สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับตาให้เพื่อนๆฟังกันนะคะเพื่อเป็นความรู้ หรือเพื่อนๆคนไหนที่เป็นเหมือนกันมาพูดคุย แสดงความคิดเห็นกันนะคพ
เราอายุ 21 ปี เมื่อวันที่ 6 มี.ค.65 ตื่นเช้าขึ้นมารู้สึกว่าเจ็บจี๊ดๆที่ตาข้างขวามากค่ะ อยู่ในบ้านหรือที่ที่ไม่มีแสงแดดก็ปกตินะคะ แต่พอออกไปนอกบ้านเจอแสงแดดเท่านั้นแหละค่ะ ตาข้างขวาเห็นเป็นฝ้า แสบตามาก ตามัวมากค่ะ ก็ยังไม่ไปหาหมอนะคะ คิดว่าพรุ่งนี้คงจะหาย ตื่นมาออกไปข้างนอก เป็นหนักกว่าเดิมอีกค่ะ คิดว่าไม่ได้แล้วต้องไปหาหมอ ตอนเย็นก็ไปหาหมอจักษุแพทย์ พอเข้าห้องตรวจ หมอบอกว่า !! กระจกตาถลอกเกิดจากเชื้อไวรัส OMG!!เคยเห็นแต่กระจกตาถลอกจากคอนแทคเลนส์ นี่จากเชื้อไวรัส ไวรัสทั่วไปค่ะ (อะดีโนไวรัส) หมอก็ให้ยากินและยาหยอดตามา พอกลับบ้านมาเอาเลยค่ะเสริชกูเกิ้ล
บอกว่าถึงหายก็จะไม่เห็นเหมือนเดิม ความรู้สึกคือดิ่งมาก เครียดมาก ร้องไห้ ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเลย ตื่นมาก็ซึม บอกก่อนนะคะว่าเราเป็นคนคิดมากๆๆๆอยู่แล้ว แต่แม่บอกว่าฟังจากปากคุณหมอดีกว่า อย่าไปเชื่อในกูเกิ้ลเกิน ครบ2สัปดาห์ไปหาคุณหมอเลยค่ะ ก็ถามคุณหมอว่าตาจะกลับมาชัดเหมือนเดิมใช่มั้ยค่ะ เห็นเหมือนเดิมใช่มั้ยค่ะ
คุณหมอบอกว่า ใช่ครับจะค่อยๆดีขึ้นและชัดเหมือนเดิม ใช้เวลาหน่อยครับ พอได้ฟังเท่านั้นแหละใจคือฟูมาก ดีใจมากๆๆ ผ่านไปเดือนนึงรู้สึกดีขึ้นไม่เห็นฝ้าแล้ว แต่ตามัวเหมือนเดิม
ก็หยอดตามาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันทึ่ 9 เม.ย.65
แสบตา ระคายเคืองตามาก ไปหาคุณหมอ คุณหมอบอกตาแห้งจ้าาา เปลี่ยนยาหยอดตาเป็นน้ำตาเทียมเป็นรายเดือน ก็หยอดไปรู้สึกดีขึ้น คิดว่าคงไม่เป็นไรแล้วแต่!!! ก็นั่งเหม่อๆอยู่นี่แหละ เห็นจุดดำๆลอยไปลอยมา พอมองขึ้นบนฟ้าเท่านั้นแหละ เส้นหยักใหย่ ข้างขวาคือเยอะมาก เสริชกูเกิ้ลอีกจ้า อ่านๆๆสรุปวุ้นในตาเสื่อม!!! เค้าบอกว่าระวังจอประสาทตาฉีกขาด อาจจะเห็นแสงแฟรช แสงไฟแว็บๆในที่ทืด ให้รีบไปหาหมอ อาจสูญเสียการมองเห็นได้
โอ้โห ใจเต้นรัว กระอักกระอวนนอนไม่หลับ พอปิดไฟเท่านั้นลองกรอกตาดู อื้อหือ เห็นไฟแว็บๆ คือกลัวมาก ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว วันที่ 19 เม.ย.65 ไปหาคุณหมอ ก็บอกว่าเห็นจุดดำๆหยักใหย่ ลอยไปมา คุณหมอบอกว่าไม่อันตราย เป็นธรรมดา สามารถเกิดขึ้นได้ แต่พอบอกว่าเห็นไฟแว็บๆคล้ายแสงแฟรช คุณหมอทำการหยอดยาขยายม่านตาทั้งสองข้าง หยอดข้างละ3ครั้ง แสบตามากกก มากที่สุด นั่งรอ 30นาที ต้องพาพ่อแม่ไปด้วยนะคะเพราะตาจะเบลอมากๆๆ ครบ 30 นาที่ คุณหมอก็ปิดไฟ คุณหมอก็ใส่ไฟครอบหัว ส่องอยู่นานมากกกกก ตรวจเสร็จ ปรากฏว่า จอประสาทตาปกติดี โล่งอกมาก และรอยแผลบนกระจกเหลือไม่กี่จุดแล้ว ดีใจมาก คุณหมอก็เปลี่ยนน้ำตาเทียมเป็นรายวัน ก็หยอดมาๆเรื่อย
จนกระทั่งกลางเดือนมิถุนายน 65 แสบตาขวามาก แสบมากๆ ไปหาคุณหมอ บอกว่าเกิดจากตาแห้ง แต่ในใจคิดว่าไม่ใช่ ตาแห้งจะไม่แสบขนาดนี้ นี่คือแสบร้อนมาก ก็หยอดน้ำตาเทียมรายวันมาเรื่อยๆ ไม่ใช่ละตาไม่ใช่ตาแห้งแน่ๆ ลองเปลี่ยนคุณหมอ19 ก.ค.65 ไปตรวจกับคุณหมออีกท่าน
คุณหมอก็บอกว่าตาแห้ง แต่ไม่มาก ลองย้อมสีตา คือแสบมาก แต่ไม่ติดก็คือแห้งไม่มาก คุณหมอลองพลิกเปลือกตาบนดู โอโห้ ตุ่มแดงเยอะมาก ภูมิแพ้ขึ้นตาจ้าาา คือตัวเองเป็นภูมิแพ้อยู่ด้วยแต่ไม่เคยเป็นภูมิแพ้ขึ้นตา เป็นตาข้างขวาข้างเดียว น่าจะไม่ใช่ อาจจะเกิดจากการแพ้ยา คิดในใจ
ตาฉันจะเป็นอะไรเยอะแยะเนี่ยยย พอแล้วนะหลังจากนี้อย่าเป็นอะไรอีกนะ คุณหมอก็ให้ยาเม็ดแก้แพ้ ยาหยอดตาสเตียรอย และขี้ผึ้งป้ายตา (ยาสเตียรอยอันตรายมากนะคะ อย่าซื้อมาหยอดเองเด็ดขาดอาจจะเกิดต้อหินได้ต้องอยู่ในความดูแลของจักษุแพทย์เท่านั้น)
คุณหมอให้หยอด 2 สัปดาห์ พอลองหยอดสเตียรอยวันแรก หายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะและรอยกระจกถลอกคือหายหมดแล้วค่ะ เดี๋ยวจะมาอัพเดทให้ฟังนะคะ
ประสบการณ์เกี่ยวกับตา กระจกตาถลอก ตาแห้ง ภูมิแพ้ขึ้นตา
เราอายุ 21 ปี เมื่อวันที่ 6 มี.ค.65 ตื่นเช้าขึ้นมารู้สึกว่าเจ็บจี๊ดๆที่ตาข้างขวามากค่ะ อยู่ในบ้านหรือที่ที่ไม่มีแสงแดดก็ปกตินะคะ แต่พอออกไปนอกบ้านเจอแสงแดดเท่านั้นแหละค่ะ ตาข้างขวาเห็นเป็นฝ้า แสบตามาก ตามัวมากค่ะ ก็ยังไม่ไปหาหมอนะคะ คิดว่าพรุ่งนี้คงจะหาย ตื่นมาออกไปข้างนอก เป็นหนักกว่าเดิมอีกค่ะ คิดว่าไม่ได้แล้วต้องไปหาหมอ ตอนเย็นก็ไปหาหมอจักษุแพทย์ พอเข้าห้องตรวจ หมอบอกว่า !! กระจกตาถลอกเกิดจากเชื้อไวรัส OMG!!เคยเห็นแต่กระจกตาถลอกจากคอนแทคเลนส์ นี่จากเชื้อไวรัส ไวรัสทั่วไปค่ะ (อะดีโนไวรัส) หมอก็ให้ยากินและยาหยอดตามา พอกลับบ้านมาเอาเลยค่ะเสริชกูเกิ้ล
บอกว่าถึงหายก็จะไม่เห็นเหมือนเดิม ความรู้สึกคือดิ่งมาก เครียดมาก ร้องไห้ ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเลย ตื่นมาก็ซึม บอกก่อนนะคะว่าเราเป็นคนคิดมากๆๆๆอยู่แล้ว แต่แม่บอกว่าฟังจากปากคุณหมอดีกว่า อย่าไปเชื่อในกูเกิ้ลเกิน ครบ2สัปดาห์ไปหาคุณหมอเลยค่ะ ก็ถามคุณหมอว่าตาจะกลับมาชัดเหมือนเดิมใช่มั้ยค่ะ เห็นเหมือนเดิมใช่มั้ยค่ะ
คุณหมอบอกว่า ใช่ครับจะค่อยๆดีขึ้นและชัดเหมือนเดิม ใช้เวลาหน่อยครับ พอได้ฟังเท่านั้นแหละใจคือฟูมาก ดีใจมากๆๆ ผ่านไปเดือนนึงรู้สึกดีขึ้นไม่เห็นฝ้าแล้ว แต่ตามัวเหมือนเดิม
ก็หยอดตามาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันทึ่ 9 เม.ย.65
แสบตา ระคายเคืองตามาก ไปหาคุณหมอ คุณหมอบอกตาแห้งจ้าาา เปลี่ยนยาหยอดตาเป็นน้ำตาเทียมเป็นรายเดือน ก็หยอดไปรู้สึกดีขึ้น คิดว่าคงไม่เป็นไรแล้วแต่!!! ก็นั่งเหม่อๆอยู่นี่แหละ เห็นจุดดำๆลอยไปลอยมา พอมองขึ้นบนฟ้าเท่านั้นแหละ เส้นหยักใหย่ ข้างขวาคือเยอะมาก เสริชกูเกิ้ลอีกจ้า อ่านๆๆสรุปวุ้นในตาเสื่อม!!! เค้าบอกว่าระวังจอประสาทตาฉีกขาด อาจจะเห็นแสงแฟรช แสงไฟแว็บๆในที่ทืด ให้รีบไปหาหมอ อาจสูญเสียการมองเห็นได้
โอ้โห ใจเต้นรัว กระอักกระอวนนอนไม่หลับ พอปิดไฟเท่านั้นลองกรอกตาดู อื้อหือ เห็นไฟแว็บๆ คือกลัวมาก ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว วันที่ 19 เม.ย.65 ไปหาคุณหมอ ก็บอกว่าเห็นจุดดำๆหยักใหย่ ลอยไปมา คุณหมอบอกว่าไม่อันตราย เป็นธรรมดา สามารถเกิดขึ้นได้ แต่พอบอกว่าเห็นไฟแว็บๆคล้ายแสงแฟรช คุณหมอทำการหยอดยาขยายม่านตาทั้งสองข้าง หยอดข้างละ3ครั้ง แสบตามากกก มากที่สุด นั่งรอ 30นาที ต้องพาพ่อแม่ไปด้วยนะคะเพราะตาจะเบลอมากๆๆ ครบ 30 นาที่ คุณหมอก็ปิดไฟ คุณหมอก็ใส่ไฟครอบหัว ส่องอยู่นานมากกกกก ตรวจเสร็จ ปรากฏว่า จอประสาทตาปกติดี โล่งอกมาก และรอยแผลบนกระจกเหลือไม่กี่จุดแล้ว ดีใจมาก คุณหมอก็เปลี่ยนน้ำตาเทียมเป็นรายวัน ก็หยอดมาๆเรื่อย
จนกระทั่งกลางเดือนมิถุนายน 65 แสบตาขวามาก แสบมากๆ ไปหาคุณหมอ บอกว่าเกิดจากตาแห้ง แต่ในใจคิดว่าไม่ใช่ ตาแห้งจะไม่แสบขนาดนี้ นี่คือแสบร้อนมาก ก็หยอดน้ำตาเทียมรายวันมาเรื่อยๆ ไม่ใช่ละตาไม่ใช่ตาแห้งแน่ๆ ลองเปลี่ยนคุณหมอ19 ก.ค.65 ไปตรวจกับคุณหมออีกท่าน
คุณหมอก็บอกว่าตาแห้ง แต่ไม่มาก ลองย้อมสีตา คือแสบมาก แต่ไม่ติดก็คือแห้งไม่มาก คุณหมอลองพลิกเปลือกตาบนดู โอโห้ ตุ่มแดงเยอะมาก ภูมิแพ้ขึ้นตาจ้าาา คือตัวเองเป็นภูมิแพ้อยู่ด้วยแต่ไม่เคยเป็นภูมิแพ้ขึ้นตา เป็นตาข้างขวาข้างเดียว น่าจะไม่ใช่ อาจจะเกิดจากการแพ้ยา คิดในใจ
ตาฉันจะเป็นอะไรเยอะแยะเนี่ยยย พอแล้วนะหลังจากนี้อย่าเป็นอะไรอีกนะ คุณหมอก็ให้ยาเม็ดแก้แพ้ ยาหยอดตาสเตียรอย และขี้ผึ้งป้ายตา (ยาสเตียรอยอันตรายมากนะคะ อย่าซื้อมาหยอดเองเด็ดขาดอาจจะเกิดต้อหินได้ต้องอยู่ในความดูแลของจักษุแพทย์เท่านั้น)
คุณหมอให้หยอด 2 สัปดาห์ พอลองหยอดสเตียรอยวันแรก หายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะและรอยกระจกถลอกคือหายหมดแล้วค่ะ เดี๋ยวจะมาอัพเดทให้ฟังนะคะ