แค่จะมาเล่าอะไร นิดหน่อย
เราไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ หน้าตา นิสัย อายุ อะไรเลย แค่เคยคุยกันในช่วงเศษเวลาอายุของมนุยษ์ใน 100 ปีเท่านั้น
วันนี้ก็แค่รู้สึกท้อในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่และพยายามนิดหน่อย ตั้งแต่ที่เราได้คุยกันวันนั้น เอาจริงนะ เราคิดว่าเธอเป็นแค่วัยรุ่น(วัยหวานแหวว)คนหนึ่ง ตอนนั้นเราอยากออกไปจากเธอสะเดี๋ยวนั้นเลย แต่เพราะคำหนึ่งๆ เพียงแค่คำเดียวทำให้เราอยากจะรู้เรื่องราวจากเธอและรู้สึกอยากจะช่วยเธอขึ้นมาทันใด เธอหนะมีเป้าหมายที่แน่วแน่เพียงแค่หกล้มนิดหน่อย ในขณะเราค่อนข้างหลงทาง ทั้งยังไม่รู้จนไม่อยากไปทางไหน
ตั้งแต่เราค้นพบความจริงของโลกใบนี้ ทำให้เรารู้สึกว่า ผู้คน และสิ่งต่างๆรอบกาย ล้วนหน้าเบื่อสำหรับเรา คนทั่วไปต่างดิ้นรน บางคนก็สุขสบาย บ้างก็ตกต่ำ แต่ก็หมุนเวียนและผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ มนุษย์ค่อนข้างมีสังคมเป็นกลุ่มเป็นก้อน ทั้งเธอและเราก็คือหนึ่งในฟันเฟืองเหล่านั้น
แต่เรากลับรู้สึกตัวเองแตกต่างจากคนอื่นอยู่เสมอ และนั้นดันกลายเป็นเรื่องจริงจากการได้รับฟังมุมมองจากคนอื่น ไม่ว่าทั้งความคิดหรือความรู้สึก เราคิดว่ามนุษย์เราค่อนข้างไร้สาระเมื่ออยู่เป็นสังคม หาเรื่องจับได้ยาก และเสียเวลาชีวิต แต่ว่าเพราะมนุษย์ก็คือสังคม ดังนั้นเราเลยต้องอยู่และเป็นดังแกะดำในแกะขาว บางทีเพราะแบบนั้นเราก็เลยเบื่อเสมอมา เพราะใช้ชีวิตในหน้ากากของแกะขาวเพื่อสังคม
จนกระทั้งวันนั้น วันที่เราทนใส่หน้ากากของแกะขาวไม่ไหว เราได้เจอเธอนั่นเอง เธอได้เล่าเรื่องราวของมนุษย์ ความสุข ความเศร้า ความโกธร ความสงสัย ความหลง ความรัก มิตรภาพ และความไร้สาระของเธอ และเราก็รับฟังเรื่องราวเหล่านั้น ซึ่งมนุษย์เกือบทุกคนล้วนได้ประสบพบเจอ คำตอบสำหรับเรื่องราวและปัญหาของเธอนั้นเป็น "สิ่งที่ทุกคนต้องการมากที่สุดแต่ไม่สามารถเอากลับคือมาได้ มันยังคงเดินเป็นจังหวะต่อไปเรื่อยๆ" นั้นแหละคือเรื่องราวของเธอ
แต่แล้วเพราะแค่คำไม่กี่คำ เราเลยได้เริ่มรู้จักเธอมากขึ้นอีกนิดหน่อย เธอกล่าวถึงความฝันและความสดใส เป็นสิ่งที่เราเคยมีเคยศรัทธาและเชื่ออย่างนั้น แต่เพราะโลกใบนี้เราเลยละทิ้งมันไป เพาะอย่างนั้นแหละเราเลยเห็นภาพตัวเองสะท้อนในตัวเธอขึ้นมาเลย ไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานแล้วเท่าไหร่ เพียงแต่ไม่นานจากนี้มันก็จะจบแล้ว แต่นั้นเป็นช่วงเวลาเดียวที่เรามีและได้ถอดหน้าแกะขาววางพักที่ไว้สักครู่ คนรอบกายพยายามจะเข้าใจเรา ความคิด ความรู้สึก และการกระทำ แต่ก็ล้มเหลว เพื่อนสนิทก็เข้าใจได้แค่บางส่วน แต่เธอไม่ใช่ เธอเข้าใจเราเพียงแค่ คำและประโยคของเราได้จริงๆหรือ ไม่รู้สินะ นั้นแหละเราเลยรู้สึกดีใจมากๆเลย แค่รู้สึกว่าอย่างน้อยก็มีคน ที่เห็นแกะดำอย่างเราบนโลกนี้ได้แล้วคนหนึ่งสินะ
ในตอนสุดท้ายที่เราอยากให้เธอเป็นหรือได้ในสิ่งที่เธอจะเป็นนั้น บางทีอาจจะคือความเห็นแก่ตัวที่แท้จริงของเราต่างหากนะ เพราะว่าความฝันของเธอต่างหากล่ะ ความฝันของเธอคือสิ่งที่เราต้องการไม่สิคือความฝันของเราก่อนหลงทางต่างหาก เราเคยยอมแพ้และละทิ้งมันไป นั้นแหละที่ทำให้เราเสียใจมากๆเลย
เพราะงั้นแค่วันนี้เท่านั้นเรารู้สึกท้อนิดหน่อย(มากๆเลยล่ะ) แต่พรุ่งนี้จะไม่อีกแล้ว เส้นตายใกล้เข้ามาทุกครั้งที่ล้มลง(แม้จะแค่วันเดียวก็ตามที) เราดีใจมากนะ ที่วันนั้นเราสามารถช่วยใครบางคนและยิ่งดีใจมากเลยที่คนๆนั้นเป็นเธอ แต่ในอนาคตเราอยากช่วยมากกว่านี้ ไม่เฉพาะเธอ คนอื่นด้วย ทุกคนเลย ทั้งกายและใจ อยากช่วยให้ได้เลย
วันนี้เลยขอเห็นแก่ตัวสักวันหนึ่งนะ
แค่ "อยากรู้จักว่าตอนนี้เป็นไง สบายดีมะ พยายามอยู่หรือป่าว ถ้าได้เจอกันคงดี แบบในร้านกาแฟแถบชานเมืองสักที่หนึ่ง อ่านหนังสือด้วยกัน เล่นเกมด้วยกัน แชร์เรื่องราวต่างๆด้วยกัน แม้ในวันที่ฝนตกก็ยังมีพระอาทิตย์ " ก็แค่ล้อเล่นหนะ ก็บอกแล้วไงว่าเราไม่อยากเสียเวลา และไร้สาระทำเรื่องไร้สาระแบบนั้นหรอก 55555 แบร่
อีกอย่างเราไม่ไม่ควรจะมีเวลามาเขียนเรื่องไร้สาระแบบนี้เส้ ให้ตายไม่สมเป็นเราเลยเพราะงี้ไหงเราถึงไม่ชอบมนุษย์ ค่อนข้างไร้สาระและถูกผลักดันด้วยด้วยฮอร์โมน
แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ ....(≧▽≦)แม้ว่าเรื่องในวันนั้นอาจจะเป็นเรื่องไม่จริงหรือโกหกก็ตามที ไม่สำคัญหรอก แต่แค่เราทั้งคู่ต้องไปต่อให้ถึงตอนจบที่มีความสุขที่สุด ซึ่งเขียนขึ้นมาด้วยตัวเอง
แล้วก็อีกอย่างนะ ไอ้พันทิป อย่าไปใส่แท็กซี้ซั่วให้คนเขาอุสาห์เขียนมาสิ มันไม่ควรจะอยู่ในบางรัก แต่ต้องเป็นศาลาคนเศร้า เข้าใจป่าว!!!! ฟร้ายยยจริงง ไม่ใช่เรื่องรักสักหน่อย เป็นแค่ Message เองแถมเป็นเรื่องเศร้าด้วย เคยสอบ Gat ป่าว เชื่อมโยงนะยูวววว
頑張ってね พยายามเข้านะ ٩(^◡^)۶
เราไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ หน้าตา นิสัย อายุ อะไรเลย แค่เคยคุยกันในช่วงเศษเวลาอายุของมนุยษ์ใน 100 ปีเท่านั้น
วันนี้ก็แค่รู้สึกท้อในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่และพยายามนิดหน่อย ตั้งแต่ที่เราได้คุยกันวันนั้น เอาจริงนะ เราคิดว่าเธอเป็นแค่วัยรุ่น(วัยหวานแหวว)คนหนึ่ง ตอนนั้นเราอยากออกไปจากเธอสะเดี๋ยวนั้นเลย แต่เพราะคำหนึ่งๆ เพียงแค่คำเดียวทำให้เราอยากจะรู้เรื่องราวจากเธอและรู้สึกอยากจะช่วยเธอขึ้นมาทันใด เธอหนะมีเป้าหมายที่แน่วแน่เพียงแค่หกล้มนิดหน่อย ในขณะเราค่อนข้างหลงทาง ทั้งยังไม่รู้จนไม่อยากไปทางไหน
ตั้งแต่เราค้นพบความจริงของโลกใบนี้ ทำให้เรารู้สึกว่า ผู้คน และสิ่งต่างๆรอบกาย ล้วนหน้าเบื่อสำหรับเรา คนทั่วไปต่างดิ้นรน บางคนก็สุขสบาย บ้างก็ตกต่ำ แต่ก็หมุนเวียนและผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ มนุษย์ค่อนข้างมีสังคมเป็นกลุ่มเป็นก้อน ทั้งเธอและเราก็คือหนึ่งในฟันเฟืองเหล่านั้น
แต่เรากลับรู้สึกตัวเองแตกต่างจากคนอื่นอยู่เสมอ และนั้นดันกลายเป็นเรื่องจริงจากการได้รับฟังมุมมองจากคนอื่น ไม่ว่าทั้งความคิดหรือความรู้สึก เราคิดว่ามนุษย์เราค่อนข้างไร้สาระเมื่ออยู่เป็นสังคม หาเรื่องจับได้ยาก และเสียเวลาชีวิต แต่ว่าเพราะมนุษย์ก็คือสังคม ดังนั้นเราเลยต้องอยู่และเป็นดังแกะดำในแกะขาว บางทีเพราะแบบนั้นเราก็เลยเบื่อเสมอมา เพราะใช้ชีวิตในหน้ากากของแกะขาวเพื่อสังคม
จนกระทั้งวันนั้น วันที่เราทนใส่หน้ากากของแกะขาวไม่ไหว เราได้เจอเธอนั่นเอง เธอได้เล่าเรื่องราวของมนุษย์ ความสุข ความเศร้า ความโกธร ความสงสัย ความหลง ความรัก มิตรภาพ และความไร้สาระของเธอ และเราก็รับฟังเรื่องราวเหล่านั้น ซึ่งมนุษย์เกือบทุกคนล้วนได้ประสบพบเจอ คำตอบสำหรับเรื่องราวและปัญหาของเธอนั้นเป็น "สิ่งที่ทุกคนต้องการมากที่สุดแต่ไม่สามารถเอากลับคือมาได้ มันยังคงเดินเป็นจังหวะต่อไปเรื่อยๆ" นั้นแหละคือเรื่องราวของเธอ
แต่แล้วเพราะแค่คำไม่กี่คำ เราเลยได้เริ่มรู้จักเธอมากขึ้นอีกนิดหน่อย เธอกล่าวถึงความฝันและความสดใส เป็นสิ่งที่เราเคยมีเคยศรัทธาและเชื่ออย่างนั้น แต่เพราะโลกใบนี้เราเลยละทิ้งมันไป เพาะอย่างนั้นแหละเราเลยเห็นภาพตัวเองสะท้อนในตัวเธอขึ้นมาเลย ไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานแล้วเท่าไหร่ เพียงแต่ไม่นานจากนี้มันก็จะจบแล้ว แต่นั้นเป็นช่วงเวลาเดียวที่เรามีและได้ถอดหน้าแกะขาววางพักที่ไว้สักครู่ คนรอบกายพยายามจะเข้าใจเรา ความคิด ความรู้สึก และการกระทำ แต่ก็ล้มเหลว เพื่อนสนิทก็เข้าใจได้แค่บางส่วน แต่เธอไม่ใช่ เธอเข้าใจเราเพียงแค่ คำและประโยคของเราได้จริงๆหรือ ไม่รู้สินะ นั้นแหละเราเลยรู้สึกดีใจมากๆเลย แค่รู้สึกว่าอย่างน้อยก็มีคน ที่เห็นแกะดำอย่างเราบนโลกนี้ได้แล้วคนหนึ่งสินะ
ในตอนสุดท้ายที่เราอยากให้เธอเป็นหรือได้ในสิ่งที่เธอจะเป็นนั้น บางทีอาจจะคือความเห็นแก่ตัวที่แท้จริงของเราต่างหากนะ เพราะว่าความฝันของเธอต่างหากล่ะ ความฝันของเธอคือสิ่งที่เราต้องการไม่สิคือความฝันของเราก่อนหลงทางต่างหาก เราเคยยอมแพ้และละทิ้งมันไป นั้นแหละที่ทำให้เราเสียใจมากๆเลย
เพราะงั้นแค่วันนี้เท่านั้นเรารู้สึกท้อนิดหน่อย(มากๆเลยล่ะ) แต่พรุ่งนี้จะไม่อีกแล้ว เส้นตายใกล้เข้ามาทุกครั้งที่ล้มลง(แม้จะแค่วันเดียวก็ตามที) เราดีใจมากนะ ที่วันนั้นเราสามารถช่วยใครบางคนและยิ่งดีใจมากเลยที่คนๆนั้นเป็นเธอ แต่ในอนาคตเราอยากช่วยมากกว่านี้ ไม่เฉพาะเธอ คนอื่นด้วย ทุกคนเลย ทั้งกายและใจ อยากช่วยให้ได้เลย
วันนี้เลยขอเห็นแก่ตัวสักวันหนึ่งนะ
แค่ "อยากรู้จักว่าตอนนี้เป็นไง สบายดีมะ พยายามอยู่หรือป่าว ถ้าได้เจอกันคงดี แบบในร้านกาแฟแถบชานเมืองสักที่หนึ่ง อ่านหนังสือด้วยกัน เล่นเกมด้วยกัน แชร์เรื่องราวต่างๆด้วยกัน แม้ในวันที่ฝนตกก็ยังมีพระอาทิตย์ " ก็แค่ล้อเล่นหนะ ก็บอกแล้วไงว่าเราไม่อยากเสียเวลา และไร้สาระทำเรื่องไร้สาระแบบนั้นหรอก 55555 แบร่
อีกอย่างเราไม่ไม่ควรจะมีเวลามาเขียนเรื่องไร้สาระแบบนี้เส้ ให้ตายไม่สมเป็นเราเลยเพราะงี้ไหงเราถึงไม่ชอบมนุษย์ ค่อนข้างไร้สาระและถูกผลักดันด้วยด้วยฮอร์โมน
แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ ....(≧▽≦)แม้ว่าเรื่องในวันนั้นอาจจะเป็นเรื่องไม่จริงหรือโกหกก็ตามที ไม่สำคัญหรอก แต่แค่เราทั้งคู่ต้องไปต่อให้ถึงตอนจบที่มีความสุขที่สุด ซึ่งเขียนขึ้นมาด้วยตัวเอง
แล้วก็อีกอย่างนะ ไอ้พันทิป อย่าไปใส่แท็กซี้ซั่วให้คนเขาอุสาห์เขียนมาสิ มันไม่ควรจะอยู่ในบางรัก แต่ต้องเป็นศาลาคนเศร้า เข้าใจป่าว!!!! ฟร้ายยยจริงง ไม่ใช่เรื่องรักสักหน่อย เป็นแค่ Message เองแถมเป็นเรื่องเศร้าด้วย เคยสอบ Gat ป่าว เชื่อมโยงนะยูวววว