สปอตไลท์สาดส่อง TSMC บิ๊กผู้ผลิตชิปโลก หลัง"เพโลซี"เยือนไต้หวัน
บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง คอมพานี (TSMC) เป็น ผู้ผลิตชิป รายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นบริษัทที่มีการกล่าวถึงอย่างมากระหว่างการเยือนไต้หวันของ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เมื่อเร็ว ๆนี้ จากข่าวที่ว่านายมาร์ก หลิว ประธานบริษัท TSMC ได้หารือกับนางเพโลซี เพื่อขอเพิ่มความร่วมมือระหว่างสหรัฐและไต้หวันในการร่วมกันแก้ไขปัญหาชิปขาดแคลนอย่างยั่งยืน และสามารถแข่งขันกับชิปจากจีน
อีกทั้งก่อนหน้านี้ นายหลิวยังเคยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า หากจีนใช้กำลังทหารรุกรานไต้หวัน โรงงานผลิตชิปของ TSMC ซึ่งเป็นโรงงานที่ทันสมัยที่สุดของโลก และตั้งอยู่ในไต้หวัน ก็คงจะไม่สามารถปฏิบัติงานได้ เนื่องจาก TSMC ต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ทั้งนี้ เซมิคอนดักเตอร์ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในสมาร์ตโฟนไปจนถึงรถยนต์และตู้เย็น ได้กลายเป็นองค์ประกอบหลักในการหักเหลี่ยมเฉือนคมด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ โดย วิกฤตชิปขาดแคลนที่ผ่านมาเป็นตัวกระตุ้นให้สหรัฐพยายามหาหุ้นส่วนด้านเซมิคอนดักเตอร์กับชาติพันธมิตรในเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพื่อเป็นการรับประกันว่า สหรัฐจะมีชิปมากพอและรักษาความเป็นผู้นำเหนือจีน
อย่างไรก็ตาม เป็นที่วิตกกันว่าหากจีนบุกไต้หวัน ก็อาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อโครงสร้างอำนาจในตลาดชิปโลก โดยจะทำให้จีนครองอำนาจควบคุมเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ การบุกไต้หวันก็อาจทำให้เกิดภาวะชิปขาดแคลนทั่วโลกอีกด้วย
นายอบิชูร์ ปรากาช ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคตเปิดเผยกับซีเอ็นบีซีผ่านทางอีเมลว่า "หากจีนรุกรานไต้หวัน ก็เป็นไปได้สูงว่าจีนจะโอนกิจการ TSMC มาเป็นของรัฐ แล้วเริ่มผนวกบริษัทและเทคโนโลยีดังกล่าวเข้าในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนเอง"
ขณะเดียวกัน TSMC ก็อยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีน และอาจถูกบีบให้ต้องเลือกข้างใดข้างหนึ่ง
"อันที่จริง บริษัทอย่าง TSMC อาจได้เลือกข้างไปแล้วด้วยซ้ำ จากการที่บริษัทกำลังลงทุนในสหรัฐเพื่อสนับสนุนการผลิตชิปของอเมริกา แถมยังเคยกล่าวว่าต้องการร่วมงานกับฝ่ายประชาธิปไตยอย่างสหภาพยุโรป (EU) ในด้านการผลิตชิปอีกด้วย" นายปรากาชกล่าว และยังให้ความเห็นต่อไปว่า
หลายบริษัทกำลังแสดงออกถึงความคิดทางการเมืองกับประเทศที่ร่วมงานด้วยมากขึ้นเรื่อย ๆ คำถามก็คือ เมื่อความตึงเครียดระหว่างไต้หวันกับจีนเพิ่มขึ้น TSMC จะยังคงรักษาจุดยืน (ในการเข้าข้างชาติตะวันตก) ได้หรือไม่ หรือจะถูกบังคับให้ต้องปรับกลยุทธ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ใหม่
ทั้งนี้ TSMC เป็นผู้ผลิตชิปให้กับบริษัทสหรัฐ ซึ่งรวมถึงแอปเปิล และควอลคอมม์ โดยทางบริษัท TSMC ผลิตชิป "เอ-ซีรีส์" และ "เอ็ม-ซีรีส์" ให้กับแอปเปิล และมีโรงหล่อชิปเซมิคอนดักเตอร์คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของตลาดโลก
https://www.thansettakij.com/world/535331
Ship อาจจะหาย
บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง คอมพานี (TSMC) เป็น ผู้ผลิตชิป รายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นบริษัทที่มีการกล่าวถึงอย่างมากระหว่างการเยือนไต้หวันของ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เมื่อเร็ว ๆนี้ จากข่าวที่ว่านายมาร์ก หลิว ประธานบริษัท TSMC ได้หารือกับนางเพโลซี เพื่อขอเพิ่มความร่วมมือระหว่างสหรัฐและไต้หวันในการร่วมกันแก้ไขปัญหาชิปขาดแคลนอย่างยั่งยืน และสามารถแข่งขันกับชิปจากจีน
อีกทั้งก่อนหน้านี้ นายหลิวยังเคยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า หากจีนใช้กำลังทหารรุกรานไต้หวัน โรงงานผลิตชิปของ TSMC ซึ่งเป็นโรงงานที่ทันสมัยที่สุดของโลก และตั้งอยู่ในไต้หวัน ก็คงจะไม่สามารถปฏิบัติงานได้ เนื่องจาก TSMC ต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ทั้งนี้ เซมิคอนดักเตอร์ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในสมาร์ตโฟนไปจนถึงรถยนต์และตู้เย็น ได้กลายเป็นองค์ประกอบหลักในการหักเหลี่ยมเฉือนคมด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ โดย วิกฤตชิปขาดแคลนที่ผ่านมาเป็นตัวกระตุ้นให้สหรัฐพยายามหาหุ้นส่วนด้านเซมิคอนดักเตอร์กับชาติพันธมิตรในเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพื่อเป็นการรับประกันว่า สหรัฐจะมีชิปมากพอและรักษาความเป็นผู้นำเหนือจีน
อย่างไรก็ตาม เป็นที่วิตกกันว่าหากจีนบุกไต้หวัน ก็อาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อโครงสร้างอำนาจในตลาดชิปโลก โดยจะทำให้จีนครองอำนาจควบคุมเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ การบุกไต้หวันก็อาจทำให้เกิดภาวะชิปขาดแคลนทั่วโลกอีกด้วย
นายอบิชูร์ ปรากาช ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคตเปิดเผยกับซีเอ็นบีซีผ่านทางอีเมลว่า "หากจีนรุกรานไต้หวัน ก็เป็นไปได้สูงว่าจีนจะโอนกิจการ TSMC มาเป็นของรัฐ แล้วเริ่มผนวกบริษัทและเทคโนโลยีดังกล่าวเข้าในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนเอง"
ขณะเดียวกัน TSMC ก็อยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีน และอาจถูกบีบให้ต้องเลือกข้างใดข้างหนึ่ง
"อันที่จริง บริษัทอย่าง TSMC อาจได้เลือกข้างไปแล้วด้วยซ้ำ จากการที่บริษัทกำลังลงทุนในสหรัฐเพื่อสนับสนุนการผลิตชิปของอเมริกา แถมยังเคยกล่าวว่าต้องการร่วมงานกับฝ่ายประชาธิปไตยอย่างสหภาพยุโรป (EU) ในด้านการผลิตชิปอีกด้วย" นายปรากาชกล่าว และยังให้ความเห็นต่อไปว่า
หลายบริษัทกำลังแสดงออกถึงความคิดทางการเมืองกับประเทศที่ร่วมงานด้วยมากขึ้นเรื่อย ๆ คำถามก็คือ เมื่อความตึงเครียดระหว่างไต้หวันกับจีนเพิ่มขึ้น TSMC จะยังคงรักษาจุดยืน (ในการเข้าข้างชาติตะวันตก) ได้หรือไม่ หรือจะถูกบังคับให้ต้องปรับกลยุทธ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ใหม่
ทั้งนี้ TSMC เป็นผู้ผลิตชิปให้กับบริษัทสหรัฐ ซึ่งรวมถึงแอปเปิล และควอลคอมม์ โดยทางบริษัท TSMC ผลิตชิป "เอ-ซีรีส์" และ "เอ็ม-ซีรีส์" ให้กับแอปเปิล และมีโรงหล่อชิปเซมิคอนดักเตอร์คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของตลาดโลก https://www.thansettakij.com/world/535331