เป็นคนพุทธ แต่เคยเข้าโบสถ์บ่อยและขอพรกับพระเจ้า รู้สึกบาป

มีเรื่องหนึ่งที่นึกย้อนไปได้สมัยเรียน ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นบาปหรือเปล่า แต่เรากลับรู้สึกผิดบาป

เราเป็นชาวพุทธโดยกำเนิด แต่ไม่ได้เคร่งครัดไหว้พระสวดมนต์มากเท่าใดนัก เพราะที่บ้าน พ่อแม่เน้นให้เข้าวัดจีน เลยจะไหว้พระจีนเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีการสวดมนต์ ไหว้พระอย่างของวัดไทย

ช่วงหนึ่งสมัยเรียน เรามีเพื่อนเป็นคาธอลิค และเราชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้ตามเค้าไปเข้าโบถส์บ่อย บ่อยชนิดที่ว่าเป็นประจำทุกสัปดาห์อยู่เป็นปี จนเรารู้สึกศรัทธาเลื่อมใสในพระแม่มารีมาก มักจะนำพวงมาลัยไปถวายพระแม่ตามที่เพื่อนทำ ถึงแม้ไม่เคยเข้าพิธีรับศาสนา เคยเข้าแค่ตรงที่รับขนมปังจากคุณพ่อบาทหลวง ซึ่งเราเคยไหว้พระที่วัดจีน ขอพรอะไรก็ได้ตามที่ขอโดยเฉพาะเรื่องเรียน เรียนโง่ก็ดันสอบผ่านเราเลยเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธ์มีจริง พอไหว้พระแม่แล้วเลยอยากขอพรกับพระแม่ ในตอนนั้นมีความคิดหนึ่งว่าเราเชื่อพระองค์มีจริงพระองค์จะให้พรตามที่เราขอ เราไหว้บ่อยและขอแต่อย่างเดิม ผลคือได้รับตามที่ขอ ปกติที่ไหว้เราก็จะนำพวงมาลัยไปถวายพระองค์ด้วยเสมอ ถึงแค่ผ่านไปไม่ได้มีพิธีอะไรก็จะนำไปถวาย หลังจากได้ตามที่ขอก็ยังทำเหมือนเดิม แต่หลังเรียนจบแล้ว ลืมเรื่องนี้ไปไม่ได้เข้าโบสถ์และไม่ได้นึกถึงพระแม่อีก ใช้ชีวิตเข้าวัดไหว้พระทำบุญบ้าง ทั้งๆ ที่ช่วงนั้นที่เข้าโบถส์ จะไม่เคยได้เข้าวัดไทยหรือไหว้พระจีนทำบุญอะไรที่เกี่ยวกับวัดไทยวัดจีนเลย

พอนึกได้ทำไมเรารู้สึกผิดบาปต่อทั้งสองศาสนา เหมือนตัวเองกลายเป็นคนสองศาสนา และเนรคุณต่อทั้งสองศาสนา เราจะต้องทำอย่างไรดีคะ

- เราได้ไหว้และขอพร แต่ไม่เคยมีเจตนาย้ายหรือเปลี่ยนศาสนา
- ถ้าให้เลือกศรัทธา เราเลื่อมใสศรัทธาเชื่อในทั้งสองศาสนา แต่ว่าต้องเลือกนับถือได้แค่ศาสนาเดียว เราเลือกพุทธศาสนา
-  แต่ถ้าไม่มีข้อจำกัดในการนับถือศาสนาของมนุษย์ และบอกว่าต้องทำเต็มที่กับทั้งสองศาสนา แต่เราได้ละเลย ยอมรับว่าทำไม่ได้

อย่างนี้เราจะแก้สิ่งที่เราเคยทำเราคิดว่ามันเป็นบาปติดตัว แก้ไขอย่างไรดีคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่