี้เดินเก่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3532417
เครือข่ายรามฯ รุม 3 ป. ปลุกคนรักปชต. ลุกสู้ ‘เจ๋ง ดอกจิก’ แซวบิ๊กป้อม เดี๋ยวนี้เดินเก่ง
วันที่ 28 สิงหาคม ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกทม. คณะหลอมรวมประชาชน และกลุ่มประเทศไทยต้องมาก่อน นำโดยนาย
จตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมนาย
นิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา จัดกิจกรรมการชุมนุม “หยุดอำนาจ 3 ป. นับหนึ่งประเทศไทย”
ในช่วงค่ำนาย
อานนท์ แม้นเพชร เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยความตอนหนึ่งกล่าวว่า ที่ผ่านมาระบบ 3 ป. ทิ้งภาระอะไรให้กับพวกตนบ้าง นักศึกษาจบใหม่หางานทำลำบาก คนที่มีงานอยู่แล้วก็ตกงาน กู้เงินมาแต่ไม่รู้จะใช้คืนเขาอย่างไร เงินกู้มาต้องใช้ เอาแต่ขึ้นภาษีอย่างเดียว
“ผมว่ากองทัพมีปัญหาอย่างมากกับระบอบประชาธิปไตย ระบอบประชาธิปไตยของไทยจึงไม่ก้าวหน้า ขอกองทัพที่ผ่านมาเข้ามาแทรกแซงการเมืองมาโดยตลอด แทรกแซงระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด แต่พอมาเป็นระบบ 3 ป.แล้ว สังเกตได้ว่ากองทัพไม่เข้ามาแทรกแซงแต่คอยสนับสนุน จึงรักษาอำนาจเอาไว้ได้ นี่คือจุดเด่นแต่ไม่ใช่จุดเด่นของการพัฒนาประเทศ ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาประเทศ ไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนคนไทย การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้กับเผด็จการกับประชาธิปไตย ถ้าท่านรักประชาธิปไตยอยากให้ทุกท่านมาร่วมกับพวกเรา” นาย
อานนท์กล่าว
ต่อมานาย
ยศวริศ ชูกล่อม หรือ
เจ๋ง ดอกจิก แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขึ้นปราศรัยโดยยืนยันว่าต้องหยุดอำนาจ 3 ป.
“นับ 1 ประเทศไทย 3 ป.โดยมีพี่ใหญ่ ชื่อว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณชื่อเล่นว่าป้อม อายุปีนี้ย่างเข้า 77 ขวบ เพิ่งเริ่มหัดเดิน ตอนแรกเดินกะเตาะกะแตะ ตอนนี้พอเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี ตอนนี้น้องเขาเดินได้ดีแล้ว ตอนเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีเท่ไม่เบา วันนี้คณะหลอมรวมประชาชนมาเพื่อหยุดอำนาจ 3 ป.คือป้อม ป๊อกและประยุทธ์” นาย
ยศวริศกล่าว
จากนั้น น.ส.
กัญญารัตน์ บุญรีบส่ง หรือ
พลอย นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคําแหง จากเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึง การไม่ลาออกของนายกเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมว่า เหตุที่พล.อ.
ประยุทธ์ครบรอบการดำรงตำแหน่ง 8 ปี และพล.อ.
ประวิตรขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯรักษาการ ซึ่งอาจมีรองนายกอีกหลายคนที่สามารถขึ้นตำแหน่งได้ ที่มาจากพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล อาทิเช่น พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น
“ประเทศไทยไม่ใช่สนามเด็กเล่น ที่จะให้ทหารอย่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเข้ามาบริหารประเทศ ประเทศไทยไม่ใช่ที่ฝึกงานของนายกแบบนี้ พลเอกประยุทธ์เป็นทหารมาทั้งชีวิต ไม่เคยบริหารอะไรสักอย่างแต่อยากมาบริหารประเทศไทย และสุดท้ายพังไม่เป็นท่า หยุดสืบทอดอำนาจที่ไปปล้นรัฐบาลเก่ามาและบริหารประเทศให้ล้มเหลว สุดท้ายอยากให้ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้รวมพลังออกมาต่อสู้เพื่อประเทศของเรา เพื่อตัวเราเองเพื่อส่งต่อประเทศสู่ลูกหลานของเราในอนาคต และเพื่อประชาชน” น.ส.
กัญญารัตน์กล่าว
ข้าวแกงขึ้นอีก 5 บาท คิดหนักร่วมคนละครึ่ง กลัวภาษี
https://www.innnews.co.th/news/news_399487/
ร้านข้าวแกง ตลาดอมรพันธ์ คิดก่อนร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 หรือไม่ ต้นทุนข้าวแกงขยับสูงขึ้นต้องปรับราคา 5 บาท
จากการสำรวจบรรยากาศการจับจ่ายซื้อสินค้าและการค้าขายในตลาดอมรพันธ์แยกเกษตร พบว่า ร้านค้าต่างๆ มีลูกค้าน้อยบรรยากาศไม่ค่อยคึกคักเนื่องจากวันนี้ช่วงเช้ามีฝนตกลงมาอย่างหนัก และจากการสอบถามไปยังร้านข้าวแกงแม่บุญส่ง
พบว่า ต้นทุนวัตถุดิบรวมถึง ราคาก๊าซหุงต้ม ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ร้านค้าต้องมีการปรับราคาขายข้าวแกงเพิ่มขึ้นอีกจานละ 5 บาท โดยราคาข้าวราดแกง 2 อย่างขายอยู่ที่ 40 บาท หากเป็นกับข้าวจะขายที่ถุงละ 40-50 บาท
โดยแกงที่ปรับราคาเพิ่มขึ้นจะเป็นในส่วนของแกงกะทิ ปลาทอด หมูทอด รวมถึงของทอดอื่นๆ เนื่องจากน้ำมันปาล์มที่ใช้ทอดมีการปรับราคาแพงขึ้น และไม่สามารถใช้ซ้ำได้ ในขณะที่ต้นทุนก๊าซหุงต้มนั้นเวลานี้อยู่ที่ถังละ 400 บาท ซึ่งจะใช้ 2 วัน 1 ถัง หากปรับราคาขึ้นอีกกิโลกรัมละ 1 บาทในเดือนหน้า จะยิ่งเป็นต้นทุนที่สูงขึ้นอีก แต่ราคากับข้าวคงไม่สามารถปรับขึ้นได้แล้ว
และสำหรับการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 นั้น ร้านค้าบอกว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ เนื่องจากหลายโครงการที่ผ่านมาถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูง รวมถึงร้านค้าต่างๆในตลาดอมรพันธ์ บางร้านตัดสินใจไม่เข้าร่วมโครงการแล้วเนื่องจากประสบปัญหาเดียวกันคือการเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ที่มองว่าเรียกเก็บในอัตราที่สูงเกินไป
JJNY : ธนาธรพาทีมพิชิตโอลิมปิกเทรล│‘เจ๋ง’แซวป้อม เดินเก่ง│ข้าวแกงขึ้นอีก5บ. คิดหนักร่วมคนละครึ่ง│"ชัชชาติ"ไขปมกทม.ฟ้ามืด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7235983
ธนาธร พาทีมไทย พิชิตโอลิมปิกเทรลได้สำเร็จ เส้นทางสุดโหด เป็นทีมจากประเทศครั้งแรก เจ้าตัวสุดภูมิใจ สร้างชื่อให้ รับปีนี้ตั้งใจเต็มที่ หลังปีก่อนคว้าน้ำเหลว
วันที่ 28 ส.ค.2565 เพจเฟซบุ๊กนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าโพสต์พาหลังพาทีมไทย เข้าเส้นชัยการแข่งขัน Ultra Trail du Mont Blanc หรือ UTMB ซึ่งถือเป็นโอลิมปิกเทรล ฝรั่งเศส โดยจบลงในเวลา 152 ชั่วโมง 30 นาที โดยภาพการเข้าเส้นชัยนั้น ถูกถ่ายโดยเพจเฟซบุ๊ก Running Insider
ทั้งนี้ทีมของนายธนาธรได้ผ่านการตัดตัวสุดท้าย ในช่วงเช้าวันนี้ กับระยะทาง 33 กิโลเมตร กับความชันถึง 2,200 เมตร เหลือเวลาอีก 14 ชั่วโมง ให้ตัวธนาธรและเพื่อนร่วมทีมศึกวิ่งเทรลเข้าเส้นชัย
สำหรับการพิชิตเทรลนี้ได้ ถือเป็นทีมไทยทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถชนะการแข่งขันรายการนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในการแข่งขันวิ่งเทรลที่ยากที่สุดในโลก มีระยะทางรวม 302.9 กิโลเมตร ผ่านสามประเทศในเทือกเขาแอลป์ คือฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี มีความชันรวม 27,649 เมตร และต้องวิ่งให้จบภายใน 152 ชั่วโมง 30 นาที หรือประมาณ 6 วันครึ่ง ทำให้รายการ PTL ได้รับการขนานนามว่าเป็น “โอลิมปิกเทรล”
นายธนาธรกล่าวว่า ภูมิใจที่ได้นำทีมไทยจบรายการนี้ สร้างชื่อให้กับประเทศ และถือเป็นความตั้งใจของตนเองที่ต้องการให้มีทีมไทยจบการแข่งขันรายการนี้ให้ได้ ยอมรับว่าการแข่งขันสนามนี้ยากที่สุดเท่าที่เคยลงแข่งมาในชีวิต ได้นอนเพียงไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง ตลอด 6 วัน และเส้นทางแทบไม่สามารถวิ่งทำความเร็วได้ เพราะเป็นเขาสูงชัน
อย่างไรก็ดีครั้งนี้ ตนเตรียมตัวมาค่อนข้างพร้อม เพราะในปีที่แล้วก็ได้พาทีมมาแข่งแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่จบการแข่งขัน เนื่องจากเตรียมตัวมาไม่พอ ประมาทสนาม จึงใช้เวลาตลอดปีที่ผ่านมาฝึกซ้อมร่างกายอย่างต่อเนื่อง และวางแผนในการแข่งมาอย่างรอบคอบ ทำให้ปีนี้สามารถจบการแข่งขันได้ในที่สุด โดยเป็นทีมไทยทีมแรกที่จบรายการนี้ได้สำเร็จ
ทั้งนี้ ในปี 2022 มีนักวิ่งเข้าร่วมการแข่งขันรายการ PTL-UTMB จากทั่วโลกจำนวน 101 ทีม ไม่จบการแข่งขัน 53 ทีม และมีนักวิ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตกเขาระหว่างการแข่งขัน 1 ราย
ที่มาภาพ เพจเฟซบุ๊ก Running Insider
เครือข่ายรามฯ รุม 3 ป. ปลุกคนรักปชต. ลุกสู้ ‘เจ๋ง ดอกจิก’ แซวบิ๊กป้อม เดี๋ยวนี้เดินเก่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3532417
เครือข่ายรามฯ รุม 3 ป. ปลุกคนรักปชต. ลุกสู้ ‘เจ๋ง ดอกจิก’ แซวบิ๊กป้อม เดี๋ยวนี้เดินเก่ง
วันที่ 28 สิงหาคม ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกทม. คณะหลอมรวมประชาชน และกลุ่มประเทศไทยต้องมาก่อน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา จัดกิจกรรมการชุมนุม “หยุดอำนาจ 3 ป. นับหนึ่งประเทศไทย”
ในช่วงค่ำนายอานนท์ แม้นเพชร เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยความตอนหนึ่งกล่าวว่า ที่ผ่านมาระบบ 3 ป. ทิ้งภาระอะไรให้กับพวกตนบ้าง นักศึกษาจบใหม่หางานทำลำบาก คนที่มีงานอยู่แล้วก็ตกงาน กู้เงินมาแต่ไม่รู้จะใช้คืนเขาอย่างไร เงินกู้มาต้องใช้ เอาแต่ขึ้นภาษีอย่างเดียว
“ผมว่ากองทัพมีปัญหาอย่างมากกับระบอบประชาธิปไตย ระบอบประชาธิปไตยของไทยจึงไม่ก้าวหน้า ขอกองทัพที่ผ่านมาเข้ามาแทรกแซงการเมืองมาโดยตลอด แทรกแซงระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด แต่พอมาเป็นระบบ 3 ป.แล้ว สังเกตได้ว่ากองทัพไม่เข้ามาแทรกแซงแต่คอยสนับสนุน จึงรักษาอำนาจเอาไว้ได้ นี่คือจุดเด่นแต่ไม่ใช่จุดเด่นของการพัฒนาประเทศ ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาประเทศ ไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนคนไทย การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้กับเผด็จการกับประชาธิปไตย ถ้าท่านรักประชาธิปไตยอยากให้ทุกท่านมาร่วมกับพวกเรา” นายอานนท์กล่าว
ต่อมานายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขึ้นปราศรัยโดยยืนยันว่าต้องหยุดอำนาจ 3 ป.
“นับ 1 ประเทศไทย 3 ป.โดยมีพี่ใหญ่ ชื่อว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณชื่อเล่นว่าป้อม อายุปีนี้ย่างเข้า 77 ขวบ เพิ่งเริ่มหัดเดิน ตอนแรกเดินกะเตาะกะแตะ ตอนนี้พอเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี ตอนนี้น้องเขาเดินได้ดีแล้ว ตอนเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีเท่ไม่เบา วันนี้คณะหลอมรวมประชาชนมาเพื่อหยุดอำนาจ 3 ป.คือป้อม ป๊อกและประยุทธ์” นายยศวริศกล่าว
จากนั้น น.ส.กัญญารัตน์ บุญรีบส่ง หรือพลอย นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคําแหง จากเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึง การไม่ลาออกของนายกเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมว่า เหตุที่พล.อ.ประยุทธ์ครบรอบการดำรงตำแหน่ง 8 ปี และพล.อ.ประวิตรขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯรักษาการ ซึ่งอาจมีรองนายกอีกหลายคนที่สามารถขึ้นตำแหน่งได้ ที่มาจากพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล อาทิเช่น พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น
“ประเทศไทยไม่ใช่สนามเด็กเล่น ที่จะให้ทหารอย่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเข้ามาบริหารประเทศ ประเทศไทยไม่ใช่ที่ฝึกงานของนายกแบบนี้ พลเอกประยุทธ์เป็นทหารมาทั้งชีวิต ไม่เคยบริหารอะไรสักอย่างแต่อยากมาบริหารประเทศไทย และสุดท้ายพังไม่เป็นท่า หยุดสืบทอดอำนาจที่ไปปล้นรัฐบาลเก่ามาและบริหารประเทศให้ล้มเหลว สุดท้ายอยากให้ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้รวมพลังออกมาต่อสู้เพื่อประเทศของเรา เพื่อตัวเราเองเพื่อส่งต่อประเทศสู่ลูกหลานของเราในอนาคต และเพื่อประชาชน” น.ส.กัญญารัตน์กล่าว
ข้าวแกงขึ้นอีก 5 บาท คิดหนักร่วมคนละครึ่ง กลัวภาษี
https://www.innnews.co.th/news/news_399487/
ร้านข้าวแกง ตลาดอมรพันธ์ คิดก่อนร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 หรือไม่ ต้นทุนข้าวแกงขยับสูงขึ้นต้องปรับราคา 5 บาท
จากการสำรวจบรรยากาศการจับจ่ายซื้อสินค้าและการค้าขายในตลาดอมรพันธ์แยกเกษตร พบว่า ร้านค้าต่างๆ มีลูกค้าน้อยบรรยากาศไม่ค่อยคึกคักเนื่องจากวันนี้ช่วงเช้ามีฝนตกลงมาอย่างหนัก และจากการสอบถามไปยังร้านข้าวแกงแม่บุญส่ง
พบว่า ต้นทุนวัตถุดิบรวมถึง ราคาก๊าซหุงต้ม ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ร้านค้าต้องมีการปรับราคาขายข้าวแกงเพิ่มขึ้นอีกจานละ 5 บาท โดยราคาข้าวราดแกง 2 อย่างขายอยู่ที่ 40 บาท หากเป็นกับข้าวจะขายที่ถุงละ 40-50 บาท
โดยแกงที่ปรับราคาเพิ่มขึ้นจะเป็นในส่วนของแกงกะทิ ปลาทอด หมูทอด รวมถึงของทอดอื่นๆ เนื่องจากน้ำมันปาล์มที่ใช้ทอดมีการปรับราคาแพงขึ้น และไม่สามารถใช้ซ้ำได้ ในขณะที่ต้นทุนก๊าซหุงต้มนั้นเวลานี้อยู่ที่ถังละ 400 บาท ซึ่งจะใช้ 2 วัน 1 ถัง หากปรับราคาขึ้นอีกกิโลกรัมละ 1 บาทในเดือนหน้า จะยิ่งเป็นต้นทุนที่สูงขึ้นอีก แต่ราคากับข้าวคงไม่สามารถปรับขึ้นได้แล้ว
และสำหรับการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 นั้น ร้านค้าบอกว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ เนื่องจากหลายโครงการที่ผ่านมาถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูง รวมถึงร้านค้าต่างๆในตลาดอมรพันธ์ บางร้านตัดสินใจไม่เข้าร่วมโครงการแล้วเนื่องจากประสบปัญหาเดียวกันคือการเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ที่มองว่าเรียกเก็บในอัตราที่สูงเกินไป