สวัสดีครับ...พบกันอีกแล้วกับ WE-Team "WE ride the stories"
ทริปนี้ 1 เดือนเต็ม(6 มิ.ย. - 6 ก.ค. 2565) 6 คน ทั้งปั่นทั้งเดินเขาสูงในภาคเหนือของปากีสถาน
ทีแรกไม่นึกว่าจะไปเที่ยวปากีสถาน แต่พอเห็นการบินไทยลดค่าตั๋วไปกลับอิสลามาบัด
เหลือเพียง 11,755 บาท(ราคาจ่ายจริงที่ตัดผ่านบัตรเครดิต) ซึ่งถูกมาก จึงตัดสินใจไปกัน
4 ปีที่แล้วเคยไปปากีสถาน ซื้อตั๋วการบินไทยขากลับเที่ยวเดียว ราคาประมาณนี้
การขอวีซ่าออนไลน์ปากีสถาน ต้องทำผ่านเว็บนี้(ระวังเว็บอื่นๆเป็นเว็บปลอม)
https://visa.nadra.gov.pk/e-visa/
เอกสารสำคัญที่ต้องใช้คือ จดหมายเชิญจากบริษัททัวร์ของปากีสถาน(Letter Of Invitation หรือ LOI)
ซึ่งพวกเราใช้บริการขอ LOI จากเพื่อนชาวปากีสถาน(รู้จักกันเมื่อ 4 ปีก่อน) ที่เปิดบริษัททัวร์ของตัวเอง
https://www.facebook.com/sazfar.hussain
ID ไลน์ของคุณอัสฟา azfar009
คุณอัสฟาใช้เวลาทำ LOI ราว 10 วัน แล้วส่ง LOI มาให้ทางอีเมลผม
ค่าบริการ LOI คนละ 40 ดอลลาร์สหรัฐ(USD) ค่าขอวีซ่า 25 USD
รูปถ่าย พวกเราใช้มือถือถ่ายตัวเองกับผนังบ้านสีขาวหรือสีอ่อน
รูปหน้าตรง ไม่ยิ้ม ไม่ใส่แว่นตา ดิบๆไม่ผ่านแอป อัพโหลดผ่านแน่นอน
กดอัพโหลดเอกสารทั้งหมดแล้ว ยืนยันส่งแบบฟอร์มในเว็บ
รอราว 1 สัปดาห์ จะได้วีซ่า โดยดาวน์โหลดจากเว็บ แล้วพิมพ์ใส่กระดาษ A4
ผมพิมพ์สำเนาพาสปอร์ตกับวีซ่าคนละ 9 ชุด ซึ่งได้ใช้ที่ปากีสถานเกือบหมดเกลี้ยง
แจกด่านตำรวจและโรงแรมที่เราเข้าพัก ปรินท์สำเนาตั๋วเครื่องบินและเบอร์ติดต่อกรณีฉุกเฉินไปด้วย
(หลังๆต้องขอสำเนาคืน หลังจากให้เขาเอามือถือถ่ายรูปสำเนา เพราะเหลือสำเนาชุดเดียว)
สำเนาวีซ่าต้องใช้ยื่นที่เคาเตอร์เช็คอินของสายการบินและเจ้าตรวจคนเข้าเมืองปากีสถาน
หรือจะเอาในมือถือให้ดูก็ได้ แต่เตรียมสำเนากระดาษไว้ดีกว่า เผื่อมือถือพัง
อีกอย่างที่ต้องใช้(ในตอนนั้น)คือ เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 International Certificate
ซึ่งผมทำเรื่องจองคิวผ่าน LINE หมอพร้อมแล้วไปรับเอกสารที่อาคารบางรัก สาทร
เอกสารนี้จะใช้ตอนเช็คอินการบินไทยทั้งขาไปและกลับ
และต้องโหลดแอปของปากีสถานที่มีชื่อว่า Pass Track แล้วลงทะเบียนในแอป
เราวางแผนจะบินในประเทศปากีสถาน ทั้งไปและกลับภาคเหนือ
เพราะถ้านั่งรถจะใช้เวลานานทั้งวัน เพราะถนนไม่ดี
จึงจองตั๋วจากสายการบินแห่งชาติของปากีสถาน
https://www.piac.com.pk/
ตอนกดจองจะมีตัวเลือกว่าเอาจักรยานขึ้นเครื่องด้วย
โดยน้ำหนักจักรยานและสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องให้ไม่เกิน 20 กิโล ถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กิโล
พวกเราจองเที่ยวบินไป Skardu ไม่ทัน(กดจองล่วงหน้า 1 เดือน) ที่นั่งชั้นประหยัดถูกจองหมดแล้ว
จึงเปลี่ยนเป้าหมายบินไปที่เมือง Gilgit แทน ซึ่งไม่แนะนำให้บินทางนี้(ตอนนั้นไม่รู้)
เพราะใช้เครื่องบินลำเล็กแบบใบพัด โอกาสที่เที่ยวบินจะยกเลิกจากสภาพอากาศไม่ดีมีสูง
ขากลับจองเที่ยวบินจาก Skardu มาอิสลามาบัด ค่าตั๋ว 1710 บาท
(รวมค่าเลือกที่นั่งแล้ว แนะนำใหนั่งริมหน้าต่างทางขวาของเครื่องบิน จะเห็นภูเขา K2)
ค่าตั๋วขาไป 1885 บาท
ปัจจุบันมีสายการบินเอกชนที่เพิ่งเปิดเที่ยวบินไป Skardu
https://www.airblue.com/
ค่าใช้จ่ายในปากีสถาน ผมใช้ไปราว 600 USD(1 USD = 34.34 บาท) หรือ 20,604 บาท
รวมค่าตั่วเครื่องบินทั้งหมด ค่าวีซ่า LOI ค่าประกันภัยการเดินทาง
รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างราว 40,000 บาท
We-Team ทั้งปั่นทั้งเดินเขา สะบักสะบอมเที่ยวปากีสถานหน้าร้อน
ทริปนี้ 1 เดือนเต็ม(6 มิ.ย. - 6 ก.ค. 2565) 6 คน ทั้งปั่นทั้งเดินเขาสูงในภาคเหนือของปากีสถาน
ทีแรกไม่นึกว่าจะไปเที่ยวปากีสถาน แต่พอเห็นการบินไทยลดค่าตั๋วไปกลับอิสลามาบัด
เหลือเพียง 11,755 บาท(ราคาจ่ายจริงที่ตัดผ่านบัตรเครดิต) ซึ่งถูกมาก จึงตัดสินใจไปกัน
4 ปีที่แล้วเคยไปปากีสถาน ซื้อตั๋วการบินไทยขากลับเที่ยวเดียว ราคาประมาณนี้
การขอวีซ่าออนไลน์ปากีสถาน ต้องทำผ่านเว็บนี้(ระวังเว็บอื่นๆเป็นเว็บปลอม)
https://visa.nadra.gov.pk/e-visa/
เอกสารสำคัญที่ต้องใช้คือ จดหมายเชิญจากบริษัททัวร์ของปากีสถาน(Letter Of Invitation หรือ LOI)
ซึ่งพวกเราใช้บริการขอ LOI จากเพื่อนชาวปากีสถาน(รู้จักกันเมื่อ 4 ปีก่อน) ที่เปิดบริษัททัวร์ของตัวเอง
https://www.facebook.com/sazfar.hussain
ID ไลน์ของคุณอัสฟา azfar009
คุณอัสฟาใช้เวลาทำ LOI ราว 10 วัน แล้วส่ง LOI มาให้ทางอีเมลผม
ค่าบริการ LOI คนละ 40 ดอลลาร์สหรัฐ(USD) ค่าขอวีซ่า 25 USD
รูปถ่าย พวกเราใช้มือถือถ่ายตัวเองกับผนังบ้านสีขาวหรือสีอ่อน
รูปหน้าตรง ไม่ยิ้ม ไม่ใส่แว่นตา ดิบๆไม่ผ่านแอป อัพโหลดผ่านแน่นอน
กดอัพโหลดเอกสารทั้งหมดแล้ว ยืนยันส่งแบบฟอร์มในเว็บ
รอราว 1 สัปดาห์ จะได้วีซ่า โดยดาวน์โหลดจากเว็บ แล้วพิมพ์ใส่กระดาษ A4
ผมพิมพ์สำเนาพาสปอร์ตกับวีซ่าคนละ 9 ชุด ซึ่งได้ใช้ที่ปากีสถานเกือบหมดเกลี้ยง
แจกด่านตำรวจและโรงแรมที่เราเข้าพัก ปรินท์สำเนาตั๋วเครื่องบินและเบอร์ติดต่อกรณีฉุกเฉินไปด้วย
(หลังๆต้องขอสำเนาคืน หลังจากให้เขาเอามือถือถ่ายรูปสำเนา เพราะเหลือสำเนาชุดเดียว)
สำเนาวีซ่าต้องใช้ยื่นที่เคาเตอร์เช็คอินของสายการบินและเจ้าตรวจคนเข้าเมืองปากีสถาน
หรือจะเอาในมือถือให้ดูก็ได้ แต่เตรียมสำเนากระดาษไว้ดีกว่า เผื่อมือถือพัง
อีกอย่างที่ต้องใช้(ในตอนนั้น)คือ เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 International Certificate
ซึ่งผมทำเรื่องจองคิวผ่าน LINE หมอพร้อมแล้วไปรับเอกสารที่อาคารบางรัก สาทร
เอกสารนี้จะใช้ตอนเช็คอินการบินไทยทั้งขาไปและกลับ
และต้องโหลดแอปของปากีสถานที่มีชื่อว่า Pass Track แล้วลงทะเบียนในแอป
เราวางแผนจะบินในประเทศปากีสถาน ทั้งไปและกลับภาคเหนือ
เพราะถ้านั่งรถจะใช้เวลานานทั้งวัน เพราะถนนไม่ดี
จึงจองตั๋วจากสายการบินแห่งชาติของปากีสถาน https://www.piac.com.pk/
ตอนกดจองจะมีตัวเลือกว่าเอาจักรยานขึ้นเครื่องด้วย
โดยน้ำหนักจักรยานและสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องให้ไม่เกิน 20 กิโล ถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กิโล
พวกเราจองเที่ยวบินไป Skardu ไม่ทัน(กดจองล่วงหน้า 1 เดือน) ที่นั่งชั้นประหยัดถูกจองหมดแล้ว
จึงเปลี่ยนเป้าหมายบินไปที่เมือง Gilgit แทน ซึ่งไม่แนะนำให้บินทางนี้(ตอนนั้นไม่รู้)
เพราะใช้เครื่องบินลำเล็กแบบใบพัด โอกาสที่เที่ยวบินจะยกเลิกจากสภาพอากาศไม่ดีมีสูง
ขากลับจองเที่ยวบินจาก Skardu มาอิสลามาบัด ค่าตั๋ว 1710 บาท
(รวมค่าเลือกที่นั่งแล้ว แนะนำใหนั่งริมหน้าต่างทางขวาของเครื่องบิน จะเห็นภูเขา K2)
ค่าตั๋วขาไป 1885 บาท
ปัจจุบันมีสายการบินเอกชนที่เพิ่งเปิดเที่ยวบินไป Skardu https://www.airblue.com/
ค่าใช้จ่ายในปากีสถาน ผมใช้ไปราว 600 USD(1 USD = 34.34 บาท) หรือ 20,604 บาท
รวมค่าตั่วเครื่องบินทั้งหมด ค่าวีซ่า LOI ค่าประกันภัยการเดินทาง
รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างราว 40,000 บาท