ทำไมคนไทยเรียก england ว่า อังกฤษ

ตามหัวกระทู้ครับ ทำไม ถึงเรียกว่า อังกฤษ อิงแลน กับ อังกฤษ มันไม่ใกล้กันเลย
นิปปง เพี้ยน เป็นญี่ปุ่น ยังเข้าใจ 
ฉิน เพื้ยน เป็น จีน ยังได้อยู่ งง ตรงอังกฤษ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
ส่วนตัวแล้วผมไม่เชื่อว่าอังกฤษ จะมาจาก anglais ในภาษาฝรั่งเศสอย่างที่มีหลายแห่งอ้างกันครับ

สยามมีการติดต่อกับชาวอังกฤษมาตั้งแต่สมัยอยุทธยาตอนกลาง โดยมีการเปิดสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 1612 (พ.ศ. 2155) รัชกาลพระเจ้าทรงธรรม แม้จะไม่ได้แน่นแฟ้นมากแต่มีหลักฐานว่าพ่อค้าอังกฤษได้มีการทำการค้าอยู่เนืองๆ  ในขณะที่ฝรั่งเศสเพิ่งเริ่มเข้ามาในสยามในช่วงต้นรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์ แม้จะมีหลักฐานว่าเริ่มติดต่อกันบ้างแต่กว่าจะมีการเจริญสัมพันธไมตรีอย่างเป็นทางการจริงๆ และฝรั่งเศสเข้ามามีบทบาททางการเมืองมากก็เป็นช่วงท้ายรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มากแล้ว และก็ถูกพระเพทราชาขับไล่ออกไปในเวลาอันสั้น ชาวฝรั่งเศสที่เหลืออยู่ในสยามมีไม่มาก  พิจารณาแล้วดูเป็นไปได้ยากที่ภาษาฝรั่งเศสจะขึ้นมามีอิทธิพลในการเรียกนามชาติต่างประเทศอื่นในสยามเวลานั้นครับ


นอกจากนี้ ภาษากลาง (lingual franca) ที่สยามรวมถึงอาณาจักรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยุคนั้นใช้ติดต่อกับชาติยุโรปคือภาษาโปรตุเกส  เพราะโปรตุเกสเป็นชาติตะวันตกชาติแรกที่เข้ามามีอิทธิพลในภูมิภาคอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อนชาติอื่นๆ และทรงอิทธิพลในภูมิภาคมายาวนานถึงช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17    

สำหรับสยามก็ปรากฏหลักฐานว่าใช้ภาษาโปรตุเกสเป็นภาษากลางติดต่อกับชาติตะวันตกมายาวนาน ในสนธิสัญญาไทย-ฝรั่งเศส ค.ศ. 1687 (พ.ศ. 2230) รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์ยังต้องเขียนเป็นสามภาษาคือ ภาษาไทย ภาษาฝรั่งเศส และภาษาโปรตุเกส   ในฉบับภาษาไทยมีการแปลทับศัพท์ภาษาโปรตุเกส เช่น เรียกตำแหน่งของราชทูตลา ลูแบร์ว่า "อิงวิยาโดรเอกโตรวิยารี" ซึ่งมาจากภาษาโปรตุเกสคือ enviado extraordinário ไม่ได้แปลจากฝรั่งเศสคือ envoyé extraordinaire จึงแสดงว่าในการแปลสนธิสัญญาฉบับภาษาฝรั่งเศส ได้แปลเป็นภาษาโปรตุเกสก่อนแล้วแปลเป็นภาษาไทยอีกต่อหนึ่ง      เช่นเดียวกับในบันทึกของออกพระวิสุทสุนธร (ปาน) หรือ โกษาปาน เมื่อเดินทางไปฝรั่งเศสใน ค.ศ. 1686 (พ.ศ. 2229) มีหลายคำที่เรียกทับศัพท์จากภาษาโปรตุเกส


บันทึกของพระอธิการ เดอ ชัวซีย์ (François Timoléon, abbé de Choisy) ชาวฝรั่งเศสที่เข้ามากรุงศรีอยุทธยาใน ค.ศ. 1685 (พ.ศ.2228) ระบุว่าขุนนางไทยตอนนั้นสามารถพูดภาษาโปรตุเกสได้ทุกคน เรื่องนี้อาจฟังดูเกินจริงไปบ้าง จริงๆน่าจะพูดได้แค่ขุนนางกรมพระคลังที่มีหน้าที่ติดต่อกับชาวต่างประเทศโดยตรงมากกว่า แต่สะท้อนให้เห็นได้ดีว่าภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาหลักที่สำคัญในเวลานั้น

ด้วยเหตุนี้ คำว่า "อังกฤษ" จึงไม่จำเป็นว่าจะต้องเรียกตามภาษาอังกฤษโดยตรง แต่อาจเรียกด้วยชื่อที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาษาอื่นได้ครับ  โดยอาจจะได้รับอิทธิพลจากสำเนียงภาษาอื่นที่สยามเคยติดต่อมาก่อนหน้าอังกฤษก็ได้



คำว่า "อังกฤษ" ในภาษาไทย ปรากฏหลักฐานนประมวลกฎหมายสมัยอยุทธยาที่ถูกชำระเรียบเรียงไว้ในกฎหมายตราสามดวงหลายฉบับ เช่น ประกาศพระราชบัญญัติของกฎหมายอาชญาหลวง ระบุศักราช 1976 ปีกุน ในรัชกาลของพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระนามว่า "พระบาทสมเดจ์พระเจ้าเอกาทธรฐอิศรบรมนารถบรมบพิตรพระพุทธิเจ้าอยู่หัว" กล่าวถึงชาติต่างประเทศคือ "ฝารังอังกริดกระปิตันวิลันดาคุลาฉะวามลายูแขกกวยแกว"  

(ศักราชน่าจะผิด เพราะพระนามกษัตริย์แบบนี้นิยมใช้แพร่หลายหลังรัชกาลสมเด็จพระนเรศลงมา และกล่าวถึงวิลันดา (ดัตช์) ที่เพิ่งเข้ามาติดต่อกับสยามปลายรัชกาลพระนเรศ   ที่ถูกควรจะเป็นจุลศักราช 976 หรือ พ.ศ. 2157 สมัยพระเจ้าทรงธรรม ปีนักษัตรควรจะเป็นปีขาล แต่อาจเป็นการชำระเรียบเรียงในสมัยพระเจ้าปราสาททองที่ลบปีนักษัตรย้อนไปสามปี ปีขาลจึงเป็นปีกุน)


กฎหมายอาชญาหลวง มาตรา 37 กล่าวถึง "แขกพราหมณยวนประเทศฝารังอังกฤษจีนจามวิลันดาฉวามลายูกวยขอมพม่ารามัญ"


พระราชกำหนดเก่าฉบับที่ 36 จุลศักราช 1025 (พ.ศ. 2206) ต้นรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์ กล่าวว่า "ทุกวันนี้แขกฝรังอังกฤษคุลามะลายูนา ๆ ประเทศเข้ามาสู่พระบรมโพธิสมภารเปนอันมาก แต่นี้สืบไปเมื่อหน้า ห้ามอย่าให้ไทมอญลาวลอบลักไปซ่องเสพเมถุนณกรรมด้วยแขกฝรังอังกฤษคุลามะลายูซึ่งถือฝ่ายมิดฉาทิฐิ"    

ชาวฝรั่งเศส เพิ่งปรากฏหลักฐานว่ามีบาทหลวงคณะมิสซังต่างประเทศกรุงปารีสเดินทางมาถึงสยามเป็นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1662 (พ.ศ. 2205) เพียงหนึ่งปีก่อนหน้าพระราชกำหนดฉบับนี้จะออก และเพียงแต่เข้ามาพำนักยังไม่ได้ติดต่อกับสยามอย่างเป็นทางการเลย   แต่จากพระราชกำหนดในสมัยสมเด็จพระนารายณ์จะเห็นว่ามีการใช้คำว่า "อังกฤษ" อย่างชัดเจน และยังระบุว่าเป็นหนึ่งในชาวต่างประเทศที่เข้ามาจำนวนมากแล้วในเวลานั้น  

จึงอนุมานได้ว่าคำว่า "อังกฤษ" ในภาษาไทยควรมีใช้ก่อนที่ชาวฝรั่งเศสเข้ามานานพอสมควรแล้ว   และไม่น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากภาษาฝรั่งเศสครับ



คำว่า "อังกฤษ" ในภาษาไทย   ส่วนตัวแล้วผมไม่คิดว่าจะรับมาจาก Inglês ในภาษาโปรตุเกสโดยตรง เพราะออกเสียงไม่เหมือนเสียทีเดียว  และอย่างที่กล่าวคือไม่น่าเชื่อว่าจะมาจาก anglais ในภาษาฝรั่งเศส    ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งคือไทยน่าจะรับมาจากชาวอินเดียที่รับมาจากโปรตุเกสอีกต่อหนึ่ง เพราะในภาษาฮินดีเรียกชาวอังกฤษว่า aṅgrez (अंग्रेज़) หรือ aṅgrezī (अंग्रेज़ी)    

นอกจากนี้มีผู้เสนอว่าอาจจะมาจากคำว่า Anglish ในภาษาอังกฤษโดยตรง หมายถึง "ชาวอังกฤษ"   ซึ่งเป็นหนึ่งในคำที่ใช้เรียกชาวอังกฤษในภาษาพูด  โดยคำนี้มีความหมายถึงภาษาอังกฤษดั้งเดิมที่ไม่มีภาษาต่างประเทศเจือปน


ญี่ปุ่น สันนิษฐานว่ามาจาก 日本 คือชื่อประเทศญี่ปุ่น แต่น่าจะรับมาจากภาษาจีนสำเนียงฮกเกี้ยนที่ออกเสียงว่า ยิดปุ้น Ji̍t-pún  หรือถ้าจะรับจากจีนกลางควรจะเป็นสำเนียงจีนกลางสมัยราชวงศ์หมิง ซึ่งมีความแตกต่างกับสำเนียงจีนกลางในปัจจุบันที่ออกเสียงว่า รฺยื่อเปิ่น rìběn


จีน โดยทั่วไปสันนิษฐานว่ามีรากศัพท์มาจาก ฉิน (秦) ซึ่งเป็นชื่อรัฐทางตะวันตกของจีนในสมัยโบราณตั้งแต่ 900 ปีก่อนคริสตกาล ก่อนที่ขยายอำนาจรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียวแล้วสถาปนาจักรวรรดิฉินขึ้นเมื่อ 221 ปีก่อนคริสตกาล  ในสำเนียงจีนเก่า (Old Chinese) มีการวิเคราะห์ว่าออกเสียง [dz]i[n]     ในภาษาบาลี-ลันสกฤตเขียนว่า จีน (อ่านว่า จีนะ) เหมือนภาษาไทยปัจจุบัน  ปรากฏในพระไตรปิฎกและวรรณกรรมโบราณของอินเดียก่อนคริสตกาลหลายชิ้น เช่น คัมภีร์อรรถศาสตร์ คัมภีร์มนูศาสตร์ มหาภารตะ จึงอนุมานได้ว่าชื่อนี้ใช้งานมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาลแล้ว และน่าจะก่อนที่ฉินสื่อหวงสถาปนาจักรวรรดิฉินด้วย      

ภาษาเปอร์เซียเรียกจีนว่า จีนี (Chīnī چین) หรือ จีน (Chīn) ซึ่งเชื่อว่าถูกส่งต่อให้ภาษาบาลีสันสกฤตอีกต่อหนึ่ง คำนี้ถูกส่งต่อให้ชาติตะวันตกโดยคำว่า China ปรากฏครั้งแรกว่าใช้งานโดยนักเดินเรือชาวโปรตุเกสในต้นคริสตศตวรรษที่ 16 นอกจากนี้ก็ยังมีการแผลงเรียกแตกต่างกันไปในหลายประเทศ  https://en.wikipedia.org/wiki/Names_of_China

สำหรับไทย เข้าใจว่ารับคำว่า จีน มาจากภาษาบาลี-สันสกฤต เพราะภูมิภาคอุษาคเนย์มีการติดต่อกับอินเดียมาตั้งแต่โบราณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่