ถึงคิว 'โอวัลติน-น้ำยาดัดผม' ปรับราคา '5 บิ๊ก บะหมี่' ลุ้นขึ้น 1 บาท 'มาม่า' ลั่นไม่พอขอตื๊อต่อ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3513473
ถึงคิว ‘โอวัลติน-น้ำยาดัดผม’ ปรับราคา ‘5 บิ๊ก บะหมี่’ ลุ้นขึ้น 1 บาท ‘มาม่า’ ลั่นไม่พอขอตื๊อต่อ
วันที่ 18 สิงหาคม แหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกและค้าส่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางผู้ผลิตเริ่มทยอยแจ้งปรับราคาสินค้าในรอบเดือนกันยายน 2565 บ้างแล้ว ล่าสุดได้รับแจ้งว่าจะปรับขึ้นราคาต้นทุนและขายปลีกโอวัลตินทุกรายการตั้งแต่เดือนกันยายนี้เป็นต้นไป แต่ยังไม่ระบุว่าจะปรับขึ้นกี่บาท ซึ่งโอวัลตินเป็นรายสุดท้ายที่ปรับราคา เพราะก่อนหน้านี้มีหลายรายที่ขอปรับไปนานแล้ว เช่น ไมโล เป็นต้น
นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากผู้ผลิตน้ำยาดัดผมและแต่งผมยี่ห้อ
”โลแลน”จะปรับขึ้นอีกชิ้นละประมาณ 5% จากราคาขายในปัจจุบัน คาดว่าหลังจากนี้คงจะมีสินค้าอีกหลายรายการทยอยปรับขึ้นอีกจำนวนมาก
5 บิ๊กบะหมี่คาดพณ.เคาะให้ 1 บาท
แหล่งข่าวจากวงการผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กล่าวว่า หลัง 5 ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ประกอบด้วย มาม่า ไวไว ยำยำ ซื่อสัตย์ นิสชิน ได้รวมตัวกันลงนามในหนังสือเพื่อยื่นต่อกรมการค้าภายใน กระทรงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม เพื่อขอความกรุณาให้เร่งรัดการพิจารณาการปรับขึ้นราคาอีก 2 บาทต่อซอง จาก 6 บาทต่อซอง เป็น 8 บาทต่อซอง ตามที่ได้ยื่นเสนอขอปรับราคาไปเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมานั้น คาดว่าภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า น่าจะมีความชัดเจน และมีแนวโน้มที่กรมการค้าภายในจะอนุมัติให้ไม่ถึงตามที่ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเสนอไป 2 บาทต่อซอง อาจเคาะให้ปรับขึ้น 1 บาทต่อซอง ทำให้ราคาจาก 6 บาทต่อซอง เป็น 7 บาทต่อซอง
“มาม่า” ยันจะยื่นจนได้ 8 บาท
นาย
พันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักผู้อำนวยการบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ”มาม่า” กล่าวว่า หลังได้ยื่นหนังสืออยู่ระหว่างรอกรมการค้าภายในพิจารณาอนุมัติ คาดว่าน่าจะมีคำตอบให้ในเร็วๆนี้ ไม่ว่าจะอนุมัติให้ขึ้นราคาซองละ 1 บาทหรือ 2 บาท ก็ต้องเป็นไปตามนั้น หากรัฐอนุมัติให้ขึ้นจาก 6 บาท เป็น 7 บาท ทางบริษัทยังคงยื่นขอปรับราคาต่อไปเรื่อยๆ เพราะราคาที่อนุมัติยังไม่โคฟเวอร์(cover )กับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดรับกับต้นทุนปัจจุบัน ขณะเดียวกันจะเพิ่มกำลังการผลิตอีกประมาณ 5-6 แสนชิ้น/วันจากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 6 ล้านชิ้น/วัน เพื่อเพิ่มสัดส่วนการส่งออกมากขึ้น
“การซื้อวัตถุดิบการผลิตจะต้องซื้อล่วงหน้า ตอนนี้ล็อตเก่าหมดแล้ว เมื่อเดือนกรกฎาคมเป็นช่วงที่ราคาวัตถุดิบสูงขึ้นมาก และมีแนวโน้มที่ยอดขายในประเทศจะขาดทุนตั้งแต่ไตรมาสที่3 เป็นต้นไป ทำให้เรายื่นปรับราคาเป็น 8 บาทต่อซอง” นายพันธ์กล่าว
“ซื่อสัตย์” ใช้ส่งออกโปะในปท.
นาย
ปริญญา สิทธิดำรง กรรมการบริษัท โชคชัยพิบูล จำกัด ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ
”ซื่อสัตย์”กล่าวว่า หากกรมการค้าภายในอนุมัติให้ปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 บาทต่อซอง จาก6 บาท/ซอง เป็น 7 บาท/ซอง รัฐอนุมัติให้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ซึ่งบริษัทคงต้องหาวิธีการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆต่อไป คงต้องมาดูหลังรัฐมีนโยบายออกมาชัดเจนแล้ว ซึ่งราคา 1 บาทนี้ยังไม่เพียงพอต่อต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้นมากถึง30% ทำให้ล่าสุดยื่นขอไป 2 บาท/ซอง จากก่อนหน้านี้ยื่นขอไป 1 บาท/ซอง
“ในการผลิตเราจะสั่งซื้อวัตถุดิบล่วงหน้า 3 เดือน ในช่วงที่ราคาวัตถุดิบสูงขึ้น เรายังมีสต็อกเก่าที่ยังพอประคับประคองไปได้บ้าง แต่ก็ยังทำให้ครึ่งปีแรกมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท โดยยอดขายในประเทศขาดทุน 15% และนำกำไรจากส่งออกมาชดเชยทำให้ครึ่งปีแรกขาดทุน 10% ทั้งนี้ สต็อกวัตถุดิบที่ซื้อไว้หมดไปแล้วตั้งแต่ไตรมาส2 ซึ่งทุกเจ้าก็ประสบกับสถานการณ์นี้เช่นเดียวกัน จึงทำให้เราขอขึ้นราคาตามต้นทุนวัตถุดิบล็อตใหม่ จริงๆถ้ารัฐปล่อยให้เอกชนใช้กลไกตลาดทำงาน เมื่อราคาสินค้าปรับขึ้นไปแล้ว พอถึงเวลาสักระยะหนึ่งจะลงมาเอง เพราะผู้ผลิตทุกรายจะมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาสู้กันอยู่แล้ว” นาย
ปริญญากล่าว
ทนายชมรมผู้ตื่นรู้ฯ แจ้งความ 'บิ๊กตู่' ไม่ได้เป็นนายกฯ ตาม รธน.60 หากนั่งต่อหลัง 8 ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_3513352
ทนายอำนาจเจริญ แจ้งความจับ นายกรัฐมนตรี ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’
เมื่อเวลา 10.17 น. วันที่ 18 สิงหาคม ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ นาย
จำรัส ไกยสิทธิ์ ประธานชมรมผู้ตื่นรู้ประชาธิปไตยจังหวัดอำนาจเจริญ หรือทนายชื่อดังของจังหวัดอำนาจเจริญ ให้สัมภาษณ์ว่า
วันนี้ตนได้เข้าพบพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.
ณัฐพล ฉลูศรี ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง อำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ แจ้งว่า พล.อ.ป
ระยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ตามมาตรา 158 ประกอบกับบทเฉพาะกาล มาตรา 264 ให้นับระยะเวลาต่อเนื่อง จึงครบ 8 ปี ในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 และวันที่ 24 สิงหาคม 2565
“หาก พล.เอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกถือว่าไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มีเจตนาจงใจหลอกลวงผู้อื่น เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามาตรา 341 หลายบท หลายกระทง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี เพราะเงินเดือนนายกรัฐมนตรีเป็นภาษีของประชาชนถือว่าเป็นทรัพย์ ขึ้นศาลยุติธรรมพิจารณาคดีตัดสิน และขัดจริยธรรมตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
และกระทำการขัดกฎหมาย ป.ป.ช. เป็นสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองทั่วราชอาณาจักร แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษได้ที่สถานีตำรวจภูธรทุกอำเภอทั่วประเทศ มีประมาณ 1,000 กว่าสถานี วันนี้ตนจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจอำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ” นาย
จำรัสกล่าว
ผู้ใช้รถจวกยับ พ.ร.บ.จราจรใหม่ห้ามนั่งแค็บ ท้ายกระบะ ทำประชาชนเดือดร้อนหนัก
https://www.matichon.co.th/region/news_3513696
วันที่ 18 สิงหาคม 2565 จากกระแสดราม่าที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ที่ทั้งคนบนโลกออนไลน์และในสังคมทั่วไปออกมาแสดงความเห็นและความกังวลถึง พ.ร.บ.การจราจรทางบกฉบับใหม่ ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 กันยายน 2565 นี้ ที่มีเนื้อหาสาระสำคัญที่ทำให้ประชาชนทั่วไปมีความกังวลอย่างมากนั่นก็คือ ประเด็นเกี่ยวกับรถกระบะแบบแค็บ ที่ถูกระบุว่าภายในแคปไม่ใช่ที่นั่งผู้โดยสาร ซึ่งประชาชนส่วนมากบอกว่าจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เพราะจำนวนผู้ที่ซื้อรถกระบะแบบมีแค็บมาใช้มีมากมายหลายล้านคันทั่วประเทศ
นายจรัญ พูลทรัพย์ ผู้ใช้รถใน จ.ชัยนาทกล่าวว่า คนใช้รถกระบะได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน เพราะจากเดิมที่สามารถนำพาบุตรหลาน หรือญาติๆติดรถไปด้วยได้โดยให้นั่งภายในแค็บ แต่ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายนจะไม่สามารถทำได้แล้ว จึงเกิดคำถามว่า ข้อนี้นักวิชาการขนส่งที่คิดออกมา ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนหรือไม่ และอีกประเด็นสำคัญไม่แพ้กันก็คือ กระบะท้ายรถห้ามผู้โดยสารนั่ง ซึ่งประชาชนจำนวนมากบอกว่าปกติแล้วสังคมต่างจังหวัดจะเป็นสังคมพึ่งพาอาศัย คนไม่มีรถก็จะขออาศัยบ้านที่มีรถในการเดินทางไปทำธุระ ซึ่งแน่นอนว่าหนีไม่พ้นการนั่งท้ายกระบะ รวมทั้งอาชีพผู้รับเหมาก่อสร้างที่จะต้องได้รับผลกระทบจาก พ.ร.บ.นี้อย่างรุนแรงเพราะการขนส่งแรงงานไปทำงานตามไซต์งาน จะต้องใช้รถกระบะที่มีให้คนงานนั่งท้ายกระบะไปด้วยกัน แต่เมื่อถึงวันที่ 5 กันยายนเป็นต้นไป ผู้รับเหมาเหล่านี้เดือดร้อนหนักอย่างแน่นอน เพราะยังหาทางออกไม่ได้ว่าจะขนแรงงานของตนอย่างไร
“ลองคิดง่ายๆนะ ถ้าวันนี้จะทำบุญบ้าน ต้องนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป แต่เอารถกระบะไปรับไม่ได้ เพราะห้ามนั่งท้ายกระบะ เราจะทำยังไงกัน เพราะชาวบ้านไม่ได้มีรถตู้ หรือรถหลายๆคันเหมือนท่านผู้ออกกฎหมาย ที่รถเยอะแถมมีคนขับให้นั่ง” นายจรัญกล่าว
JJNY : ถึงคิว‘โอวัลติน-น้ำยาดัดผม’ปรับราคา│ทนายชมรมผู้ตื่นรู้ฯแจ้งความตู่│จวกยับ พ.ร.บ.จราจรใหม่│มหา’ลัยไทย ตึงเครียด
https://www.matichon.co.th/economy/news_3513473
ถึงคิว ‘โอวัลติน-น้ำยาดัดผม’ ปรับราคา ‘5 บิ๊ก บะหมี่’ ลุ้นขึ้น 1 บาท ‘มาม่า’ ลั่นไม่พอขอตื๊อต่อ
วันที่ 18 สิงหาคม แหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกและค้าส่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางผู้ผลิตเริ่มทยอยแจ้งปรับราคาสินค้าในรอบเดือนกันยายน 2565 บ้างแล้ว ล่าสุดได้รับแจ้งว่าจะปรับขึ้นราคาต้นทุนและขายปลีกโอวัลตินทุกรายการตั้งแต่เดือนกันยายนี้เป็นต้นไป แต่ยังไม่ระบุว่าจะปรับขึ้นกี่บาท ซึ่งโอวัลตินเป็นรายสุดท้ายที่ปรับราคา เพราะก่อนหน้านี้มีหลายรายที่ขอปรับไปนานแล้ว เช่น ไมโล เป็นต้น
นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากผู้ผลิตน้ำยาดัดผมและแต่งผมยี่ห้อ”โลแลน”จะปรับขึ้นอีกชิ้นละประมาณ 5% จากราคาขายในปัจจุบัน คาดว่าหลังจากนี้คงจะมีสินค้าอีกหลายรายการทยอยปรับขึ้นอีกจำนวนมาก
5 บิ๊กบะหมี่คาดพณ.เคาะให้ 1 บาท
แหล่งข่าวจากวงการผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กล่าวว่า หลัง 5 ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ประกอบด้วย มาม่า ไวไว ยำยำ ซื่อสัตย์ นิสชิน ได้รวมตัวกันลงนามในหนังสือเพื่อยื่นต่อกรมการค้าภายใน กระทรงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม เพื่อขอความกรุณาให้เร่งรัดการพิจารณาการปรับขึ้นราคาอีก 2 บาทต่อซอง จาก 6 บาทต่อซอง เป็น 8 บาทต่อซอง ตามที่ได้ยื่นเสนอขอปรับราคาไปเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมานั้น คาดว่าภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า น่าจะมีความชัดเจน และมีแนวโน้มที่กรมการค้าภายในจะอนุมัติให้ไม่ถึงตามที่ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเสนอไป 2 บาทต่อซอง อาจเคาะให้ปรับขึ้น 1 บาทต่อซอง ทำให้ราคาจาก 6 บาทต่อซอง เป็น 7 บาทต่อซอง
“มาม่า” ยันจะยื่นจนได้ 8 บาท
นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักผู้อำนวยการบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ”มาม่า” กล่าวว่า หลังได้ยื่นหนังสืออยู่ระหว่างรอกรมการค้าภายในพิจารณาอนุมัติ คาดว่าน่าจะมีคำตอบให้ในเร็วๆนี้ ไม่ว่าจะอนุมัติให้ขึ้นราคาซองละ 1 บาทหรือ 2 บาท ก็ต้องเป็นไปตามนั้น หากรัฐอนุมัติให้ขึ้นจาก 6 บาท เป็น 7 บาท ทางบริษัทยังคงยื่นขอปรับราคาต่อไปเรื่อยๆ เพราะราคาที่อนุมัติยังไม่โคฟเวอร์(cover )กับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดรับกับต้นทุนปัจจุบัน ขณะเดียวกันจะเพิ่มกำลังการผลิตอีกประมาณ 5-6 แสนชิ้น/วันจากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 6 ล้านชิ้น/วัน เพื่อเพิ่มสัดส่วนการส่งออกมากขึ้น
“การซื้อวัตถุดิบการผลิตจะต้องซื้อล่วงหน้า ตอนนี้ล็อตเก่าหมดแล้ว เมื่อเดือนกรกฎาคมเป็นช่วงที่ราคาวัตถุดิบสูงขึ้นมาก และมีแนวโน้มที่ยอดขายในประเทศจะขาดทุนตั้งแต่ไตรมาสที่3 เป็นต้นไป ทำให้เรายื่นปรับราคาเป็น 8 บาทต่อซอง” นายพันธ์กล่าว
“ซื่อสัตย์” ใช้ส่งออกโปะในปท.
นายปริญญา สิทธิดำรง กรรมการบริษัท โชคชัยพิบูล จำกัด ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ”ซื่อสัตย์”กล่าวว่า หากกรมการค้าภายในอนุมัติให้ปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 บาทต่อซอง จาก6 บาท/ซอง เป็น 7 บาท/ซอง รัฐอนุมัติให้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ซึ่งบริษัทคงต้องหาวิธีการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆต่อไป คงต้องมาดูหลังรัฐมีนโยบายออกมาชัดเจนแล้ว ซึ่งราคา 1 บาทนี้ยังไม่เพียงพอต่อต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้นมากถึง30% ทำให้ล่าสุดยื่นขอไป 2 บาท/ซอง จากก่อนหน้านี้ยื่นขอไป 1 บาท/ซอง
“ในการผลิตเราจะสั่งซื้อวัตถุดิบล่วงหน้า 3 เดือน ในช่วงที่ราคาวัตถุดิบสูงขึ้น เรายังมีสต็อกเก่าที่ยังพอประคับประคองไปได้บ้าง แต่ก็ยังทำให้ครึ่งปีแรกมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท โดยยอดขายในประเทศขาดทุน 15% และนำกำไรจากส่งออกมาชดเชยทำให้ครึ่งปีแรกขาดทุน 10% ทั้งนี้ สต็อกวัตถุดิบที่ซื้อไว้หมดไปแล้วตั้งแต่ไตรมาส2 ซึ่งทุกเจ้าก็ประสบกับสถานการณ์นี้เช่นเดียวกัน จึงทำให้เราขอขึ้นราคาตามต้นทุนวัตถุดิบล็อตใหม่ จริงๆถ้ารัฐปล่อยให้เอกชนใช้กลไกตลาดทำงาน เมื่อราคาสินค้าปรับขึ้นไปแล้ว พอถึงเวลาสักระยะหนึ่งจะลงมาเอง เพราะผู้ผลิตทุกรายจะมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาสู้กันอยู่แล้ว” นายปริญญากล่าว
ทนายชมรมผู้ตื่นรู้ฯ แจ้งความ 'บิ๊กตู่' ไม่ได้เป็นนายกฯ ตาม รธน.60 หากนั่งต่อหลัง 8 ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_3513352
ทนายอำนาจเจริญ แจ้งความจับ นายกรัฐมนตรี ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’
เมื่อเวลา 10.17 น. วันที่ 18 สิงหาคม ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ นายจำรัส ไกยสิทธิ์ ประธานชมรมผู้ตื่นรู้ประชาธิปไตยจังหวัดอำนาจเจริญ หรือทนายชื่อดังของจังหวัดอำนาจเจริญ ให้สัมภาษณ์ว่า
วันนี้ตนได้เข้าพบพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.ณัฐพล ฉลูศรี ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง อำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ แจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ตามมาตรา 158 ประกอบกับบทเฉพาะกาล มาตรา 264 ให้นับระยะเวลาต่อเนื่อง จึงครบ 8 ปี ในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 และวันที่ 24 สิงหาคม 2565
“หาก พล.เอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกถือว่าไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มีเจตนาจงใจหลอกลวงผู้อื่น เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามาตรา 341 หลายบท หลายกระทง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี เพราะเงินเดือนนายกรัฐมนตรีเป็นภาษีของประชาชนถือว่าเป็นทรัพย์ ขึ้นศาลยุติธรรมพิจารณาคดีตัดสิน และขัดจริยธรรมตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
และกระทำการขัดกฎหมาย ป.ป.ช. เป็นสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองทั่วราชอาณาจักร แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษได้ที่สถานีตำรวจภูธรทุกอำเภอทั่วประเทศ มีประมาณ 1,000 กว่าสถานี วันนี้ตนจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจอำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ” นายจำรัสกล่าว
ผู้ใช้รถจวกยับ พ.ร.บ.จราจรใหม่ห้ามนั่งแค็บ ท้ายกระบะ ทำประชาชนเดือดร้อนหนัก
https://www.matichon.co.th/region/news_3513696
วันที่ 18 สิงหาคม 2565 จากกระแสดราม่าที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ที่ทั้งคนบนโลกออนไลน์และในสังคมทั่วไปออกมาแสดงความเห็นและความกังวลถึง พ.ร.บ.การจราจรทางบกฉบับใหม่ ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 กันยายน 2565 นี้ ที่มีเนื้อหาสาระสำคัญที่ทำให้ประชาชนทั่วไปมีความกังวลอย่างมากนั่นก็คือ ประเด็นเกี่ยวกับรถกระบะแบบแค็บ ที่ถูกระบุว่าภายในแคปไม่ใช่ที่นั่งผู้โดยสาร ซึ่งประชาชนส่วนมากบอกว่าจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เพราะจำนวนผู้ที่ซื้อรถกระบะแบบมีแค็บมาใช้มีมากมายหลายล้านคันทั่วประเทศ
นายจรัญ พูลทรัพย์ ผู้ใช้รถใน จ.ชัยนาทกล่าวว่า คนใช้รถกระบะได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน เพราะจากเดิมที่สามารถนำพาบุตรหลาน หรือญาติๆติดรถไปด้วยได้โดยให้นั่งภายในแค็บ แต่ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายนจะไม่สามารถทำได้แล้ว จึงเกิดคำถามว่า ข้อนี้นักวิชาการขนส่งที่คิดออกมา ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนหรือไม่ และอีกประเด็นสำคัญไม่แพ้กันก็คือ กระบะท้ายรถห้ามผู้โดยสารนั่ง ซึ่งประชาชนจำนวนมากบอกว่าปกติแล้วสังคมต่างจังหวัดจะเป็นสังคมพึ่งพาอาศัย คนไม่มีรถก็จะขออาศัยบ้านที่มีรถในการเดินทางไปทำธุระ ซึ่งแน่นอนว่าหนีไม่พ้นการนั่งท้ายกระบะ รวมทั้งอาชีพผู้รับเหมาก่อสร้างที่จะต้องได้รับผลกระทบจาก พ.ร.บ.นี้อย่างรุนแรงเพราะการขนส่งแรงงานไปทำงานตามไซต์งาน จะต้องใช้รถกระบะที่มีให้คนงานนั่งท้ายกระบะไปด้วยกัน แต่เมื่อถึงวันที่ 5 กันยายนเป็นต้นไป ผู้รับเหมาเหล่านี้เดือดร้อนหนักอย่างแน่นอน เพราะยังหาทางออกไม่ได้ว่าจะขนแรงงานของตนอย่างไร
“ลองคิดง่ายๆนะ ถ้าวันนี้จะทำบุญบ้าน ต้องนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป แต่เอารถกระบะไปรับไม่ได้ เพราะห้ามนั่งท้ายกระบะ เราจะทำยังไงกัน เพราะชาวบ้านไม่ได้มีรถตู้ หรือรถหลายๆคันเหมือนท่านผู้ออกกฎหมาย ที่รถเยอะแถมมีคนขับให้นั่ง” นายจรัญกล่าว