สถานการณ์ผู้ประกอบการสนามบิน สายการบินยังโคม่า ระดมเยียวยาต่อเนื่อง

ไม่รู้ว่ามีใครพอจะจับสังเกตได้ไหมว่า ตอนนี้ประเทศเราเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น นั่นก็เป็นเหตุมาจากที่เราเปิดประเทศหลังจากที่มีการปิดประเทศไปนานเกือบ 3 ปี นั่นเอง
เกือบ 3 ปีที่ปิดประเทศ มันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง เพราะประเทศเรามีรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว ปิดประเทศแบบนี้ กลุ่มธุรกิจเดินทาง ท่องเที่ยว บริการต่างๆ ที่มีกลุ่มลูกค้าหลักคือนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลักกระทบหมด ดูอย่างพวกสนามบินสิ ทั้งสายการบิน ทั้งร้านที่ขายของในสนามบิน พวกนั้นคือโดนปิดก่อนเลย กว่าจะเปิดได้ก็เล่นเอาผู้ประกอบการเฉือนเลือดเฉือนเนื้อกันหนักน่าดู

และถึงแม้ว่าประเทศจะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาแล้ว แต่สถานการณ์ยังไม่เรียกว่าฟื้นตัว ก็ปิดประเทศไปเกือบ 3 ปี จะให้ฟื้นตัวภายใน 3 เดือนคงเป็นไปได้ยากมากๆ ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจของโลกก็ไม่ได้ดี แต่ละประเทศก็ต้องดึงนักท่องเที่ยวไปเที่ยวประเทศตัวเองทั้งนั้น งานนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นสำหรับรัฐบาลอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องทำหน้าที่โปรโมทแคมเปญท่องเที่ยวอย่างหนักหน่วง
และอีกสิ่งสำคัญเลยคือการเยียวยาก็จะต้องดำเนินต่อไปจนกว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวได้ใกล้เถียงกับสถานการณ์ก่อนที่จะมีโควิด คือจะต้องมีจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยต่อเดือน ให้ใกล้เคียงกับ 3.5 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในเที่ยวในปี 61-62
ซึ่งถ้าให้นับจำนวน นทท. ตั้งแต่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ยกเลิกระบบ Test & Go มีจำนวนผู้เดินทางจริงทางอากาศตั้งแต่วันที่ 1-21 พ.ค.2565 จำนวน 367,449 คน หรือเฉลี่ยวันละ 20,000 คน แต่ก็ยังไม่เพียงพอหรอก แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะกอบกู้สถานการณ์เศรษฐกิจได้
https://www.bangkokbiznews.com/business/1006120

ดังนั้นการที่ภาครัฐให้การช่วยเหลือเยียวยาแก่อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบเป็นสิ่งที่ควรที่จะต้องดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเยียวยาผู้ประกอบการภายในสนามบินของ จาก ทอท. ซึ่งก็เปรียบเสมือนกับตัวแทนภาครัฐเนื่องจากเป็นรัฐวิสาหกิจที่ดูแลสนามบิน ที่ขยายระยะเวลาการเลื่อนการชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทน ค่าเช่าพื้นที่ และค่าบริการต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการและสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ถ้ามองกันถึงมุมของผลกระทบที่สนามบินได้รับคำสั่งให้ปิดเป็นธุรกิจแรกๆ เพราะนโยบายปิดประเทศนี่แหละ แล้วก็ปิดมานาน จนเพิ่งจะมาเปิดในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มันเป็นไปไม่ได้ที่รายได้จะมีเหมือนเดิมจนทำให้สามารถที่จะจ่ายค่าเช่าหรือค่าตอบแทนในอัตราเดิมได้ ถ้าไม่มีการผ่อนปรนช่วยเหลือตรงนี้ ผู้ประกอบการอยู่กันไม่ได้แน่ๆ
และถ้าอยู่กันไม่ได้ เท่ากับ ทอท. จะเสียผลประโยชน์ในระยะยาว เพื่อให้เห็นตัวอย่างของการเสียผลประโยชน์ของ ทอท. ให้ชัดขึ้น ก็จะขอยกตัวอย่างสนามบินอินชอน เกาหลีใต้ สืบเนื่องจากที่สนามบินอินชอนได้มีการเปิดประมูลดิวตี้ฟรีในสนามบิน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ปริมาณผู้โดยสารที่อินชอนลดลงต่ำกว่า 7,000 ในขณะที่การจำหน่ายสินค้าปลอดภาษีที่สนามบินร่วงลง 90% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมีนาคมและจะลดลงไปอีกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็เพราะผลกระทบจากโควิด 19

ทำให้ดิวตี้ฟรีเจ้าใหญ่อย่าง ลอตเต้ และชิลล่า มองว่า สถานการณ์นี้คือความเสี่ยงจึงได้ทำการถอนตัว  
ต่อให้มีการประมูลเกิดขึ้น ผู้ประมูลที่รู้อยู่แล้วว่าตนเองจะเจอกับสถานการณ์อะไรในอนาคต ก็จะมีการรับประกันรายได้ขั้นต่ำ ทำให้ทางสนามบินอินชอนก็ได้รับผลประโยชน์ที่ลดต่ำลง เป็นภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่สนามบินและร้านค้าปลีกผู้ให้บริการอื่นๆ ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่คล้ายๆ กัน  (ที่มา shorturl.at/rxEFG)
ทาง ทอท. อาจจะเล็งเห็นถึงปัญหานี้ในอนาคต จึงได้มีการออกมาตรการมาเพื่อเยียวยาช่วยเหลือผู้ประกอบการในสนามบิน อย่างน้อยก็จนกว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาเท่าเดิม ถึงจะแน่ใจแล้วว่าทุกฝ่ายเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง

ตอนนี้ไม่มีเพียงแค่ ทอท. เท่านั้นที่เยียวยา กรรมการการบินพลเรือน ซึ่งตรงนี้ก็เป็นหน่วยงานภายใต้สังกัด ก.คมนาคม เป็นภาครัฐโดยตรง ก็มีการร่างแผนฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบิน ปี 2565-2568 และร่างนโยบายด้านการบินพลเรือนของประเทศซึ่งเป็นแนวทางที่สำคัญมากต่อการช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินและเศรษฐกิจ ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินอย่างยั่งยืน ก็ออกมาเยียวยา ช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบินเช่นเดียวกัน ตามข่าวก็แบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือมาตรการช่วยเหลือด้านการเงิน เช่นการปรับลดค่าบริการการบินของสนามบินและบริการการเดินอากาศ ขยายเวลาชำระหนี้ และมาตรการผ่อนคลายกฎระเบียบข้อบังคับ เช่นยกเว้นมาตรการและแนวทางปฎิบัติในการขนส่งสินค้าภายในห้องโดยสารฯ
https://www.thebangkokinsight.com/news/business/884689/

จากการที่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานภาครัฐโดยตรง ได้ร่วมกันเยียวยาผู้ประกอบการสนามบิน สายการบิน ก็สะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมนี้ยังคงมีภาวะโคม่า น่าเป็นห่วงอยู่ นักท่องเที่ยวต่างชาติคือความหวังของประเทศ ก็ได้แต่หวังว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามแผนที่คาดการณ์กันไว้ แล้วถ้าจะให้พีคยิ่งขึ้น ก็ขอให้นักท่องเที่ยวสายเปย์อย่างประเทศจีนได้มีโอกาสกลับมาเที่ยวไทยอย่างเต็มที่ เห็นนักท่องเที่ยวมีความสุข คนไทยก็มีความสุขไปด้วยจริงไหม?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่