เราทำงานประจำค่ะ แปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นทุกวันธรรมดา วันเสาร์-อาทิตย์ทำงานถึงเที่ยง มีงานนอกเวลาให้ทำต่อสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งส่วนใหญ่อยู่ถึงเที่ยงคืน แต่บางวันก็เกือบถึงเช้า เราอยากเลี้ยงหมาของตัวเองมาตลอด ที่ผ่านมาหมาที่เลี้ยงก็เป็นหมาที่พ่อแม่เอามาที่บ้าน เราไม่ได้เลี้ยงเอง หลังเรียนจบอยู่เป็นที่เป็นทางแล้ว เราเลยอยากเลี้ยงน้องหมาเป็นของตัวเองค่ะ แต่ด้วยเวลางานของเรา ประกอบกับเราอยู่หอพักของที่ทำงานทำให้เราคิดเยอะมากว่าควรเลี้ยงน้องดีมั๊ย หลังจากคิดมาหลายรอบ รวมทั้งเข้ามารีวิวจากกระทู้ในพันทิป เราก็ตัดสินใจเลี้ยงน้องค่ะ และมันดีกว่าที่คิดไว้มากๆ เราเลยอยากเอามาแชร์ให้เพื่อนๆ ที่อาจมีคำถามสงสัยเหมือนเราในตอนแรกที่กำลังตัดสินใจว่าจะเลี้ยงดีมั๊ย
เรารับน้องมาเลี้ยงตอนอายุเกือบ 3 เดือนค่ะ น้องเป็นมัลติปอมเพศเมีย (มอลทีสผสมปอมเมอเรเนียน) ต้องบอกว่าเราโชคดีด้วยที่เจ้าของเดิมฝึกน้องให้ขับถ่ายบนแผ่นซับมาแล้ว และน้องมีนิสัยไม่เห่า ไม่หอนเลย ตอนที่มาอยู่กับเราน้องทานอาหารเม็ดได้แล้วด้วยค่ะ
1. เรื่องที่น้องอยู่คนเดียวตอนเราไปทำงาน อย่างที่บอกไปว่า เวลาชีวิตเราเกือบครึ่งนึงอยู่ที่ทำงานค่ะ ช่วงแรกเรากังวลมาก กลัวน้องอยู่ไม่ได้ แต่ว่า น้องเราอยู่ได้ค่ะ ไม่เห่า ไม่หอนเลย คอมเฟิร์มจากเพื่อนในหอที่อยู่ชั้นเดียวกัน เพื่อนบอกน้องเงียบมาก (โชคดีอีกอย่างของเรา คือ เพื่อนที่หอชั้นเดียวกับเรา เลี้ยงแมว เลี้ยงสุนัข เลี้ยงลูก ปกติจะเสียงดังกันเป็นระยะอยู่แล้ว เลยไม่มีใครว่าใครค่ะ เข้าใจกันดี) เราติดกล้องวงจรปิดไว้ดูน้องด้วยค่ะ พฤติกรรมของน้องเวลาที่เราออกไปทำงานคือ ช่วงเช้าน้องจะเล่นตุ๊กตา เล่นของเล่นไปเรื่อยๆ กินขนมขัดฟันที่เราเอาให้ทุกเช้า ขนมกินเล่นก็ให้ไว้ทุกเช้า ให้เค้ารับรู้ว่า พอเราออกไปทำงานนานๆ เค้าก็จะได้กินขนมนะ น้องจะได้ไม่เครียดค่ะ พอตกช่วงบ่ายน้องจะนอนยาวเลยค่ะ มีบางครั้งที่น้องหันไปมองประตู แต่ไม่บ่อยนัก นานๆครั้งค่ะ บางครั้งเวลามีเสียงคนเดินผ่านหน้าประตู น้องจะวิ่งไปรอที่ประตู แต่พอไม่มีใครเปิดเข้ามา น้องก็จะกลับไปนอนเหมือนเดิม
2. สิ่งของทุกอย่างเราหาโต๊ะสูงมาวางค่ะ รองเท้าก็หาชั้นรองเท้าแบบลิ้นชักปิดมาใช้ สายไฟไล่ขึ้นสูงหมดค่ะ ปลั๊กไฟที่อยู่ตำแหน่งต่ำๆที่น้องเอื้อมถึงเราเอาเทปเหนียวมาปิดทับเลยไว้เลยค่ะ ไม่ใช้ไปเลย ทิ้งของเล่นไว้ในห้องเหมือนสนามเด็กเล่นให้น้องเลยค่ะ ตุ๊กตา 4 ตัวให้น้องเลือกกัดตามใจชอบ แต่มีบ้างที่น้องไปกัดขาเตียง กัดขอบตู้รองเท้า ถ้าเราอยู่ห้องเราจะร้องห้าม แต่ถ้ากัดตอนเราไม่อยู่ก็ได้แต่ทำใจค่ะ แต่จริงๆแล้วของก็ไม่ได้เสียหายอะไรเลยค่ะ เพราะ ฟันน้องยังเล็กมาก เราไม่ได้กั้นคอกนะคะ ในหอเราจะมีห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องแต่งตัว เราให้น้องเดินไปมาตามอิสระในห้องนอนและห้องนั่งเล่นค่ะ แต่ปิดห้องแต่งตัวไว้เพราะของเยอะมาก พอไม่กั้นคอกน้องจะไม่เครียดค่ะ เค้าจะรู้สึกว่าเป็นอิสระ เดินไปมาได้ตามใจชอบในที่ของตัวเอง เปิดแอร์เย็นๆไว้ให้นางด้วยค่ะ นางจะได้สบายตัว
3. เวลาที่เรากลับมาจากที่ทำงานถึงจะเหนื่อยมาก แต่จะแบ่งเวลาเล่นกับน้องค่ะ พาวิ่งเล่นในห้อง (น้องตัวเล็กขาสั้นมาก วิ่งแค่ในห้องก็ลิ้นห้อยแล้วค่ะ) พาเล่นตุ๊กตา พอน้องเหนื่อยก็อุ้มน้องพาเดินเล่นในห้องนั่นแหละ ให้เค้ารู้ว่า เรารักเค้า เราสนใจเค้าเสมอค่ะ เป็นการปลดปล่อยพลังของเค้าด้วย ใช้เวลาไม่เกินวันละ 30 นาที หลังจากนั้น เราก็พักผ่อนทำธุระส่วนตัว ส่วนน้องก็เล่นตุ๊กตาของเค้าไป และมาเดินตามเราเป็นระยะ ถ้าเรานั่งดูทีวี น้องก็จะมานอนข้างๆ ค่ะ ช่วงสัปดาห์แรกมีปัญหานิดหน่อย เวลาที่เรากลับช้ามาก จากปกติที่น้องขับถ่ายใส่แผ่นซับเป็นที่เป็นทาง น้องจะถ่ายไม่เป็นที่เลยค่ะ อึทั่วห้องเหมือนจะประท้วง แรกๆเราตีน้องที่ก้นค่ะ แต่เราพบว่า การทำแบบนี้ไม่ช่วยอะไร น้องไม่ฟังแถมยังทำให้น้องรู้สึกแย่กับเรา เราก็รู้สึกแย่กับตัวเองเหมือนกันที่ตีเค้า หลังๆ เราไม่ตีเลยค่ะ ถ้ากลับไปแล้วเห็นเค้าอึไม่เป็นที่ เราก็ไปเก็บกวาด แล้วก็พูดกับน้องว่า เราทำงานกลับมาเหนื่อยนะ อยากให้น้องอึให้เป็นที่หน่อย ช่วยแม่หน่อยนะ น้องจะยืนมองเราเก็บอึเค้า มองเราเช็ดถูพื้นค่ะ ทำแบบนี้ไปสักพัก หลังจากนั้น พอเรากลับช้ามากๆ อีก น้องไม่มีพฤติกรรมขับถ่ายไม่เป็นที่อีกแล้วค่ะ เราว่าน้องรับรู้ความรู้สึกเราได้นะคะ นางคงสงสารเราด้วยมั้ง อันนี้คิดเอาเองค่ะ
4. เรื่องอาหาร เราเทอาหาร เทน้ำไว้ให้น้องเลยค่ะ ปริมาณอาหารที่ให้ก็จะเป็นปริมาณที่ควรได้ทั้งวัน เทให้ตอนเช้ารอบเดียวเลยค่ะ น้ำก็เทเต็มถ้วยไว้ให้ อันนี้อาจจะเป็นข้อเสียที่ทำให้น้องกินไม่เป็นเวลาได้ แต่เราว่าน่าจะเป็นทางออกที่ใช่ที่สุดแล้วกับการเลี้ยงน้องไว้ตัวเดียวที่ห้องโดยที่เราออกไปทำงานกลางวันค่ะ แต่เราก็กำลังดูเครื่องให้อาหารสุนัขอัตโนมัติไว้อยู่ค่ะ อาจจะเอามาใช้ในอนาคต
5. เราให้น้องนอนในห้องนอนกับเราตอนกลางคืนค่ะ ที่นอนของน้องจะวางบนพื้นข้างๆเตียงเราเลย ดังนั้น เลยไม่มีปัญหาว่าน้องกลัว หรือร้องกวนตอนกลางคืน เพราะ เค้าได้อยู่กับเราตลอดในห้องค่ะ
6. เราพาน้องออกไปข้างนอกประมาณ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ แต่เอาใส่กระเป๋าไปค่ะ พาไปซื้อของที่ตลาด ไปเดินสวนสาธารณะ น้องอยู่ในกระเป๋าตลอดเลย ยังไม่ให้ลงเดิน เพราะ น้องเพิ่งฉีดวัคซีนไปได้ 2 เข็ม ยังไม่ครบค่ะ หรือเวลาสั่งอาหารจากไลน์แมนแล้วต้องไปยืนรอรับอาหารใต้หอก็อุ้มนางลงมารับอาหารด้วย ถือว่าเป็นการพาน้องไปดูโลกข้างนอกบ้างค่ะ ให้ไปเจอผู้คนบ้างจะได้ไม่ตื่นคน ซึ่งน้องของเรานี่ก็ไม่เคยเห่าคนเลยค่ะ ดีมากๆเลย
7. ช่วงวันหยุด ที่เราอยู่กับเค้าที่หอตอนกลางวัน เราสังเกตว่าน้องจะปรับพฤติกรรมให้เข้ากับเราอัตโนมัติค่ะ ปกติหมาเด็กจะชอบชวนเราเล่นตลอดเวลา แต่พอเราอยู่กับน้องไปสักพัก น้องจะทำตามเราตลอด เช่น เรานอนกลางวัน น้องก็นอนตาม ถ้าเราไม่ตื่น น้องก็จะไม่ตื่นด้วย เรานั่งเล่นคอม น้องก็จะไปเล่นตุ๊กตาของเค้า ถ้าเราเอาอาหารมานั่งกิน เค้าก็จะเดินไปกินอาหารของเค้าเช่นกันค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ที่อยากเอามาแชร์ให้กับเพื่อนๆที่กำลังตัดสินใจเลี้ยงน้องหมา แต่อยู่ในสถานการณ์เหมือนเราคือ กลางวันน้องต้องอยู่คนเดียว เพราะ เรา ออกไปทำงาน เราอาจโชคดีที่ได้น้องหมาที่ค่อนข้างเรียบร้อยไม่เห่า นิสัยขับถ่ายก็ฝึกมาแล้ว เลยสบายขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการจัดการเวลาของเราเอง การให้เวลาและให้ความรักกับน้องอย่างเหมาะสมด้วยค่ะ เชื่อว่าถ้าเป็นคนรักหมาอยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหาค่ะ อยู่กันไปทั้งเราและน้องหมาก็จะปรับตัวเข้าหากันได้เอง น้องหมาของเราก็มีข้อเสียเช่น กัดแทะของบ้าง แต่ถ้าเทียบกับข้อดีอื่นๆ เช่น น้องไม่เห่ากวนเลย อันนี้เราคิดว่ามันทดแทนกันได้ค่ะ เรารับได้ อีกอย่าง นิสัยนี้ก็น่าจะเริ่มหมดไปเมื่อเค้าโตขึ้น ตอนนี้น้องอายุ 4 เดือนแล้ว เข้ากันได้ดีค่ะ นิสัยชอบนอนเหมือนกัน 555
เพื่อนๆ ที่เลี้ยงน้องหมาไว้คนเดียวที่บ้านสามารถมาแชร์กันได้นะคะ เผื่อว่ามีทริคดีๆ จะได้แบ่งปันกันค่ะ
หวังว่ากระทู้เราจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังตัดสินใจเลี้ยงน้องหมานะคะ ขอบคุณค่า
ขอมาแชร์ประสบการณ์ดีๆ เลี้ยงลูกหมาไว้ตัวเดียวที่หอ และเราทำงานช่วงกลางวันค่ะ
เรารับน้องมาเลี้ยงตอนอายุเกือบ 3 เดือนค่ะ น้องเป็นมัลติปอมเพศเมีย (มอลทีสผสมปอมเมอเรเนียน) ต้องบอกว่าเราโชคดีด้วยที่เจ้าของเดิมฝึกน้องให้ขับถ่ายบนแผ่นซับมาแล้ว และน้องมีนิสัยไม่เห่า ไม่หอนเลย ตอนที่มาอยู่กับเราน้องทานอาหารเม็ดได้แล้วด้วยค่ะ
1. เรื่องที่น้องอยู่คนเดียวตอนเราไปทำงาน อย่างที่บอกไปว่า เวลาชีวิตเราเกือบครึ่งนึงอยู่ที่ทำงานค่ะ ช่วงแรกเรากังวลมาก กลัวน้องอยู่ไม่ได้ แต่ว่า น้องเราอยู่ได้ค่ะ ไม่เห่า ไม่หอนเลย คอมเฟิร์มจากเพื่อนในหอที่อยู่ชั้นเดียวกัน เพื่อนบอกน้องเงียบมาก (โชคดีอีกอย่างของเรา คือ เพื่อนที่หอชั้นเดียวกับเรา เลี้ยงแมว เลี้ยงสุนัข เลี้ยงลูก ปกติจะเสียงดังกันเป็นระยะอยู่แล้ว เลยไม่มีใครว่าใครค่ะ เข้าใจกันดี) เราติดกล้องวงจรปิดไว้ดูน้องด้วยค่ะ พฤติกรรมของน้องเวลาที่เราออกไปทำงานคือ ช่วงเช้าน้องจะเล่นตุ๊กตา เล่นของเล่นไปเรื่อยๆ กินขนมขัดฟันที่เราเอาให้ทุกเช้า ขนมกินเล่นก็ให้ไว้ทุกเช้า ให้เค้ารับรู้ว่า พอเราออกไปทำงานนานๆ เค้าก็จะได้กินขนมนะ น้องจะได้ไม่เครียดค่ะ พอตกช่วงบ่ายน้องจะนอนยาวเลยค่ะ มีบางครั้งที่น้องหันไปมองประตู แต่ไม่บ่อยนัก นานๆครั้งค่ะ บางครั้งเวลามีเสียงคนเดินผ่านหน้าประตู น้องจะวิ่งไปรอที่ประตู แต่พอไม่มีใครเปิดเข้ามา น้องก็จะกลับไปนอนเหมือนเดิม
2. สิ่งของทุกอย่างเราหาโต๊ะสูงมาวางค่ะ รองเท้าก็หาชั้นรองเท้าแบบลิ้นชักปิดมาใช้ สายไฟไล่ขึ้นสูงหมดค่ะ ปลั๊กไฟที่อยู่ตำแหน่งต่ำๆที่น้องเอื้อมถึงเราเอาเทปเหนียวมาปิดทับเลยไว้เลยค่ะ ไม่ใช้ไปเลย ทิ้งของเล่นไว้ในห้องเหมือนสนามเด็กเล่นให้น้องเลยค่ะ ตุ๊กตา 4 ตัวให้น้องเลือกกัดตามใจชอบ แต่มีบ้างที่น้องไปกัดขาเตียง กัดขอบตู้รองเท้า ถ้าเราอยู่ห้องเราจะร้องห้าม แต่ถ้ากัดตอนเราไม่อยู่ก็ได้แต่ทำใจค่ะ แต่จริงๆแล้วของก็ไม่ได้เสียหายอะไรเลยค่ะ เพราะ ฟันน้องยังเล็กมาก เราไม่ได้กั้นคอกนะคะ ในหอเราจะมีห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องแต่งตัว เราให้น้องเดินไปมาตามอิสระในห้องนอนและห้องนั่งเล่นค่ะ แต่ปิดห้องแต่งตัวไว้เพราะของเยอะมาก พอไม่กั้นคอกน้องจะไม่เครียดค่ะ เค้าจะรู้สึกว่าเป็นอิสระ เดินไปมาได้ตามใจชอบในที่ของตัวเอง เปิดแอร์เย็นๆไว้ให้นางด้วยค่ะ นางจะได้สบายตัว
3. เวลาที่เรากลับมาจากที่ทำงานถึงจะเหนื่อยมาก แต่จะแบ่งเวลาเล่นกับน้องค่ะ พาวิ่งเล่นในห้อง (น้องตัวเล็กขาสั้นมาก วิ่งแค่ในห้องก็ลิ้นห้อยแล้วค่ะ) พาเล่นตุ๊กตา พอน้องเหนื่อยก็อุ้มน้องพาเดินเล่นในห้องนั่นแหละ ให้เค้ารู้ว่า เรารักเค้า เราสนใจเค้าเสมอค่ะ เป็นการปลดปล่อยพลังของเค้าด้วย ใช้เวลาไม่เกินวันละ 30 นาที หลังจากนั้น เราก็พักผ่อนทำธุระส่วนตัว ส่วนน้องก็เล่นตุ๊กตาของเค้าไป และมาเดินตามเราเป็นระยะ ถ้าเรานั่งดูทีวี น้องก็จะมานอนข้างๆ ค่ะ ช่วงสัปดาห์แรกมีปัญหานิดหน่อย เวลาที่เรากลับช้ามาก จากปกติที่น้องขับถ่ายใส่แผ่นซับเป็นที่เป็นทาง น้องจะถ่ายไม่เป็นที่เลยค่ะ อึทั่วห้องเหมือนจะประท้วง แรกๆเราตีน้องที่ก้นค่ะ แต่เราพบว่า การทำแบบนี้ไม่ช่วยอะไร น้องไม่ฟังแถมยังทำให้น้องรู้สึกแย่กับเรา เราก็รู้สึกแย่กับตัวเองเหมือนกันที่ตีเค้า หลังๆ เราไม่ตีเลยค่ะ ถ้ากลับไปแล้วเห็นเค้าอึไม่เป็นที่ เราก็ไปเก็บกวาด แล้วก็พูดกับน้องว่า เราทำงานกลับมาเหนื่อยนะ อยากให้น้องอึให้เป็นที่หน่อย ช่วยแม่หน่อยนะ น้องจะยืนมองเราเก็บอึเค้า มองเราเช็ดถูพื้นค่ะ ทำแบบนี้ไปสักพัก หลังจากนั้น พอเรากลับช้ามากๆ อีก น้องไม่มีพฤติกรรมขับถ่ายไม่เป็นที่อีกแล้วค่ะ เราว่าน้องรับรู้ความรู้สึกเราได้นะคะ นางคงสงสารเราด้วยมั้ง อันนี้คิดเอาเองค่ะ
4. เรื่องอาหาร เราเทอาหาร เทน้ำไว้ให้น้องเลยค่ะ ปริมาณอาหารที่ให้ก็จะเป็นปริมาณที่ควรได้ทั้งวัน เทให้ตอนเช้ารอบเดียวเลยค่ะ น้ำก็เทเต็มถ้วยไว้ให้ อันนี้อาจจะเป็นข้อเสียที่ทำให้น้องกินไม่เป็นเวลาได้ แต่เราว่าน่าจะเป็นทางออกที่ใช่ที่สุดแล้วกับการเลี้ยงน้องไว้ตัวเดียวที่ห้องโดยที่เราออกไปทำงานกลางวันค่ะ แต่เราก็กำลังดูเครื่องให้อาหารสุนัขอัตโนมัติไว้อยู่ค่ะ อาจจะเอามาใช้ในอนาคต
5. เราให้น้องนอนในห้องนอนกับเราตอนกลางคืนค่ะ ที่นอนของน้องจะวางบนพื้นข้างๆเตียงเราเลย ดังนั้น เลยไม่มีปัญหาว่าน้องกลัว หรือร้องกวนตอนกลางคืน เพราะ เค้าได้อยู่กับเราตลอดในห้องค่ะ
6. เราพาน้องออกไปข้างนอกประมาณ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ แต่เอาใส่กระเป๋าไปค่ะ พาไปซื้อของที่ตลาด ไปเดินสวนสาธารณะ น้องอยู่ในกระเป๋าตลอดเลย ยังไม่ให้ลงเดิน เพราะ น้องเพิ่งฉีดวัคซีนไปได้ 2 เข็ม ยังไม่ครบค่ะ หรือเวลาสั่งอาหารจากไลน์แมนแล้วต้องไปยืนรอรับอาหารใต้หอก็อุ้มนางลงมารับอาหารด้วย ถือว่าเป็นการพาน้องไปดูโลกข้างนอกบ้างค่ะ ให้ไปเจอผู้คนบ้างจะได้ไม่ตื่นคน ซึ่งน้องของเรานี่ก็ไม่เคยเห่าคนเลยค่ะ ดีมากๆเลย
7. ช่วงวันหยุด ที่เราอยู่กับเค้าที่หอตอนกลางวัน เราสังเกตว่าน้องจะปรับพฤติกรรมให้เข้ากับเราอัตโนมัติค่ะ ปกติหมาเด็กจะชอบชวนเราเล่นตลอดเวลา แต่พอเราอยู่กับน้องไปสักพัก น้องจะทำตามเราตลอด เช่น เรานอนกลางวัน น้องก็นอนตาม ถ้าเราไม่ตื่น น้องก็จะไม่ตื่นด้วย เรานั่งเล่นคอม น้องก็จะไปเล่นตุ๊กตาของเค้า ถ้าเราเอาอาหารมานั่งกิน เค้าก็จะเดินไปกินอาหารของเค้าเช่นกันค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ที่อยากเอามาแชร์ให้กับเพื่อนๆที่กำลังตัดสินใจเลี้ยงน้องหมา แต่อยู่ในสถานการณ์เหมือนเราคือ กลางวันน้องต้องอยู่คนเดียว เพราะ เรา ออกไปทำงาน เราอาจโชคดีที่ได้น้องหมาที่ค่อนข้างเรียบร้อยไม่เห่า นิสัยขับถ่ายก็ฝึกมาแล้ว เลยสบายขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการจัดการเวลาของเราเอง การให้เวลาและให้ความรักกับน้องอย่างเหมาะสมด้วยค่ะ เชื่อว่าถ้าเป็นคนรักหมาอยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหาค่ะ อยู่กันไปทั้งเราและน้องหมาก็จะปรับตัวเข้าหากันได้เอง น้องหมาของเราก็มีข้อเสียเช่น กัดแทะของบ้าง แต่ถ้าเทียบกับข้อดีอื่นๆ เช่น น้องไม่เห่ากวนเลย อันนี้เราคิดว่ามันทดแทนกันได้ค่ะ เรารับได้ อีกอย่าง นิสัยนี้ก็น่าจะเริ่มหมดไปเมื่อเค้าโตขึ้น ตอนนี้น้องอายุ 4 เดือนแล้ว เข้ากันได้ดีค่ะ นิสัยชอบนอนเหมือนกัน 555
เพื่อนๆ ที่เลี้ยงน้องหมาไว้คนเดียวที่บ้านสามารถมาแชร์กันได้นะคะ เผื่อว่ามีทริคดีๆ จะได้แบ่งปันกันค่ะ
หวังว่ากระทู้เราจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังตัดสินใจเลี้ยงน้องหมานะคะ ขอบคุณค่า