ประมาณว่า
> ดิวกับโรงเรียนกีฬา 1 แห่ง
> รับเฉพาะเด็กสูง 180+ ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป (ขึ้น ม.4)
> เข้าสู่ระบบพัฒนาพื้นฐานวอลเลย์บอล กับทีมโค้ชทีมชาติ ปูพื้นฐาน เวทเทรนนิ่ง โภชนาการ
> เรียนหนังสือด้วย ม.4 - ม.6 + พาเด็กไปแข่งรายการต่างๆในนามโรงเรียนด้วย
> พอถึงช่วงอายุที่สามารถเล่นลีกได้ ก็เสนอตัวผู้เล่นให้ทีมสโมสร ซื้อตัวไปเข้าทีม
> เด็กที่ฝีมือดีจากลีก ก็ดึงเข้าทีมชาติต่อ
ข้อดีคือ
1.เด็กสูงได้ถูกพัฒนาพื้นฐานจากทีมโค้ชทีมชาติโดยตรงเป็นแนวทางเดียวกัน และมีทักษะอยู่ในระดับที่ทีมชาติฝึก
ส่วนเด็กคนไหนจะได้มากได้น้อยก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล
2.สโมสรต่างๆได้เด็กสูงที่ถูกพัฒนามาแล้ว เอามาต่อยอดทำทีม ไม่ต้องไปวิ่งเต้นหาเด็กเอง
(เพราะสโมสรถ้าหาเด็กเองก็จะได้แต่เด็กเตี้ยที่มองว่าคล่องตัวกว่าเด็กสูงมาอยู่ในทีมอยู่ดี สุดท้ายมาต่อยอดในทีมชาติก็ลำบาก)
*** เรามองว่าให้อารมณ์ประมาณจีน เอาเด็กมาเข้าโรงฝึกเลยพอเด็กโตขึ้นพอที่จะเข้าลีกได้ก็ส่งไปหาทีมสโมสรอยู่ต่อแล้วก็ดึงกลับมาเข้าทีมชาติ
*** การที่เราใช้แนวทางดึงนักกีฬาจากลีกมาเข้าทีมชาติแบบญี่ปุ่นเราว่ามันไม่ค่อยโอ เพราะญี่ปุ่น เด็กเขามีพื้นฐานดีเรียกว่าเสมอๆกันทั้งประเทศ โรงเรียนมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการพัฒนาเด็กมาตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถม มัธยม (ไม่ใช่เฉพาะวอลเลย์แต่ทุกชนิดกีฬา) อะไรแบบนี้มันเลยเอื้อต่อสมาคมบ้านเขาในการดึงเข้ามาทีมชาติมากกว่าเรา
เราฝันมาตลอดว่าถ้าได้เป็นนายกประเทศวอลเลย์บอล จะสั่งให้กระทรวงศึกษา ลงงบพัฒนา โรงยิมทุกโรงเรียนให้ได้มาตรฐานแบบญี่ปุ่น เสมอกัน เพื่อเด็กๆทุกคนค่ะ
คิดขำๆ รอบที่ 1 ล้าน ทำไม สมค.ไม่ดิวกับโรงเรียนกีฬาสักแห่ง ตั้งโครงการปูพื้นฐานพัฒนาเด็กสูงส่งลีกแล้วค่อยคัดเข้าทีมชาติ
> ดิวกับโรงเรียนกีฬา 1 แห่ง
> รับเฉพาะเด็กสูง 180+ ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป (ขึ้น ม.4)
> เข้าสู่ระบบพัฒนาพื้นฐานวอลเลย์บอล กับทีมโค้ชทีมชาติ ปูพื้นฐาน เวทเทรนนิ่ง โภชนาการ
> เรียนหนังสือด้วย ม.4 - ม.6 + พาเด็กไปแข่งรายการต่างๆในนามโรงเรียนด้วย
> พอถึงช่วงอายุที่สามารถเล่นลีกได้ ก็เสนอตัวผู้เล่นให้ทีมสโมสร ซื้อตัวไปเข้าทีม
> เด็กที่ฝีมือดีจากลีก ก็ดึงเข้าทีมชาติต่อ
ข้อดีคือ
1.เด็กสูงได้ถูกพัฒนาพื้นฐานจากทีมโค้ชทีมชาติโดยตรงเป็นแนวทางเดียวกัน และมีทักษะอยู่ในระดับที่ทีมชาติฝึก
ส่วนเด็กคนไหนจะได้มากได้น้อยก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล
2.สโมสรต่างๆได้เด็กสูงที่ถูกพัฒนามาแล้ว เอามาต่อยอดทำทีม ไม่ต้องไปวิ่งเต้นหาเด็กเอง
(เพราะสโมสรถ้าหาเด็กเองก็จะได้แต่เด็กเตี้ยที่มองว่าคล่องตัวกว่าเด็กสูงมาอยู่ในทีมอยู่ดี สุดท้ายมาต่อยอดในทีมชาติก็ลำบาก)
*** เรามองว่าให้อารมณ์ประมาณจีน เอาเด็กมาเข้าโรงฝึกเลยพอเด็กโตขึ้นพอที่จะเข้าลีกได้ก็ส่งไปหาทีมสโมสรอยู่ต่อแล้วก็ดึงกลับมาเข้าทีมชาติ
*** การที่เราใช้แนวทางดึงนักกีฬาจากลีกมาเข้าทีมชาติแบบญี่ปุ่นเราว่ามันไม่ค่อยโอ เพราะญี่ปุ่น เด็กเขามีพื้นฐานดีเรียกว่าเสมอๆกันทั้งประเทศ โรงเรียนมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการพัฒนาเด็กมาตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถม มัธยม (ไม่ใช่เฉพาะวอลเลย์แต่ทุกชนิดกีฬา) อะไรแบบนี้มันเลยเอื้อต่อสมาคมบ้านเขาในการดึงเข้ามาทีมชาติมากกว่าเรา
เราฝันมาตลอดว่าถ้าได้เป็นนายกประเทศวอลเลย์บอล จะสั่งให้กระทรวงศึกษา ลงงบพัฒนา โรงยิมทุกโรงเรียนให้ได้มาตรฐานแบบญี่ปุ่น เสมอกัน เพื่อเด็กๆทุกคนค่ะ