หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[SR] รีวิว AUDI Q8 60 TFSIe QUATTRO PHEV เสียบปลั๊ก แรงขึ้น แถมราคาถูกลง !
กระทู้รีวิว
Audi Q8
Audi
รถยนต์ไฮบริด
รถยนต์
AUDI เองนั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่ยังคงลุยตลาดกันแบบหนักหน่วงจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า หรือ ว่า รถตระกูลแรงแบบ RS และในตอนนี้เป็น PHEV หรือว่า Plug In Hybrid ตัวแรกของค่ายที่เอาเข้ามาขายในไทยด้วยเช่นกันครับซึ่งลุยตลาดกันถึง 2 รุ่นเลยทีเดียว Q7 Q8 เป็น SUV ตัวแรงในรหัสใหม่ซึ่งถ้ามองในระกับรถยนต์ใช้งานทั่วไปหรือรถ SUV ด้วยกันนั้นทาง Q8 Q7 เองนั้นถือว่าแรงที่สุดในไทยตอนนี้และเป็นขุมพลังที่โหดแรงและสเปกไม่ธรรมดา ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกันกันหลายๆค่ายในเครือไม่ว่าจะเป็น CAYENNE – BENTAYGA แต่มีพละกำลัง แบตแตกต่างกันไปด้วยนั้นเอง ซึ่งถ้ามองเทียบราคาและความแรงเองนั้น Q8 Q7 ถือว่าราคาและความแรงนั้นคุ้มที่สุดคันนึง !
AUDI Q8 60TFSIe มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบ พละกำลังสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร + มอเตอร์ไฟฟ้า และ แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 17.9 kW เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 462 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Tiptronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro permanent all-wheel drive with self-locking center differential อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 5.4 วินาที วิ่งด้วยไฟฟ้า ระยะทางสูงสุด 41 กิโลเมตร ถือว่าเครื่องยนต์สเปกแรงอันดับต้นๆในตลาดตอนนี้ และ ในราคาที่จับต้องได้ง่าย แต่ระยะทางวิ่งอาจจะไม่ได้โหดมากนัก ส่วนออพชั่นอื่นๆให้มาครบตามสไตล์ Q8 ชุด Black Edition จานเบรก ใหญ่มากกว่าเดิมพร้อมกับล้อใหม่ 21 นิ้ว 285/45 R21 และ การใช้งานแบตทำให้มี Stationary Air Conditioning เปิดแอร์ก่อนเข้ารถได้ รวมถึงได้ประตูดูด Soft-Closing Door และ เพิ่มกล้องรอบคัน 360 องศา เรียกได้ว่าลงตัวขึ้น แต่ราคาดีกว่าเดิม 1 ล้านบาท รวมถึงฟีเจอร์อื่นๆทั้ง ไฟหน้า HD Matrix LED แอร์หลัง ไฟวิ่ง Light Staging ต่างๆยังคงครบ และการออกแบบกระจก Frameless ทั้งหมดยังเหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ รวมถึงการใช้งานช่วงล่างแบบถุงลม แบบ Sport หรือแม้แต่ หลังคากระจก แต่น่าเสียดายว่าระบบช่วยเหลือยังคงน้อย ไม่ว่าจะเป็น Blind Spot หรือ แม้แต่ Adaptive Cruise ก็ยังไม่มีในตลาดเมืองไทย
- Q8 60 TFSI e quattro S-Line Black Edition PHEV 5,799,000 บาท
EXTERIOR
งานออกแบบภายนอกยังคงมีความคล้ายกับรุ่นปกติแต่มีการเปลี่ยนแปลงล้อหรือว่าเบรคนิดหน่อยซึ่งในตัว PHEV จะเน้นไปที่การใช้งานที่เป็นพลังงานไฟฟ้าเข้ามาเสริมและออพชั่นบางส่วนที่ขาดหายไปได้เติมเต็มเข้ามาทั้งหมดและในรุ่นนี้เราจะได้ Black Edition ด้วยเช่นกันในการตกแต่งรอบๆคันแม้ว่าคันนี้จะเป็นสีดำซึ่งอาจจะมองจุดต่างได้ยากเช่นกันครับแต่ดีไซน์ ความสวยงาม รวมถึงความใหญ่โตอลังการรุ่นนี้ยังคงทำได้โดดเด่นบนท้องถนนแน่นอนด้วยตัวถึงที่ใหญ่มากถึง 5 เมตร และ กว้างมากกว่า 1.9 เมตรทำให้เวลาใช้งานในเมืองอาจจะดูลำบากไปพอสมควรเลยนะ
Q8 ถือว่าเป็นรถที่ทรงอาจจะออกแนว SPORTBACK เล็กน้อยถ้าเรามองเทียบกับรุ่น Q7 ซึ่งหลังคาจะมีความลาดมากกว่าเยอะเช่นกันแต่อาจจะไม่ได้เท่ากับพวก Q3 ต่างๆ เพราะว่ารุ่นนี้เองยังคงเน้นในเรื่องของความสะดวกสบายในด้านหลังของคนนั่งแต่ถ้ามองเทียบกับ Q7 เราจะเห็นเลยว่าทรงสปอร์ตกว่ามาก และในมุมมองด้านหน้า หลัง ความดุดันเข้ามาชัดเจน เส้นสายคม พร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ซึ่งเล่นสีดำทั้งหมด รวมถึงมีการกินพื้นที่ในด้านซ้ายขวาของตัวรถ ในรุ่นที่สีขาวหรือเงินจะเห็นค่อนข้างชัด แต่ในภาพสีดำเลยอาจจะกลืนไปพอสมควร รวมถึงแถบไฟในด้านหลังด้วยเช่นกันจะเป็นสีดำทั้งหมดไม่ว่าตัวรถจะสีอะไรก็ตาม และ ตัวล้อขนาดเรียกได้ว่าภูมิฐานทั้งคันจริงๆ
เมื่อมองในด้านท้ายรถตรงๆเราจะเห็นเลยว่าเน้นสีดำทั้งคันไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งตามขอบ หรือแม้แต่กันชนล่าง ซึ่งในรุ่นที่เป็น PHEV เรามักจะเห็นการซ่อนท่อไอเสียทั้งหมดและมีการทำท่อหลอกเสริมเข้ามาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทาง AUDI เองก็เป็น 1 ในนั้นในด้านล่างมีการทำกรอบคล้ายกับท่อทั้งหมด และไฟท้ายสีแดงแนวยาวเสริมความโดดเด่นมากกว่าเดิม และแม้จะเป็นท้ายลาด ก็ยังมาพร้อมกับใบปัดน้ำฝนหลัง รวมถึงในด้านหน้ากระจังหน้าขนาดใหญ่เสริมกับไฟหน้าทรงที่แปลกตากว่ารุ่นอื่นๆชัดเจน และยังคงมีกล้องรอบคัน เซนเซอร์รอบคันมาให้ แต่น่าเสียดายในไทยไม่มี Radar ให้ใช้งานเพราะว่าถ้ามีจะมีเซนเซอร์ซ้ายและขวาที่แตกต่างกับกระจังหน้าปกติชัดเจนเลยทีเดียวครับ
ไฟท้ายแนวยาวเจ้าแรกๆและมาพร้อมดีไซน์ที่คล้ายกับไฟหน้า และ มีไฟเลี้ยววิ่ง และ ไฟวิ่งตอนปลดล็อคเช่นกันครับ แสงสวยคมดีเทลสวยมากๆ ไฟหน้าของทาง Q8 เองนั้นจัดเต็มเช่นเดิม MATRIX LED พร้อมกับไฟ LIGHT STAGING ที่เป็นการไล่ไฟเวลาปลดล็อคต่างๆ อีกทั้งไฟเลี้ยวแบบวิ่งยังคงใส่เข้ามาให้เช่นกัน ซึ่งถ้ามองเป็นรถนำเข้าเราะจะได้ระบบล้างไฟหน้าเข้ามาซึ่งถ้ามองเรื่องของระบบไฟเองนั้นทำได้ดีมากๆมาตั้งแต่ยุคแรกๆทั้งเทคโนโลยี การใช้งานหลบหลีกคันข้างหน้าที่ทำได้ไวและดีกว่าค่ายยุโรปด้วยกัน และ มีความคมสว่างมากเช่นกัน และมาพร้อมกับล้อ 21 นิ้วลวดลายใหม่ ยาง 285-45-21 พร้อมกับการเล่น 2 สีสวยงามและเบรคขนาดใหญ่สีแดงซึ่งมาพร้อมกับ 6Pot ใหญ่โตมากๆ และช่วงล่าง ปรับระดับได้แบบถุงลมซึ่งปรับเองได้หรือตามโหมดการขับขี่เช่นเดิมเลยแหละ
ทางด้านประตูแน่นอนว่าในเรื่องของการออกแบบ COUPE เราจะได้เรื่องของการใช้งานประตูแบบ FRAMELESS ซึ่งไม่ค่อยจะเห็นในรถบรรดา SUV เท่าไรแต่ทาง Q8 ก็ใส่เข้ามาให้เช่นกันแม้เรื่องของการเก็บเสียงอาจจะไม่โหดมากนัก แต่เรื่องความสวยบอกเลยว่าเท่แน่นอน ส่วนช่วงล่างถุงลมเองนั้นปรับได้สูง ต่ำ ในภาพสูงสุด และ ต่ำสุดแตกต่างกันชัดเจน ส่งผลให้ตัวรถดูใหญ่มากกว่าเดิมและลุยได้มากกว่าเดิมไปอีกรวมถึงในความเร็วสูงก็เกาะถนนมากกว่าในแบบต่ำสุด ถือว่าช่วงล่างถุงลมและการจัดการเรื่องของระบบการขับขี่ไม่ธรรมดาและยังคงทำได้โหดมากๆเช่นกัน
INTERIOR
ภายในต้องบอกเลยว่าสวยงามและลงตัวเช่นเดิมได้ยุคใหม่ของค่ายเช่นเดิมซึ่งทาง AUDI เองเป็นค่ายที่ออกแบบภายในได้สวยและหวือหวาเช่นเดิมครับไม่ว่าจะเป็นเส้นสาย ความทันสมัยและไม่ได้เวอร์หรือรกเกินไปเป็นและในตัว Q8 เองนั้นงานออกแบบภายในจะไม่ได้ต่างกับ Q7 เท่าไรครับแต่เราจะได้เบาะ BUCKET SEAT มาด้วยในตอนหน้าและเน้นสีดำ และ สีเทาเป็นหลักและเสริมความหรูหราด้วย ลายไม้สีดำเข้มๆในหลายๆส่วนของตัวรถเน้นความหรูหรามากกว่าลายคาร์บอนที่เรามักจะเห็นในรถสายซิ่ง ส่วยวัสดุงานประกอบแน่นเนียนคุณภาพดีอันดับต้นๆของเยอรมันเช่นเดิมครับ การเลือกใช้วัสดุในหลายๆจุดเป็นอลูมิเนียมจริงไม่ใช้พลาสติกทำสีเงินแบบค่ายอื่นๆด้วยนะ
ภายในหน้าจอกลางและจอควบคุมระบบแอร์ยังคงเป็นแบบสัมผัสล้วนเช่นเดิมครับมาพร้อมกับหน้าจอหลักขนาด 10.1 นิ้วในการใช้งานทุกอย่างทั้ง CARPLAY แบบไร้สาย หรือ ANDROID AUTO และสั่งงาน ปรับเปลี่ยนตัวรถทั้งหมดสัมผัสมี Haptic ตอบสนองสั่นแบบกดปุ่มจริงๆมาให้ด้วยซึ่งไม่ค่อยมีค่ายไหนทำแบบนี้ และ จอล่างเป็นจอ 8.6 นิ้วที่มาพร้อมกับ การสั่งงานแอร์ ปรับทิศทางต่างๆเป็นสัมผัสล้วนๆทั้งหมดไม่มีปุ่มจริงๆมาให้แล้วในรุ่นนี้ครับล้ำมากๆ และ ระบบเครื่องเสียง Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติจัดเต็มเสียงนุ่ม อลังการ ดีเทลเสียงใส และ โหด งานออกแบบเน้นความดำเงาเป็นหลัก รวมถึงคอนโซลกลางเกียร์แบบที่คุ้นเคยพร้อมปุ่มเบรคมือที่ทำจากอลูมิเนียมแท้ๆทั้งชิ้น งานดีและสวย และ ที่วางแก้วน้ำในด้านซ้าย แต่น่าเสียดายไม่มีที่ชาร์จไร้สายอะไรมาให้ในคันนี้
พวงมาลัยนั้นยังคงเป็นหน้าตาที่คุ้นเคยกันดีสำหรับพวงมาลัย S-line ของค่ายที่มาพร้อมกับพวงมาลัยขอบตัดและวัสดุหนังแบบเจาะรูรวมถึงการออกแบบสีเงิน ดำเงารอบๆตัวควบคุมสั่งงานทั้งหลาย และโลโก้ตรงกลางพร้อมกับทรงพวงมาลัยที่สวยงาม และกรอบล้อมรอบที่ทรงเดียวกับกระจังหน้าของค่ายเลยแหละ ทางด้านปุ่มสั่งงานนั้นใช้งานได้ง่ายครบไม่ยุ่งยาก แต่ขอบ่นในเรื่องของการควบคุม Cruise Control นั้นน่าเสียดายว่าใช้แบบก้านแยก ซึ่งใช้งานไม่ถนัดเท่ารุ่นอื่นๆที่ย้ายมาตรงพวงมาลัยแล้วนั้นเอง และไม่มี Adaptive Cruise Control มาให้เลยแม้แต่น้อย ส่วนทางด้านหน้าปัดอันนี้ให้ Virtual Cockpit 12.3 นิ้วจัดเต็มเปลี่ยนแปลงงานออกแบบได้ ดูแผนที่แบบเต็มได้ และตัวเบาะเองนั้นเป็นแบบ Bucket Seat หนังสีเทาโทนสวยๆ และ รูปทรงกระชับ มีนวดหลัง ดันหลัง ปรับปีกเบาะบน และ ปีกเบาะล่าง มาให้ครบถือว่าเป็นเบาะทรงสปอร์ตที่สวยและลงตัวแถมยังนั่งสบายมากๆคันนึงที่เคยทดสอบ
และด้านหลังเป็นรุ่นที่ Legroom กว้างมากก และ นั่งสบายแถมเลื่อนเบาะหน้าหลังได้และยังมีแอร์หลังแยกโซนมาให้ 1 ตำแหน่ง ซึ่งมีแอร์ทั้งตรงกลาง และ ตรงเสาซ้าย และ ขวา ของตัวรถครบๆแต่น่าเสียดายไม่มีแยกโซนซ้ายขวาแบบรุ่นอื่นๆครับ แต่พื้นที่ข้างหลังคือที่สุดของความใหญ่ และ ยามค่ำคืนแสงสี Ambient Light จัดเต็มมากๆปรับได้ 2 โซนหลากหลายสีสวยและไม่ได้เยอะมากเกินไป รวมถึงมีไฟส่องพื้น S Line ตรงประตูทั้ง 4 บานแสงสวยคม
ชื่อสินค้า:
AUDI Q8 60 TFSIe QUATTRO PHEV
คะแนน:
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
- ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
NEW MG4 ELECTRIC ข้อมูล สเปกรถ ราคาอย่างเป็นทางการ
NEW MG4 ELECTRIC รายละเอียดรถ ข้อมูล สเปกรถ และราคาอย่างเป็นทางการ วางจำหน่าย 4 รุ่นย่อย ได้แก่ STANDARD RANGE (D), LONG RANGE (D), LONG RANGE (V) และ XPOWERราคาอย่างเป็นทางการ MG4
parn 256
รีวิว AUDI Q5 55 TFSIe PHEV แรงขึ้น แถม ประหยัด ช่วงล่างโดดเด่นเช่นเดิม !
AUDI มีการลุยตลาดกันแบบจัดเต็มมากๆถ้ามองเทียบกับจำนวนรุ่นที่ขายในไทยถือว่าเยอะมากๆ และเปิดตัวกันแบบรัวๆอย่างต่อเนื่อง และถ้ามองใน PHEV ที่เริ่มจะมาลุยหรือทดแทน ดีเซลกันเยอะมากขึ้นแล้วด้วยเช่นกัน ทำให้
Techhangout
จะซื้อ Civic Eg 3Doors ครับ รบกวนพี่แนะนำหน่อยคับ รถคันแรกของผมในวัย 21 ปี
สเปคคร่าวๆ 🔰Honda civic EG 3 Door AT🔰 > เครื่องยนต์ D15B นิ่งๆ > เกียร์ AUTO เข้านิ่มทุกเกียร์ > เบาะคู่หน้า RECARO > พวงมาลัย personal แท้ > แอร์เย็นปกติ(ทำใหม่) > วิทยุบลูทูธได
สมาชิกหมายเลข 5720322
พรีวิว Audi Q7 & Q8 60 TFSI e quattro S line Black Edition ปลั๊กอินสุดแรง ราคาถูกลงสูงสุด ถึง 1 ล้าน
อาวดี้ ประเทศไทย เปิดตัว Audi Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition และ Audi Q8 60 TFSI e quattro S line Black Edition พรีเมียม SUV Hi Performance เด่นด้วยเทคโนโลยีขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดเจเน
PonTripleP
รีวิว BMW 630I GT M SPORT พี่ใหญ่ ออฟชันแน่น ราคาดี ทรง GT เท่เอาเรื่อง !
BMW ในรหัส 6 แน่นอนว่าเป็นรุ่นที่หลายๆคนอาจจะไม่คุ้นกันเท่าไรนัก แต่ในรหัสนี้ถือว่ามีความน่าสนใจทั้งเรื่องของ งานออกแบบ และความโดดเด่นในตระกูลเลขคู่ของค่าย ในยุคก่อนๆนั้นรหัส 6 เป็นแบบตัวถั
Techhangout
GWM เปิดสเปกจัดเต็มใน ALL NEW GWM HAVAL H6 เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุด!
GWM เปิดสเปกจัดเต็มใน ALL NEW GWM HAVAL H6 เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุด! ยกเครื่องอัปเกรดรอบด้าน ดีไซน์ล้ำ สมรรถนะเร้าใจ วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ไกลที่สุดในเซกเมนต์เตรียมเปิดราคาในงาน Motor Show&
Pantip Garage
DEVZA N9 SUV ไซส์ยักษ์ พลัง PHEV วิ่งไกล 1,300 กม. EV 200 กม.
จะเปิดตัวในวันที่ 21 มีนาคม 2568 นี้ สำหรับรถ SUV ขนากใหญ่ไซส์ยักษ์ DENZA N9 รถระดับไฮเอนท์หรูในเครือของ BYD มิติตัวรถ มีความยาว 5,258 มม. / ก. 2,030 มม. / ส. 1,830 มม. ฐานล้อ 3,125 มม มาพร้อมกัยระบ
สมาชิกหมายเลข 8577804
Audi เปิดตัวรหัสแรง RS 3 รุ่น TT RS Coupé quattro, RS Q8 quattro และ RS 4 Avant quattro เริ่ม 5.299 ล้าน
อาวดี้ ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์สมรรถนะสูง RS Model พร้อมกันถึง 3 รุ่น TT RS Coupé quattro, RS Q8 quattro และ RS 4 Avant quattro TT RS Co
GenPon_Redline
รีวิว AUDI S3 SPORTBACK น้องเล็ก ตัวจี๊ด 290 แรงม้า Quattro ท่อลั่นกว่า RS ซะอีก !
AUDI S3 ในรหัส S นั้นเราจะไม่ค่อยเห็นในเมืองไทยเท่าไรเพราะว่าถ้ามองกันรุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นแรกที่เอาเข้ามาด้วยเช่นกัน ตระกูล S จะเป็นรหัสแรงก่อนจะไป RS ถ้ามองเทียบคู่แข่งจะอารมณ์ M135i / GL
Techhangout
พรีวิว Subaru WRX 2022 พาดูคันจริง ซีดานดาวลูกไก่ ตำนานแรลลี่ ตัวแรงสุดแล้วในตัวถังนี้ เพราะไม่มี Sti version
Subaru WRX 2022 ได้เปิดตัวครั้งแรกในโลกไปเมื่อปีก่อน ล่าสุดเข้ามาในประเทศไทยแล้ว ก่อนจะไปเปิดตัวจริง อย่างเป็นทางการในงาน Big Motor Sale 2022 &nb
PonTripleP
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
Audi Q8
Audi
รถยนต์ไฮบริด
รถยนต์
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[SR] รีวิว AUDI Q8 60 TFSIe QUATTRO PHEV เสียบปลั๊ก แรงขึ้น แถมราคาถูกลง !
AUDI เองนั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่ยังคงลุยตลาดกันแบบหนักหน่วงจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า หรือ ว่า รถตระกูลแรงแบบ RS และในตอนนี้เป็น PHEV หรือว่า Plug In Hybrid ตัวแรกของค่ายที่เอาเข้ามาขายในไทยด้วยเช่นกันครับซึ่งลุยตลาดกันถึง 2 รุ่นเลยทีเดียว Q7 Q8 เป็น SUV ตัวแรงในรหัสใหม่ซึ่งถ้ามองในระกับรถยนต์ใช้งานทั่วไปหรือรถ SUV ด้วยกันนั้นทาง Q8 Q7 เองนั้นถือว่าแรงที่สุดในไทยตอนนี้และเป็นขุมพลังที่โหดแรงและสเปกไม่ธรรมดา ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกันกันหลายๆค่ายในเครือไม่ว่าจะเป็น CAYENNE – BENTAYGA แต่มีพละกำลัง แบตแตกต่างกันไปด้วยนั้นเอง ซึ่งถ้ามองเทียบราคาและความแรงเองนั้น Q8 Q7 ถือว่าราคาและความแรงนั้นคุ้มที่สุดคันนึง !
AUDI Q8 60TFSIe มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบ พละกำลังสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร + มอเตอร์ไฟฟ้า และ แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 17.9 kW เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 462 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Tiptronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro permanent all-wheel drive with self-locking center differential อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 5.4 วินาที วิ่งด้วยไฟฟ้า ระยะทางสูงสุด 41 กิโลเมตร ถือว่าเครื่องยนต์สเปกแรงอันดับต้นๆในตลาดตอนนี้ และ ในราคาที่จับต้องได้ง่าย แต่ระยะทางวิ่งอาจจะไม่ได้โหดมากนัก ส่วนออพชั่นอื่นๆให้มาครบตามสไตล์ Q8 ชุด Black Edition จานเบรก ใหญ่มากกว่าเดิมพร้อมกับล้อใหม่ 21 นิ้ว 285/45 R21 และ การใช้งานแบตทำให้มี Stationary Air Conditioning เปิดแอร์ก่อนเข้ารถได้ รวมถึงได้ประตูดูด Soft-Closing Door และ เพิ่มกล้องรอบคัน 360 องศา เรียกได้ว่าลงตัวขึ้น แต่ราคาดีกว่าเดิม 1 ล้านบาท รวมถึงฟีเจอร์อื่นๆทั้ง ไฟหน้า HD Matrix LED แอร์หลัง ไฟวิ่ง Light Staging ต่างๆยังคงครบ และการออกแบบกระจก Frameless ทั้งหมดยังเหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ รวมถึงการใช้งานช่วงล่างแบบถุงลม แบบ Sport หรือแม้แต่ หลังคากระจก แต่น่าเสียดายว่าระบบช่วยเหลือยังคงน้อย ไม่ว่าจะเป็น Blind Spot หรือ แม้แต่ Adaptive Cruise ก็ยังไม่มีในตลาดเมืองไทย
- Q8 60 TFSI e quattro S-Line Black Edition PHEV 5,799,000 บาท
EXTERIOR
งานออกแบบภายนอกยังคงมีความคล้ายกับรุ่นปกติแต่มีการเปลี่ยนแปลงล้อหรือว่าเบรคนิดหน่อยซึ่งในตัว PHEV จะเน้นไปที่การใช้งานที่เป็นพลังงานไฟฟ้าเข้ามาเสริมและออพชั่นบางส่วนที่ขาดหายไปได้เติมเต็มเข้ามาทั้งหมดและในรุ่นนี้เราจะได้ Black Edition ด้วยเช่นกันในการตกแต่งรอบๆคันแม้ว่าคันนี้จะเป็นสีดำซึ่งอาจจะมองจุดต่างได้ยากเช่นกันครับแต่ดีไซน์ ความสวยงาม รวมถึงความใหญ่โตอลังการรุ่นนี้ยังคงทำได้โดดเด่นบนท้องถนนแน่นอนด้วยตัวถึงที่ใหญ่มากถึง 5 เมตร และ กว้างมากกว่า 1.9 เมตรทำให้เวลาใช้งานในเมืองอาจจะดูลำบากไปพอสมควรเลยนะ
Q8 ถือว่าเป็นรถที่ทรงอาจจะออกแนว SPORTBACK เล็กน้อยถ้าเรามองเทียบกับรุ่น Q7 ซึ่งหลังคาจะมีความลาดมากกว่าเยอะเช่นกันแต่อาจจะไม่ได้เท่ากับพวก Q3 ต่างๆ เพราะว่ารุ่นนี้เองยังคงเน้นในเรื่องของความสะดวกสบายในด้านหลังของคนนั่งแต่ถ้ามองเทียบกับ Q7 เราจะเห็นเลยว่าทรงสปอร์ตกว่ามาก และในมุมมองด้านหน้า หลัง ความดุดันเข้ามาชัดเจน เส้นสายคม พร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ซึ่งเล่นสีดำทั้งหมด รวมถึงมีการกินพื้นที่ในด้านซ้ายขวาของตัวรถ ในรุ่นที่สีขาวหรือเงินจะเห็นค่อนข้างชัด แต่ในภาพสีดำเลยอาจจะกลืนไปพอสมควร รวมถึงแถบไฟในด้านหลังด้วยเช่นกันจะเป็นสีดำทั้งหมดไม่ว่าตัวรถจะสีอะไรก็ตาม และ ตัวล้อขนาดเรียกได้ว่าภูมิฐานทั้งคันจริงๆ
เมื่อมองในด้านท้ายรถตรงๆเราจะเห็นเลยว่าเน้นสีดำทั้งคันไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งตามขอบ หรือแม้แต่กันชนล่าง ซึ่งในรุ่นที่เป็น PHEV เรามักจะเห็นการซ่อนท่อไอเสียทั้งหมดและมีการทำท่อหลอกเสริมเข้ามาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทาง AUDI เองก็เป็น 1 ในนั้นในด้านล่างมีการทำกรอบคล้ายกับท่อทั้งหมด และไฟท้ายสีแดงแนวยาวเสริมความโดดเด่นมากกว่าเดิม และแม้จะเป็นท้ายลาด ก็ยังมาพร้อมกับใบปัดน้ำฝนหลัง รวมถึงในด้านหน้ากระจังหน้าขนาดใหญ่เสริมกับไฟหน้าทรงที่แปลกตากว่ารุ่นอื่นๆชัดเจน และยังคงมีกล้องรอบคัน เซนเซอร์รอบคันมาให้ แต่น่าเสียดายในไทยไม่มี Radar ให้ใช้งานเพราะว่าถ้ามีจะมีเซนเซอร์ซ้ายและขวาที่แตกต่างกับกระจังหน้าปกติชัดเจนเลยทีเดียวครับ
ไฟท้ายแนวยาวเจ้าแรกๆและมาพร้อมดีไซน์ที่คล้ายกับไฟหน้า และ มีไฟเลี้ยววิ่ง และ ไฟวิ่งตอนปลดล็อคเช่นกันครับ แสงสวยคมดีเทลสวยมากๆ ไฟหน้าของทาง Q8 เองนั้นจัดเต็มเช่นเดิม MATRIX LED พร้อมกับไฟ LIGHT STAGING ที่เป็นการไล่ไฟเวลาปลดล็อคต่างๆ อีกทั้งไฟเลี้ยวแบบวิ่งยังคงใส่เข้ามาให้เช่นกัน ซึ่งถ้ามองเป็นรถนำเข้าเราะจะได้ระบบล้างไฟหน้าเข้ามาซึ่งถ้ามองเรื่องของระบบไฟเองนั้นทำได้ดีมากๆมาตั้งแต่ยุคแรกๆทั้งเทคโนโลยี การใช้งานหลบหลีกคันข้างหน้าที่ทำได้ไวและดีกว่าค่ายยุโรปด้วยกัน และ มีความคมสว่างมากเช่นกัน และมาพร้อมกับล้อ 21 นิ้วลวดลายใหม่ ยาง 285-45-21 พร้อมกับการเล่น 2 สีสวยงามและเบรคขนาดใหญ่สีแดงซึ่งมาพร้อมกับ 6Pot ใหญ่โตมากๆ และช่วงล่าง ปรับระดับได้แบบถุงลมซึ่งปรับเองได้หรือตามโหมดการขับขี่เช่นเดิมเลยแหละ
ทางด้านประตูแน่นอนว่าในเรื่องของการออกแบบ COUPE เราจะได้เรื่องของการใช้งานประตูแบบ FRAMELESS ซึ่งไม่ค่อยจะเห็นในรถบรรดา SUV เท่าไรแต่ทาง Q8 ก็ใส่เข้ามาให้เช่นกันแม้เรื่องของการเก็บเสียงอาจจะไม่โหดมากนัก แต่เรื่องความสวยบอกเลยว่าเท่แน่นอน ส่วนช่วงล่างถุงลมเองนั้นปรับได้สูง ต่ำ ในภาพสูงสุด และ ต่ำสุดแตกต่างกันชัดเจน ส่งผลให้ตัวรถดูใหญ่มากกว่าเดิมและลุยได้มากกว่าเดิมไปอีกรวมถึงในความเร็วสูงก็เกาะถนนมากกว่าในแบบต่ำสุด ถือว่าช่วงล่างถุงลมและการจัดการเรื่องของระบบการขับขี่ไม่ธรรมดาและยังคงทำได้โหดมากๆเช่นกัน
INTERIOR
ภายในต้องบอกเลยว่าสวยงามและลงตัวเช่นเดิมได้ยุคใหม่ของค่ายเช่นเดิมซึ่งทาง AUDI เองเป็นค่ายที่ออกแบบภายในได้สวยและหวือหวาเช่นเดิมครับไม่ว่าจะเป็นเส้นสาย ความทันสมัยและไม่ได้เวอร์หรือรกเกินไปเป็นและในตัว Q8 เองนั้นงานออกแบบภายในจะไม่ได้ต่างกับ Q7 เท่าไรครับแต่เราจะได้เบาะ BUCKET SEAT มาด้วยในตอนหน้าและเน้นสีดำ และ สีเทาเป็นหลักและเสริมความหรูหราด้วย ลายไม้สีดำเข้มๆในหลายๆส่วนของตัวรถเน้นความหรูหรามากกว่าลายคาร์บอนที่เรามักจะเห็นในรถสายซิ่ง ส่วยวัสดุงานประกอบแน่นเนียนคุณภาพดีอันดับต้นๆของเยอรมันเช่นเดิมครับ การเลือกใช้วัสดุในหลายๆจุดเป็นอลูมิเนียมจริงไม่ใช้พลาสติกทำสีเงินแบบค่ายอื่นๆด้วยนะ
ภายในหน้าจอกลางและจอควบคุมระบบแอร์ยังคงเป็นแบบสัมผัสล้วนเช่นเดิมครับมาพร้อมกับหน้าจอหลักขนาด 10.1 นิ้วในการใช้งานทุกอย่างทั้ง CARPLAY แบบไร้สาย หรือ ANDROID AUTO และสั่งงาน ปรับเปลี่ยนตัวรถทั้งหมดสัมผัสมี Haptic ตอบสนองสั่นแบบกดปุ่มจริงๆมาให้ด้วยซึ่งไม่ค่อยมีค่ายไหนทำแบบนี้ และ จอล่างเป็นจอ 8.6 นิ้วที่มาพร้อมกับ การสั่งงานแอร์ ปรับทิศทางต่างๆเป็นสัมผัสล้วนๆทั้งหมดไม่มีปุ่มจริงๆมาให้แล้วในรุ่นนี้ครับล้ำมากๆ และ ระบบเครื่องเสียง Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติจัดเต็มเสียงนุ่ม อลังการ ดีเทลเสียงใส และ โหด งานออกแบบเน้นความดำเงาเป็นหลัก รวมถึงคอนโซลกลางเกียร์แบบที่คุ้นเคยพร้อมปุ่มเบรคมือที่ทำจากอลูมิเนียมแท้ๆทั้งชิ้น งานดีและสวย และ ที่วางแก้วน้ำในด้านซ้าย แต่น่าเสียดายไม่มีที่ชาร์จไร้สายอะไรมาให้ในคันนี้
พวงมาลัยนั้นยังคงเป็นหน้าตาที่คุ้นเคยกันดีสำหรับพวงมาลัย S-line ของค่ายที่มาพร้อมกับพวงมาลัยขอบตัดและวัสดุหนังแบบเจาะรูรวมถึงการออกแบบสีเงิน ดำเงารอบๆตัวควบคุมสั่งงานทั้งหลาย และโลโก้ตรงกลางพร้อมกับทรงพวงมาลัยที่สวยงาม และกรอบล้อมรอบที่ทรงเดียวกับกระจังหน้าของค่ายเลยแหละ ทางด้านปุ่มสั่งงานนั้นใช้งานได้ง่ายครบไม่ยุ่งยาก แต่ขอบ่นในเรื่องของการควบคุม Cruise Control นั้นน่าเสียดายว่าใช้แบบก้านแยก ซึ่งใช้งานไม่ถนัดเท่ารุ่นอื่นๆที่ย้ายมาตรงพวงมาลัยแล้วนั้นเอง และไม่มี Adaptive Cruise Control มาให้เลยแม้แต่น้อย ส่วนทางด้านหน้าปัดอันนี้ให้ Virtual Cockpit 12.3 นิ้วจัดเต็มเปลี่ยนแปลงงานออกแบบได้ ดูแผนที่แบบเต็มได้ และตัวเบาะเองนั้นเป็นแบบ Bucket Seat หนังสีเทาโทนสวยๆ และ รูปทรงกระชับ มีนวดหลัง ดันหลัง ปรับปีกเบาะบน และ ปีกเบาะล่าง มาให้ครบถือว่าเป็นเบาะทรงสปอร์ตที่สวยและลงตัวแถมยังนั่งสบายมากๆคันนึงที่เคยทดสอบ
และด้านหลังเป็นรุ่นที่ Legroom กว้างมากก และ นั่งสบายแถมเลื่อนเบาะหน้าหลังได้และยังมีแอร์หลังแยกโซนมาให้ 1 ตำแหน่ง ซึ่งมีแอร์ทั้งตรงกลาง และ ตรงเสาซ้าย และ ขวา ของตัวรถครบๆแต่น่าเสียดายไม่มีแยกโซนซ้ายขวาแบบรุ่นอื่นๆครับ แต่พื้นที่ข้างหลังคือที่สุดของความใหญ่ และ ยามค่ำคืนแสงสี Ambient Light จัดเต็มมากๆปรับได้ 2 โซนหลากหลายสีสวยและไม่ได้เยอะมากเกินไป รวมถึงมีไฟส่องพื้น S Line ตรงประตูทั้ง 4 บานแสงสวยคม
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้