"แกงสับนก" ชื่อต้องมีนก เอานกมาสับแน่ ๆ แต่เปล่าเลย มันใช้เนื้อปลาในการทำ บางคนก็เรียกว่า "แกงปลาสับนก" ซึ่งจริง ๆ แล้ว แกงสับนกเมนูนี้ เป็นแกงพื้นบ้าน เหมือนจะมีเฉพาะโซนทางภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน พิษณุโลก นครสวรรค์ พิจิตร สุโขทัย ชัยนาท อะไรประมาณนี้ ซึ่งใช้พริกแกงเผ็ด เคี่ยวกับกะทิ ใส่เนื้อปลาขูด ถั่วฝักยาว และใบยี่หร่า (ใบกะเพราควาย) หรือใบกะเพรา หรือใบโหระพาก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็เสร็จแล้วครับ
เมนูนี้ ทำไม่ยากนะครับ ใช้เวลาไม่นาน รสชาติมันจะเผ็ด ๆ เค็ม ๆ หวานนิด ๆ แค่นี้เองครับ ซึ่งถามว่าเด็ก ๆ จะทานได้ไหม อันนี้ต้องดูว่า "เราทำเผ็ดขนาดไหน และเด็ก ๆ ทานเผ็ดเก่งไหม" และบอกเลยว่า จานนี้ ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ไข่ต้มยางตูมหน่อย >> เด็ดสุด!!
เรามาดูวัตถุดิบกันก่อนนะครับ
1. พระเอกของเราครับ : เนื้อปลาขูด (ผมใช้ปลากรายขูดครับ) นวดให้เหนียวเลยนะ (ซื้อมาแหล่ะ เอาดี ๆ เจ้าประจำ เลยไม่ต้องนวดแล้ว)
2. นางเอกครับ : พริกแกงเผ็ด ที่ไม่ใส่ลูกผักชีและยี่หร่าคั่วป่น
3. กะทิ
4. ถั่วฝีกยาวหั่นท่อน (ท่อนประมาณ 1 ข้อนิ้ว)
5. ใบกะเพราควาย หรือใบกะเพรา หรือใบโหระพา (ผมใช้ใบกะเพราควาย)
6. น้ำปลา
7. น้ำตาลมะพร้าว
วัตถุดิบแค่ 7 อย่างครับ หม้อพร้อม ทับพีพร้อม เขียงพร้อม มีดพร้อม มาเริ่มกันเลยครับ
1. เคี่ยวพริกแกงกับหัวกะทิ ให้พอแตกมัน (แกงนี้ไม่ต้องแตกมันมากเท่ามัสมั่น หรือแกงกะหรี่ แค่พอแตกมันก็พอ) แบบนี้
2. พอได้ที่แล้ว เติมหางกะทิ รอพอเดือด ใส่ปลาขูดไปเลย >> เอาให้เต็มหม้อ
3. รอเดือด และเนื้อปลาสุก มันจะขึ้นฟู
4. ใส่ถั่วฝักยาวที่หั่นล้างไว้
5. พอแกงเดือด ปรุงรสตามชอบ ด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว
6. แกงเดือดอีกรอบใส่ใบกะเพราควาย คน ๆ ปิดเตา ยกลง
7. เสร็จละครับ ตักใส่ถ้วย หม่ำได้เลยครับ
เพื่อน ๆ สามารถประยุกต์วิธีการแกงแบบนี้ ใช้กับแกงกะทิอื่น เช่น แกงเผ็ด แกงเขียวหวาน ได้เช่นกัน นะครับ
#ลองทำกันดูนะครับ
#รังสรรค์เมนูด้วยความรัก
Eat for Pleasure, Cook for Passion
P.
ลองทำ..."แกงสับนก" กันนะครับ
เมนูนี้ ทำไม่ยากนะครับ ใช้เวลาไม่นาน รสชาติมันจะเผ็ด ๆ เค็ม ๆ หวานนิด ๆ แค่นี้เองครับ ซึ่งถามว่าเด็ก ๆ จะทานได้ไหม อันนี้ต้องดูว่า "เราทำเผ็ดขนาดไหน และเด็ก ๆ ทานเผ็ดเก่งไหม" และบอกเลยว่า จานนี้ ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ไข่ต้มยางตูมหน่อย >> เด็ดสุด!!
เรามาดูวัตถุดิบกันก่อนนะครับ
1. พระเอกของเราครับ : เนื้อปลาขูด (ผมใช้ปลากรายขูดครับ) นวดให้เหนียวเลยนะ (ซื้อมาแหล่ะ เอาดี ๆ เจ้าประจำ เลยไม่ต้องนวดแล้ว)
2. นางเอกครับ : พริกแกงเผ็ด ที่ไม่ใส่ลูกผักชีและยี่หร่าคั่วป่น
3. กะทิ
4. ถั่วฝีกยาวหั่นท่อน (ท่อนประมาณ 1 ข้อนิ้ว)
5. ใบกะเพราควาย หรือใบกะเพรา หรือใบโหระพา (ผมใช้ใบกะเพราควาย)
6. น้ำปลา
7. น้ำตาลมะพร้าว
วัตถุดิบแค่ 7 อย่างครับ หม้อพร้อม ทับพีพร้อม เขียงพร้อม มีดพร้อม มาเริ่มกันเลยครับ
1. เคี่ยวพริกแกงกับหัวกะทิ ให้พอแตกมัน (แกงนี้ไม่ต้องแตกมันมากเท่ามัสมั่น หรือแกงกะหรี่ แค่พอแตกมันก็พอ) แบบนี้
2. พอได้ที่แล้ว เติมหางกะทิ รอพอเดือด ใส่ปลาขูดไปเลย >> เอาให้เต็มหม้อ
3. รอเดือด และเนื้อปลาสุก มันจะขึ้นฟู
4. ใส่ถั่วฝักยาวที่หั่นล้างไว้
5. พอแกงเดือด ปรุงรสตามชอบ ด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว
6. แกงเดือดอีกรอบใส่ใบกะเพราควาย คน ๆ ปิดเตา ยกลง
7. เสร็จละครับ ตักใส่ถ้วย หม่ำได้เลยครับ
เพื่อน ๆ สามารถประยุกต์วิธีการแกงแบบนี้ ใช้กับแกงกะทิอื่น เช่น แกงเผ็ด แกงเขียวหวาน ได้เช่นกัน นะครับ
#ลองทำกันดูนะครับ
#รังสรรค์เมนูด้วยความรัก
Eat for Pleasure, Cook for Passion
P.