สวัสดีครับ : ผมอายุ 24 ปี เป็นผู้ป่วยวัณโรค (ต่อมน้ำเหลือง) ครับ

ก่อนที่ผมจะทราบว่าตัวเองเป็นโรคนี้ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ผมรู้สึกปวดท้องบีบๆบริเวณช่วงท้องด้านล่าง และมีไข้ร่วมด้วยตลอดเวลา อาการปวดจะไม่ได้มาๆหายๆ นะครับ แต่จะปวดอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถที่จะนอนหลับได้เลยสักคืน และทุกครั้งที่ทานอะไรไปได้สักพักก็จะรู้สึกแน่นท้องมาก ปวดบีบขึ้นมาอีก ทำให้ทานข้าวได้น้อยลง แล้วน้ำหนักก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ จาก 56 g เหลือ 51 g (น้ำหนักก่อนไปพบแพทย์) หลังจากนั้นผมตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน ผลเอกซเรย์ออกมา คุณหมอแจ้งว่าเป็นลำไส้ใหญ่อักเสบ และให้ยาฆ่าเชื้อมาทาน ผ่านไป 1 สัปดาห์ อาการก็ยังไม่ดีขึ้นเลยสักนิดเดียวครับ

ผมโทรเล่าอาการให้คุณแม่ฟัง (ปกติผมทำงานที่กรุงเทพฯคนเดียว) แกเลยบอกให้ผมรีบกลับมาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านเป็นอะไรจะได้มีคนดูแล

แล้วผมก็กลับถึงบ้านภายในวันถัดไป คุณแม่ก็พาไปตรวจที่โรงพยาบาลรัฐครับ วันนั้นน้ำหนักสุทธิ 49.8 g มีแต่คนทักว่าผอมลงเยอะมาก ตาก็คล้ำเพราะเกิดจากการที่เราไม่ได้นอนเลยสักคืนเนื่องจากอาการปวดท้อง ( ผมหมดความมั่นใจมากๆเลยครับ) สรุปคือ คุณหมอให้ admit 12 วัน แต่พึ่งจะทราบว่าเป็นวัณโรคในวันที่สามหลังจากนอนโรงพยาบาล และคุณหมอก็แจ้งว่า อาการที่ทำให้เราปวดท้องมันเกิดจากวัณโรค แล้วก็ให้ย่าฆ่าเชื้อ เป็นเวลาต่อเนื่องอีกห้าวัน คุณหมอก็ตรวจหน้าท้อง โดยการทำ CT scan พบว่ามีต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณหน้าท้องค่อนข้างเยอะ (บริเวณลำไส้) ส่วนปอดและอวัยวะอื่นๆไม่มีอะไร และได้ทำการผ่าตัดชิ้นเนื้อจุดที่มีต่อมน้ำเหลืองขึ้นเป็นก้อนเล็กๆตรงคอ เพื่อทำการวินิจฉัยเพิ่มเติม ( รอผลตรวจประมาณ 2 สัปดาห์) ผ่าตัดเสร็จคุณหมอก็ให้กลับบ้านได้พร้อมให้ยามาทานครับ  ก่อนกลับบ้านผมแอบชั่งน้ำหนัก จาก 49.8 g เหลือ 45.5 g ผมตกใจมากกับน้ำหนักและสภาพตัวเอง ผมจะมีโอกาสกลับมามีสุขภาพร่างกายที่ดูดีและไม่ผอมแบบนี้ได้ไหมครับ ( ผมสูง 172 ซม ) ตอนนี้ดูผอม โทรมลงเยอะมากๆเลยครับ ผมไม่กล้าออกไปเจอผู้คนภายนอกเลย ยิ่งผมเป็นคนผิวขาว ใต้ตายิ่งคล้ำเห็นได้ชัดมากๆเลยครับ