ผมทำงานหนักมาก จนแฟนมาบอกตรงๆว่าผมไม่มีเวลาให้ ทะเลาะกัน 3-4 วันแล้ว

ขอลงรายละเอียดเลยนะครับ ผมทำงานกลางคืนทุกวัน งานที่ทำจะเป็น เล่นดนตรีกลางคืนตามร้านอาหาร ขอย้อนกลับไปตอนเริ่มงานแรกๆ ผมเพิ่งย้ายมาอยู่บ้านของพ่อที่ต่างจังหวัด ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างทำให้ผมต้องย้ายมาที่นี่ บวกกับผมไม่ได้เรียนต่อ จบแค่ ม.3 ผมเลยตัดสินใจที่จะหางานทำ แล้วป้าผมก็รู้จักกับเจ้าของร้านหมูกระทะ เขาเลยฝากผมให้เข้าไปทำงานร้องเพลงเล่นดนตรีที่นั่น โดยปกติแล้ว ผมจะทำทุกวัน อาทิตย์ และ จันทร์ ตั้งแต่ 18:00 - 21:00 ส่วนวันที่เหลือก็คือว่างงานเพราะด้วยความที่เพิ่งย้ายมาอยู่ก็ยังไม่รู้ว่า มีร้านไหนรับนักร้องอีกไหม วันที่ไม่ได้ทำงานก็ใช้ชีวิตตามปกติ แกะเพลงใหม่ๆ ซ้อมเพลงใหม่ๆ ตอนกลางคืนก็โทรคุยกับแฟนปกติ ผมกับแฟนอยู่คนละจังหวัดกัน ตามจริงแล้วปัจจุบันจะต้องอยู่ใกล้แฟน แต่ด้วยเพราะปัญหาทางครอบครัวผมเลยต้องมาอยู่นี่สักระยะก่อน สำหรับท่านใดที่อ่านมาถึงจุดนี้แล้วยังสงสัยว่า แล้วเรื่องอะไรถึงทำให้ ทะเลาะกัน
  พอผมร้องที่ร้านหมูกระทะได้ 1 เดือน และมีลูกค้าเสนอให้ผมไปเล่นร้านรุ่นพี่เขา ผมก็ยินยอมที่จะไปเล่น และตารางงานก็เพิ่มเข้ามา ร้านนี้จะเป็นร้านเหล้านั่งชิว มีดนตรีสด แต่ร้านเพิ่งเปิดได้ 2 เดือน เลยยังหานักร้องไม่ค่อยได้ ตอนที่คุยกับเจ้าของร้าน เขาจะให้ผมเล่น ทุกวัน อังคาร กับ พฤหัส และวันที่เหลือของร้านนี้ก็ว่าง แต่จริงๆจะมีพี่ๆที่มาเป็นวง เขาจะเล่นทุกวัน จันทร์ กับ พุธ ส่วนวันที่เหลือก็ ไม่มีดนตรีสด พอหลังจากผมเริ่มงานวันนั้นที่ร้านนี้ พี่เจ้าของร้านเลยขอให้ผมมาร้องทุกวันที่ว่างได้ไหม เพราะพี่เจ้าของร้านอยากให้มีดนตรีสดทุกวัน ผมเลยรับข้อเสนอ เพราะเอามาบวกลบกับรายได้แล้ว ก็ถือว่าคุ้มเลยครับ ร้านนี้ผมจะร้อง ได้ตั้งแต่ 19:00 - 23:00 เจ้าของร้านจะให้ผมเลือกเองว่าจะเริ่มเวลาไหน แต่เวลาเริ่มไม่ควรเกิน 2 ทุ่ม ด้วยความที่บ้านมีรถยนต์คันเดียว ครอบครัวผมก็จะใช้รถคันนี้ร่วมกัน พ่อกับแม่ทำงานก็จะต้องขับคันนี้ไป และวันไหนที่ผมต้องไปร้องเพลง ผมก็จะต้องรอรถคันนี้กลับมาที่บ้าน ถึงจะออกไปทำงานได้ ซึ่งปกติแล้วพ่อกับแม่ กลับมาถึง 1 ทุ่มโดยประมาณ ผมใช้เวลาเดินทางจากบ้านไปร้าน 25 นาที โดยประมาณ (แล้วแต่วันนะครับ วันไหนขับเร็วก็ไวกว่านั้น) ไปถึงร้านก็จัดเตรียมของพร้อมร้อง ทุกวันที่จะร้องเลยกลายเป็น 2 ทุ่ม ผมก็บอกแฟนตลอดว่า ได้งานเพิ่มนะ กลับดึกหน่อยนะ รอได้ใช่ไหม เขาก็จะคอยให้กำลังใจผมทุกครั้งที่ผมไปทำงาน จนผมเริ่มสนิทกับพี่เจ้าของร้าน พี่พ่อครัว น้องเด็กเสิร์ฟ โดยปกติแล้วผมร้องเพลงเสร็จก็จะนั่งพักทานข้าวที่ร้านเป็นประจำ กลับถึงบ้านไม่เกินเที่ยงคืน นั่นแค่ช่วงแรกนะครับ พอหลังๆมานี่ ผมรู้สึกกับสถานที่แห่งนี้เหมือนมันไม่ได้เป็นแค่ที่ทำงาน มันเป็นเปรียบเสมือนเซฟโซนจริงๆ เพราะพี่เจ้าของร้าน พี่พ่อครัว น้องเด็กเสิร์ฟ ทุกคนคือเป็นกันเองทั้งหมด ไม่ใช่แค่สำหรับทุกคนที่ทำงานในร้าน แต่รวมไปถึงลูกค้าด้วยเช่นกัน ช่วงนี้ผมไม่ได้เป็นแค่นักร้องในร้านอย่างเดียว ผมเป็นทุกอย่างให้ร้านแล้ว ยกเว้นพ่อครัว ไม่ว่าจะเป็นการต้อนรับลูกค้า การรับออเดอร์ลูกค้า เสิร์ฟอาหารเหล้าเบียร์ให้ลูกค้า หรือแท้กระทั่งการเช็คบิลให้ลูกค้า เพราะคนที่ทำงานที่นี่อยู่กันแบบ พี่น้องจริงๆเลย เจ้านายไม่เคยกดดัน ยอมให้พนักงานทุกคนในร้าน เช็คบิล หรือ เกี่ยวข้องกับเรื่องการเงิน เพราะต่างคนต่างไว้ใจกัน แต่ก็ไม่เสมอไป ถ้าวันไหนไม่ใช่คิวร้องที่ร้าน ผมก็จะมาช่วยที่ร้านประจำ ถามว่าผมได้ค่าแรงเพิ่มไหม บอกเลยครับว่าไม่เคยได้ค่าแรงจากส่วนตรงนี้เลย ได้เฉพาะแค่ค่าร้องเพลงอย่างเดียว แต่ผมทำไปผมไม่ได้หวังผลประโยชน์อะไร ผมแค่อยากช่วยน้องเด็กเสิร์ฟ เพราะในร้านมีเด็กเสิร์ฟแค่คนเดียว แล้วเพิ่งมาทำงานใหม่ด้วย โดยปกติแล้วพ่อครัวจะเป็นคนทำทุกอย่างในร้านเลย สถานที่แห่งเลยทำให้ผมเกิดความผูกพันกับที่แห่งนี้ แล้วผมก็กลับบ้าน เกือบเช้าทุกวัน (แอบมีนั่งดื่มกับพี่ๆลูกค้าบ้างกับพี่เจ้าของร้านบ้าง) ทำแบบนี้มาจะเกือบเดือนแล้ว จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมทะเลาะกับแฟน แต่จะบอกก่อนว่าตอนพักจากร้องเพลงผมก็จะทักหาแฟนตลอดว่า พักแล้วนะ กำลังจะกินข้าวนะ กินเสร็จเดี๋ยวขึ้นไปร้องต่อ และจะบอกเขาตลอดว่า วันนี้ต้องกลับดึกหน่อยนะ เพราะว่าลูกค้าเยอะ เด็กเสิร์ฟมีคนเดียว ขอช่วยงานที่ร้านก่อน หรือบางทียังอยากอยู่ดื่มก่อนยังไม่อยากกลับก็จะบอกเขาตรงๆ เลยทำให้ผมห่างกับแฟนมากๆ แฟนเข้าใจผมไหม แฟนเข้าใจผมนะ จนเขาบอกกับผมตรงๆว่า รอได้นะ แต่ให้รอไปตลอดก็ไม่ไหวอ่ะ ผมเลยมาหนักใจ ด้วยความที่ผมก็อยากช่วยที่ร้าน แฟนก็อยากอยู่ด้วย แต่มันต้องเลือกอย่างใดอย่างนึง ก่อนจะทะเลาะกัน ผมก็คิดนะว่า นี่เราละเลยแฟนมากไปไหม กลับมาบ้านแต่ละทีกว่าผมจะตื่นมาก็บ่ายไปแล้ว เขาเองก็มีเรียนที่มหาลัยเกือบทุกวัน จนทำให้เวลาของเรา 2 คน จากเคยตรงกันกลับกลายเป็นเวลาไม่ตรงกัน

เรื่องราวทั้งหมดก็จะประมาณนี้ครับ อาจจะยาวไปหน่อย แต่ผมก็อยากเจาะลึกให้ทุกคนที่อ่านได้เข้าใจตัวผมด้วย

คำถามหลักจริงๆนะครับ ผมควรจะทำยังไงให้ความสัมพันธ์ของเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ถ้าเท่าที่ผมคิดได้การแก้ปัญหาคือ ร้องเพลงทานข้าวเสร็จกลับบ้านเลย แต่ผมก็ไม่อยากเห็นแก่ตัวเพราะแต่เดิมทีผมไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวเลย ผมไม่อยากให้เจ้าของร้านเขาคิดกับผมว่า แต่ก่อนยังช่วยพี่เก็บร้านได้ ทำไมเดี๋ยวนี้รับเงินแล้วรีบกลับ นั่นแหละครับผมควรตะทำอย่างไรดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่