ตอนนั้นไฟล์ทน่าจะถึงราวเวียดนามเที่ยงครึ่งตอนกลางวัน แล้วต้องไปขึ้นกระเช้าไฟฟ้า เพื่อไปพักที่เมอร์เคียวบานาฮิลล์ที่อยู่บนเขา ซึ่งต้องไปให้ถึงก่อนตอนเย็นที่กระเช้าขึ้นเขาหยุดให้บริการ
.
ยังไม่ทันออกจากสนามบิน ก็เจอโจรเลย (ไม่ได้บอกว่ามันเป็นคนประเทศอะไร มันอาจเป็นคนประเทศอื่น ที่ไปก่ออาชญกรรมที่เวียดนามก็ได้) คนจะเลว เลวที่ใจ ใช่เชื้อชาติ
.
เรื่องมีอยู่ว่า พอออกจากอาคารผดส ก็ไปเรียกแกร๊ป ที่จุดเรียกแกร๊ป ของสนามบิน ที่มีเต๊นท์รอ ป้ายจัดเช่น ว่าเป็น grab ride point แนว ๆ นี้
.
พอกดเรียกแกร๊ปไป ก็จะเห็นหลายเคส ที่คนขับแกร๊บจะเดินมา แล้วขอดูมือถือ ดูหน้าจอ ว่าคุณเรียกผมไหม ถ้าใช่ ก็จะเชิญผู้โดยสาร ไปที่รถที่เขาจอดไว้ เพราะอาจจะขี้เกียจวนเข้ามาในสนามบิน รถจอดข้างนอกลานจอดสนามบินไม่ไกล ก็เดินไปขึ้นรถ
.
ทีนี้ มันมีชายใส่เสื้อกล้าม ใส่ทอง มีกล้าม ตัวสูงใหญ่ ผมสั้น (รวม ๆ แล้ว เหมือนใจเกเร เวอร์ชั่น southeast asia) เข้ามาดู ทำทีบอกว่า จะมาช่วย ตอนแรกนึกว่า มันจะเลื่อนหมุด ให้แกร๊ปมารับให้ถูก บอกเรารัว ๆ let me help you
.
ที่ไหนได้ มันทำทีเป็นโวยวายเสียงดัง ว่าเราเรียก outside grab แต่ตัวมันนี่แหละที่เป็น inside grab เราต้องเรียกมัน (เราก็เริ่มคิดในใจละ outside inside หึๆ..)
.
จากนั้น มันก็กด cancel แกร๊ปที่เราเรียก แล้วก็พาเราไปที่รถมัน เรารู้แล้วว่า ไม่ใช่คนดีแน่ ก็เลยไม่ขึ้น ยอมโดนค่าปรับจากแกร๊ปไป 20 บาท มันก็มองตาเรา ก็คงเห็นตาเราเหมือนกัน ว่ากูเอาจริง
.
ตอนแรกจะลุยแล้วล่ะ โวยวายตะลุมบอนอะไรก็ได้ ให้ตำรวจมา แต่ลืมไปว่า ตอนนั้น บ่ายโมงกว่าแล้ว และมีโจทย์สำคัญคือ “ต้องไปขึ้นกระเช้าไปฟ้า ก่อนห้าโมง”
.
เลยปล่อยมันไป แล้วมันก็ไปทำแบบนี้ กับคนอื่น ๆ แล้วก็พาคนอื่น ๆ ขึ้นรถมันไป มันก็หายไปจากบริเวณนั้น
.
จากนั้นก็มีมาอีก บอกว่า ผมก็เป็นแกร๊ปนะ นี่ไง มีแอปคนขับชัดเจน จะไปไหน ตกลงกันได้ พอคุยกัน เป็นราคาสองเท่าของแกร๊บ ก็ยกเลิกไป เคสนี้ไม่มีอะไร เข้ามาแบบสุภาพ ตัวเล็ก
.
ส่วนเราก็เรียกแกร๊ปอีกครั้ง จนได้ขึ้นแกร๊ปถูกคัน ไปถึงที่หมายทันเวลา + แวะทานข้าวเร็ว ๆ ได้หนึ่งมื้อ
เตือนภัย ตอนเรียกแกร๊บ ออกจากสนามบินดานัง เวียดนาม
.
ยังไม่ทันออกจากสนามบิน ก็เจอโจรเลย (ไม่ได้บอกว่ามันเป็นคนประเทศอะไร มันอาจเป็นคนประเทศอื่น ที่ไปก่ออาชญกรรมที่เวียดนามก็ได้) คนจะเลว เลวที่ใจ ใช่เชื้อชาติ
.
เรื่องมีอยู่ว่า พอออกจากอาคารผดส ก็ไปเรียกแกร๊ป ที่จุดเรียกแกร๊ป ของสนามบิน ที่มีเต๊นท์รอ ป้ายจัดเช่น ว่าเป็น grab ride point แนว ๆ นี้
.
พอกดเรียกแกร๊ปไป ก็จะเห็นหลายเคส ที่คนขับแกร๊บจะเดินมา แล้วขอดูมือถือ ดูหน้าจอ ว่าคุณเรียกผมไหม ถ้าใช่ ก็จะเชิญผู้โดยสาร ไปที่รถที่เขาจอดไว้ เพราะอาจจะขี้เกียจวนเข้ามาในสนามบิน รถจอดข้างนอกลานจอดสนามบินไม่ไกล ก็เดินไปขึ้นรถ
.
ทีนี้ มันมีชายใส่เสื้อกล้าม ใส่ทอง มีกล้าม ตัวสูงใหญ่ ผมสั้น (รวม ๆ แล้ว เหมือนใจเกเร เวอร์ชั่น southeast asia) เข้ามาดู ทำทีบอกว่า จะมาช่วย ตอนแรกนึกว่า มันจะเลื่อนหมุด ให้แกร๊ปมารับให้ถูก บอกเรารัว ๆ let me help you
.
ที่ไหนได้ มันทำทีเป็นโวยวายเสียงดัง ว่าเราเรียก outside grab แต่ตัวมันนี่แหละที่เป็น inside grab เราต้องเรียกมัน (เราก็เริ่มคิดในใจละ outside inside หึๆ..)
.
จากนั้น มันก็กด cancel แกร๊ปที่เราเรียก แล้วก็พาเราไปที่รถมัน เรารู้แล้วว่า ไม่ใช่คนดีแน่ ก็เลยไม่ขึ้น ยอมโดนค่าปรับจากแกร๊ปไป 20 บาท มันก็มองตาเรา ก็คงเห็นตาเราเหมือนกัน ว่ากูเอาจริง
.
ตอนแรกจะลุยแล้วล่ะ โวยวายตะลุมบอนอะไรก็ได้ ให้ตำรวจมา แต่ลืมไปว่า ตอนนั้น บ่ายโมงกว่าแล้ว และมีโจทย์สำคัญคือ “ต้องไปขึ้นกระเช้าไปฟ้า ก่อนห้าโมง”
.
เลยปล่อยมันไป แล้วมันก็ไปทำแบบนี้ กับคนอื่น ๆ แล้วก็พาคนอื่น ๆ ขึ้นรถมันไป มันก็หายไปจากบริเวณนั้น
.
จากนั้นก็มีมาอีก บอกว่า ผมก็เป็นแกร๊ปนะ นี่ไง มีแอปคนขับชัดเจน จะไปไหน ตกลงกันได้ พอคุยกัน เป็นราคาสองเท่าของแกร๊บ ก็ยกเลิกไป เคสนี้ไม่มีอะไร เข้ามาแบบสุภาพ ตัวเล็ก
.
ส่วนเราก็เรียกแกร๊ปอีกครั้ง จนได้ขึ้นแกร๊ปถูกคัน ไปถึงที่หมายทันเวลา + แวะทานข้าวเร็ว ๆ ได้หนึ่งมื้อ