แค่อยากบ่น เรื่องเริ่มจากเราไปหาหมอผิวหนังที่ รพ.รัฐแห่งหนึ่งเพื่อรักษาสิว (อยากบอกชื่อ รพ. แต่ก็กลัวกระทู้ปลิว เป็น รพ.ที่ใครๆก็รู้จัก และทุกคนก็คงคิดว่า รพ.นี้มีแต่หมอเก่งๆ) เรามีสิวนิดเดียว แต่เป็นนาน ไม่ยอมหาย และเป็นรอยดำๆ หมอก็ให้ยา Benzac กับ Clindamycin และนัดมาดูผลอีกเดือนนึง ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่าใช้ยาแล้วจะแพ้ ปกติเราเป็นคนผิวแพ้ง่ายอยู่แล้ว เราไม่ค่อยใช้เครื่องสำอาง ทาแต่เบสครีม ผิวหน้าเราค่อนข้างเกลียงเกลา พอใช้ยาหมอไป 2 ครั้ง หน้าพังจ้า ผื่นปื้นแดงขึ้นทั่วหน้า แทบจะลามไปถึงหูและคอด้วย คันยุบยิบๆ และหน้าก็บวมขึ้น เรากลัวและทรมานมาก
อีก 2 วันต่อมาเรารีบไปหาหมออีกครั้ง ต้อง Walk in ไปแต่เช้า ไปรับคิวรอหมอนานเป็น ชม.ๆ (ข้อเสียของ รพ.รัฐ แต่เราก็ต้องยอมเพราะมีสิทธิประกันสังคมอยู่ที่นี่) เราได้เจอหมอคนเดิม หมอตรวจดูแล้วบอกให้เราหยุดใช้ Benzac และ Clindamycin เพราะทั้ง 2 ตัวมีแอลกอฮอล์ผสม เราอาจระคายเคือง แต่ตอนนั้นหมอก็ยังไม่มั่นใจว่าเราแพ้อะไร หมอเดาว่าอาจแพ้ Benzac (แต่เมื่อปีก่อนเราเคยใช้แล้วไม่แพ้ สงสัยคนละสูตรกัน) วันนั้นหมอก็ให้ครีม Momate กับเจลล้างหน้ามาใช้ แล้วห้ามเราแต่งหน้า ห้ามทาแป้ง (เรารู้สึกแย่ เพราะเราต้องหน้าสดไปทำงานและไปเรียน แต่ก็ต้องยอม) หมอนัดมาดูผลอีก 2 สัปดาห์ ส่วนเราก็ซื้อยาแก้แพ้กับยาแก้อักเสบมากินเพิ่ม
ผ่านไป 2 สัปดาห์ อาการเราดีขึ้นมาก ผื่นหายไปแล้ว เหลือแต่รอยแดงๆ นิดนึง อาการคันก็แทบไม่มีแล้ว เราก็ไปหาหมอตามนัด คราวนี้ไม่เจอหมอคนเดิม เจอหมอคนอื่น (ข้อเสียอีกอย่างของ รพ.รัฐ เราคิดว่าการเจอหมอไม่ซ้ำคน มันดีสู้เจอหมอคนเดิมตลอดไม่ได้ เพราะหมอคนเดิมเขารู้อาการเราและเคยวินิจฉัยอาการเรามาก่อนแล้ว) เราบอกหมอคนใหม่ว่าหน้าเราแพ้ยา เพราะในยามีแอลกอฮอล์ แต่หมอไม่ค่อยเชื่อ หมอบอกว่าเราน่าจะแพ้ Benzac ทีนี้หมอจะให้เราใช้ Clindamycin (ยาที่ได้ครั้งแรก) แต้มบริเวณที่มีสิวอักเสบ เราก็บอกหมอว่า ยานี้มีแอลกอฮอล์ ใช้แล้วเราจะแพ้อีกหรือเปล่า หมอก็ปรึกษากับอาจารย์หมอ (หรือหมอรุ่นพี่ก็ไม่รู้) แล้วมีมติว่าให้เราใช้ยา Clindamycin หมอบอกว่าปกติแอลกอฮอล์ไม่ได้ทำให้เกิดผื่นแพ้ ลองใช้ดูก่อน ถ้าแพ้ก็หยุดใช้แล้วกลับมาหาหมออีกครั้ง หมอนัดมาดูผลอีก 2 เดือน
เราก็โง่พอที่จะเชื่อหมอ เพราะว่าเขาเป็นหมอ เราจึงลองใช้ Clindamycin แต้มสิว แค่ครั้งเดียวก็รู้เรื่องเลย หน้าพังอีกครั้งจ้า ผื่นปื้นแดงพร้อมอาการคันกลับคืนมาสู่ใบหน้าเรา เรามั่นใจเต็มที่แล้วว่าแพ้แอลกอฮอล์ เราก็หยุดใช้ และโทรไปที่ รพ.เพื่อจะขอเลื่อนนัดหมอ อยากรีบไปหาหมอในอีก 1-2 วัน แต่ทาง รพ.บอกว่าเลื่อนไม่ได้ ถ้าจะไปหาหมอเร็วๆนี้ก็ต้อง Walk in เข้าไป เราก็รู้สึกหงุดหงิด เพราะ Walk in ต้องไปรอหมอนานกว่าไปตามนัด ตอนนี้เราจึงยังไม่ไปหาหมอ แต่ใช้ครีม Momate ทาหน้า และกินยาแก้แพ้กับยาแก้อักเสบเอา ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็จะต้องไปหาหมออีก
เราอุตส่าห์คิดว่าเร็วๆนี้จะไม่ต้องหน้าสดไปทำงาน+เรียนแล้ว แต่ตอนนี้สงสัยต้องรออีกนาน และเราก็เริ่มคิดว่า รพ.รัฐดังๆ ก็ใช่ว่าจะมีหมอเก่งๆทุกคน เผลอๆ หมอในคลินิกเล็กๆ อาจเก่งกว่าอีก และบางครั้งตัวเราเองก็อาจวินิจฉัยอาการได้ถูกต้องมากกว่าหมออีก
ประสบการณ์แย่ๆ ในการรักษาสิวที่โรงพยาบาลรัฐชื่อดัง ยิ่งรักษายิ่งหน้าพัง
อีก 2 วันต่อมาเรารีบไปหาหมออีกครั้ง ต้อง Walk in ไปแต่เช้า ไปรับคิวรอหมอนานเป็น ชม.ๆ (ข้อเสียของ รพ.รัฐ แต่เราก็ต้องยอมเพราะมีสิทธิประกันสังคมอยู่ที่นี่) เราได้เจอหมอคนเดิม หมอตรวจดูแล้วบอกให้เราหยุดใช้ Benzac และ Clindamycin เพราะทั้ง 2 ตัวมีแอลกอฮอล์ผสม เราอาจระคายเคือง แต่ตอนนั้นหมอก็ยังไม่มั่นใจว่าเราแพ้อะไร หมอเดาว่าอาจแพ้ Benzac (แต่เมื่อปีก่อนเราเคยใช้แล้วไม่แพ้ สงสัยคนละสูตรกัน) วันนั้นหมอก็ให้ครีม Momate กับเจลล้างหน้ามาใช้ แล้วห้ามเราแต่งหน้า ห้ามทาแป้ง (เรารู้สึกแย่ เพราะเราต้องหน้าสดไปทำงานและไปเรียน แต่ก็ต้องยอม) หมอนัดมาดูผลอีก 2 สัปดาห์ ส่วนเราก็ซื้อยาแก้แพ้กับยาแก้อักเสบมากินเพิ่ม
ผ่านไป 2 สัปดาห์ อาการเราดีขึ้นมาก ผื่นหายไปแล้ว เหลือแต่รอยแดงๆ นิดนึง อาการคันก็แทบไม่มีแล้ว เราก็ไปหาหมอตามนัด คราวนี้ไม่เจอหมอคนเดิม เจอหมอคนอื่น (ข้อเสียอีกอย่างของ รพ.รัฐ เราคิดว่าการเจอหมอไม่ซ้ำคน มันดีสู้เจอหมอคนเดิมตลอดไม่ได้ เพราะหมอคนเดิมเขารู้อาการเราและเคยวินิจฉัยอาการเรามาก่อนแล้ว) เราบอกหมอคนใหม่ว่าหน้าเราแพ้ยา เพราะในยามีแอลกอฮอล์ แต่หมอไม่ค่อยเชื่อ หมอบอกว่าเราน่าจะแพ้ Benzac ทีนี้หมอจะให้เราใช้ Clindamycin (ยาที่ได้ครั้งแรก) แต้มบริเวณที่มีสิวอักเสบ เราก็บอกหมอว่า ยานี้มีแอลกอฮอล์ ใช้แล้วเราจะแพ้อีกหรือเปล่า หมอก็ปรึกษากับอาจารย์หมอ (หรือหมอรุ่นพี่ก็ไม่รู้) แล้วมีมติว่าให้เราใช้ยา Clindamycin หมอบอกว่าปกติแอลกอฮอล์ไม่ได้ทำให้เกิดผื่นแพ้ ลองใช้ดูก่อน ถ้าแพ้ก็หยุดใช้แล้วกลับมาหาหมออีกครั้ง หมอนัดมาดูผลอีก 2 เดือน
เราก็โง่พอที่จะเชื่อหมอ เพราะว่าเขาเป็นหมอ เราจึงลองใช้ Clindamycin แต้มสิว แค่ครั้งเดียวก็รู้เรื่องเลย หน้าพังอีกครั้งจ้า ผื่นปื้นแดงพร้อมอาการคันกลับคืนมาสู่ใบหน้าเรา เรามั่นใจเต็มที่แล้วว่าแพ้แอลกอฮอล์ เราก็หยุดใช้ และโทรไปที่ รพ.เพื่อจะขอเลื่อนนัดหมอ อยากรีบไปหาหมอในอีก 1-2 วัน แต่ทาง รพ.บอกว่าเลื่อนไม่ได้ ถ้าจะไปหาหมอเร็วๆนี้ก็ต้อง Walk in เข้าไป เราก็รู้สึกหงุดหงิด เพราะ Walk in ต้องไปรอหมอนานกว่าไปตามนัด ตอนนี้เราจึงยังไม่ไปหาหมอ แต่ใช้ครีม Momate ทาหน้า และกินยาแก้แพ้กับยาแก้อักเสบเอา ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็จะต้องไปหาหมออีก
เราอุตส่าห์คิดว่าเร็วๆนี้จะไม่ต้องหน้าสดไปทำงาน+เรียนแล้ว แต่ตอนนี้สงสัยต้องรออีกนาน และเราก็เริ่มคิดว่า รพ.รัฐดังๆ ก็ใช่ว่าจะมีหมอเก่งๆทุกคน เผลอๆ หมอในคลินิกเล็กๆ อาจเก่งกว่าอีก และบางครั้งตัวเราเองก็อาจวินิจฉัยอาการได้ถูกต้องมากกว่าหมออีก