รำคาญสลิ่มที่ไม่รู้เรื่องกฎหมาย ไร้ภูมิรู้พื้นฐานด้านกฎหมาย แต่ชอบตั้งกระทู้เรื่องกฎหมาย
เอานั่นเอานี่มาแปะ อ้างมั่วตะบันไป ไม่รู้ทำได้ไง ทั้งที่ตัวสลิ่มเองไม่รู้เรื่องกฎหมายเลย
เช่น
อ้างถึงความเห็นของฝ่ายกฎหมายรัฐสภา ที่เคยแสดงความเห็นไว้ว่า
การนับระยะเวลาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ ต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2562 ที่เป็นวันโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นต้นไป เพราะการกำหนดเงื่อนไขให้นายกฯ ดำรงตำแหน่งรวมแล้วเกิน 8 ปีไม่ได้นั้น เป็นเงื่อนไขการจำกัดสิทธิบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นการบัญญัติกฎหมายในทางเป็นโทษ จะนำมาบังคับใช้ย้อนหลังในทางที่เป็นโทษไม่ได้ การกำหนดเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญให้ผลย้อนหลังใช้บังคับกับการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนวันที่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ ย่อมขัดหลักกฎหมาย
(จากทู้
https://ppantip.com/topic/41596224 )
.
ความเห็นนี้ เป็นความเห็นที่ "ใช้ไม่ได้" ผิดหลักทางกฎหมายอย่างสิ้นเชิง
ตอนที่ฝ่ายกฎหมายรัฐสภาให้ความเห็นนั้น โดนด่าเปิงไปทั้งเมืองมาแล้ว
เพราะกฎหมายที่ใช้ย้อนหลังไม่ได้นั้น ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ (เช่น เรื่องอาญา ฯลฯ)
ไม่ใช่ย้อนหลังไม่ได้ในทุกกรณี
ฝ่ายกฎหมายรัฐสภา ไม่รู้คิดได้ไง เอาหลักกฎหมายไหนมาคิด ว่าเรื่องนี้เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพ
เรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่เป็นเรื่องการควบคุมอำนาจ
เจตจำนงของกฎหมาย เพื่อไม่ให้อยู่ในอำนาจนานเกินไปจนเกิดปัญหา
ยกตัวอย่าง อยู่ดี ๆ จะออกกฎหมายย้อนหลังเอาผิดในทางสิทธิเสรีภาพไม่ได้
เช่น ใครเคยสูบบุหรี่ต้องติดคุกสองปี ใครกินเหล้าติดคุกสามปี ฯลฯ กฎหมายแบบนี้จะย้อนหลังไม่ได้
(ยกเว้นกฎหมายนั้นเป็นคุณ อย่างการนิรโทษกรรม ฯลฯ)
หลักนี้ เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้ง ไม่งั้นคงออกกฎหมายเอาผิดกันย้อนหลังจนบ้านเมืองเละเทะ
.
ประเด็นเทียบเคียง ก็คือเรื่องการยุบพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2550
พรรคไทยรักไทยโดนยุบ เพราะ คมช. ออกประกาศหลังรัฐประหาร 2549 เป็นกฎหมายที่เกิดทีหลัง ประกาศใช้ทีหลัง
แต่ฝ่ายตุลาการก็อ้างว่า ไม่ใช่เรื่องทางอาญา ย้อนหลังได้ ยุบไทยรักไทยไป ตัดสิทธิทางการเมืองไป แต่ไม่มีใครติดคุก
กรณี 8 ปี ก็เช่นเดียวกัน ไมใช่เรื่องทางอาญา
เป็นเรื่องคุณสมบัติการอยู่ในอำนาจบริหารสูงสุด กฎหมายจึงมีผลไปถึงได้
ดูสิระ เจนจาคะ เป็นตัวอย่าง เกิดเหตุตั้งแต่ปี 2538 ยังขาดคุณสมบัติไปแล้ว แต่ไม่มีโทษทางอาญา
(หากจะมีเรื่องทางอาญา ก็เพราะรู้ว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติแต่ดันมาสมัคร ส.ส. ซึ่งไม่ใช่การย้อนหลัง)
.
นักกฎหมายระดับครูบาอาจารย์ สอนกฎหมายมาหลายสิบปี ทนายความมีชื่อ นับสิบนับร้อยคน อธิบายแจกแจงไม่รู้กี่วันมาแล้ว
ไม่เคยรับฟัง ไม่เคยศึกษาทำความเข้าใจ เอาแต่วิ่งตามเฟซสลิ่มด้วยกัน ควานหาข้อมูลผิด ๆ มาแปะมั่วไป
.
จขกท. นี้ ณ ตอนนี้ ไม่คิดอะไรแล้ว เพราะมีความเชื่อว่า ได้ไปต่อแน่
รอแต่ว่า ผู้วินิจฉัยชี้ขาด จะใช้หลักวิชาอะไรในการให้อยู่ต่อเท่านั้น
อภินิหารมีแน่
แค่รอว่าจะอภินิหารแบบเหยียบหิมมะไร้รอย หรือเปรอะกระฉ่อนไปทั้งโลก
.
อีกไม่นานได้รู้
ขอสักนิดนะครับ เพราะรำคาญ
รำคาญสลิ่มที่ไม่รู้เรื่องกฎหมาย ไร้ภูมิรู้พื้นฐานด้านกฎหมาย แต่ชอบตั้งกระทู้เรื่องกฎหมาย
เอานั่นเอานี่มาแปะ อ้างมั่วตะบันไป ไม่รู้ทำได้ไง ทั้งที่ตัวสลิ่มเองไม่รู้เรื่องกฎหมายเลย
เช่น
อ้างถึงความเห็นของฝ่ายกฎหมายรัฐสภา ที่เคยแสดงความเห็นไว้ว่า
การนับระยะเวลาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ ต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2562 ที่เป็นวันโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นต้นไป เพราะการกำหนดเงื่อนไขให้นายกฯ ดำรงตำแหน่งรวมแล้วเกิน 8 ปีไม่ได้นั้น เป็นเงื่อนไขการจำกัดสิทธิบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นการบัญญัติกฎหมายในทางเป็นโทษ จะนำมาบังคับใช้ย้อนหลังในทางที่เป็นโทษไม่ได้ การกำหนดเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญให้ผลย้อนหลังใช้บังคับกับการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนวันที่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ ย่อมขัดหลักกฎหมาย
(จากทู้ https://ppantip.com/topic/41596224 )