สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เราอย่ามองว่าภาษาไหนๆเป็นภาษาที่ตลกเพียงเพราะมันไม่ใช่ภาษาที่เราร่ำเรียนมาเลยครับ
คนไทยชอบบางทีชอบเอาบรรทัดฐานของตนไปเปรียบ
เช่นว่า
พอมีคนที่ร่ำเรียนภาษาอังกฤษจนช่ำชอง สำเนียงออกไปทางฝรั่งจริงๆ
ไปหาว่าเค้ากระแดะ
การพูดภาษาได้โดยเฉพาะภาษาทึ่ไม่ได้ใช้งานมาแต่กำเนิด
แถมออกเสียงสำเนียงให้คล้ายคลึงกับเจ้าของภาษา
เค้าต้องเรียกว่าเก่งสิ
จะเรียกเค้ากระแดะได้ยังไงกัน
เช่นกันถ้าหากเราจะไปเรียนภาษาต่างประเทศ
เช่นจีน เกาหลี ญี่ปุ่น หรือเวียดนามเอง เป้าหมายของเราก็คือออกเสียงให้ได้สำเนียงของเขาให้มักที่สุด
ยิ่งภาษาที่มีเสียงคลับคล้ายกัน ยิ่งควรฝึกฝนออกเสียงให้ถูกต้อง
เช่น 灾 (Zāi) “ใจ” ภัยพิบัติ กะ 摘 (Zhāi) “ใจ” เลือก
ภาษาไทย มันคือ ใจ กะ ใจ
แต่ภาษาจีนไม่ ออกเสียงคนละอย่างกัน ดูได้จากตัวอักษรพินอินหรือภาษาอังกฤษที่กำกับไว้
เราชื่นชมฝรั่งที่พูดภาษาไทยได้ชัดถ้อยชัดคำเพียงใด
การพูดภาษาต่างประเทศที่ชัดเจนคล้ายคลึงกับเจ้าของภาษามีแต่เค้าจะชมเชย
ถ้าหากเราเปิดฟังภาษาเวียดนามครั้งแรก
ความไม่เคยชินของเราจะปฏิเสธมันออกไป แล้วก็พลอยหาว่าภาษานั้นๆแปลก
เค้าก็คิดเช่นกันกับเรา ทำไมภาษาไทยนั้นก็แปลกเหมือนกัน
เอาง่ายๆภาษาต่างประเทศมันดูหักดิบโสดประสาทเกินไป
งั้นเอาเป็นว่า ฟังเหนือเค้าอู้กำเมือง
ฟังคนภาษาอีสาน
ฟังภาษาใต้
ฟังไปบ่อยๆคุณก็จะจับใจความได้ว่า
สำเนียงนั้นจะเป็นในลักษณะใด
เช่น เฮ็ดอีหยัง นี่เป็นการสะกดคำแบบภาษากลาง
แต่บางทีสำเนียงมันออกไปทาง
เห็ดอี่หยัง หรือ เห็ดอี้หยัง
ถ้าหากคุณไป เฮ็ดอีหยัง ด้วยสำเนียงภาษากลาง
เค้าจะทราบทันทีว่า คุณไม่ใช่คนพื้นถิ่นนี้
เช่นภาษาลาวก็ตาม
ข้าพะเจ้า พูดแบบนี้ เค้ารู้ทันทีว่าพูดลาวไม่ชัด
ข่าผะจ่าว เสียงที่จริงๆจะประมาณนี้
แม้ว่า
จะเขียนด้วยภาษาลาวว่า ຂ້າພະເຈົ້າ
มีเหมือนไม้โท หน้าหลัง
แต่สำเนียงพื้นถิ่นจะเอาภาษาไทยมาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้
เช่นกัน
เมื่อเราเห็นภาษาอื่นๆแล้วมันแปลกก็จริง
แต่มันแปลกหูเพราะเราไม่เคยชินก็เท่านั้นเอง
ลองไปลงศึกษาเล่าเรียนภาษาสิ
เดี๋ยวก็จะจับทางได้ว่าจะต้องออกเสียงสำเนียงแบบใด
แล้ววันหนึ่งที่คุณสามารถเข้าใจในภาษานั้นๆ
ความรู้สึกแปลกมันจะรู้สึกหายไป
กลายเป็นว่า พูดคุยกันได้เข้าใจ แถมปรับสำเนียงให้กลายเป็นภาษาของเค้าไปเลยก็ได้ด้วย
คนไทยชอบบางทีชอบเอาบรรทัดฐานของตนไปเปรียบ
เช่นว่า
พอมีคนที่ร่ำเรียนภาษาอังกฤษจนช่ำชอง สำเนียงออกไปทางฝรั่งจริงๆ
ไปหาว่าเค้ากระแดะ
การพูดภาษาได้โดยเฉพาะภาษาทึ่ไม่ได้ใช้งานมาแต่กำเนิด
แถมออกเสียงสำเนียงให้คล้ายคลึงกับเจ้าของภาษา
เค้าต้องเรียกว่าเก่งสิ
จะเรียกเค้ากระแดะได้ยังไงกัน
เช่นกันถ้าหากเราจะไปเรียนภาษาต่างประเทศ
เช่นจีน เกาหลี ญี่ปุ่น หรือเวียดนามเอง เป้าหมายของเราก็คือออกเสียงให้ได้สำเนียงของเขาให้มักที่สุด
ยิ่งภาษาที่มีเสียงคลับคล้ายกัน ยิ่งควรฝึกฝนออกเสียงให้ถูกต้อง
เช่น 灾 (Zāi) “ใจ” ภัยพิบัติ กะ 摘 (Zhāi) “ใจ” เลือก
ภาษาไทย มันคือ ใจ กะ ใจ
แต่ภาษาจีนไม่ ออกเสียงคนละอย่างกัน ดูได้จากตัวอักษรพินอินหรือภาษาอังกฤษที่กำกับไว้
เราชื่นชมฝรั่งที่พูดภาษาไทยได้ชัดถ้อยชัดคำเพียงใด
การพูดภาษาต่างประเทศที่ชัดเจนคล้ายคลึงกับเจ้าของภาษามีแต่เค้าจะชมเชย
ถ้าหากเราเปิดฟังภาษาเวียดนามครั้งแรก
ความไม่เคยชินของเราจะปฏิเสธมันออกไป แล้วก็พลอยหาว่าภาษานั้นๆแปลก
เค้าก็คิดเช่นกันกับเรา ทำไมภาษาไทยนั้นก็แปลกเหมือนกัน
เอาง่ายๆภาษาต่างประเทศมันดูหักดิบโสดประสาทเกินไป
งั้นเอาเป็นว่า ฟังเหนือเค้าอู้กำเมือง
ฟังคนภาษาอีสาน
ฟังภาษาใต้
ฟังไปบ่อยๆคุณก็จะจับใจความได้ว่า
สำเนียงนั้นจะเป็นในลักษณะใด
เช่น เฮ็ดอีหยัง นี่เป็นการสะกดคำแบบภาษากลาง
แต่บางทีสำเนียงมันออกไปทาง
เห็ดอี่หยัง หรือ เห็ดอี้หยัง
ถ้าหากคุณไป เฮ็ดอีหยัง ด้วยสำเนียงภาษากลาง
เค้าจะทราบทันทีว่า คุณไม่ใช่คนพื้นถิ่นนี้
เช่นภาษาลาวก็ตาม
ข้าพะเจ้า พูดแบบนี้ เค้ารู้ทันทีว่าพูดลาวไม่ชัด
ข่าผะจ่าว เสียงที่จริงๆจะประมาณนี้
แม้ว่า
จะเขียนด้วยภาษาลาวว่า ຂ້າພະເຈົ້າ
มีเหมือนไม้โท หน้าหลัง
แต่สำเนียงพื้นถิ่นจะเอาภาษาไทยมาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้
เช่นกัน
เมื่อเราเห็นภาษาอื่นๆแล้วมันแปลกก็จริง
แต่มันแปลกหูเพราะเราไม่เคยชินก็เท่านั้นเอง
ลองไปลงศึกษาเล่าเรียนภาษาสิ
เดี๋ยวก็จะจับทางได้ว่าจะต้องออกเสียงสำเนียงแบบใด
แล้ววันหนึ่งที่คุณสามารถเข้าใจในภาษานั้นๆ
ความรู้สึกแปลกมันจะรู้สึกหายไป
กลายเป็นว่า พูดคุยกันได้เข้าใจ แถมปรับสำเนียงให้กลายเป็นภาษาของเค้าไปเลยก็ได้ด้วย
แสดงความคิดเห็น
ภาษาไทยกับภาษาเวียดนามภาษาไหนตลกกว่ากัน