YG ยิ้มกว้างแม้จะได้รับรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ นี่เป็นเพราะการกลับมาของศิลปินหลัก BLACKPINK ส่งผลดีต่อราคาหุ้น นักวิเคราะห์ในตลาดหุ้นคาดการณ์ว่า BLACKPINK จะทำผลงานที่แข็งแกร่งให้กับ YG ได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ตามระบบการเปิดเผยข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ของ Financial Supervisory Service เมื่อวันที่ 18 ยอดขายรวมของ YG สำหรับไตรมาสที่สองอยู่ที่ 76 พันล้าน 25.54 ล้านวอน เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (71,83.66 ล้านวอน) กำไรจากการดำเนินงาน 9,332.6 ล้านวอน เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (8.562.03 ล้านวอน) ในทางกลับกัน ยอดขายสะสมในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 151.545.78 ล้านวอน ลดลง 6.9% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (162.71.13 ล้านวอน) กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 15.4 พันล้านวอน ลดลง 16.8% จากครึ่งแรกของปีที่แล้ว (185.51 พันล้านวอน) นี่คือผลพวงของรายได้ 1Q ที่ซบเซาเนื่องจากการไม่มีกิจกรรมของศิลปิน
ถึงกระนั้นราคาหุ้นก็ไม่เลว หุ้น YG ปิดในวันที่ 18 ที่ 60,500 วอน แม้ว่ามันจะลดลงเล็กน้อย 3.04% (1,900 วอน) จากวันซื้อขายก่อนหน้า แต่ก็ยังคงอยู่ที่ 60,000 วอน ซึ่งฟื้นตัวได้ในสี่เดือน เมื่อเทียบกับวันที่ 1 ของเดือนที่แล้ว (43,600 วอน) นี่เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 38.8% เมื่อเทียบกับแนวโน้มราคาหุ้นของคู่แข่งอย่าง Hybe (32.9%), JYP Entertainment (23.5%) และ SM Entertainment (13.6%) ในช่วงเวลาเดียวกัน แนวโน้มขาขึ้นของ YG นั้นชัดเจนที่สุด
มันถูกตีความว่าสิ่งนี้สะท้อนถึงความคาดหวังสำหรับการกลับมาของ Blackpink เมื่อปลายเดือนที่แล้ว YG ได้ประกาศการกลับมาของ BLACKPINK อย่างเป็นทางการ BLACKPINK เป็นแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดของ YG เติมเต็มตำแหน่งว่างของบิ๊กแบง และเป็นผู้เปลี่ยนเกม (คนที่เปลี่ยนสถานการณ์โดยสิ้นเชิง) ที่แหกกฎของวงการเพลงว่า "เกิร์ลกรุ๊ปไม่ทำเงิน" ในความเป็นจริง BLACKPINK ออกอัลบั้มเต็มชุดแรก 'THE ALBUM' ในเดือนตุลาคม 2020 และขายได้ 1.25 ล้านชุดในสองเดือน ) ซึ่งทำเงินได้ประมาณ 38.13 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 44.2 พันล้านวอนตามอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น)
การคัมแบ็กของ BLACKPINK เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี 10 เดือน เพลง 'Pink Venom' จะปล่อยเวลา 13.00 น. วันที่ 19 หลังจากการเปิดตัวอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 'BORN PINK' ในวันที่ 16 ของเดือนหน้า จะมีการจัดเวิร์ลทัวร์ 1.5 ล้านคน เริ่มด้วยคอนเสิร์ตที่กรุงโซลในวันที่ 15 ตุลาคม กำหนดการจะรวมเมืองแอตแลนต้า ชิคาโก และลอสแองเจลิสในสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายน ลอนดอน บาร์เซโลนา และปารีสในช่วงปลายปี และจากนั้นไปยังกรุงเทพฯ ฮ่องกง และซิดนีย์ในเดือนมิถุนายนปีหน้า มีทั้งหมด 36 คอนเสิร์ต และพบกับแฟนๆ ใน 26 เมืองในระยะเวลา 8 เดือน แน่นอนว่านี่เป็นตารางทัวร์ครั้งแรก และคาดว่าเมืองและจำนวนการแสดงจะถูกเพิ่มในภายหลัง
ด้วยกิจกรรมของ BLACKPINK ไม่เพียงแต่สำหรับราคาหุ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรายได้ในอนาคตด้วย ยอดขายของ BLACKPINK จากยอดขายอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 และการแสดงจะสะท้อนให้เห็นผลกำไรในไตรมาส3และครึ่งแรกของYGในปีหน้า ตลาดหุ้นยังขึ้นราคาเป้าหมาย โดยคาดการณ์ว่า YG จะเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ SK Securities ขึ้นราคาเป้าหมาย 8.6% และ 5.3% ตามลำดับ จาก 70,000 วอนเป็น 76,000 วอน และ Hana Securities จาก 76,000 วอนเป็น 80,000 วอน
Choi Min-ha นักวิจัยจาก Samsung Securities กล่าวว่า "คาดว่าขนาดของ World Tour จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากบางเมือง รวมทั้งญี่ปุ่นและอเมริกาใต้ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มเข้ามาในอนาคต
เมื่อพิจารณาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนคอนเสิร์ต การขยายตัวของแฟนคลับและราคาตั๋วที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้ เวิร์ลทัวร์ของ Black Pink ยอดขายคอนเสิร์ตคาดว่าจะอยู่ที่ 202.5 พันล้านวอน (สมมติว่าราคาต่อหน่วยอยู่ที่ 135,000 วอน)
Source:
https://news.mtn.co.kr/news-detail/2022081710325545017
สื่อเกาหลีพาดหัวข่าว"BLACKPINK กลับมาช่วย YG แล้ว ผู้ทำลายสูตรของวงการ K-Pop ที่ว่าเกิร์ลกรุ๊ปทำเงินไม่ได้"
YG ยิ้มกว้างแม้จะได้รับรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ นี่เป็นเพราะการกลับมาของศิลปินหลัก BLACKPINK ส่งผลดีต่อราคาหุ้น นักวิเคราะห์ในตลาดหุ้นคาดการณ์ว่า BLACKPINK จะทำผลงานที่แข็งแกร่งให้กับ YG ได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ตามระบบการเปิดเผยข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ของ Financial Supervisory Service เมื่อวันที่ 18 ยอดขายรวมของ YG สำหรับไตรมาสที่สองอยู่ที่ 76 พันล้าน 25.54 ล้านวอน เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (71,83.66 ล้านวอน) กำไรจากการดำเนินงาน 9,332.6 ล้านวอน เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (8.562.03 ล้านวอน) ในทางกลับกัน ยอดขายสะสมในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 151.545.78 ล้านวอน ลดลง 6.9% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (162.71.13 ล้านวอน) กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 15.4 พันล้านวอน ลดลง 16.8% จากครึ่งแรกของปีที่แล้ว (185.51 พันล้านวอน) นี่คือผลพวงของรายได้ 1Q ที่ซบเซาเนื่องจากการไม่มีกิจกรรมของศิลปิน
ถึงกระนั้นราคาหุ้นก็ไม่เลว หุ้น YG ปิดในวันที่ 18 ที่ 60,500 วอน แม้ว่ามันจะลดลงเล็กน้อย 3.04% (1,900 วอน) จากวันซื้อขายก่อนหน้า แต่ก็ยังคงอยู่ที่ 60,000 วอน ซึ่งฟื้นตัวได้ในสี่เดือน เมื่อเทียบกับวันที่ 1 ของเดือนที่แล้ว (43,600 วอน) นี่เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 38.8% เมื่อเทียบกับแนวโน้มราคาหุ้นของคู่แข่งอย่าง Hybe (32.9%), JYP Entertainment (23.5%) และ SM Entertainment (13.6%) ในช่วงเวลาเดียวกัน แนวโน้มขาขึ้นของ YG นั้นชัดเจนที่สุด
มันถูกตีความว่าสิ่งนี้สะท้อนถึงความคาดหวังสำหรับการกลับมาของ Blackpink เมื่อปลายเดือนที่แล้ว YG ได้ประกาศการกลับมาของ BLACKPINK อย่างเป็นทางการ BLACKPINK เป็นแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดของ YG เติมเต็มตำแหน่งว่างของบิ๊กแบง และเป็นผู้เปลี่ยนเกม (คนที่เปลี่ยนสถานการณ์โดยสิ้นเชิง) ที่แหกกฎของวงการเพลงว่า "เกิร์ลกรุ๊ปไม่ทำเงิน" ในความเป็นจริง BLACKPINK ออกอัลบั้มเต็มชุดแรก 'THE ALBUM' ในเดือนตุลาคม 2020 และขายได้ 1.25 ล้านชุดในสองเดือน ) ซึ่งทำเงินได้ประมาณ 38.13 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 44.2 พันล้านวอนตามอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น)
การคัมแบ็กของ BLACKPINK เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี 10 เดือน เพลง 'Pink Venom' จะปล่อยเวลา 13.00 น. วันที่ 19 หลังจากการเปิดตัวอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 'BORN PINK' ในวันที่ 16 ของเดือนหน้า จะมีการจัดเวิร์ลทัวร์ 1.5 ล้านคน เริ่มด้วยคอนเสิร์ตที่กรุงโซลในวันที่ 15 ตุลาคม กำหนดการจะรวมเมืองแอตแลนต้า ชิคาโก และลอสแองเจลิสในสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายน ลอนดอน บาร์เซโลนา และปารีสในช่วงปลายปี และจากนั้นไปยังกรุงเทพฯ ฮ่องกง และซิดนีย์ในเดือนมิถุนายนปีหน้า มีทั้งหมด 36 คอนเสิร์ต และพบกับแฟนๆ ใน 26 เมืองในระยะเวลา 8 เดือน แน่นอนว่านี่เป็นตารางทัวร์ครั้งแรก และคาดว่าเมืองและจำนวนการแสดงจะถูกเพิ่มในภายหลัง
ด้วยกิจกรรมของ BLACKPINK ไม่เพียงแต่สำหรับราคาหุ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรายได้ในอนาคตด้วย ยอดขายของ BLACKPINK จากยอดขายอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 และการแสดงจะสะท้อนให้เห็นผลกำไรในไตรมาส3และครึ่งแรกของYGในปีหน้า ตลาดหุ้นยังขึ้นราคาเป้าหมาย โดยคาดการณ์ว่า YG จะเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ SK Securities ขึ้นราคาเป้าหมาย 8.6% และ 5.3% ตามลำดับ จาก 70,000 วอนเป็น 76,000 วอน และ Hana Securities จาก 76,000 วอนเป็น 80,000 วอน
Choi Min-ha นักวิจัยจาก Samsung Securities กล่าวว่า "คาดว่าขนาดของ World Tour จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากบางเมือง รวมทั้งญี่ปุ่นและอเมริกาใต้ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มเข้ามาในอนาคต
เมื่อพิจารณาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนคอนเสิร์ต การขยายตัวของแฟนคลับและราคาตั๋วที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้ เวิร์ลทัวร์ของ Black Pink ยอดขายคอนเสิร์ตคาดว่าจะอยู่ที่ 202.5 พันล้านวอน (สมมติว่าราคาต่อหน่วยอยู่ที่ 135,000 วอน)
Source: https://news.mtn.co.kr/news-detail/2022081710325545017