ทุกวันนี้อยู่กับคนแก่ ชีวิตมีแต่เรื่องเครียด มีทุกข์มากกว่าสุข

ทุกวันนี้อยู่ดูแลคนแก่ที่บ้านอย่างเดียวทำมาตั้งแต่เรียนมหาลัยยันจบ ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่งมีรายได้จากคนในครอบครัว อายุ20กลางๆแต่ก่อนดูแลแค่ย่าคนเดียวที่ป่วยผ่าหลังลุกไม่ขึ้นเหมือนจะติดเตียงแต่ก็พอรักษาหายก็พอขยับตัวได้บ้างแล้ว จนยายเราไปฉีดวัคซีนแล้วเริ่มป่วย แม่เราก็พามาอยู่ด้วย ก็โอเคดูแลได้ทั้งคู่พาไปหาหมอตามนัดจัดข้าวปลาอาหารให้ แต่หลังมานี่ก็บันเทิงอยู่ด้วยกันดีๆแค่วันแรกหลังจากนั้นก็ทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ป้าเลยมารับไปดูแลให้ ยายเขาก็โทรมาคุยกันว่าป้าดูแลยายดีกว่าย่าอย่างนั้นอย่างนี้

ย่าเราก็มาเปรียบเทียบกับเราว่าเราไม่เอาอกเอาใจ ลูกหลานไม่สนใจ วันๆลากเก้าอี้ไปตั้งหน้าบ้านชวนเพื่อนบ้านที่เดินผ่านมาคุยด้วยกัน เอาเรื่องในบ้านไปพูดว่าเราจะดูแลแต่ย่าไม่ดูแลยายเพราะยายไม่ได้เลี้ยงเรา

พ่อกับแม่ได้ยินก็ไม่ค่อยพอใจคุยกับย่าให้แล้ว พักหลังเรากับย่าเลยห่างๆกัน ออกไปข้างนอกไม่ต้องห่วงใคร ไม่ต้องนั่งเอาอกเอาใจใคร แต่ยังจัดยากับพาไปหาหมออยู่ตอนนั้นมันมีความสุขมาก กระทั่งพอไม่มีใครดูแลเรื่องยาเรื่องอาหารแบบเข้มงวดมาก เบาหวานความดันโรคที่เขาเป็นก็หนักขึ้น น้ำตาลสูงมาก ไตเริ่มเสื่อม อาจถึงต้องฉีดอินซูลินกับฟอกไต พ่อเลยให้เรามาดูแลย่าที่บ้านเพราะเขารับไม่ได้ที่ย่าเอาไปด่ากับคนข้างนอกว่าที่บ้านไม่มีให้กินจนต้องกินข้าวเหนียวคลุกเกลือกับงาอย่างเดียวแล้วจะปล่อยเขาตาย

ทุกวันนี้เราหมดใจกับเขาไปแล้วที่ทำที่ดูแลอยู่ก็เพราะนึกถึงแต่ความสุขของสมัยก่อน ถ้าเราปล่อยให้เขาอยู่ตามมีตามเกิดเราก็ไม่มีความสุขเลย แต่พอกลับมาอยู่ด้วยกันเราก็เป็นทุกข์มากเหมือนอยู่ในคุก เหมือนเป็นคนใช้มากกว่าหลาน

เรายังทำหน้าที่ของเราตามเดิมทำงานบ้าน ทำงานเอกสารที่ญาติให้มาทำ คุยกับย่าเท่าที่จำเป็น เขาชอบพูดเสียดสี โอ้อวดกับคนอื่นไปทั่วว่ามีอะไรในบ้านบ้าง ราคาเท่านั้นเท่านี้ ลูกชายซื้อให้ เน้นพูดเรื่องราคามากเป็นพิเศษ ชอบให้คนเข้ามาในบ้านมาคุยด้วย แขกจะหยิบจะจับอะไรก็ไม่สน แถวบ้านเรามีอพาร์ทเมนท์รายเดือนคนเช่าผัดเปลี่ยนประจำ ย่าเราก็จะพูดซ้ำๆซากๆว่าอะไรในบ้านมีราคา เราห่วงความปลอดภัยมากแต่เตือนยังไงก็ไม่ฟัง บอกว่าเราไม่ยอมคุยด้วยเองเขาเลยต้องไปหาคนคุยด้วย

สังเกตดูเริ่มจะไม่มีใครอยากคุยกับย่าแล้ว เพื่อนบ้านก็เดินอ้อมบ้านเราไปไกลเป็นซอยแค่เพราะเห็นย่าเรานั่งรถเข็นอยู่ เคยจ้างคนมาอยู่ด้วยวันละ400เขายังลาออกไปเป็นแม่บ้านหมู่บ้านทั้งๆที่รายได้น้อยกว่าเลย

นับวันยิ่งอยู่ยาก เราไม่ได้ตามใจเขาทุกอย่างออกจะขัดทุกเรื่องเลยด้วยซ้ำ แต่พอเห็นคนที่เลี้ยงเรามาไม่มีใครแยแสเราก็อ่อนใจสงสารกลับมาหาเขาตลอดเพราะเขาบอกอยากตายๆอยู่ทุกวัน แต่เจ็บป่วยนิดเดียวต้องไปโรงบาลทันที เราเป็นคนเดียวจริงๆที่ใช้ชีวิตแบบนี้ไม่มีใครมาผลัดเวรค่ะ

คำถามคือเราจะใช้ขีวิตยังไงให้มีความสุขได้บ้าง เราจะจัดการทุกอย่างให้ลงตัวแล้วมีชีวิตเป็นของตัวเองได้ยังไง

*เคยมีคนแนะนำให้หาสัตว์ให้คนแก่เลี้ยง เราก็รับแมวมาหลายตัวหวังว่าเขาจะอยู่กับแมวแล้วมีความสุข สุดท้ายภาระก็ตกที่เราเพราะแมวไม่เข้าใกล้ย่าเลย 

*เราไม่มีกำลังใจจากใครเลย ญาติๆไม่ค่อยมาเยี่ยมที่บ้านด้วยซ้ำ เราก็หมดความอยากในการคุยกับคนอื่นรอบตัวไปหมดเพราะเรารู้สึกหมดแรงไปหมด ส่วนแม่ของเราก็ไม่สนใจเราตั้งแต่ที่เราเข้าคณะที่เขาอยากให้เรียนไม่ได้ ทุกวันนี้เวลาเราเปลี่ยนผ้าอ้อมวัดความดันให้ย่า แม่ก็จะคอยพูดว่าถ้าเข้าคณะนั้นได้ชีวิตเราคงไม่เป็นอย่างนี้หรอก เราเลือกแบบนั้นไปนี่คือผลจากที่ไม่ยอมฟังเขา แม่บอกว่าจะพูดดีด้วยกับเราถ้าเรามีหลานให้ คือเราเป็นลูกคนเดียวด้วยแต่วันๆอยู่แต่บ้านแถมชีวิตเป็นแบบนี้ต่อให้ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินก็คงไม่มีใครเอาหรอก 

เรายังไม่อยากเป็นตัวเองเลย แล้วใครจะอยากใช้ชีวิตแบบนี้กับเรา ทุกวันนี้เราภาวนาแค่ให้เขาตายไปแบบไม่เจ็บไม่ปวดทุกๆวันเลย ต่อให้เขาจะตายไปพรุ่งนี้เราก็ไม่เสียดายจะไม่ระลึกว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรให้เขาเพราะทุ่มเทให้ไปเต็มที่สุดๆจนตัวเองจะไม่ไหวแล้ว
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
จขกท ไม่ควรรับภาระนี้อีกต่อไป เพราะ

1. งานนี้ความเครียดสูง มันจะดูดพลังงานหนูไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเบื่อ เกลียดชัง ไม่อยากเข้าใกล้ในที่สุด
2. หนูเสียโอกาส แทนที่จะได้ออกไปทำงานสร้างอนาคตให้ตัวเอง  ลองคิดดูว่า หากหนูไปเริ่มงานเอาตอนอายุปลายยี่สิบ เพื่อนรุ่นเดียวกันเขาไปปถึงระดับบริหารกันหมดแล้ว และในวันหน้าหากอายุเกินสามสิบ ก็ไม่ต้องหวังว่าจะไปสมัครงานที่ไหนถ้าไม่มีประสบการณ์ และไม่มีคนฝากให้

ลูก ๆ ควรลงขันกันจ้างพยาบาลมาดูแลย่า ยาย ไม่ใช่มาตัดอนาคตลูกแบบนี้  ถ้าพ่อแม่ยังคิดว่าหนูควรทำหน้าที่นี้ต่อไปละก็  หนูควรออกจากบ้านไปอยู่หอ และหางานทำ
ความคิดเห็นที่ 7
ออกไปหางานทำ หาสังคมให้เหมาะกับวัยค่ะ
อย่าเอาอนาคตมาทิ้งกับการดูแลคนแก่ เครียดมากนะคะ

ตอนนี้ครอบครัวพี่ช่วยกันดูแลแม่ซึ่งมีภาวะสมองเสื่อม dementia พูดไปเรื่อย บางทีก็ด่าแหลก แต่ความทรงจำไม่หาย เหมือนย่าน้องอ่ะค่ะ
นี่ช่วยกันและกำลังจ้างคนจากศูนย์มายังเครียด เหนื่อยมากเลย
น้องรีบไปทำงานแล้วลงขันจ้างคนมาช่วยดูแลค่ะ

รีบหาทางไปหางานทำ ไม่งั้นพอถึงวันที่เราอายุมากกว่านี้ ประสบการณ์ไม่มี งานเริ่มหายาก เงินไม่มี ไม่เคยใช้ชีวิต มันจะเครียดและเศร้านะคะ แล้วพอเราแก่ ไม่มีเงิน ไม่มีสังคม ชีวิตตกนรกเลยนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่