สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน และแล้วก็ถึงเวลาที่อุ้งจะมีโอกาสมาเล่าประสบการณ์วิ่งเทรล 100 กม. ที่เพิ่งไปแข่งขันมาเมื่อต้นเดือนมกราคม 2017 ให้เพื่อนๆฟัง กับงาน Hongkong 100 Ultra trail
ก่อนจะไปสู่การเล่าประสบการณ์ อุ้งขอเกริ่นถึงพื้นฐานการวิ่งของตัวเองก่อนนะคะ
โดยพื้นฐานอุ้งเป็นนักวิ่งทางเรียบบนถนน วิ่งจริงจังมาแล้ว 4 ปี เคยวิ่ง Full marathon (42.195 กม.) มาแล้ว 11 ครั้ง สถิติที่ดีที่สุดในระยะวิ่งนี้คือ 3 ชั่วโมง 32 นาที ที่ Osakamarathon ค่ะ
<ภาพจากงานOsakamarathon 2016>
ส่วนตัวชื่นชอบการวิ่งถนนและการแข่งขันเพื่อทำเวลา แต่การวิ่งถนนส่วนมากระยะที่ไกลที่สุดคือระยะ Full marathon และไม่มีการแข่งขันแบบเป็นทีม จนเมื่อต้นปี 2015 ไปเจอรายการหนึ่งชื่อว่า Thailand North face มีการแข่งขันประเภททีมเป็นคู่ระยะ50 กม.แต่เป็นการแข่งขันเทรล คือการวิ่งบนพื้นดินในป่า จึงตกลงใจลงแข่งงานนี้เมื่อต้นปี 2016 ที่ผ่านมา โดยรวมทีมกับพี่สาวคนสนิท งานนี้นอกจากจะเป็นการวิ่งระยะไกลกว่าที่เคยวิ่ง ยังเป็นการลองวิ่งเทรลครั้งแรกด้วย
การซ้อมวิ่งเทรลระยะ 50 กม.ในตอนนั้นไม่ได้มีการซ้อมอะไรเป็นพิเศษ จะเป็นการซ้อมในรูปแบบเดียวกับระยะ Full marathon แม้จะมีคนเตือนเรื่องการวิ่งขึ้นลงเขา แต่ก็ยังคิดว่า เราเคยวิ่ง Full marathon ที่ลากูน่าภูเก็ต ซึ่งมีเนินเขาตลอดทั้งเส้น คงสามารถผ่านการแข่งขันรายการนี้ไปได้ สรุปว่าพอไปแข่งขันจริง การวิ่งถนนและการวิ่งเทรลมีการใช้ทักษะที่ต่างกันมาก พื้นดินก็มีความขรุขระตลอดมีหลุมเกิดตามธรรมชาติ ทำให้การวิ่งต้องให้ทักษะการทรงตัวและหลบหลีกหลุมตลอด ส่วนเขาที่เจอ ก็ไม่ใช่เนินเขาที่เจอที่ลากูน่าภูเก็ต เขาคือเขาจริงๆ วิ่งไม่ได้ ต้องค่อยไต่ตามโขดหินใช้กล้ามเนื้อหนักมาก สรุปจบระยะวิ่งไกลที่สุดที่เคยวิ่งคือ50 กิโลเมตรที่เวลา 6 ชั่วโมง 35 นาที ความชันสะสม (Elevation gain) ทั้งการแข่งนี้ประมาณ1,100 เมตรนับเป็นการเปิดประตูสู่การวิ่งเทรลครั้งแรกของอุ้ง แต่ลึกๆก็ชอบการวิ่งแข่งบนถนนมากกว่าอยู่ดีค่ะ > <
<ภาพจากงาน TNF 2016 >
แม้จะไม่ชอบการวิ่งเทรลนัก แต่ต้องยอมรับว่ามันก็มีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้เขานึกถึงช่วงตอนที่เราวิ่ง อีกทั้งยังเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการวิ่งจากการวิ่งแต่บนถนน ไปวิ่งชมธรรมชาติบ้าง ดังนั้นหลังจากงาน TNF อุ้งก็ยังมีลงงานเขาประทับช้างเทรล 2016 ระยะ32 กม.กับงานเขาใหญ่เทรล 2016 ระยะฮาล์ฟมาราธอน21.1 กม.ค่ะ
<ภาพจากงานเขาประทับช้าง 2016>
กาลครั้งหนึ่ง กับการวิ่ง Trail 100 กม. **Hongkong Ultra Trail**
ก่อนจะไปสู่การเล่าประสบการณ์ อุ้งขอเกริ่นถึงพื้นฐานการวิ่งของตัวเองก่อนนะคะ
โดยพื้นฐานอุ้งเป็นนักวิ่งทางเรียบบนถนน วิ่งจริงจังมาแล้ว 4 ปี เคยวิ่ง Full marathon (42.195 กม.) มาแล้ว 11 ครั้ง สถิติที่ดีที่สุดในระยะวิ่งนี้คือ 3 ชั่วโมง 32 นาที ที่ Osakamarathon ค่ะ
<ภาพจากงานOsakamarathon 2016>
ส่วนตัวชื่นชอบการวิ่งถนนและการแข่งขันเพื่อทำเวลา แต่การวิ่งถนนส่วนมากระยะที่ไกลที่สุดคือระยะ Full marathon และไม่มีการแข่งขันแบบเป็นทีม จนเมื่อต้นปี 2015 ไปเจอรายการหนึ่งชื่อว่า Thailand North face มีการแข่งขันประเภททีมเป็นคู่ระยะ50 กม.แต่เป็นการแข่งขันเทรล คือการวิ่งบนพื้นดินในป่า จึงตกลงใจลงแข่งงานนี้เมื่อต้นปี 2016 ที่ผ่านมา โดยรวมทีมกับพี่สาวคนสนิท งานนี้นอกจากจะเป็นการวิ่งระยะไกลกว่าที่เคยวิ่ง ยังเป็นการลองวิ่งเทรลครั้งแรกด้วย
การซ้อมวิ่งเทรลระยะ 50 กม.ในตอนนั้นไม่ได้มีการซ้อมอะไรเป็นพิเศษ จะเป็นการซ้อมในรูปแบบเดียวกับระยะ Full marathon แม้จะมีคนเตือนเรื่องการวิ่งขึ้นลงเขา แต่ก็ยังคิดว่า เราเคยวิ่ง Full marathon ที่ลากูน่าภูเก็ต ซึ่งมีเนินเขาตลอดทั้งเส้น คงสามารถผ่านการแข่งขันรายการนี้ไปได้ สรุปว่าพอไปแข่งขันจริง การวิ่งถนนและการวิ่งเทรลมีการใช้ทักษะที่ต่างกันมาก พื้นดินก็มีความขรุขระตลอดมีหลุมเกิดตามธรรมชาติ ทำให้การวิ่งต้องให้ทักษะการทรงตัวและหลบหลีกหลุมตลอด ส่วนเขาที่เจอ ก็ไม่ใช่เนินเขาที่เจอที่ลากูน่าภูเก็ต เขาคือเขาจริงๆ วิ่งไม่ได้ ต้องค่อยไต่ตามโขดหินใช้กล้ามเนื้อหนักมาก สรุปจบระยะวิ่งไกลที่สุดที่เคยวิ่งคือ50 กิโลเมตรที่เวลา 6 ชั่วโมง 35 นาที ความชันสะสม (Elevation gain) ทั้งการแข่งนี้ประมาณ1,100 เมตรนับเป็นการเปิดประตูสู่การวิ่งเทรลครั้งแรกของอุ้ง แต่ลึกๆก็ชอบการวิ่งแข่งบนถนนมากกว่าอยู่ดีค่ะ > <
<ภาพจากงาน TNF 2016 >
แม้จะไม่ชอบการวิ่งเทรลนัก แต่ต้องยอมรับว่ามันก็มีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้เขานึกถึงช่วงตอนที่เราวิ่ง อีกทั้งยังเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการวิ่งจากการวิ่งแต่บนถนน ไปวิ่งชมธรรมชาติบ้าง ดังนั้นหลังจากงาน TNF อุ้งก็ยังมีลงงานเขาประทับช้างเทรล 2016 ระยะ32 กม.กับงานเขาใหญ่เทรล 2016 ระยะฮาล์ฟมาราธอน21.1 กม.ค่ะ
<ภาพจากงานเขาประทับช้าง 2016>