หลังจากที่สร้างบ้านเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์
ก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ซักที ขอกลับมารีวิวบ้านอีกครั้ง



เริ่มจากประตูทางเข้าบ้านได้ตู้เก็บรองเท้ามาจากร้านมือสองญี่ปุ่น เพิ่มกลิ่นอาย Japanese Style ให้บ้านได้เยอะเลย
พื้นต่างระดับ หลานอายุ 2 ขวบ10เดือน สะดุดหลายรอบแล้ว
ผนังหลังตู้ช่างทาแต่สีรองพื้น ยังไม่ลงสีจริง (สีจริงก็สีขาว) ช่างน่าจะสับสน รอช่างกลับมาทาสี 


มุม Living ก่อแท่นปูนขึ้นมา แล้วสั่งทำเบาะ แน่นๆ รับน้ำหนักคนตัวใหญ่ได้ (น้องชาย 100 กิโลอัพ)
เบาะใช้ฟองน้ำแบบแข็งทั้งก้อนเลยค่ะ
แล้วบุแบบนุ่มด้านบน ช่วงที่ช่างเข้ามา Fitting หน้างานค่ะ 
จ้างร้านรับหุ้มเบาะ หุ้มโซฟาแถวบ้าน ราคากันเองค่ะ 

 

หลังจากนั้นหุ้มด้วยหนังอย่างดี แต่นอนแล้วรู้สึกเหนียวตัว เลยไปซื้อผ้ามาทำปลอก
แต่คนเย็บปลอก กลับผ้าผิดด้าน เลยทำให้สีไม่เหมือนกัน หาทางแก้อยู่ค่ะ ณ จุดนี้

 


ใช้กระถางดอกไม้แห้งจากบ้านเก่ามาตกแต่งหน้าห้องน้ำด้านล่าง  



ประตูครัวตอนแรกเป็นสีขาว ไม่มีคิ้ว เป็นกระจกโล่งๆ บางทีจะเดินชน เพราะไม่เห็นว่าปิดประตูเอาไว้
เลยไปซื้อคิ้วมาติดแล้วใช้สติ๊กเกอร์ลายไม้ติดอีกรอบ การติดต้องใช้ความอดทน ถ่ายรูปออกมาแล้วสวย
หากซูมดูผลงานการติดสติ๊กเกอร์ จะเห็นว่าเละมากๆ 5555
ถ้าใช้อลูมิเนียมลายไม้เหมือนร้านในเมืองใหญ่ๆแต่แรกจะดีมาก แต่ร้านแถวบ้านไม่มีเลยค่ะ



แบ่งปันการแต่งห้องนอน (ชั้นลอย ) ของ จขกท. 
รางแอร์คือขัดตามาก ไม่เข้าใจทำไมช่างถึงติดมาขนาดนี้  ไม่รู้จะแก้ยังไง 
ใครมีวิธีช่วยให้คำแนะนำทีค่ะ



ข้างๆ วางโต๊ะโคทะซึเอาไว้ ได้มาจากร้านขายของมือสองญี่ปุ่นอีกแล้วจ้า
มองออกไปเห็นท้องฟ้าสีคราม สวยจังเลยยยยย
มุมนี้เป็นมุมที่ติดม่านแพงที่สุดของบ้านเลยค่ะ
เพราะว่าเพดานสูงเกือบ 6 เมตรได้ ติดมุมเฉียงแบบนี้ จะไม่สามารถรูดเก็บได้ ปรับองศาได้อย่างเดียวค่ะ



ห้องน้ำที่อยู่ที่ห้องนอน (ชั้นล่าง)
กรอบไม้ใส่รูปปลาทองวาดจากสีน้ำ ได้มาจากร้านมือสองญี่ปุ่น ชอบมากๆ



อ่างอาบน้ำที่ไม่เคยลงไปแช่แม้แต่ครั้งเดียว 555+
(แผ่นสีขาวๆที่ม้วนเอาไว้ เป็นแผ่นปิดอ่างน้ำ คนญี่ปุ่นใช้ปิดอ่างเพื่อรักษาอุณหภูมิของน้ำ ไปเจอที่ร้านขายของมือสองเช่นกัน)



มุมโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆของ จขกท. (ชั้นล่าง)



อีกฝั่งนึง (ชั้นล่าง) อยากจะหาพรมดีๆสักพื้นมาปู ค่อยๆแต่งไป ไม่รีบร้อน



บ้านหลังนี้ก็จะเป็นยายนี่แหละที่อยู่บ้านเป็นหลัก
(โฉมหน้าผู้มอบที่ดินผืนนี้ให้กับ จขกท.)



ส่วนแม่ กับ พี่อยู่จะอยู่บ้านข้างๆที่อยู่ในระแวกเดียวกัน
นานๆที หลานๆถึงจะได้กลับไปเยี่ยม ก็จะเป็นช่วงหยุดยาวสงกรานต์ (เมษา) กับปีใหม่ (มกรา)
กลัวยายเหงาก็เลยซื้อดอกกล้วยไม้ให้ยาย เอาไว้เป็นกิจกรรมยามว่าง
เริ่มต้นซื้อให้ 3 ต้นก่อน ทดลองดูว่าเลี้ยงรอดมั๊ย กลับไปอีกรอบช่วงสิงหาที่ผ่านมา ซื้อเพิ่มอีก 2 ต้น




แล้วยายก็ไปขอต้นไม้จากบ้านข้างๆมาใส่กระถาง ปลูกรอบๆระเบียง 


กลับไปรอบนี้เลยเอาเรียงจัดใหม่ ให้เป็นระเบียบมากขึ้น
แท่นวางกระถางต้นไม้ เอาไม้ลูกนอนบันไดที่เหลือจากการสร้างบ้าน ทาสีเคลือบไม้
แล้วเอาอิฐช่างลมที่เหลือจากการสร้างบ้านอีกนั่นแหละ มาเป็นขาตั้ง

พื้นเก่าที่เป็นดิน หญ้าขึ้นรกต้องคอยจ้างคนมาตัดตลอด



ถึงเวลาจัดสวนหิน เพราะกลัวไม่มีคนรดน้ำ
ผลงานจัดสวนครั้งแรก ร่วมมือกันกับพี่น้องๆ ใช้เวลาประมาณ 5 วัน

ก่อนอื่นเริ่มจากปรับหน้าดิน ด้วยแรงคนล้วน หลังจากนั้นเททราย 1 รอบ



วันที่ 2 ปูแผ่นกันวัชพืช



วันที่ 3 ปูทรายอีกรอบ กันกรวดลื่น หลังจากนั้นก็เทกรวดเล็ก ใช้หินสีขาวแต่งตรงมุม เพิ่มสีสัน



หลังจัดสวนเสร็จสภาพทุกคนคือซอมบี้ ปวดร้าวไปทุกส่วนของร่างกาย
ตามประสาคนไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
แต่ภูมิใจกับผลงานที่ออกมามากๆ



สนฉัตรก็แบกขึ้นรถไปด้วย ลงดินแล้วเค้าบอกว่าจะโตเร็วกว่าอยู่ในกระถาง
ตรงแนวกำแพงเป็นต้นพุดศุภโชค ได้มาต้นละ 10 บาท 1 เมตร ปลูก 3 ต้น รอน้องโต ฝากยายช่วยรดน้ำ 



หินแต่งสวน กับ โคมญี่ปุ่นไปซื้อแถวคลอง 16 ปทุมธานี  เดินเลือกดู 5 -6 ร้านก็เจออันทีถูกใจ
แบกใส่รถไปพะเยาด้วย ประหยัดไปหลายพันบาท (ที่พะเยาขายแพงกว่า)
ไอเดียการแต่งสวนดูจาก Pinterest




สุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องกลับมาทำงาน
พี่ชายขับรถผ่านหน้ากว๊านพะเยา 1 รอบ
ช่วงนี้เป็นหน้าฝน ทำให้เมฆลอยต่ำ และมีหมอกจางๆ เราถ่ายรูปจังหวะที่ขับผ่านแค่แปปเดียว
มองแล้วเป็นวิวที่สวยมากๆ เลยอยากเอามาแบ่งปันเพื่อนๆชาวพันทิพค่ะ ^^ ฃอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ