ข้อคิดจากผู้ว่าฯ ผมมองว่า สอนแม้กระทั่งคนหยุดเป็นนายกฯ ชั่วคราวได้

วันนี้ ผู้ว่าฯ พูดถึง รถดูดเลน ที่ตั้งใจนำมาใช้แทนคนลอกท่อ ท่านจึงไปดูของที่มีอยู่ในกทม. เผื่อนำมาใช่ได้
แต่ปรากฏว่า รถดูดเลนนี้ มีอายุ 20 ปีแล้ว ต้องใช้คน 7 คนในการควบคุมรถให้ดูดเลน อีกทั้งหัวดูดก็เริ่มด้อยประสิทธิภาพแล้ว

จึงมีแนวคิดที่จะปรับเปลี่ยน แต่ก็มีกระแสเสียดาย เพราะ 20 ปีก่อน ก็ลงทุนซื้อมาใช้ ท่านจึงพูดข้อคิด
ถึงการเสียดายในสิ่งที่ลงทุนลงแรงไป เลยไม่กล้าละทิ้ง แม้การปล่อยให้สิ่งนั้นทำงานต่อ จะด้อยประสิทธิภาพเพียงใด

ท่านยกตัวอย่าง เหมือนซื้อตั๋วเข้าไปดูหนัง 100 บาท (คงเป็นสมัยท่านหนุ่มๆ ดูหนังในโรงตั๋วแค่ 100 บาท
แต่ตอนนี้ตั๋วหนัง 300 กว่าบาทแล้ว) ปรากฏว่า หนังไม่สนุกเลย แต่บางคนก็ยังคงดูต่อ เพราะเสียดาย
ค่าตั๋วหลักร้อยที่ลงทุนซื้อไป แต่ตามหลักแล้ว ควรเลิกดูแล้วเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่คุ้มค่ากว่า เพราะเวลามีค่า

ผมว่า ข้อคิดนี้ เป็นแนวทางปฏิบัติให้คนได้ทุกๆ คน รวมถึงคนที่ศาลสั่งหยุดเป็นนายกฯ ชั่วคราวด้วย ว่าในทางการเมืองนั้น
มัน 8 ปี ถือว่า หมดความชอบธรรมในการอยู่ต่อแล้ว แต่การคิดดื้ออยู่ต่อ อาจเพราะเสียดายอำนาจ และพรรคพวกลิ้วล้อของตน
ว่าจะถูกโยกย้ายจัดการ เพราะไม่ใช่ทีมงานของอีกฝ่าย เช่น การโยกย้ายตำรวจ ทหาร ที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆ นี้

แต่มันอาจต้องแลกกับชื่อเสียงที่ไม่เหลือชิ้นดี หมดสิ้นซึ่งการยกย่องใดๆ มีเสียงผลักไสไล่ส่งไปแทน ผมก็เลยฝากข้อคิดนี้ไว้
ให้พิจารณานะครับ ซึ่งผู้ว่าท่านไม่ได้บอกแบบนี้ แต่ผมคิดต่อยอดได้เองจึงมาบอกแทน เพราะหากตัดสินใจลาออกตอนนี้ ผม
ว่ายังพอมีเสียงยกย่องว่าเป็นสุภาพบุรุษหลงเหลือไว้อยู่นะครับ

https://www.youtube.com/watch?v=GR1K7mM3NGo
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่