อยากฝากบอกผู้บริหารนิสสัน ตั้งแต่เห็น Nissan kick e-power ออกมาตั้งแต่รุ่นแรกแล้ว
จึงอยากมาเสนอแนะให้ท่านผู้บริหาร Nissan ญี่ปุ่น-ไทย ได้ทราบดังนี้
ข้อดี ของ Nissan kick e-power
1.ใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟฟ้าได้
2. ได้อารมณ์ในการขับขี่แบบระบบไฟฟ้า
ข้อเสีย ของ Nissan kick e-power
1. ผู้ใช้ต้องบำรุงรักษา ทั้งระบบเครื่องยนต์เดิม(ที่ใช้ปั่นไฟ)
2. ผู้ใช้ต้องบำรุงรักษา ระบบแบตเตอรี่ และไฟฟ้า (ซึ่งเป็นปกติ ของผู้ใช้รถไฟฟ้าทั่วไปที่ยอมรับได้)
3. ผู้ใช้ยังติดกับดักราคาน้ำแพงอยู่เหมือนเดิม ไม่มีตัวเลือก จากผลกระทบปัญหาน้ำมันแพง (เหมือนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน)
วิธีการแก้ไข ข้อเสีย ให้เป็นข้อดีหรือจุดเด่น
1. อยากเสนอแนะให้ทาง Nissan ทำระบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟจากภายนอกได้ เหมือนรถยนต์ ที่เป็นระบบ PHEV โดยใส่ช่องเสียบไฟฟ้าเพิ่มในรถ Nissan kick e-power (โดยอาจทำเหมือนช่องคู่ ใน Mitsubishi Outlander ที่มีทั้งช่องเติมน้ำมัน และช่องเสียบปลั๊กชาร์จไฟ แบบ AC / DC อยู่ด้วยกัน)
"หากทำได้แบบนี้ ข้อเสียในการบำรุงรักษา ทั้งระบบเครื่องยนต์เดิม(ที่ใช้ปั่นไฟ) จะกลายเป็นจุดดีในทันที (เพราะกลายเป็นแหล่งพลังงานสำรอง ที่สามารถใช้ได้ในกรณี ที่ไม่สามารถหาไฟชาร์จได้ หรือเดินทางไปในพื้นที่ห่างไกล-ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง)"
2. อยากให้เพิ่มแบตเตอรี่ ใน Nissan kick e-power ให้ใหญ่ขึ้น เพื่อสามารถวิ่งได้ระยะทางที่ไหลขึ้น โดยให้วิ่งได้อย่างน้อย 60-100 กม.
เพื่อจะได้เสียบชาร์จไฟตามสถานีชาร์จได้ โดยไม่ต้องเติมน้ำมัน (ในกรณี น้ำมันแพง หรือตู้ชาร์จไฟว่าง)
3. เสนอแนะเพิ่มเติม หากสามารถชาร์จไฟจากภายนอกแล้ว อยากให้มีระบบชาร์จเร็วใส่มาด้วย
หากทำได้แบบนี้แล้ว จะทำให้ Nissan kick e-power ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนแทบผลิตไม่ทันแน่
เพราะในปัจจุบัน Nissan kick e-power ถือว่า เป็นรถยนต์ที่มีจุดดีกว่า รถยนต์ระบบ PHEV ซึ่งมีระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เต็มระบบ และมีแบตเตอรี่ขนาดเล็ก สำหรับเก็บไฟคืนเข้าสู่ระบบ แต่การที่เป็นระบบ Hybrid ด้วย มันเป็นระบบที่ซับซ้อน ต้องใช้การคำนวณจากกล่อง ECU ในการเลือกใช้พลังงานจากไฟฟ้า สลับกับน้ำมัน หากระบบรวน จะดูแลยาก และมีต้นทุนในการดูแล ทั้งระบบเครื่องยนต์แบบเต็มระบบ และค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบ Hybrid ซึ่งสามารถถอดบทเรียนดูได้จากรถยนต์ระบบ Hybrid ท่ี่ผ่านๆมา ราคาตอนนี้แพงมาก (ตัวTop) แต่ราคาขายต่อมือสองถูกมากๆ เมื่อเทียบกับรถในรุ่นเดียวกัน ราคามือสองตัวเริ่มต้นยังขายแพงกว่าตัวTopอีก
สุดท้าย อยากเสนอแนะให้ท่านผู้บริหาร Nissan ญี่ปุ่น-ไทย ได้ปรับปรุงตามนี้ คาดว่าจะตรงใจลูกค้าชาวไทย และทำยอดขายได้ดีขึ้นกว่า Nissan kick e-power รุ่น 2 ที่เพิ่งออกมาแน่นอน
โดยหาก รถยนต์รุ่นที่เป็น e-power ปรับปรุงระบบชาร์จไฟฟ้าจากภายนอกมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นไหน อาทิ kick e-power , Note e-power ก็เชื่อได้ว่าน่าจะขายดีมาก ชนิดที่เรียกได้ว่าตลาดแตกแน่ๆครับ ผมเชียร์ Nissan นะครับ อยากให้ผลิตผลงานคุณภาพเช่นนี้ออกมาเร็วครับ เพื่อจะได้ตอบโจทย์ สำหรับความต้องการของคนไทยครับ
ขอบคุณครับ
ปล. ผมรอซื้ออยู่นะครับ รอปรับปรุงแก้ไขตามแนะนำอยู่นะครับ
Nissan kick e-power น่าจะทำระบบชาร์จไฟฟ้าจากภายนอกมาด้วย
จึงอยากมาเสนอแนะให้ท่านผู้บริหาร Nissan ญี่ปุ่น-ไทย ได้ทราบดังนี้
ข้อดี ของ Nissan kick e-power
1.ใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟฟ้าได้
2. ได้อารมณ์ในการขับขี่แบบระบบไฟฟ้า
ข้อเสีย ของ Nissan kick e-power
1. ผู้ใช้ต้องบำรุงรักษา ทั้งระบบเครื่องยนต์เดิม(ที่ใช้ปั่นไฟ)
2. ผู้ใช้ต้องบำรุงรักษา ระบบแบตเตอรี่ และไฟฟ้า (ซึ่งเป็นปกติ ของผู้ใช้รถไฟฟ้าทั่วไปที่ยอมรับได้)
3. ผู้ใช้ยังติดกับดักราคาน้ำแพงอยู่เหมือนเดิม ไม่มีตัวเลือก จากผลกระทบปัญหาน้ำมันแพง (เหมือนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน)
วิธีการแก้ไข ข้อเสีย ให้เป็นข้อดีหรือจุดเด่น
1. อยากเสนอแนะให้ทาง Nissan ทำระบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟจากภายนอกได้ เหมือนรถยนต์ ที่เป็นระบบ PHEV โดยใส่ช่องเสียบไฟฟ้าเพิ่มในรถ Nissan kick e-power (โดยอาจทำเหมือนช่องคู่ ใน Mitsubishi Outlander ที่มีทั้งช่องเติมน้ำมัน และช่องเสียบปลั๊กชาร์จไฟ แบบ AC / DC อยู่ด้วยกัน)
"หากทำได้แบบนี้ ข้อเสียในการบำรุงรักษา ทั้งระบบเครื่องยนต์เดิม(ที่ใช้ปั่นไฟ) จะกลายเป็นจุดดีในทันที (เพราะกลายเป็นแหล่งพลังงานสำรอง ที่สามารถใช้ได้ในกรณี ที่ไม่สามารถหาไฟชาร์จได้ หรือเดินทางไปในพื้นที่ห่างไกล-ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง)"
2. อยากให้เพิ่มแบตเตอรี่ ใน Nissan kick e-power ให้ใหญ่ขึ้น เพื่อสามารถวิ่งได้ระยะทางที่ไหลขึ้น โดยให้วิ่งได้อย่างน้อย 60-100 กม.
เพื่อจะได้เสียบชาร์จไฟตามสถานีชาร์จได้ โดยไม่ต้องเติมน้ำมัน (ในกรณี น้ำมันแพง หรือตู้ชาร์จไฟว่าง)
3. เสนอแนะเพิ่มเติม หากสามารถชาร์จไฟจากภายนอกแล้ว อยากให้มีระบบชาร์จเร็วใส่มาด้วย
หากทำได้แบบนี้แล้ว จะทำให้ Nissan kick e-power ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนแทบผลิตไม่ทันแน่
เพราะในปัจจุบัน Nissan kick e-power ถือว่า เป็นรถยนต์ที่มีจุดดีกว่า รถยนต์ระบบ PHEV ซึ่งมีระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เต็มระบบ และมีแบตเตอรี่ขนาดเล็ก สำหรับเก็บไฟคืนเข้าสู่ระบบ แต่การที่เป็นระบบ Hybrid ด้วย มันเป็นระบบที่ซับซ้อน ต้องใช้การคำนวณจากกล่อง ECU ในการเลือกใช้พลังงานจากไฟฟ้า สลับกับน้ำมัน หากระบบรวน จะดูแลยาก และมีต้นทุนในการดูแล ทั้งระบบเครื่องยนต์แบบเต็มระบบ และค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบ Hybrid ซึ่งสามารถถอดบทเรียนดูได้จากรถยนต์ระบบ Hybrid ท่ี่ผ่านๆมา ราคาตอนนี้แพงมาก (ตัวTop) แต่ราคาขายต่อมือสองถูกมากๆ เมื่อเทียบกับรถในรุ่นเดียวกัน ราคามือสองตัวเริ่มต้นยังขายแพงกว่าตัวTopอีก
สุดท้าย อยากเสนอแนะให้ท่านผู้บริหาร Nissan ญี่ปุ่น-ไทย ได้ปรับปรุงตามนี้ คาดว่าจะตรงใจลูกค้าชาวไทย และทำยอดขายได้ดีขึ้นกว่า Nissan kick e-power รุ่น 2 ที่เพิ่งออกมาแน่นอน
โดยหาก รถยนต์รุ่นที่เป็น e-power ปรับปรุงระบบชาร์จไฟฟ้าจากภายนอกมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นไหน อาทิ kick e-power , Note e-power ก็เชื่อได้ว่าน่าจะขายดีมาก ชนิดที่เรียกได้ว่าตลาดแตกแน่ๆครับ ผมเชียร์ Nissan นะครับ อยากให้ผลิตผลงานคุณภาพเช่นนี้ออกมาเร็วครับ เพื่อจะได้ตอบโจทย์ สำหรับความต้องการของคนไทยครับ
ขอบคุณครับ
ปล. ผมรอซื้ออยู่นะครับ รอปรับปรุงแก้ไขตามแนะนำอยู่นะครับ