เราเป็นพนักงานเงินเดือน บริษัทเอกชนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ต้องเข้างาน 8 โมงเช้า และเลิกงาน 5 โมงเย็นทุกวัน จันทร์ - เสาร์ เราเป็น Center ทำงานกับคนทุกแผนก ย่อมต้องมีกระทบกระทั่งกับบางคน เป็นประจำ แต่เรื่องงานเราปล่อยวางได้แล้ว เพราะเราคิดว่าคนทำงาน มันก็ต้องมีปัญหาบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา
แต่เราสงสัย ว่ามีใครเคยเจอปัญหาส่วนตัว แบบเราบ้าง แล้ว เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ มีวิธีรับมือ หรือจัดการกับปัญหาอย่างไรกันบ้าง คือตอนนี้เราทุกข์ไปหมดแล้ว อยู่ในสภาวะที่ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก อาการของความเครียดจะเล่นงานอีกแล้ว
เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ท้าวความเลยนะ...
เราเป็นคนที่ใช้เงินเก่ง ตอนหลังเราไม่ค่อยแคร์ใครแล้ว เรามักจะถูกมองว่าไม่คบค้าสมาคมกับใคร เพราะไม่อยากให้มันเกิดปัญหาเรื่องเงินขาดมือกับตัวเอง คือ ไม่ค่อยเที่ยว เพราะชอบความสงบ และไม่อยากเสียเงิน วันหยุดของเราที่มีเพียงสัปดาห์ละ 1 วัน คือวันอาทิตย์ เราจึงหมดไปกับการทำงานบ้าน และอยู่กับครอบครัว
เงิน ไม่มี ก็ไม่ใช้ แต่ถ้ารู้ว่ามีเงิน แต่ไม่ได้ใช้ เพราะคนอื่นเอาไป มันก็อดทุกข์ไม่ได้
ล่าสุด เพื่อนสมัยประถม ที่ไม่เคยสนิทกันเลย สมัยที่เรียน ติดต่อมามีกันทั้งหมด 3 คน ซื่อต่อไปนี้เราขอใช้สรรพนามแทนบุคคลทั้ง 3 ว่า A,B และ C
A - คนแรกเป็นคนชอบดื่มเบียร์มากซึ่งต่อไปนี้ เราขอเรียกสมมุติว่าชื่อ A ดื่มแล้วชอบไหล ยาวไปเรื่อย จนสามารถทำให้ครอบครัวแตกแยกได้ ถ้าตามใจA
B - คนต่อมาขอเรียก B ละกัน เป็นคนชอบดื่ม แต่ยังไม่ขนาดคนแรก B คนนี้จะมีนิสัยพูดเพราะ พูดเก่ง ยอเก่ง ด้วยนิสัยเดิมทำอาชีพค้าขาย
C - คนสุดท้ายขอสมมุตว่าชื่อ C บ้านรวย มองเพื่อนแบบแขยง แขยงหน่อย เช็คหมดว่าเพื่อนมีครอบครัวหรือยัง แล้วมีบ้านมีรถไหม ราคาแพงไหม ก็จะโชว์เหนือตลอด ด้วยการบ่นเรื่องธุรกิจส่วนตัวของตัวเองตลอดเวลา วันหยุด หรือหลังเลิกงาน C มักจะชวนเจ้าของกระทู้ไปนั่งเล่นที่บ้านC แต่เจ้าของกระทู้รู้สึกถึงความห่างเหิน และการวางโตของC ที่น่าอึดอัด ด้วยความที่เจ้าของกระทู้ใช้ชีวิตไม่เหมือน C ยกตัวอย่างเช่น C เป็นคนอนามัยมาก จะต้องดื่มน้ำจากขวดที่เปิดใหม่เสมอ และจะไม่ดื่มน้ำที่มาจากร้านค้าทั่วไป ถ้าร้านไม่สวยหรูพอ เจ้าของกระทู้เป็นคนกินได้หมด ถ้าไม่สกปรก คือไม่มีปัญหา อร่อยทุกอย่าง ลิ้นจระเข้
ทีนี้ A มักจะชวนในกลุ่มเสมอ ว่าอยากเปลี่ยนที่กินเบียร์ อ้างอยากเจอเพื่อน แต่จริง ๆ แล้ว A หาข้ออ้างอยากเจอ C ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า C ไม่มีวันมองตัวเองแบบชอบแบบคนรัก สิ่งที่ทำให้ A คิดจริงจังเรื่องนี้แบบเข้าข้างตัวเอง เพราะ B เคยพูดชงให้ A จีบ C สร้างปัญหาให้กับเจ้าของกระทู้มาก เพราะ A และ C ต่างเข้ามาให้เจ้าของกระทู้แก้ปัญหาให้ ซึ่งไม่ว่าเจ้าของกระทู้จะแนะนำอะไรไป ล้วนลำบากใจทุกทาง ซึ่งปัจจุบัน เจ้าของกระทู้ไม่ขอยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้แล้ว
แต่ปัญหาหลัก ที่เจ้าของกระทู้มาตั้งกระทู้หัวข้อนี้ ในวันนี้ คือ B กับเจ้าของกระทู้ ซึ่งระยะแรก B จะโทรวันละเป็น สิบ สิบสาย โดยไม่สนใจ ว่าเป็นเวลาทำงานหรือไม่ และจะวางสาย ก็ต่อเมื่อตัวเองมีธุระเท่านั้น
B พูดคุยสนิทสนมกับเจ้าของกระทู้มาก เยินยอ และบอกว่าคนรักของ B ไม่ว่าอะไร ถ้าคบหาสนิทใจกับเจ้าของกระทู้
วันแรก ๆ ก็ดี ที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน พอวันถัดมา เอาแชทเพื่อนสมัยประถมที่แชทมาขอยืมเงิน 200.- ให้เจ้าของกระทู้ดู พร้อมบอกว่า อยากช่วย แต่เอาเงินไปซื้อหวยหมดแล้ว เจ้าของกระทู้จึงโอนเงิน 200.- ให้กับเพื่อนคนที่ B กล่าวถึง หลังจากนั้น เจ้าของกระทู้ก็พูดคุยกับ B และเริ่มสนิทกันมากขึ้น ด้วยดูว่า สิ้นเดือน เพื่อนคนดังกล่าว จะคืนเงินไหม เพื่อนคนดังกล่าวยังยืมเงิน B เราจึงแนะนำให้โพสว่าตัวเองไม่มีเงิน แต่ส่วนใหญ่ B จะโพสคลิปลิปซิ้งร้องเพลงแอป Tiktok ทั้งร้องและเต้นวันละไม่ต่ำกว่า10 คลิป
แต่เมื่อสิ้นเดือน พฤษภาคม เพื่อนคนดังกล่าว ได้โอนเงินจำนวน 200.- มาคืนเจ้าของกระทู้
B จึงแกล้งแซวเจ้าของกระทู้ว่า มีบุญเนอะ ที่เพื่อนใช้เงินคืน คิดว่าเพื่อนจะหนีหายแล้ว เป็นเรื่องตลกไป
ต้นเดือนมิถุนายน B บอกว่าโทรศัพท์ลูกพังยังขาดเงินอีก 2,000.- ด้วยความที่เป็นห่วงเพื่อน เจ้าของกระทู้ ที่ตอนนั้น มีเงินในบัญชีราว ๆ 2 หมื่นบาท จึงโอนเงินให้กับ B เป็นจำนวน 5,000.- B กล่าวขอบคุณว่าเจ้าของกระทู้เป็นคนดีมาก เหมือนเป็นเทวดา นางฟ้าเลย
เนื่องจากเคยคุยเรื่องวินัยในการยืมเงินกับ B เจ้าของกระทู้จึงคิดเองว่า สิ้นเดือน B คงจะรับผิดชอบ และหาเงินมาคืน ปรากฏว่า B มาแจ้งว่ายังไม่มีเงินจะคืนเจ้าของกระทู้ พร้อมกับบรรยาย ว่าตอนที่ B ไม่มีเงิน น้องของ B เคยช่วยเหลือ B ตอนนี้ B เองก็ไม่รู้จะช่วยน้องอย่างไร เจ้าของกระทู้จึงถาม B ว่าน้องของบีเงินขาดเท่าไหร่ เมื่อทราบยอดเงิน เจ้าของกระทู้จึงโอนเงินจำนวนที่ B บอกว่าต้องการเข้าบัญชีของ B
B จึงกล่าวขอบคุณยกใหญ่ แล้วค่อย ๆ เงียบหายไปเรื่องเงิน พร้อมกับทิ้งท้ายว่า ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จะมีเงินมาคืนเจ้าของกระทู้
เพราะเจ้าของกระทู้เคยแจ้งว่า ไม่เป็นไร มีแล้วค่อยคืน
B เคยบอกเจ้าของกระทู้ว่า 1 เดือน เงินจะออก 2 ครั้ง คือวันที่ 8 และ 22
B มักจะโพส ดื่มเบียร์ ร้องเพลง เต้น ชีวิตมีความสุขดี ซื้อหวย แต่ไม่คืนเงินเจ้าของกระทู้ เจ้าของกระทู้เองก็ไม่เคยทวง เพราะรู้สึกอับอาย แต่ก็แอบคิดทุกครั้งว่า เขามีเงินหาความสำราญให้ตัวเอง แต่เขาไม่คิดจะใช้เงินเราเลย คิดทุกครั้ง ที่เห็นเขาเล่นหวย ดื่มเบียร์ และโพส Tiktok
อาจจะคิดว่าเจ้าของกระทู้โง่เอง ที่เป็นคนให้เขาเงินเขายืม 2 ครั้ง เจ้าของกระทู้เป็นโรคเครียดและวิตกกังวล จึงเข้าใจ ว่าเมื่อมีความทุกข์แล้วไม่สามารถแก้ไขได้ มันเป็นยังไง ไม่อยากเห็นเพื่อนทุกข์ เครียด ปวดหัว เรามี เราจึงให้คนที่เขาย่ำแย่กว่าเรา
แต่ตอนนี้ความเครียดเล่นงานแล้ว ตรงที่ไกล้วันแม่ อยากซื้อของให้แม่ แต่ภาระค่าใช้จ่ายในบ้านต้องมาก่อน จึงเงินขาดมือ พอใช้แบบใช้อย่างระมัดระวัง
แค่อยากหาพื้นที่ระบาย ให้กับคนที่ไม่ต้องมีความผูกพันธ์ใด ๆ และทุกข์ไปเพราะเรื่องของคนที่ตัวเองรู้จักทราบ เจ้าของกระทู้ทราบดี ว่าถ้าหาก B ไม่คืนเงินเจ้าของกระทู้ ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนคงสั่นคลอน และห่างกันไปในที่สุด
และอยากทราบว่า ถ้าให้เพื่อน ๆ สมมุติตัวเอง เป็นเจ้าของกระทู้ เพื่อน ๆ จะมีวิธีรับมือและจัดการกับกับสถานการณ์นี้อย่างไร
เจ้าของกระทู้เครียด จริง ๆ
เอ็นดูเขา เขาเอ็นดูเราไหม (ให้เงินเพื่อนยืม เพื่อนบอกว่าเราเป็นคนดี แต่ไม่คืนเงินเรา ) ทำไงดี?
แต่เราสงสัย ว่ามีใครเคยเจอปัญหาส่วนตัว แบบเราบ้าง แล้ว เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ มีวิธีรับมือ หรือจัดการกับปัญหาอย่างไรกันบ้าง คือตอนนี้เราทุกข์ไปหมดแล้ว อยู่ในสภาวะที่ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก อาการของความเครียดจะเล่นงานอีกแล้ว
เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ท้าวความเลยนะ...
เราเป็นคนที่ใช้เงินเก่ง ตอนหลังเราไม่ค่อยแคร์ใครแล้ว เรามักจะถูกมองว่าไม่คบค้าสมาคมกับใคร เพราะไม่อยากให้มันเกิดปัญหาเรื่องเงินขาดมือกับตัวเอง คือ ไม่ค่อยเที่ยว เพราะชอบความสงบ และไม่อยากเสียเงิน วันหยุดของเราที่มีเพียงสัปดาห์ละ 1 วัน คือวันอาทิตย์ เราจึงหมดไปกับการทำงานบ้าน และอยู่กับครอบครัว
เงิน ไม่มี ก็ไม่ใช้ แต่ถ้ารู้ว่ามีเงิน แต่ไม่ได้ใช้ เพราะคนอื่นเอาไป มันก็อดทุกข์ไม่ได้
ล่าสุด เพื่อนสมัยประถม ที่ไม่เคยสนิทกันเลย สมัยที่เรียน ติดต่อมามีกันทั้งหมด 3 คน ซื่อต่อไปนี้เราขอใช้สรรพนามแทนบุคคลทั้ง 3 ว่า A,B และ C
A - คนแรกเป็นคนชอบดื่มเบียร์มากซึ่งต่อไปนี้ เราขอเรียกสมมุติว่าชื่อ A ดื่มแล้วชอบไหล ยาวไปเรื่อย จนสามารถทำให้ครอบครัวแตกแยกได้ ถ้าตามใจA
B - คนต่อมาขอเรียก B ละกัน เป็นคนชอบดื่ม แต่ยังไม่ขนาดคนแรก B คนนี้จะมีนิสัยพูดเพราะ พูดเก่ง ยอเก่ง ด้วยนิสัยเดิมทำอาชีพค้าขาย
C - คนสุดท้ายขอสมมุตว่าชื่อ C บ้านรวย มองเพื่อนแบบแขยง แขยงหน่อย เช็คหมดว่าเพื่อนมีครอบครัวหรือยัง แล้วมีบ้านมีรถไหม ราคาแพงไหม ก็จะโชว์เหนือตลอด ด้วยการบ่นเรื่องธุรกิจส่วนตัวของตัวเองตลอดเวลา วันหยุด หรือหลังเลิกงาน C มักจะชวนเจ้าของกระทู้ไปนั่งเล่นที่บ้านC แต่เจ้าของกระทู้รู้สึกถึงความห่างเหิน และการวางโตของC ที่น่าอึดอัด ด้วยความที่เจ้าของกระทู้ใช้ชีวิตไม่เหมือน C ยกตัวอย่างเช่น C เป็นคนอนามัยมาก จะต้องดื่มน้ำจากขวดที่เปิดใหม่เสมอ และจะไม่ดื่มน้ำที่มาจากร้านค้าทั่วไป ถ้าร้านไม่สวยหรูพอ เจ้าของกระทู้เป็นคนกินได้หมด ถ้าไม่สกปรก คือไม่มีปัญหา อร่อยทุกอย่าง ลิ้นจระเข้
ทีนี้ A มักจะชวนในกลุ่มเสมอ ว่าอยากเปลี่ยนที่กินเบียร์ อ้างอยากเจอเพื่อน แต่จริง ๆ แล้ว A หาข้ออ้างอยากเจอ C ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า C ไม่มีวันมองตัวเองแบบชอบแบบคนรัก สิ่งที่ทำให้ A คิดจริงจังเรื่องนี้แบบเข้าข้างตัวเอง เพราะ B เคยพูดชงให้ A จีบ C สร้างปัญหาให้กับเจ้าของกระทู้มาก เพราะ A และ C ต่างเข้ามาให้เจ้าของกระทู้แก้ปัญหาให้ ซึ่งไม่ว่าเจ้าของกระทู้จะแนะนำอะไรไป ล้วนลำบากใจทุกทาง ซึ่งปัจจุบัน เจ้าของกระทู้ไม่ขอยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้แล้ว
แต่ปัญหาหลัก ที่เจ้าของกระทู้มาตั้งกระทู้หัวข้อนี้ ในวันนี้ คือ B กับเจ้าของกระทู้ ซึ่งระยะแรก B จะโทรวันละเป็น สิบ สิบสาย โดยไม่สนใจ ว่าเป็นเวลาทำงานหรือไม่ และจะวางสาย ก็ต่อเมื่อตัวเองมีธุระเท่านั้น
B พูดคุยสนิทสนมกับเจ้าของกระทู้มาก เยินยอ และบอกว่าคนรักของ B ไม่ว่าอะไร ถ้าคบหาสนิทใจกับเจ้าของกระทู้
วันแรก ๆ ก็ดี ที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน พอวันถัดมา เอาแชทเพื่อนสมัยประถมที่แชทมาขอยืมเงิน 200.- ให้เจ้าของกระทู้ดู พร้อมบอกว่า อยากช่วย แต่เอาเงินไปซื้อหวยหมดแล้ว เจ้าของกระทู้จึงโอนเงิน 200.- ให้กับเพื่อนคนที่ B กล่าวถึง หลังจากนั้น เจ้าของกระทู้ก็พูดคุยกับ B และเริ่มสนิทกันมากขึ้น ด้วยดูว่า สิ้นเดือน เพื่อนคนดังกล่าว จะคืนเงินไหม เพื่อนคนดังกล่าวยังยืมเงิน B เราจึงแนะนำให้โพสว่าตัวเองไม่มีเงิน แต่ส่วนใหญ่ B จะโพสคลิปลิปซิ้งร้องเพลงแอป Tiktok ทั้งร้องและเต้นวันละไม่ต่ำกว่า10 คลิป
แต่เมื่อสิ้นเดือน พฤษภาคม เพื่อนคนดังกล่าว ได้โอนเงินจำนวน 200.- มาคืนเจ้าของกระทู้
B จึงแกล้งแซวเจ้าของกระทู้ว่า มีบุญเนอะ ที่เพื่อนใช้เงินคืน คิดว่าเพื่อนจะหนีหายแล้ว เป็นเรื่องตลกไป
ต้นเดือนมิถุนายน B บอกว่าโทรศัพท์ลูกพังยังขาดเงินอีก 2,000.- ด้วยความที่เป็นห่วงเพื่อน เจ้าของกระทู้ ที่ตอนนั้น มีเงินในบัญชีราว ๆ 2 หมื่นบาท จึงโอนเงินให้กับ B เป็นจำนวน 5,000.- B กล่าวขอบคุณว่าเจ้าของกระทู้เป็นคนดีมาก เหมือนเป็นเทวดา นางฟ้าเลย
เนื่องจากเคยคุยเรื่องวินัยในการยืมเงินกับ B เจ้าของกระทู้จึงคิดเองว่า สิ้นเดือน B คงจะรับผิดชอบ และหาเงินมาคืน ปรากฏว่า B มาแจ้งว่ายังไม่มีเงินจะคืนเจ้าของกระทู้ พร้อมกับบรรยาย ว่าตอนที่ B ไม่มีเงิน น้องของ B เคยช่วยเหลือ B ตอนนี้ B เองก็ไม่รู้จะช่วยน้องอย่างไร เจ้าของกระทู้จึงถาม B ว่าน้องของบีเงินขาดเท่าไหร่ เมื่อทราบยอดเงิน เจ้าของกระทู้จึงโอนเงินจำนวนที่ B บอกว่าต้องการเข้าบัญชีของ B
B จึงกล่าวขอบคุณยกใหญ่ แล้วค่อย ๆ เงียบหายไปเรื่องเงิน พร้อมกับทิ้งท้ายว่า ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จะมีเงินมาคืนเจ้าของกระทู้
เพราะเจ้าของกระทู้เคยแจ้งว่า ไม่เป็นไร มีแล้วค่อยคืน
B เคยบอกเจ้าของกระทู้ว่า 1 เดือน เงินจะออก 2 ครั้ง คือวันที่ 8 และ 22
B มักจะโพส ดื่มเบียร์ ร้องเพลง เต้น ชีวิตมีความสุขดี ซื้อหวย แต่ไม่คืนเงินเจ้าของกระทู้ เจ้าของกระทู้เองก็ไม่เคยทวง เพราะรู้สึกอับอาย แต่ก็แอบคิดทุกครั้งว่า เขามีเงินหาความสำราญให้ตัวเอง แต่เขาไม่คิดจะใช้เงินเราเลย คิดทุกครั้ง ที่เห็นเขาเล่นหวย ดื่มเบียร์ และโพส Tiktok
อาจจะคิดว่าเจ้าของกระทู้โง่เอง ที่เป็นคนให้เขาเงินเขายืม 2 ครั้ง เจ้าของกระทู้เป็นโรคเครียดและวิตกกังวล จึงเข้าใจ ว่าเมื่อมีความทุกข์แล้วไม่สามารถแก้ไขได้ มันเป็นยังไง ไม่อยากเห็นเพื่อนทุกข์ เครียด ปวดหัว เรามี เราจึงให้คนที่เขาย่ำแย่กว่าเรา
แต่ตอนนี้ความเครียดเล่นงานแล้ว ตรงที่ไกล้วันแม่ อยากซื้อของให้แม่ แต่ภาระค่าใช้จ่ายในบ้านต้องมาก่อน จึงเงินขาดมือ พอใช้แบบใช้อย่างระมัดระวัง
แค่อยากหาพื้นที่ระบาย ให้กับคนที่ไม่ต้องมีความผูกพันธ์ใด ๆ และทุกข์ไปเพราะเรื่องของคนที่ตัวเองรู้จักทราบ เจ้าของกระทู้ทราบดี ว่าถ้าหาก B ไม่คืนเงินเจ้าของกระทู้ ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนคงสั่นคลอน และห่างกันไปในที่สุด
และอยากทราบว่า ถ้าให้เพื่อน ๆ สมมุติตัวเอง เป็นเจ้าของกระทู้ เพื่อน ๆ จะมีวิธีรับมือและจัดการกับกับสถานการณ์นี้อย่างไร
เจ้าของกระทู้เครียด จริง ๆ