ทะเลาะกับแฟนเรื่องจะยกสินสอดทั้งหมดให้พ่อแม่แฟนหรือให้บางส่วน

อธิบายก่อนครับว่า ผมกับแฟนมีการปรึกษากับเรื่องการแต่งงานในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เนื่องจากผมให้แฟนลาออกจากงานมาดูแลธุรกิจของผม โดยให้เงินเดือน บวกกับให้หุ้นในบริษัทด้วย (รายได้ต่อเดือนของแฟนเพิ่มขึ้นเกิน 10 เท่าจากตอนทำงานบริษัท) แต่การออกมาดูแลธุรกิจส่วนตัวก็คือการย้ายมาอยู่ในบ้านของผม ซึ่งพ่อแม่ผมตอนแรกก็ไม่ได้ถูกใจแฟนเท่าไหร่ แต่พอเวลาผ่านไปก็ปรับตัวเข้ากันได้กลายเป็นลูกอีกคนนึง ท่านเลยเริ่มเกรงใจพ่อแม่แฟนที่เราเอาลูกเค้ามาอยู่บ้านโดยไม่ได้ขอให้ถูกต้องตามประเพณี ด้วยความพร้อมด้านการเงินและครอบครัวที่ไปมาหาสู่กันเป็นปกติแล้ว เลยเริ่มคิดเรื่องแต่งงานครับ

ปัญหาเกิดตอนที่เราคุยกันสองคนยังไม่ทันถึงขั้นพ่อแม่เลย ผมถามเค้าไปว่า เธอคิดว่าพ่อแม่เธอจะเรียกสินสอดเท่าไหร่แล้วเค้าจะเอาไปเลยหรือคืนให้เป็นทุนตั้งต้นครอบครัว (ช่วงนี้เพื่อนๆเริ่มทยอยแต่งงาน ไปงานแต่งเยอะมากหลังโควิด เค้าคืนกันหมดเลย) แฟนบอกว่า เราอยากให้พ่อแม่นะ ผมตอบไปว่าไม่ติดนะ ถ้าอยู่ในระดับที่รับได้ ไม่เดือดร้อนเงินหมุนธุรกิจ (ในใจคิดว่าให้พ่อแม่แฟนเท่าไหร่ ก็ให้พ่อแม่เราด้วยเท่านั้น เหมือนเป็นเงินก้อนให้ท่านใช้เที่ยวๆตอนแก่ทั้งสองบ้านเท่าๆกัน) แต่ถ้าเพื่อหน้าตาในสังคมอยากวางเยอะๆหลายล้าน เราตกลงกันก่อนแต่งได้มั้ยว่าพ่อแม่เธอจะเอาเท่าไหร่ ให้หมดคงไม่ได้นะถ้าเยอะมาก คราวนี้ทั้งโกรธ ทั้งงอนเลยครับ เค้าคิดว่าจะไปพูดแบบนั้นกับพ่อแม่เค้าได้ไงเหมือนต่อราคา เค้าอยากให้เงินพ่อแม่ทั้งหมด ผมก็เถียงไปว่าในมุมมองผมการให้สินสอดเหมือนการไม่ให้เกียรติคุณมากกว่านะ เหมือนเอาเงินไปแลกคุณมาเป็นของซื้อของขาย เราเอาสินสอดไปวางไว้เป็นหน้าเป็นตาของพ่อแม่ แล้วเอาเงินพวกนั้นมาทำธุรกิจ หาเงินมาซื้อบ้าน ซื้อรถ พาพ่อแม่ไปเที่ยวไม่ดีกว่าหรอ สรุปกลายเป็นประเด็นใหญ่หาข้อสรุปไม่ได้ไปแล้วครับ ทำอย่างไรดี มีความเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ถามพ่อกับแม่หรือยังค่ะ ควรถามท่านนะคะ ไม่ใช่เออ ออ คิดกันไปเองก่อน ทั้งคู่ แล้วยังไงค่ะ สรุปก็ไม่ลงรอยกัน

เราว่าเรื่องนี้ ไปถามท่านก่อนค่ะ ถามญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชายก่อน ว่าจะไปขอ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยไปพบญาติฝ่ายหญิง เจรจาเรื่องการสู่ขอ
แล้วเรื่องสินสอดทองหมั้นอะไรพวกนี้ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ผู้ใหญ่จะเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่ต้องรีบตัดสินใจแทนท่านไปก่อนทั้งสองฝ่ายหรอกค่ะ

เรามีเรื่องเล่าเป็นเคสตัวอย่างให้ฟัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่