คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ถามพ่อกับแม่หรือยังค่ะ ควรถามท่านนะคะ ไม่ใช่เออ ออ คิดกันไปเองก่อน ทั้งคู่ แล้วยังไงค่ะ สรุปก็ไม่ลงรอยกัน
เราว่าเรื่องนี้ ไปถามท่านก่อนค่ะ ถามญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชายก่อน ว่าจะไปขอ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยไปพบญาติฝ่ายหญิง เจรจาเรื่องการสู่ขอ
แล้วเรื่องสินสอดทองหมั้นอะไรพวกนี้ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ผู้ใหญ่จะเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่ต้องรีบตัดสินใจแทนท่านไปก่อนทั้งสองฝ่ายหรอกค่ะ
เรามีเรื่องเล่าเป็นเคสตัวอย่างให้ฟัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เคสนี้คือ ฝ่ายหญิงและชายก็คุยกันเรื่องสินสอด ว่าจะเอายังไงคืนไม่คืน (นี้ขนาดยังไม่ได้ไปขอนะคะ) แล้วก็ทะเลาะกัน แต่มีเพื่อนของทั้งสองฝ่ายเข้ามาช่วยเคลียร์ให้ ฝ่ายชายเลยไปถามพ่อแม่ตัวเอง พ่อแม่ตัวเองบอกว่า เอาไปเลยไม่ต้องคืน ฝ่ายชายก็ไม่ได้พูดอะไร ก็ไปสู่ขอ พอไปสู่ขอ ฝ่ายหญิงเรียกสินสอดมา แล้วฝ่ายชายไหว ก็จัดงานจบงาน ญาติฝ่ายหญิงเรียกทั้งคู่ไปพบ แล้วบอกว่า พ่อแม่คืนให้ไปตั้งตัวนะลูก เอาไปสร้างครอบครัว คือสรุปเคสนี้ตื้นตันใจกันไป และฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ไปถามพ่อแม่ก่อนด้วย คือเขาไม่ได้มองว่าจะต้องคืนไหมอะไร เขามองว่าแล้วแต่ผู้ใหญ่
อีกเคสคือ ถามกันแบบนี้ล่ะค่ะ แต่แล้วก็ทะเลาะกันแล้วไม่ได้แต่งค่ะ สุดท้าย ฝ่ายหญิงไปแต่งกับคนอื่น แล้วก็ใช้ชีวิตมีความสุขไป ส่วนฝ่ายชายก็มีผู้หญิงคนใหม่แต่ไม่มีการจัดงานแต่งงานใดๆ
ก็ขออย่าให้กรณีนี้เป็นแบบเคสที่ 2 ก็แล้วกันนะคะ เอาเป็นว่า ลองปรึกษาญาติผู้ใหญ่กันก่อน แล้วค่อยเอาข้อสรุปมาคุยกันค่ะ
อ้อมีเคสที่ 3 ด้วยคือ ฝ่ายชายคุยกับญาติตัวเอง ญาติบอกว่าต้องคืนทั้งหมด ฝ่ายหญิงคุยกับญาติตัวเองญาติบอกไม่คืน แต่คู่นี้ เขาคุยกันได้ค่ะ สรุปคือ ญาติฝ่ายหญิงคืนมาแค่ ครึ่งเดียว แต่คู่นี้เขารักกันมากค่ะ ฝั่งสามีก็ไปบอกแม่ว่าคืนมาหมดแล้วนะ (เขาเอาเงินเก็บที่หาด้วยกันมามาเติมให้ครบ) ญาติฝ่ายชายเลยตอบไปว่า งั้นก็ดี ก็เอาไปสร้างครอบครัวนะ พ่อแม่ไม่เอาคืน ส่วนฝ่ายหญิงก็ไม่ได้บอกพ่อแม่ตัวเองว่าฝ่ายชายจะเอาสินสอดคืนทั้งหมด แต่ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงเรียกไปพบแล้วให้คืนมาครึ่งนึง สรุปคู่นี้ก็วินๆค่ะ อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และตอนนี้ ญาติผู้ใหญ่สองฝั่งก็ไม่ได้ติดใจ หรือมีปัญหาใดๆเกี่ยวกับเรื่องสินสอดค่ะ คู่นี้ รักกันมากค่ะ และลูกก็โตแล้วด้วย
เราว่าเรื่องนี้ ไปถามท่านก่อนค่ะ ถามญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชายก่อน ว่าจะไปขอ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยไปพบญาติฝ่ายหญิง เจรจาเรื่องการสู่ขอ
แล้วเรื่องสินสอดทองหมั้นอะไรพวกนี้ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ผู้ใหญ่จะเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่ต้องรีบตัดสินใจแทนท่านไปก่อนทั้งสองฝ่ายหรอกค่ะ
เรามีเรื่องเล่าเป็นเคสตัวอย่างให้ฟัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เคสนี้คือ ฝ่ายหญิงและชายก็คุยกันเรื่องสินสอด ว่าจะเอายังไงคืนไม่คืน (นี้ขนาดยังไม่ได้ไปขอนะคะ) แล้วก็ทะเลาะกัน แต่มีเพื่อนของทั้งสองฝ่ายเข้ามาช่วยเคลียร์ให้ ฝ่ายชายเลยไปถามพ่อแม่ตัวเอง พ่อแม่ตัวเองบอกว่า เอาไปเลยไม่ต้องคืน ฝ่ายชายก็ไม่ได้พูดอะไร ก็ไปสู่ขอ พอไปสู่ขอ ฝ่ายหญิงเรียกสินสอดมา แล้วฝ่ายชายไหว ก็จัดงานจบงาน ญาติฝ่ายหญิงเรียกทั้งคู่ไปพบ แล้วบอกว่า พ่อแม่คืนให้ไปตั้งตัวนะลูก เอาไปสร้างครอบครัว คือสรุปเคสนี้ตื้นตันใจกันไป และฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ไปถามพ่อแม่ก่อนด้วย คือเขาไม่ได้มองว่าจะต้องคืนไหมอะไร เขามองว่าแล้วแต่ผู้ใหญ่
อีกเคสคือ ถามกันแบบนี้ล่ะค่ะ แต่แล้วก็ทะเลาะกันแล้วไม่ได้แต่งค่ะ สุดท้าย ฝ่ายหญิงไปแต่งกับคนอื่น แล้วก็ใช้ชีวิตมีความสุขไป ส่วนฝ่ายชายก็มีผู้หญิงคนใหม่แต่ไม่มีการจัดงานแต่งงานใดๆ
ก็ขออย่าให้กรณีนี้เป็นแบบเคสที่ 2 ก็แล้วกันนะคะ เอาเป็นว่า ลองปรึกษาญาติผู้ใหญ่กันก่อน แล้วค่อยเอาข้อสรุปมาคุยกันค่ะ
อ้อมีเคสที่ 3 ด้วยคือ ฝ่ายชายคุยกับญาติตัวเอง ญาติบอกว่าต้องคืนทั้งหมด ฝ่ายหญิงคุยกับญาติตัวเองญาติบอกไม่คืน แต่คู่นี้ เขาคุยกันได้ค่ะ สรุปคือ ญาติฝ่ายหญิงคืนมาแค่ ครึ่งเดียว แต่คู่นี้เขารักกันมากค่ะ ฝั่งสามีก็ไปบอกแม่ว่าคืนมาหมดแล้วนะ (เขาเอาเงินเก็บที่หาด้วยกันมามาเติมให้ครบ) ญาติฝ่ายชายเลยตอบไปว่า งั้นก็ดี ก็เอาไปสร้างครอบครัวนะ พ่อแม่ไม่เอาคืน ส่วนฝ่ายหญิงก็ไม่ได้บอกพ่อแม่ตัวเองว่าฝ่ายชายจะเอาสินสอดคืนทั้งหมด แต่ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงเรียกไปพบแล้วให้คืนมาครึ่งนึง สรุปคู่นี้ก็วินๆค่ะ อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และตอนนี้ ญาติผู้ใหญ่สองฝั่งก็ไม่ได้ติดใจ หรือมีปัญหาใดๆเกี่ยวกับเรื่องสินสอดค่ะ คู่นี้ รักกันมากค่ะ และลูกก็โตแล้วด้วย
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ทะเลาะกับแฟนเรื่องจะยกสินสอดทั้งหมดให้พ่อแม่แฟนหรือให้บางส่วน
ปัญหาเกิดตอนที่เราคุยกันสองคนยังไม่ทันถึงขั้นพ่อแม่เลย ผมถามเค้าไปว่า เธอคิดว่าพ่อแม่เธอจะเรียกสินสอดเท่าไหร่แล้วเค้าจะเอาไปเลยหรือคืนให้เป็นทุนตั้งต้นครอบครัว (ช่วงนี้เพื่อนๆเริ่มทยอยแต่งงาน ไปงานแต่งเยอะมากหลังโควิด เค้าคืนกันหมดเลย) แฟนบอกว่า เราอยากให้พ่อแม่นะ ผมตอบไปว่าไม่ติดนะ ถ้าอยู่ในระดับที่รับได้ ไม่เดือดร้อนเงินหมุนธุรกิจ (ในใจคิดว่าให้พ่อแม่แฟนเท่าไหร่ ก็ให้พ่อแม่เราด้วยเท่านั้น เหมือนเป็นเงินก้อนให้ท่านใช้เที่ยวๆตอนแก่ทั้งสองบ้านเท่าๆกัน) แต่ถ้าเพื่อหน้าตาในสังคมอยากวางเยอะๆหลายล้าน เราตกลงกันก่อนแต่งได้มั้ยว่าพ่อแม่เธอจะเอาเท่าไหร่ ให้หมดคงไม่ได้นะถ้าเยอะมาก คราวนี้ทั้งโกรธ ทั้งงอนเลยครับ เค้าคิดว่าจะไปพูดแบบนั้นกับพ่อแม่เค้าได้ไงเหมือนต่อราคา เค้าอยากให้เงินพ่อแม่ทั้งหมด ผมก็เถียงไปว่าในมุมมองผมการให้สินสอดเหมือนการไม่ให้เกียรติคุณมากกว่านะ เหมือนเอาเงินไปแลกคุณมาเป็นของซื้อของขาย เราเอาสินสอดไปวางไว้เป็นหน้าเป็นตาของพ่อแม่ แล้วเอาเงินพวกนั้นมาทำธุรกิจ หาเงินมาซื้อบ้าน ซื้อรถ พาพ่อแม่ไปเที่ยวไม่ดีกว่าหรอ สรุปกลายเป็นประเด็นใหญ่หาข้อสรุปไม่ได้ไปแล้วครับ ทำอย่างไรดี มีความเห็นอย่างไรกันบ้างครับ