สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ผมใช้ไปเรื่อยๆ
ค่าซ่อมประมาณปีละ 30,000 - 80,000 แล้วแต่โดนตัวไหน
อะไหล่ใหม่บ้าง มือสองบ้าง รื้อซ่อมบ้าง
ค่าซ่อมแต่ละปี เท่ากับค่าผ่อน 1 - 2 งวด
เลยไม่รู้จะไปซื้อคันใหม่ทำไม มันก็ยังขับได้ดี ไม่เคยตายกลางทาง
ขับแล้วรู้สึกอาการไม่ปกติ ผมเอาเข้าเช็คเลยครับ
ปล่อยอาการไว้ มันจะลาม
ปัญหาคือ มีรถคันเดียว เปลี่ยน
มีรถหลายคัน จอด 2 สัปดาห์ - 2 เดือน รออะไหล่ รอซ่อม ได้สบายๆ ฉันไม่แคร์ ก็ใช้ต่อไป
อยากได้รุ่นใหม่ เปลี่ยน
ค่าซ่อมประมาณปีละ 30,000 - 80,000 แล้วแต่โดนตัวไหน
อะไหล่ใหม่บ้าง มือสองบ้าง รื้อซ่อมบ้าง
ค่าซ่อมแต่ละปี เท่ากับค่าผ่อน 1 - 2 งวด
เลยไม่รู้จะไปซื้อคันใหม่ทำไม มันก็ยังขับได้ดี ไม่เคยตายกลางทาง
ขับแล้วรู้สึกอาการไม่ปกติ ผมเอาเข้าเช็คเลยครับ
ปล่อยอาการไว้ มันจะลาม
ปัญหาคือ มีรถคันเดียว เปลี่ยน
มีรถหลายคัน จอด 2 สัปดาห์ - 2 เดือน รออะไหล่ รอซ่อม ได้สบายๆ ฉันไม่แคร์ ก็ใช้ต่อไป
อยากได้รุ่นใหม่ เปลี่ยน
hippe ถูกใจ, as580 ถูกใจ, ปลามันจะกินผักคะน้าผัดไทย ถูกใจ, fujimon ถูกใจ, ผมก็ไม่รู้ใช้ตั้งว่าชื่ออะไรดี ถูกใจ, B16a ถูกใจ, นักเลงคีย์บอร์ด Rank C# ถูกใจ, ซาตานกลับใจ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2259001 ถูกใจ, KuP ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
ถามเจ้าของ BMW... หมด BSI แล้ว ทำยังไงกันต่อครับ
เพื่อนๆ พี่ๆ ทำยังไงกันต่อหรอครับ ช่วยกันตอบหน่อยนะครับ ผมคิดว่าน่าจะช่วยคนที่กำลังจะซื้อ หรือ เจ้าของ BMW กันหลายคนเลยทีเดียว
ปัญหาตอนนี้ที่มองคือจะเข้าไปเปลี่ยนอะไหล่พวกที่ต้องเปลี่ยนตามระยะ (กรองต่างๆ น้ำมันเครื่อง) ที่ไหนดี
ตัวเลือกของผมตอนนี้
1. เข้าศูนย์เหมือนเดิม แต่ถ้าเจอแจ็คพอตเปลี่ยนของแพงมากๆ คงจะมองหารถรุ่นอื่นไว้ด้วย
2. เข้าอู่นอก ให้อู่จัดการหาอะไหล่ให้หมดเลย * เพื่อนๆพี่ๆ มีวิธีการเลือกอู่ยังไงหรอครับ
3. หาอะไหล่เอง เอาไปให้อู่ใส่
* ปกติซื้ออะไหล่กันยังไงครับ หาในสั่งอินเตอเน็ตหรือไปแถววัดโสมอยู่ครับ
* ถ้าเป็นอะไหล่ fast fit พวกกรอง น้ำมันเครื่องนี่ ปกติให้อู่ใช้อะไหล่ของอู่เลย หรือว่า หาข้างนอกเองแล้วให้อู่ใส่ได้ครับ