๏ โคลงสี่สุภาพ ๏ รำลึกถึง ‘ครูพ่อ’

กระทู้สนทนา
.. ขอเกิดเป็นลูกครั้น       ใคร่เชื้อ‘ชนกครู’ ..

         

 ๏  เป็นถาดพิมพ์แท่นปั้น             จินตนา
            สานต่อคือศิษยา              สื่อถ้อย
           อักษรหนึ่งคำพา              เกิดก่อ
                               ฟองคลื่นระลอกร้อย              หมื่นล้านวรรณกรรม    ๚

 ๏  เปรียบ‘สุนทรภู่’เพี้ยง              บรมครู
            ผลิหน่อแตกกอชู              กิ่งล้อม
          เทือกเถาเหล่ากอฟู              บานเบ่ง
                         กลีบหล่นดอกตูมพร้อม              ถ่ายขั้วขยายพันธุ์    ๚

                            ~~~ ๏ ~~~

                         โคลงสี่สองบทนี้ ‘ครูพ่อ’เขียนมอบให้ผมไว้ เพื่ออธิบายว่า
                          ครู.. เสมือนเพียงถาดพิมพ์~แท่นปั้นของงานศิลป์ทุกแขนง เท่านั้นเอง
                             ศิษยานุศิษย์นั่นต่างหาก ที่จะเป็นผู้สืบทอด เมื่อพวกเขารัก และเข้าใจศาสตร์แห่งศิลป์นั้น ๆ   ..ด้วย‘หัวใจ
                             เห็นด้วยกับ‘ครูพ่อ’ด้วยหัวใจ ครับผม

            ๏  ฝากเวหนห่อนด้าว               ดาวดึงส์
                  ‘ครูพ่อ’ประดับพึง               ผ่องแผ้ว
                           เถาถาดแท่นยังตรึง               ตามพ่อ เสมอนา
                                ขอสืบสานกานท์แก้ว               กล่อมเกล้ากชกร    ๚

          ๏  จะเพียงภพหนึ่งแล้ว               ..ลาจาก
         ฤ หมื่นภพหมายพราก               ผ่ากั้น
          ภพเดียว..หมื่นภพหาก               หวนมิ่ง
                                        ขอเกิดเป็น‘ลูก’ครั้น               ใคร่เชื้อ‘ชนกครู’    ๚ะ๛

                              ด้วยรัก‘พ่อ’  ..นิรันดร์กาล

                             
                              ** เปลวอัคคี **

** ขออนุญาตเข้ามาเพิ่มเติมข้อความครับผม

สวัสดีเพื่อน ๆ ห้องถนนนักเขียนทุกท่านครับ
ห่างหายไปนาน  เพราะเพิ่งเสีย‘คุณพ่อ’ไป
รวมสิริอายุท่าน 92 ปี ครับผม

คิดถึงทุกท่านเสมอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่