JJNY : ถึงคิว‘โอวัลติน-น้ำยาดัดผม’ปรับราคา│ทนายชมรมผู้ตื่นรู้ฯแจ้งความตู่│จวกยับ พ.ร.บ.จราจรใหม่│มหา’ลัยไทย ตึงเครียด

ถึงคิว 'โอวัลติน-น้ำยาดัดผม' ปรับราคา '5 บิ๊ก บะหมี่' ลุ้นขึ้น 1 บาท 'มาม่า' ลั่นไม่พอขอตื๊อต่อ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3513473
 
 
ถึงคิว ‘โอวัลติน-น้ำยาดัดผม’ ปรับราคา ‘5 บิ๊ก บะหมี่’ ลุ้นขึ้น 1 บาท ‘มาม่า’ ลั่นไม่พอขอตื๊อต่อ
 
วันที่ 18 สิงหาคม แหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกและค้าส่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางผู้ผลิตเริ่มทยอยแจ้งปรับราคาสินค้าในรอบเดือนกันยายน 2565 บ้างแล้ว ล่าสุดได้รับแจ้งว่าจะปรับขึ้นราคาต้นทุนและขายปลีกโอวัลตินทุกรายการตั้งแต่เดือนกันยายนี้เป็นต้นไป แต่ยังไม่ระบุว่าจะปรับขึ้นกี่บาท ซึ่งโอวัลตินเป็นรายสุดท้ายที่ปรับราคา เพราะก่อนหน้านี้มีหลายรายที่ขอปรับไปนานแล้ว เช่น ไมโล เป็นต้น
 
นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากผู้ผลิตน้ำยาดัดผมและแต่งผมยี่ห้อ”โลแลน”จะปรับขึ้นอีกชิ้นละประมาณ 5% จากราคาขายในปัจจุบัน คาดว่าหลังจากนี้คงจะมีสินค้าอีกหลายรายการทยอยปรับขึ้นอีกจำนวนมาก
 
5 บิ๊กบะหมี่คาดพณ.เคาะให้ 1 บาท
 
แหล่งข่าวจากวงการผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กล่าวว่า หลัง 5 ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ประกอบด้วย มาม่า ไวไว ยำยำ ซื่อสัตย์ นิสชิน ได้รวมตัวกันลงนามในหนังสือเพื่อยื่นต่อกรมการค้าภายใน กระทรงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม เพื่อขอความกรุณาให้เร่งรัดการพิจารณาการปรับขึ้นราคาอีก 2 บาทต่อซอง จาก 6 บาทต่อซอง เป็น 8 บาทต่อซอง ตามที่ได้ยื่นเสนอขอปรับราคาไปเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมานั้น คาดว่าภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า น่าจะมีความชัดเจน และมีแนวโน้มที่กรมการค้าภายในจะอนุมัติให้ไม่ถึงตามที่ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเสนอไป 2 บาทต่อซอง อาจเคาะให้ปรับขึ้น 1 บาทต่อซอง ทำให้ราคาจาก 6 บาทต่อซอง เป็น 7 บาทต่อซอง
 
“มาม่า” ยันจะยื่นจนได้ 8 บาท
 
นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักผู้อำนวยการบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ”มาม่า” กล่าวว่า หลังได้ยื่นหนังสืออยู่ระหว่างรอกรมการค้าภายในพิจารณาอนุมัติ คาดว่าน่าจะมีคำตอบให้ในเร็วๆนี้ ไม่ว่าจะอนุมัติให้ขึ้นราคาซองละ 1 บาทหรือ 2 บาท ก็ต้องเป็นไปตามนั้น หากรัฐอนุมัติให้ขึ้นจาก 6 บาท เป็น 7 บาท ทางบริษัทยังคงยื่นขอปรับราคาต่อไปเรื่อยๆ เพราะราคาที่อนุมัติยังไม่โคฟเวอร์(cover )กับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดรับกับต้นทุนปัจจุบัน ขณะเดียวกันจะเพิ่มกำลังการผลิตอีกประมาณ 5-6 แสนชิ้น/วันจากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 6 ล้านชิ้น/วัน เพื่อเพิ่มสัดส่วนการส่งออกมากขึ้น
 
“การซื้อวัตถุดิบการผลิตจะต้องซื้อล่วงหน้า ตอนนี้ล็อตเก่าหมดแล้ว เมื่อเดือนกรกฎาคมเป็นช่วงที่ราคาวัตถุดิบสูงขึ้นมาก และมีแนวโน้มที่ยอดขายในประเทศจะขาดทุนตั้งแต่ไตรมาสที่3 เป็นต้นไป ทำให้เรายื่นปรับราคาเป็น 8 บาทต่อซอง” นายพันธ์กล่าว
 
“ซื่อสัตย์” ใช้ส่งออกโปะในปท.
 
นายปริญญา สิทธิดำรง กรรมการบริษัท โชคชัยพิบูล จำกัด ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ”ซื่อสัตย์”กล่าวว่า หากกรมการค้าภายในอนุมัติให้ปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 บาทต่อซอง จาก6 บาท/ซอง เป็น 7 บาท/ซอง รัฐอนุมัติให้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ซึ่งบริษัทคงต้องหาวิธีการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆต่อไป คงต้องมาดูหลังรัฐมีนโยบายออกมาชัดเจนแล้ว ซึ่งราคา 1 บาทนี้ยังไม่เพียงพอต่อต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้นมากถึง30% ทำให้ล่าสุดยื่นขอไป 2 บาท/ซอง จากก่อนหน้านี้ยื่นขอไป 1 บาท/ซอง
 
“ในการผลิตเราจะสั่งซื้อวัตถุดิบล่วงหน้า 3 เดือน ในช่วงที่ราคาวัตถุดิบสูงขึ้น เรายังมีสต็อกเก่าที่ยังพอประคับประคองไปได้บ้าง แต่ก็ยังทำให้ครึ่งปีแรกมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท โดยยอดขายในประเทศขาดทุน 15% และนำกำไรจากส่งออกมาชดเชยทำให้ครึ่งปีแรกขาดทุน 10% ทั้งนี้ สต็อกวัตถุดิบที่ซื้อไว้หมดไปแล้วตั้งแต่ไตรมาส2 ซึ่งทุกเจ้าก็ประสบกับสถานการณ์นี้เช่นเดียวกัน จึงทำให้เราขอขึ้นราคาตามต้นทุนวัตถุดิบล็อตใหม่ จริงๆถ้ารัฐปล่อยให้เอกชนใช้กลไกตลาดทำงาน เมื่อราคาสินค้าปรับขึ้นไปแล้ว พอถึงเวลาสักระยะหนึ่งจะลงมาเอง เพราะผู้ผลิตทุกรายจะมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาสู้กันอยู่แล้ว” นายปริญญากล่าว 


 
ทนายชมรมผู้ตื่นรู้ฯ แจ้งความ 'บิ๊กตู่' ไม่ได้เป็นนายกฯ ตาม รธน.60 หากนั่งต่อหลัง 8 ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_3513352
 
ทนายอำนาจเจริญ แจ้งความจับ นายกรัฐมนตรี ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’
 
เมื่อเวลา 10.17 น. วันที่ 18 สิงหาคม ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ นายจำรัส ไกยสิทธิ์ ประธานชมรมผู้ตื่นรู้ประชาธิปไตยจังหวัดอำนาจเจริญ หรือทนายชื่อดังของจังหวัดอำนาจเจริญ ให้สัมภาษณ์ว่า
  
วันนี้ตนได้เข้าพบพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.ณัฐพล ฉลูศรี ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง อำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ แจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ตามมาตรา 158 ประกอบกับบทเฉพาะกาล มาตรา 264 ให้นับระยะเวลาต่อเนื่อง จึงครบ 8 ปี ในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 และวันที่ 24 สิงหาคม 2565
 
“หาก พล.เอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกถือว่าไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มีเจตนาจงใจหลอกลวงผู้อื่น เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามาตรา 341 หลายบท หลายกระทง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี เพราะเงินเดือนนายกรัฐมนตรีเป็นภาษีของประชาชนถือว่าเป็นทรัพย์ ขึ้นศาลยุติธรรมพิจารณาคดีตัดสิน และขัดจริยธรรมตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
 
และกระทำการขัดกฎหมาย ป.ป.ช. เป็นสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองทั่วราชอาณาจักร แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษได้ที่สถานีตำรวจภูธรทุกอำเภอทั่วประเทศ มีประมาณ 1,000 กว่าสถานี วันนี้ตนจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจอำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ” นายจำรัสกล่าว
 

  
ผู้ใช้รถจวกยับ พ.ร.บ.จราจรใหม่ห้ามนั่งแค็บ ท้ายกระบะ ทำประชาชนเดือดร้อนหนัก
https://www.matichon.co.th/region/news_3513696

วันที่ 18 สิงหาคม 2565 จากกระแสดราม่าที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ที่ทั้งคนบนโลกออนไลน์และในสังคมทั่วไปออกมาแสดงความเห็นและความกังวลถึง พ.ร.บ.การจราจรทางบกฉบับใหม่ ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 กันยายน 2565 นี้ ที่มีเนื้อหาสาระสำคัญที่ทำให้ประชาชนทั่วไปมีความกังวลอย่างมากนั่นก็คือ ประเด็นเกี่ยวกับรถกระบะแบบแค็บ ที่ถูกระบุว่าภายในแคปไม่ใช่ที่นั่งผู้โดยสาร ซึ่งประชาชนส่วนมากบอกว่าจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เพราะจำนวนผู้ที่ซื้อรถกระบะแบบมีแค็บมาใช้มีมากมายหลายล้านคันทั่วประเทศ
 
นายจรัญ พูลทรัพย์ ผู้ใช้รถใน จ.ชัยนาทกล่าวว่า คนใช้รถกระบะได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน เพราะจากเดิมที่สามารถนำพาบุตรหลาน หรือญาติๆติดรถไปด้วยได้โดยให้นั่งภายในแค็บ แต่ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายนจะไม่สามารถทำได้แล้ว จึงเกิดคำถามว่า ข้อนี้นักวิชาการขนส่งที่คิดออกมา ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนหรือไม่ และอีกประเด็นสำคัญไม่แพ้กันก็คือ กระบะท้ายรถห้ามผู้โดยสารนั่ง ซึ่งประชาชนจำนวนมากบอกว่าปกติแล้วสังคมต่างจังหวัดจะเป็นสังคมพึ่งพาอาศัย คนไม่มีรถก็จะขออาศัยบ้านที่มีรถในการเดินทางไปทำธุระ ซึ่งแน่นอนว่าหนีไม่พ้นการนั่งท้ายกระบะ รวมทั้งอาชีพผู้รับเหมาก่อสร้างที่จะต้องได้รับผลกระทบจาก พ.ร.บ.นี้อย่างรุนแรงเพราะการขนส่งแรงงานไปทำงานตามไซต์งาน จะต้องใช้รถกระบะที่มีให้คนงานนั่งท้ายกระบะไปด้วยกัน แต่เมื่อถึงวันที่ 5 กันยายนเป็นต้นไป ผู้รับเหมาเหล่านี้เดือดร้อนหนักอย่างแน่นอน เพราะยังหาทางออกไม่ได้ว่าจะขนแรงงานของตนอย่างไร
 
“ลองคิดง่ายๆนะ ถ้าวันนี้จะทำบุญบ้าน ต้องนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป แต่เอารถกระบะไปรับไม่ได้ เพราะห้ามนั่งท้ายกระบะ เราจะทำยังไงกัน เพราะชาวบ้านไม่ได้มีรถตู้ หรือรถหลายๆคันเหมือนท่านผู้ออกกฎหมาย ที่รถเยอะแถมมีคนขับให้นั่ง” นายจรัญกล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่